webnovel arc7 chapter12

บทที่ 7 ตอนที่ 12 "จักรวรรดิวอลลาเคีย"

ช่วงที่เหม่อๆ จากอาการบาดเจ็บสุบารุได้ยินเสียงชายหญิงคุยกันเหมือนปลุกใจพร้อมรบ

เขาสะดุ้งตื่นขึ้นอีกทีมาเพราะมีคนเอาผ้าชุบน้ำมาโปะหน้า

อูตาคาตะ (เรียกน้องอูละกัน) เป็นคนที่รักษาพยาบาลให้สุบารุอยู่ น้องเขาเรียกสุบารุว่า “ซู”

สิ่งแรกที่ทำให้สุบารุสะดุ้งก็คือแขนขวาของเขา (ข้างที่ใช้ดูดเลือดมังกรดำของคาเปลล่าออกจากครูช) ตั้งแต่ปลายนิ้วถึงข้อศอกกลายเป็นสีดำสนิทเหมือนใส่ถุงมืออยู่

สัมผัสที่มือขวามันแปลกๆไป ขยับได้ช้า รู้สึกเหมือนสวมถุงมือยางอยู่ สุบารุเลยใช้เล็บมือซ้ายแคะจนฉีกผิวหนังสีดำออก

แล้วพอลอกทั้งหมดทิ้งไป ข้างใต้ผิวหนังสีดำก็มีมือขวาสภาพสมบูรณ์ของเขาอยู่

สุบารุตกใจประมาณ “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับแขนตูฟะเนี่ย” แล้วก็ได้ยินเสียงผู้ชายทักขึ้นมา เขารู้ทันทีว่าเป็นอาเบล

อาเบลกับน้องอูยืนยันว่ามือขวาของสุบารุควรจะไม่เหลือซากตั้งแต่ไประเบิดเขางูระยะเผาขนแล้ว สุบารุแทบไม่เชื่อหูตัวเอง ก็มือเขามันสภาพดีเหมือนใหม่เลยตอนนี้

ทีแรกอาเบลนึกว่าสุบารุจะตายแล้ว แต่อยู่ดีๆก็มีโคลนดำผุดออกมาแล้วกลายเป็นมือขวาของสุบารุ

สุบารุสงสัยว่าทำไมมันพึ่งมาฮีลเอาป่านนี้ มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงสามเดือนตั้งแต่ที่เขารับเลือดมังกรดำเข้าร่างมา ศึกที่หอคอยเพลอาเดสมันก็ไม่ได้ช่วยไว้เลย

สุบารุสำรวจทั่วร่าง บาดแผลที่อื่นทั้งนิ้วมือข้างซ้ายที่โดนเรมหัก แผลที่หลังที่โดนท็อดด์ปามีดปัก และแผลไฟไหม้ แผลฟกช้ำรอบตัวอื่นๆไม่ได้ถูกฮีลเลย

แถมตอนนี้รอยดำที่แขนขวาหายไปหมดแล้ว สุบารุก็ไม่กล้าลองระเบิดแขนตัวเองดูอีกรอบว่ามันจะฮีลให้อยู่ไหม

สุบารุกับอาเบลเหน็บกันเรื่องต่างฝ่ายต่างมีความลับ แต่แล้วสุบารุก็นึกขึ้นมาได้ว่าแล้วเรมล่ะ? ต้องรีบไปช่วยเรม

สุบารุรีบลุกจากแคร่ท่อนไม้โดยไม่สนคำเตือนของน้องอู แล้วร่วงลงกับพื้นเพราะร่างกายยังบาดเจ็บหนักเกิน

อาเบลบอกให้ตามมาแล้วก็เดินนำออกไป สุบารุพยายามพยุงตัวขึ้นมายืนเอง เดินตามอาเบลไป เขาก้มมองลงดูจากบนผา แล้วเห็นค่ายทหารของจักรวรรดิลุกเป็นไฟ

การโจมตีทีเผลอทำให้พวกทหารเสียกระบวน สุบารุมองดูทหารถูกเผ่าชูดราคสังหารคนแล้วคนเล่า

อาเบลบอกว่าสุบารุควรดีใจสิที่สหายร่วมรบมีชัยเพราะข้อมูลจากเขา นี่ควรจะเป็นผลลัพธ์ที่เขาต้องการ

