คูนาและโฮลี่กลับมารายงานความล้มเหลวในการหยุดยั้งการหลบหนีของท็อดด์และอาราเคียให้ที่ประชุมทราบ
พริสซิลล่ากับวินเซนต์เห็นพ้องกันทันทีว่าไล่ตามไปก็เปล่าประโยชน์ ถ้าอาราเคียฟื้นกลางคันจะยิ่งกลับมาเสียเปรียบอีก
สุดท้ายศึกยึดเมืองกัวราลก็ไม่ได้จบลงแบบไร้การนองเลือดอย่างที่สุบารุหวังเอาไว้ เนื่องจากว่ามีทหารยามถูกท็อดด์กับจามาลฆ่าตายไป 7 คน
. พอพริสซิลล่าได้ยินว่าสุบารุตั้งใจจะยึดเมืองแบบไร้การหลั่งเลือด เธอก็ดูถูกความอ่อนต่อโลกของสุบารุและหันไปสงสัยวินเซนต์ว่ายอมทำตามแผนการอ่อนหัดแบบนี้ลงไปได้ยังไง
วินเซนต์: ตัวแผนน่ะอาจจะบ้าบอก็จริงอยู่ …แต่ถ้าอาราเคียไม่โผล่มา พวกเราก็คงจะยึดปราการแบบไม่ต้องหลั่งเลือดสำเร็จไปแล้ว ถ้าผิดแผนก็เป็นความผิดของข้าที่อ่านเกมพลาดเอง พริสซิลล่า ต่อให้เป็นเจ้า ข้าก็คิดไม่ยอมให้ดูหมิ่นแผนการจาก “นักวางกลยุทธ์” ของข้าหรอกนะ ไม่ต้องโทษใครนอกจากตัวข้าที่ตัดสินใจเรื่องนั้นเอง
อัล: อะไรกัน พี่น้อง เขาถูกใจนายน่าดูเลยนี่ แบบนี้ได้เลื่อนยศแหงเลย
สุบารุ: …นอกจากตำแหน่งอัศวินของเอมิเลียตันกับผู้ปกครองของเบียทริซ ชั้นก็ไม่ได้ต้องการเป็นอย่างอื่นแล้วเฟ้ย ตำแหน่งที่ไม่ได้ต้องการน่ะไม่ต้องมายัดเยียดให้กันเลย
อัลให้คำแนะนำกับสุบารุเพิ่มว่าชีวิตมันไม่ใช่เกม สุบารุไม่สามารถช่วยทุกคนที่เจอได้ ดังนั้นหัดปล่อยวางและให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง ไม่ใช่แบกรับทุกอย่างไปหมด
. พริสซิลล่าเริ่มรำคาญและประกาศออกมาว่าโอกาสที่จะเล่นงานอาราเคียได้ง่ายๆแบบนั้นจะไม่มีซ้ำสอง
สุบารุเลยนึกย้อนไปถึงตอนที่อาราเคียสู้กับอัล แล้วอยู่ดีๆการเคลื่อนไหวของเธอก็ถูกขัดอย่างไม่ทราบสาเหตุ
วินเซนต์เฉลยว่าเขาใช้ประโยชน์จากการที่อาราเคียเป็น “ผู้กินวิญญาณ” เธอจึงมีความอ่อนไหวต่อมานาค่อนข้างสูง
เขาเลยแอบทำลายแหวนเวทมนตร์ซึ่งทำให้มานาที่อยู่ในแหวนไหลซึมออกมาเกาะตัวในบรรยากาศบริเวณนั้นหนาแน่น
มันส่งผลให้อาราเคียเกิดอาการ “เมามานา” และเสียจังหวะไป วินเซนต์เองก็ยอมรับอย่างที่พริสซิลล่าพูดว่าทริคนี้คงใช้ได้ผลเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
(ฉากนี้มีการเล่าว่าเมื่อก่อนมีเผ่า “ผู้เสพวิญญาณ” อยู่มากกว่านี้ แต่ถูกล้างบางไปจนแทบไม่หลงเหลืออยู่แล้ว สุบารุถึงกับสยองแทนเบียทริซตอนที่ได้ยินฉายานี้ขึ้นมา)
. สุบารุถือโอกาสถามจุดประสงค์ที่พริสซิลล่ายอมให้ความร่วมมือกับวินเซนต์
ซึ่งพริสซิลล่าก็ตอบว่าเธอต้องการช่วยพี่ชายให้ได้กลับขึ้นบัลลังก์ จะได้เลิกมีมือสังหารน่ารำคาญโผล่มารังควาญเธอสักที
