
เก็บตกเนื้อหาบทที่ 5 ที่อนิเมะ Season 3 เล่าไม่จบ
บรรดาสมาชิกจากแต่ละฝ่ายเข้ามาประชุมหารือกัน ในศึกปะทะกับบิชอปรอย อัลฟาร์ด ยุลิอุสถูกกินชื่อจนตัวตนถูกลบหายไป ส่วนริคาร์โด้ก็เสียแขนไปถาวรข้างนึง (เฟลิกซ์ไม่สามารถงอกแขนให้ได้ ต้องหาแขนที่ขาดให้เจอถึงจะต่อให้ได้)
มีแค่สุบารุคนเดียวที่จำยุลิอุสได้ เบียทริซ ไรน์ฮาร์ต อัลเดบาราน อนาสตาเซีย ริคาร์โด้และกระทั่งวิญญาณทั้ง 6 ที่ทำสัญญาด้วยก็ลืมเขาไปหมด
เสียงส่วนใหญ่ตัดสินใจว่าไม่ควรด่วนฆ่าซิริอุสเพื่อเอาตัวไปสอบสวนหาข้อมูลเพิ่มเติม เฟลท์กับไรน์ฮาร์ตจะรับหน้าที่ส่งตัวเธอไปที่เมืองหลวง
มีผู้คนมากมายตกเป็นเหยื่อของราคะ ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นแมลงวันยักษ์ (รวมถึงแกเล็คที่กลายเป็นมังกร) ถ้าปล่อยไว้พวกเขาอาจจะเสียสติจนฆ่าตัวตายได้ เอมิเลียเลยจะรับหน้าที่ไปแช่แข็งพวกเขาไว้จนกว่าจะหาทางแก้ได้
นอกจากนี้ก็มีเหยื่อของตะกละ ผู้คนมากมายโดนกินทั้งชื่อและความทรงจำจนนอนเป็นผักและไม่มีใครจำได้ อย่างเช่น โยชัวกับพวกทหารรับจ้างและก็มียุลิอุสที่โดนกินแค่ชื่ออยู่อีก
อนาสตาเซียยื่นข้อเสนอขึ้นมาว่าวิธีที่จะรักษาบรรดาเหยื่อของตะกละกับราคะได้คือการไปถาม “นักปราชญ์ชอล่า” ผู้เฝ้าหอคอยเพลอาเดสและปกป้องศาลเจ้าที่ผนึกแม่มดริษยามากว่า 400 ปี
การจะทำอย่างนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย อุปสรรคมีทั้ง
-
ฝูงสัตว์ปีศาจที่ถูกไอพิษแม่มดล่อมา
-
พายุทรายพาหลงทางที่แม้แต่ไรน์ฮาร์ตก็ผ่านเข้าไปไม่ได้
-
นักปราชญ์ชอล่าจะฆ่าทุกคนที่บุกรุกเข้าไปใกล้
กระนั้นอนาสตาเซียก็ยังเคลมว่าเธอมีวิธีผ่านพายุทรายเข้าไป ทุกคนเลยยอมรับแผนการนี้ หลังจากนั้นสุบารุแอบมาคุยกับอนาสตาเซียคนเดียว เพราะเขาสงสัยว่าเธอไม่ใช่อนาสตาเซียตัวจริงเหมือนกับอัล
อนาสตาเซีย(?): ชื่อของเราคือเอคิดน่า ถึงจะเห็นอย่างนี้แต่เราเป็นวิญญาณประดิษฐ์ล่ะ
ทีแรกเขาคิดว่าเธอเป็นคาเพลล่าปลอมตัวมา แต่กลายเป็นว่าชื่อของแม่มดที่สุบารุไม่อยากได้ยินเป็นครั้งที่สองกลับมาหลอกหลอนเขาอีกครั้ง
ถึงวิธีการพูดจะเหมือนกันเลย แต่วิญญาณประดิษฐ์เอคิดน่าเคลมว่าเธอเป็นคนละคนกับแม่มดที่สุบารุรู้จัก เธอได้พบและอาศัยอยู่กับอนาสตาเซียมาเป็น 11 ปีแล้ว
ตอนที่ต้องปะทะกับคาเปลล่าเธอเข้าสิงร่างอนาสตาเซียเพื่อที่จะใช้เวทมนตร์ เพราะปกติแล้วเกทของอนาสตาเซียบกพร่องจนใช้เวทไม่ได้
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแต่เป็นครั้งที่ 4 แล้วที่ทำแบบนี้ แต่ครั้งนี้อนาสตาเซียหลับไหลอยู่ในโอโดไม่ยอมตื่น เธอจึงเสนอแผนการไปที่หอคอยเพลอาเดสขึ้นมาเพื่อจะแก้ไขปัญหานี้
เอคิดน่าบอกว่าตัวตนของเธอนี่พวกฝ่ายเดียวกันอย่างยุลิอุสกับริคาร์โด้ยังไม่รู้ สุบารุเป็นคนที่สามที่ดูออกว่าเธอไม่ใช่อนาสตาเซีย คนแรกคืออัล คนที่สองคือพริสซิลล่าที่เรียกเธอในที่ประชุมว่า “ยัยจิ้งจอก”
สุบารุแนะนำให้เอคิดน่าปิดเรื่องนี้ไว้ก่อนเพราะตอนนี้ยุลิอุสเครียดเรื่องตัวเองกับน้องชายมากพอแล้ว เอคิดน่าพูดกล่อมส่งท้ายให้สุบารุแวะเอาตัวเรมที่คฤหาสน์รอสวาลก่อนเดินทางไปหอคอยก็ได้
คณะเดินทางไปหอคอยเพลอาเดสเลยถูกตัดสินไว้เป็นดังนี้: สุบารุ เอมิเลีย เบียทริซ เรม(กำลังจะไปรับ) ยุลิอุส เอคิดน่า (ในร่างอนาสตาเซีย)
การ์ฟีลและออตโต้บาดเจ็บหนักจนอยากพักอยู่ที่พริสเทล่าก่อน การ์ฟีลอยากช่วยเหลือเรื่องการซ่อมแซมเมือง ส่วนออตโต้ก็ต้องรอรับพระวรสารของรอสวาลตอนที่ดาร์ทซ์ซ่อมเสร็จด้วย
ไรน์ฮาร์ตที่ไม่ได้ไปด้วยให้คำแนะนำส่งท้ายว่าที่เนินทรายออกุเลียน่าจะมีบาเรียบางอย่างที่กันคนนอกไม่ให้เข้าไปอยู่
สุบารุกลับไปรวมตัวกับเบียทริซและเอมิเลีย เอมิเลียได้หินเวทบริสุทธิ์ไว้กักเก็บพัคแล้ว แต่พลังเวทของเธอยังไม่มากพอจะเรียกเขาออกมาอีกครั้ง
สุบารุหยิบเบียโกะขึ้นมาตีก้นคลายเครียด แล้วทั้งสามก็เตรียมพร้อมที่จะออกเดินทางสู่เป้าหมายต่อไป