สุบารุไม่พอใจที่มันลงเอยอย่างนี้ อาเบลเลยสั่งสอนว่ายังไงผู้คนก็ต้องตาย สุบารุไม่ใช่วีรบุรุษหรือนักปราชญ์ที่จะจบศึกโดยไม่ต้องหลั่งเลือดคนอื่นนอกจากตัวเองได้

สุบารุเข่าทรุด สุดท้ายแล้วถึงจะร่วมฝ่าฟันพิธีกรรมมาด้วยกัน แต่เขาก็แทบไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของอาเบลเลย

อาเบลเลยถอดผ้าคลุมปิดหน้าออก เฉลยชื่อจริงว่าเขาคือ “วินเซนต์ อาเบลลุกซ์” อย่างน้อยก็เป็นชื่อนี้ไปจนกว่าเขาจะได้บัลลังก์คืนมา

พวกมิเซลด้ากลับมาเจอสุบารุ สาวเผ่าชูดราคที่ชื่อฮอลลี่กำลังอุ้มเรมอยู่

สุบารุเดินกะเผลกไปหาเรม แต่เรมกลับตบหน้าเขาฉาดใหญ่ หาว่าสุบารุเป็นต้นเหตุของการฆ่าล้างค่ายทหาร ด่าสุบารุว่าเลวที่สุด

พวกชูดราคงงกันหมด แต่สุบารุก็ไม่ว่าอะไร เขากอดเรม ดีใจที่เธอปลอดภัยดี

เรมกำลังจะกำหมัดต่อยสุบารุ แต่แล้วเธอก็สังเกตเห็นสภาพยับเยินของเขา พร้อมกันกับที่สุบารุทรุดลง

เรมถามว่าทำไมต้องทำขนาดนี้เพื่อช่วยเธอ สุบารุตอบว่าเพราะเขาอยากให้เธอมีความสุขและอยากเห็นเธอยิ้ม

สุบารุหมดสติไป มิเซลด้าบอกว่าบาดแผลสุบารุหนักเกินจะรักษาด้วยยา แล้วพวกชูดราคก็เริ่มร้องเพลงสวดศพ

เรมพยามตะโกนว่าสุบารุห้ามตายนะ รุยเอามือวางบนไหล่ของเรม แล้วจู่ๆเรมก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่ส่งมาจากรุย เรมส่งต่อสิ่งนั้นไปให้สุบารุ

พอวินเซนต์เห็นก็กล่าวขึ้นมาว่านั่นคือเวทรักษา

วินเซนต์สั่งให้เรมเงียบๆไว้ เธอกำลังใช้เวทรักษาโดยสัญชาตญาณ ห้ามสมาธิหลุดเด็ดขาด

เรมเลยตั้งมั่นรักษาต่อไป กระซิบว่าห้ามสุบารุตายไม่งั้นจะอดเห็นเธอยิ้ม

ตัดมามุมมองของวินเซนต์ที่มองดูการรักษาของสุบารุ

เขาครุ่นคิดว่าหรือนี่จะเป็นผลลัพธ์ที่สุบารุคำนวณไว้ในการวานให้เขาไปช่วยเรมออกมา

ถึงนั่นจะไม่จริง แต่ผลลัพธ์ก็ออกมาอย่างที่เขาพอใจ สุบารุรอดตาย เขาได้ทำสัญญาเลือดกับเผ่าชูดราค

วินเซนต์เฉลยว่ามีรัฐประหารเกิดขึ้นในวอลลาเคีย พวกเก้าแม่ทัพเทวะกับเสนาบดีเบอร์สเต็ทซ์หักหลังเขา พวกทหารชั้นล่างส่วนใหญ่ไม่รู้เรื่องแค่ทำตามคำสั่ง

วินเซนต์มองไปยังทิศทางของเมืองหลวงรุปกาน่า ที่ๆบัลลังก์ของเขาตั้งอยู่ และกล่าวว่าพวกกบฏเตรียมสั่นกลัวการกลับไปของเขาได้เลย

“ในเมื่ออุตส่าห์รอดชีวิตมาได้ ก็ต้องขอพาตัวเจ้าไปด้วยกันล่ะนะ นัตสึกิ สุบารุ ---เพื่อที่จะกอบกู้จักรวรรดิวอลลาเคียให้กลับมาอยู่ในมือของข้า”

จบตอน