ชายปิดหน้าได้ยินมาว่าสุบารุไปติดกับดักจับสัตว์ของพวกชาวบ้านที่นี่เลยถูกจับตัวมา
สุบารุเดาว่าที่นี่คงเป็นหมู่บ้านของเผ่าชูดราค และชายปิดหน้ายืนยันว่าถูกต้องตามนั้น
สุบารุมองสำรวจหมู่บ้าน กรงที่นี่ทำด้วยไม้ต่างจากกรงเหล็กของพวกทหาร เป็นหมู่บ้านในป่าให้บรรยากาศคล้ายที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่ที่นี่มีแค่กระท่อมไม้
สุบารุได้กลิ่นยา ดูเหมือนว่าพวกชาวบ้านจะรักษาแผลที่ไหล่กับหลังให้ แต่การรักษาไม่ได้ดีเทียบเท่าตอนอยู่ค่ายทหารลูปก่อน
สุบารุถามว่าเขาโดนพามาที่นี่นานแค่ไหนแล้ว ชายปิดหน้าบอกว่าราวๆสองชั่วโมงได้
สุบารุบ่นว่าทำไมไม่ปลุกเขาให้เร็วกว่านี้ เขาต้องรีบกลับไปช่วยเรมก่อนที่พวกท็อดด์จะกลับไปรายงานหัวหน้าได้
(สุบารุเสริมว่าช่วงชุลมุนมีแค่ท็อดด์คนเดียวที่เล็งฆ่าสุบารุ คนอื่นมัวสนใจงู ไหวพริบของท็อดด์จะดูถูกไม่ได้)
ระหว่างที่คุยกับชายปิดหน้าอยู่สุบารุก็รู้สึกว่ามีคนมอง เขาหันไปเจอดวงตาสีเขียวจ้องมองมาจากนอกกรงขัง
ก่อนที่จะทันพูดด้วย เด็กสาวเผ่าชูดราคที่มาแอบดูก็วิ่งหนีไป เธอเป็นเด็กสาวราวๆ 10 ขวบ มีผมสีดำทรงพิกเทลปลายย้อมชมพู ผิวสีน้ำตาล สวมเสื้อคลุมสีขาว
แต่สิ่งที่ทำให้สุบารุช็อคที่สุดก็คือเด็กคนนี้นี่แหละที่ฆ่าเขาตายในลูปก่อน
ซักพักมีกลุ่มคนราว 10 ถือคบเพลิงเดินมาหาพวกสุบารุที่กรง ทุกคนเป็นผู้หญิงหมด เด็กสาวคนเมื่อกี้ก็อยู่ด้วย
คนที่นำมาเป็นหญิงสาวที่ดูแข็งแกร่ง เธอมีผมย้อมสีแดง ดวงตาสีเขียว และผิวสีน้ำตาลของเธอมีสัญลักษณ์สีขาววาดไว้ทั่วร่าง
สุบารุรู้สึกได้ถึงบรรยากาศกดดันที่ต่างจากอัศวินและทหาร พวกเธอเหมือนสัตว์ร้ายที่อาศัยสัญชาตญาณมากกว่าตรรกะ หญิงสาวถามขึ้นมาว่า “ตื่นแล้วสินะ พวกแกเป็นใคร?”
