webnovel arc7 chapter23

บทที่ 7 ตอนที่ 23 "นักดนตรี นัตสึมิ ชวาร์ซ"

สุบารุแปลงโฉมเป็นนัตสึมิ ชวาร์ซ ครั้งนี้เขาไม่ได้เล่นบทลูกขุนนางอย่างครั้งก่อน แต่ต้องเป็น “นักแสดงพเนจร” จึงยัดหน้าอกเพิ่มเป็นพิเศษ

สุบารุใช้เหล่าสาวงามทุกคนที่เขาได้เจอในโลกนี้ ทั้งมิตรและศัตรู ทั้งสาวใหญ่และโลลิ (รวมเฟลิคซ์ด้วย) เป็นต้นแบบในการสร้างอิมเมจการแต่งหญิงของตน

นัตสึมิได้แต่รำพึงในใจว่าเครื่องแต่งหน้ามีไม่พร้อมเท่าไหร่ ไม่งั้นคงแต่งได้สวยกว่านี้ แต่เขาก็ออกมาเผยโฉมให้เพื่อนๆดู

มิเซลด้าทั้งทึ่งในฝีมือและตกใจที่สุบารุสามารถปลอมเสียงผู้หญิงได้ด้วย สาวๆชูดราคต่างพากับปรบมือต้อนรับการจุติอีกครั้งของนัตสึมิ ชวาร์ซ

เรมดูจะไม่พอใจความอินของนัตสึมิที่พูดสไตล์ผู้หญิงตลอดเวลาเลยหยิกหูเขาไปที นัตสึมิวิ่งไปให้มิเซลด้าโอ๋และเรียกเธอว่า “ท่านพี่”

(สุบารุเปลี่ยนมาใช้สรรพนาม “わたくし(ดิฉัน)” แทนตัวเองในโหมดนัตสึมิ)

นัตสึมิแต่งหน้าให้ทาริตต้ากับคูนาออกมาเป็นสาวน่ารักและงดงาม แทนที่จะให้ภาพลักษณ์แข็งแกร่งและกล้าหาญแบบเผ่าชูดราคปกติ

(คูนาทำผมทรงทวินเทล)

จากนั้นเบียนก้าไพ่ตายของแผนการครั้งนี้ก็ปรากฏตัวในชุดนักเต้นรำ (เปิดโชว์ทั้งหน้าท้องและต้นขา)

เรมถึงกับจำแทบไม่ได้ว่านี่คือวินเซนต์ รีแอคชั่นของทุกคนต่อเบียนก้านั้นดูตกใจยิ่งกว่าคราวนัตสึมิอีก

วินเซนต์เล่าว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเคยปลอมตัวเป็นผู้หญิง ตัวเขาในวัยเด็กจำเป็นต้องทำแบบนั้นหลายครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงการลอบสังหาร

ในส่วนของบทนางรำที่ได้รับมา วินเซนต์ก็มั่นใจในฝีมือการเต้นรำพอสมควร ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เก่งเท่าน้องสาวที่ตายไปแล้วก็ตาม (พริสซิลล่า)

นัตสึมิ เบียนก้า ฟลอร่า คูนา ทาริตต้าเดินทางมาถึงประตูใหญ่เมืองกัวราล พวกมิเซลด้า เรม มีเดียมจะเป็นกำลังเสริมอีกกลุ่มเผื่อว่าจำเป็นต้องมีใครเล่นบทตัวล่อจากนอกเมือง

ด่านตรวจคนเข้าเมืองนั้นเข้มงวดมาก แถมทหารยามหัวล้านที่เป็นคนตรวจก็ดันเคยเห็นหน้าสุบารุกับฟล็อปมาแล้วอีก

นัตสึมิอ้างว่าพวกเขาเป็นนักแสดงพเนจรจากทางเหนือ ทหารยามทักว่านั่นมันพื้นที่ของ “ขุนนางแผดเผา” ที่กำลังมีปัญหาเรื่องมังกรบินนี่

จากนั้นนัตสึมิก็ใช้สกิลมารยาหญิงตีสนิททหารยามแล้วชวนเขานินทาพวกทหารจักรวรรดิ ทหารยามบ่นว่าพวกนั้นยึดเอาศาลากลางกับบาร์ไปเป็นของตัวเอง

นัตสึมิเลยเอาประสบการณ์ในค่ายมาใส่สีตีไข่ให้ฟังจนทหารยามเห็นใจแล้วยอมปล่อยเข้าเมืองอย่างว่าง่าย