พริสซิลล่าดูจะรู้ดีว่าวินเซนต์ไม่ได้เป็นคนส่งนักฆ่ามา แต่เธอก็เริ่มรู้สึกลังเลที่จะช่วย เนื่องจากว่าพี่ชายคนเดิมอ่อนหัดลงถึงขั้นยอมรับแผนการใจเสาะของสุบารุ
(ในฉากนี้สุบารุจะได้เห็นมังกรบินเป็นครั้งแรก)
พริสซิลล่าถามวินเซนต์ว่าใครอยู่เบื้องหลังการก่อกบฏ ซึ่งวินเซนต์ก็มั่นใจว่าตัวการคือนายกรัฐมนตรี “เบลสเต็ตซ์ ฟอนดาลฟอน”
ที่จริงวินเซนต์ก็ดูออกอยู่แล้วว่าสักวันเบลสเต็ตซ์จะหักหลังตัวเองและได้เตรียมวิธีรับมือไว้พร้อม
แต่สิ่งวินเซนต์คาดไม่ถึงก็คือการที่กระทั่ง “จิชา โกลด์” เสนาธิการคนสนิทก็กลายเป็นหนึ่งในผู้ที่หักหลังเขาเช่นกัน
. ตั้งแต่ที่วินเซนต์ได้ขึ้นเป็นจักรพรรดินี่ก็เป็นครั้งที่สองที่เขาถูกศัตรูขับไล่ออกจากบัลลังก์มา (ครั้งแรกคือเหตุการณ์เล่ม EX4)
วินเซนต์ไม่แน่ใจว่านอกจากอาราเคียกับจิชาแล้วยังมีเก้าแม่ทัพเทวะคนไหนหักหลังเขาอีก
ที่แน่ๆแม่ทัพ “กอซ ราลฟอน” อยู่ฝั่งเดียวกันเพราะเขายอมเสียสละตัวเองถ่วงเวลาไว้ให้วินเซนต์ใช้กลไกเคลื่อนย้ายหลบหนีมาได้
วินเซนต์ประเมินว่ากอซน่าจะตายไปแล้ว แต่ซีคูร์บอกว่าเขาไม่ได้ข่าวการเสียชีวิตของแม่ทัพกอซเลย ต่อให้เป็นเบื้องบนก็ไม่น่าจะปิดข่าวได้นานขนาดนั้น
สุบารุถามว่าให้วินเซนต์ไปประกาศตัวเลยไม่ได้เหรอ? ประชาชนจะได้รู้ว่าจักรพรรดิตัวจริงถูกก่อกบฏ
แต่อัลก็ตัดบทว่ามันไม่ง่ายแบบนั้น ที่ประเทศแห่งนี้ ถ้าถูกแย่งอะไรไปก็ต้องเอาคืนมาเองให้ได้ ถ้าไม่มีปัญญาทำแบบนั้น ประชาชนก็ไม่นับถือเป็นผู้นำอยู่ดี
. วินเซนต์สั่งให้ซีคูร์เอาแผนที่มากางบนโต๊ะกลม หลังวินเซนต์ไล่เรียงชื่อและฉายาของแม่ทัพเทวะแต่ละคนให้ฟังบรรยากาศในห้องประชุมก็เปลี่ยนไป
สุบารุก็สัมผัสได้ว่า “ถ้าเป็นอนิเมะ นี่คงเป็นฉากพีคที่เปิดเผยชื่อตัวละครสำคัญระดับหัวหน้า” ถึงแม้ว่าเขาจะแทบไม่รู้จักใครในนี้เลยก็ตาม
ฉายาของแม่ทัพแต่ละคนก็มีแต่พวกเดายากว่าจะเป็นแนวไหน มีก็แต่ “เจ้าแห่งอุปกรณ์เวท” กับ “แม่ทัพมังกรบิน” นี่แหละที่ฟังดูตรงตัวหน่อย
. สุบารุที่ยังมีข้อกังขาอยู่ชูห้านิ้วขึ้นมาเพื่อถามวินเซนต์เพิ่มเติม
ถ้านี่คือศึกการแย่งชิงแม่ทัพเทวะมาเข้าฝ่ายตัวเอง นั่นแปลว่าฝ่ายที่รวบรวมแม่ทัพเทวะได้ “5 คน” ก่อนจะเป็นฝ่ายชนะ
ทว่า ฝ่ายศัตรูมีอาราเคียกับจิชาอยู่แน่ๆแล้วสองคน ส่วนฝ่ายวินเซนต์มีเพียง “กอซ” ที่คอนเฟิร์มได้ว่าอยู่ฝ่ายเดียวกัน แต่ชะตากรรมของกอซก็ยังบอกแน่ชัดไม่ได้ว่าเสียชีวิตไปหรือยัง
ถ้านับเลขแบบตรงๆ ก็สรุปอย่างง่ายๆได้ว่าฝ่ายศัตรูกำลังนำวินเซนต์อยู่ 2-0 แล้ว
. สุบารุถามต่อว่าแล้วตอนนี้พวกแม่ทัพเทวะประจำการอยู่ที่เมืองหลวงหรือเปล่า?
