re zero IF-PRIDE แปลไทย

บทนำ : คำสาบาน

ความร้อนจากหน้าท้องแพร่ขยายไปทั่วจิตใจ

สุบารุ : อ่อออก ร้อน!

ร่างของสุบารุนอนคว่ำอยู่ ใบหน้าทุกข์ทรมานของเขาแนบติดอยู่กับพื้นแข็ง ไม่ต้องถามถึงเรื่องลุกขึ้นยืน กระทั่งแขนขาก็ขยับเขยื้อนไม่ได้ด้วยซ้ำ ราวกับว่านี่ไม่ใช่ร่างกายของตัวเขาเองอีกแล้ว ราวกับว่าร่างกายของเขาถูกช่วงชิงไป

แต่เพลิงนรกที่เผาไหม้ร่างของสุบารุอย่างไม่ลดละนี่ก็ไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลย

――ร้อน ร้อนร้อนร้อนร้อนร้อนร้อนร้อนร้อนร้อน

ยามเขาอ้าปากออกเลือดก็หลั่งไหลออกมาแทนเสียงคร่ำครวญ ร่างแทบจมอยู่ในกองเลือดของตัวเอง ทุกข์ทรมานอย่างถึงที่สุด

――นี่เขาทำอะไรผิดไป?

ความปรารถนาที่จะหลีกหนีจากความทรมานทำให้เขาร้องขอเช่นนั้นในหัวซ้ำไปซ้ำมา

นี่เขาทำอะไรผิดไป?

เขาเองก็รู้ตัวดีว่าชีวิตของเขาไม่ได้น่าชื่นชมนัก แต่เรื่องแบบนี้มันก็เป็นเหมือนกันทุกคน คงไม่มีใครที่ใช้ชีวิตอย่างใสซื่อบริสุทธิ์จนเอาไปอวดกับคนอื่นเขาได้ อาจจะมีเรื่องที่รู้สึกผิด อาจจะมีเรื่องที่นึกเสียใจ อาจจะมีเรื่องที่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น และอาจจะมีเรื่องที่เรายอมอะลุ่มอล่วย

แล้วทำไมถึงมีแค่เขาที่ต้องมาทรมานแบบนี้?

ทำไมชะตากรรมที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับคนอื่นถึงได้มาเกิดกับแค่ตัวเขาแบบนี้?

สุบารุ: อา แม่งเอ๊ย…

มีเสียงกระซิบแทรกออกมากับโลหิตที่หลั่งไหล มันเปี่ยมไปด้วยความสำนึกผิด เกลียดชังความไร้กำลังของตนเอง ความชิงชังในโชคชะตา และความโกรธเคืยงในตนเอง

. ท่ามกลางบาดแผลเหล่านี้ ท่ามกลางความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมาน แม้ว่าเพลิงนี้จะเผาไหม้เขา แม้ว่าความปวดร้าวนี้จะเกินทน แม้ว่ามันจะถึงแก่ชีวิต

ภาพรอยยิ้มของเด็กสาวก็ยังฝังลึกอยู่ในใจ เด็กสาวผู้ต้องมาเผชิญกับความตายอันโหดร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดังนั้น――

สุบารุ: ชั้นน่ะ

เป็นอีกครั้งที่เขาประกาศการเตรียมใจและปณิธาน กล่าวความเวทนาและความนึกเสียใจ ไม่ว่าจะต้องลองอีกกี่ครั้ง ไม่ว่าจะต้องตะเกียกตะกายอีกกี่ครั้ง ไม่ว่าจะต้องปรารถนาอีกกี่ครั้ง เขาก็จะใฝ่หาอนาคตไม่มีทางไปถึงนั้นต่อไป

ทั้ง “ความเจ็บปวด” และ “ความร้อน” ที่รู้สึกเริ่มห่างไกลออกไป และหมาขี้แพ้อย่างเขาก็เห่าหอนออกมา

สุบารุ: ไม่ว่ายังไง

คมมีดที่เปล่งประกายคืบคลานเข้ามาใกล้ดวงไฟแห่งชีวิตที่ใกล้ดับมอดลงนั้นอย่างเหี้ยมโหด แต่ถึงแม้ว่าคมมีดจะอยู่นอกระยะสายตา เขาก็ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ไปแล้ว

“――ก็จะต้องช่วยเธอให้ได้เลย”

ทันทีที่เขาจุดประกายความปรารถนานั้นขึ้นมาใหม่ นัตสึกิ สุบารุก็เสียชีวิตลง