หลังผ่านเข้าเมืองมา ทั้ง 5 สาวก็ถูกสายตามากมายจับจ้อง เบียนก้ากับนัตสึมิเห็นว่านี่เป็นโอกาสดีเลยจะขอเปิดการแสดงครั้งแรกที่ถนนหลักตามคำแนะนำของทหารยามคนตะกี้

หลังส่งเสียงเรียกแขกนัตสึมิกับฟลอร่าก็เริ่มดีดพิณที่เป็นเครื่องดนตรีหลัก คูนากับทาริตต้าเล่นเครื่องเคาะง่ายๆ จากนั้นเบียนก้าก็เปิดหน้าแล้วเริ่มเต้นรำที่ดึงดูดสายตาของทุกคนที่ผ่านมาเห็น

สามวันผ่านไป พวกนัตสึมิแสดงไปได้ 10 ครั้งและเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาในเมืองแล้ว

พวกเขาเช่าห้องโรงแรมอยู่ คูนากับทาริตต้าเปลี่ยนกลับเป็นชุดชนเผ่าทันทีที่ถึงที่พัก แต่นัตสึมิกับฟลอร่าสวมบทบาทหญิงไว้ตลอดไม่มีเปลี่ยน

นัตสึมิกับฟลอร่าที่เสียงหวานคล้ายผู้หญิงอยู่แล้วเป็นคนออกหาข้อมูลในช่วงที่ผ่านมา

และถึงเบียนก้าจะแปลงเสียงเนียนเป็นหญิงไม่ได้ แต่เขาก็มีบทเป็นสาวนักเต้นรำลึกลับที่ไม่จำเป็นต้องพูดซักคำอยู่แล้ว

นัตสึมิกับฟลอร่าแปลกใจที่สามวันที่ผ่านมาพวกเขาไม่เคยเห็นเบียนก้า “หลับ” เลยซักครั้ง

อย่างมากที่เขาทำคือนั่งพักและหลับตาลงข้างเดียว เบียนก้าไม่เคยกระพริบตาสองข้างพร้อมกันด้วยซ้ำ เพราะสำหรับเขาการหลับตาส่องข้างก็คือการปล่อยชีวิตตัวเองไว้ในมือคนอื่น

(ชีวิตเอ็งต้องทรหดขนาดไหนฟะเนี่ย)

ซักพักเบียนก้าได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเขาจึงรีบหยิบวิกมาใส่ อีกฝ่ายคือจามาลกับทหารอีกสี่คน จามาลพังประตูเข้ามาแบบไม่คิดจะรอ

จามาลกวาดสายตาหื่นกามมองดูทาริตต้ากับคูนาที่อยู่ในสภาพเหมือนใส่แต่ชั้นใน(ชุดชนเผ่า) จากนั้นก็ดึงคอเสื้อนัตสึมิทำตัวเป็นนักเลงเหมือนเคย

แถมมีการชวนนัตสึมิด้วยว่า “คืนนี้มาที่ห้องพี่ไหมจ๊ะ?”

ตอนนั้นเองจามาลก็เหลือบไปเห็นเบียนก้าที่ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ที่หน้าต่างห้องโดยไม่มีท่าทีเกรงกลัว

เขาปล่อยคอเสื้อนัตสึมิ เดินไปสำรวจเบียนก้า จากนั้นก็ประกาศว่าพวกนัตสึมิถูกเชิญชวนไปให้ความบันเทิงแก่แม่ทัพ “ซีคูร์ ออสมัน” ที่ศาลากลางคืนนี้

พวกนัตสึมิเปลี่ยนเสื้อผ้าและย้ายข้าวของไปจัดเตรียมการแสดงที่ศาลากลาง

ปัญหาตอนนี้ก็คือพวกทหารจับตาดูพวกเขาอยู่ตลอด แถมยังถูกสั่งให้อยู่แต่ที่ห้องพักรอ หาโอกาสไปแจ้งข่าวกับทางกลุ่มมิเซลด้าไม่ได้เลยว่าจะลงมือคืนนี้แล้ว

คืนนี้จะเป็นงานเลี้ยงสำหรับทหารยศแม่ทัพ ส่วนวันถัดมาจะเป็นงานเลี้ยงสำหรับ “ทหารทั่วไป”

และในบรรดานั้นก็มีใครบางคนที่นัตสึมิกลัวจะได้พบอย่างเป็นที่สุดอยู่ จะหวังให้ชายคนนั้นตายเพราะลูกธนูไปแล้วก็คงจะยาก

หลังปรับอารมรณ์ในห้องน้ำจนพอใจ นัตสึมิก็ออกมาเจอเข้ากับ “ท็อดด์” ชายที่ทำให้เขาขวัญผวาจนหัวใจแทบหยุดเต้นในทันที