สุบารุงงว่าทำไมพวกเขาถึงถูกจับไว้ในกรงเดียวกัน ชายปิดหน้าบอกว่าเขาเป็นคนขอเอง เพราะบอกไปว่าเขารู้จักสุบารุ ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง
ชายปิดหน้าบอกไปว่าเขาชื่อ “อาเบล”
ส่วนหญิงสาวที่ดูเป็นหัวหน้าแนะนำตัวว่าชื่อ “มิเซลด้า” สุบารุคิดว่าพวกเธอดูเหมือนเผ่า “อามาโซเนส/อามาซอน” ในตำนานกรีกเลย
สุบารุพยายามเตือนว่ามีพวกทหารมาตั้งแคมป์รอบๆกะจะรบกับพวกเธอ และเขามีคนที่ต้องกลับไปช่วยให้ได้
มิเซลด้าไม่เชื่อเขา เธอบอกว่าพวกทหารมาซ้อมรบในป่าเป็นปกติอยู่แล้ว และเผ่าชูดราคมีสนธิสัญญาเก่าแก่กับทางจักรวรรดิว่าจะไม่สู้รบกันอยู่
เธอเลยมองว่าทั้งสุบารุและอาเบลโกหกเลยเดินจากไป
สุบารุพยายามหาจุดหลวมๆของกรงไม้ แต่ว่าไม้แต่ละท่อนตอกลงดินลึกเหมือนใช้เครื่องมือ ที่นี่ต้องมีคนแรงเยอะแบบเอมิเลียหรือการ์ฟีลอยู่แน่ๆ
อาเบลเล่าเสริมว่าชูดราคเป็นเผ่านักรบที่แข็งแกร่ง สืบเชื้อสายมาจากเทพสงคราม พวกเธอไม่ต้องการผู้ชาย แค่ลักพาตัวมาเพื่อสืบพันธ์ุเป็นครั้งคราว
สุบารุเข้าใจเสียทีว่าพวกทหารไม่ได้กะจะสู้กับเผ่าชูดราคตรงๆแต่แรก
พวกเขาคงวางแผนจะเผาป่าอยู่แล้ว และสุบารุดันไปเพิ่มข้ออ้างให้พวกเขาเผาป่าได้เร็วขึ้นในลูปก่อน
สุบารุบอกอาเบลว่าเรมสำคัญกับเขามาก เขาจะต้องรีบกลับไปช่วยเธอ
สุดท้ายอาเบลเลยยอมร่วมมือกับสุบารุ ทีแรกเขาตั้งใจจะรอจังหวะเวลาดีๆ ให้ฝ่ายทหารด้านนอกเคลื่อนไหวก่อน แต่ถ้าพวกทหารกะจะเผาป่าแต่แรก อาเบลก็รอไม่ได้แล้ว
สุบารุสงสัยว่าอาเบลเชื่อเขาด้วยเหรอ อาเบลบอกว่าเขาไม่ได้ใส่ใจเรื่องสนธิสัญญา แต่ถ้าสุบารุโกหกก็จะต้องชดใช้ด้วยชีวิต
อาเบลถามสุบารุว่า ถ้าเพื่อที่จะช่วยคนที่เขาอยากช่วย เขาพร้อมที่จะเสียสละทุกอย่างรึเปล่า?
สุบารุปฏิเสธว่าไม่ มีแค่ชีวิตของตัวเขาเองเท่านั้นจะยอมใช้เสี่ยงเดิมพัน เขาไม่คิดจะสละคนอื่น
อาเบลด่าสุบารุว่าเป็นตัวตลก แต่เขาก็พอใจที่สุบารุไม่โกหก สุบารุรู้สึกได้ว่าถ้าตอบผิดไป เขาคงโดนฆ่าตายไปแล้ว
อาเบลเรียกเด็กผู้หญิงที่แอบอยู่ออกมา เธอคือเด็กผู้หญิงที่เคยฆ่าสุบารุในลูปก่อน เด็กสาวเรียกตัวเองว่า “อู”
อูถามว่าทำไมสุบารุถึงอยากช่วยเผ่าเธอขนาดนั้น สุบารุตอบว่าเพราะเขาไม่อยากเห็น “สายตาแบบนั้น” ของอูอีก
อาเบลบอกให้อูไปเรียกมิเซลด้ามา ให้บอกมิเซลด้าว่าจะขอเข้ารับ “พิธีกรรมโลหิตชีวิต” เพราะว่านั่นคือวิธีที่จะซื้อใจเผ่าชูดราคได้เร็วที่สุด
จบตอน