นัตสึมิรู้ดีว่าเขาต้องพูดอะไรแก้ตัวอะไรซักอย่าง ความเงียบของเขาจะทำให้ท็อดด์สงสัยจนอาจจะถูกฆ่าได้ แต่จะโกหกก็ไม่ได้เหมือนกัน ต้องถูกอีกฝ่ายมองออกแน่ๆ

สุดท้ายนัตสึมิตัดสินใจอ้างว่าเขา “กลัวท็อดด์” และทหารคนอื่นๆด้วยเพราะถูกบังคับลากตัวมาแบบฉุกละหุก

เป็นการเลือกพูดความจริงผสมคำโกหกและพยายามไม่มองตาอีกฝ่ายเพื่อไม่ให้ท็อดด์จับได้

ท็อดด์ถามเพื่อนทหารว่าใครพาตัวพวกนักแสดงมา เขาได้คำตอบมาว่า “สิบโทโอเรลี่” หรือก็คือจามาลนั่นเอง

ท็อดด์ขอโทษนัตสึมิและปลอบใจว่าถึงพี่เขยของเขาจะปากเสียแต่ที่จริงก็ไม่ใช่คนไม่ดีหรอก

ท็อดด์พูดถึงน้องสาวของจามาลที่เป็นคู่หมั้นของเขาอีกครั้ง บอกว่าเธอเป็นคนสวยเหมือนนางฟ้าต่างจากพี่ชายโดยสิ้นเชิง

ตอนนั้นเองจามาลก็โผล่มาแจมพอดี เขาสั่งให้ท็อดด์ไปพักซะ ท็อดด์พึ่งจะโดนธนูยิงจนท้องเป็นรูไปเมื่อไม่นานนี้แท้ๆ

จามาลเหลือบมาเห็นนัตสึมิและชมว่าเขาชอบเธอที่สุดในบรรดาสาวๆทั้ง 5 คนพร้อมกับชวนมาที่ห้องเขาคืนนี้อีกที

แต่ท็อดด์ก็เป็นคนที่หยุดจามาลไว้แล้วชวนเขากลับไปอุดช่องโหว่กำแพงเมืองด้วยกันต่อ แต่ก่อนจะจากกันท็อดด์หันกลับมาถามคำถามนึงก่อน

ท็อดด์ : จะว่าไปแล้ว เธอน่ะชื่ออะไรเหรอ?

คำถามนั้นทำให้นัตสึมิมึนงงถึงขีดสุด ท็อดด์ไม่เคยถามชื่อเขาตอนอยู่ที่ค่ายเลย แต่คราวนี้กลับถามซะงั้น

เขาควรจะตอบไปดีไหม?

สุบารุ: ---“นัตสึมิ ชวาร์ซ” คือนามของดิฉันค่ะ

ท็อดด์: โฮ่~

หลังตอบไปตามนั้นท็อดด์ก็ดูจะพึงพอใจและจากไปพร้อมจามาลที่ส่งเสียงโหวกเหวก

นัตสึมิกลับมารวมตัวกับเพื่อนๆที่ห้องพักรอในสภาพหน้าซีด พายุลูกใหญ่พึ่งผ่านพัดไป แต่ปัญหาเดิมก็ยังคงอยู่

กลายเป็นว่าเบียนก้าจงใจใช้นัตสึมืเป็นตัวล่อทหารแล้วระหว่างนั้นเขาให้ทาริตต้ากับคูนาแอบส่งสัญญาณให้พวกมิเซลด้ารับรู้เรื่องคืนนี้เรียบร้อยแล้ว

นัตสึมิโมโหจนอยากจะต่อยหน้าเบียนก้าซักหมัด โชคดีที่ฟลอร่ามาห้ามไว้ก่อน

สุบารุ: หนวกหูชิบหายค่ะ! จบเรื่องนี้เมื่อไหร่ขอต่อยคุณซักหมัดนะคะ! (ขนาดตอนโมโหคาแรคเตอร์ยังไม่หลุด)

ติดต่อทีมนอกเมืองเรียบร้อยทีนี้ก็เหลือแค่ดำเนินแผนให้สำเร็จ

และถึงแม้ว่านักเต้นรำจอมอวดดีคนนี้จะน่าหมั่นไส้แค่ไหน แต่ถ้าหากไม่ใช่พวกบิชอปมหาบาปแล้ว ไม่ว่าเป็นใครก็คงต้องตกหลุมรักการเต้นรำของเขาเป็นแน่

จบตอน