วินเซนต์ พริสซิลล่าและซีคูร์เลยช่วยกันอธิบายเสริมถึงการจัดกำลังทัพในวอลลาเคีย
เนื่องจากว่าวอลลาเคียเป็นประเทศใหญ่ แม่ทัพเทวะเลยถูกส่งกระจายตัวไปประจำการตามเมืองต่างๆเพื่อที่จะได้รับมือสถานการณ์วุ่นวายได้ทันท่วงที
มันทำให้สุบารุนึกถึงรอสวาลขึ้นมา เพราะเจ้าตัวตลกก็เป็นมาร์เกรฟที่ได้รับหน้าที่ดูแลพื้นที่ฝั่งตะวันตกของประเทศเหมือนกัน
สุบารุ: พอมาคิดดูแล้วเจ้าหมอนั่นก็ถือเป็นชีทยูนิต(ตัวละครที่เก่งจนโกง)เหมือนกันนะ… สงสัยจริงว่ารอสวาลจะเทียบฝีมือกับแม่ทัพเทวะได้ขนาดไหน
. ข่าวดีที่สุบารุสรุปได้จากข้อมูลนี้ก็คือ แม่ทัพเทวะอาจจะไม่ได้ร่วมมือกันก่อกบฏทุกคน วินเซนต์เองก็ยืนยันว่าเรื่องนั้นเป็นไปได้
สุบารุ: ถ้าความเก่งของแม่ทัพเทวะเรียงกันตามอันดับจริง เราเน้นหาคนที่อันดับสูงไว้ไม่ดีกว่าเหรอ?
วินเซนต์: อา เป็นการประเมินที่ถูกต้องแล้ว
สุบารุ: ถ้างั้น เจ้าคนที่ฝีมือทัดเทียมกับไรน์ฮาร์ดนั่น ชื่อเซซิลุสใช่ไหมนะ? ถ้าได้คนๆนั้นมาไม่เท่ากับว่ารู้ผลเลยเหรอ? …หรือว่าชั้นลืมเรื่องอะไรไป?
วินเซนต์: …ก็จริงอยู่ถ้าได้ “เจ้าสิ่งนั้น” มาก็จะแก้ปัญหาด้านกำลังรบของทางนี้ได้ …แต่มันก็มีปัญหาอยู่
สุบารุ: ปัญหาอะไร?
วินเซนต์: ---หมอนั่นน่ะมีชื่อเสียงที่ย่ำแย่มากน่ะสิ
. สุบารุถึงกับไปไม่เป็นพอได้ยินเหตุผลนั้นเข้าไป วินเซนต์เลยอธิบายเสริมว่าเขามอบตำแหน่งแม่ทัพลำดับที่ 1 ให้เซซิลุสก็จริงอยู่ แต่ว่าเซซิลุสนั้นไม่ได้มีอำนาจสั่งการอะไรในกองทัพเลย
ที่วินเซนต์ทำแบบนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ทหารที่ทำเป็นแต่ฟันคนอย่างเซซิลุสมีอำนาจใช้มากเกินตัว
ซีคูร์อธิบายเสริมว่าถึงแม้เซซิลุสนั้นจะเป็นคนที่มีท่าทางเป็นมิตร แต่ทหารคนอื่นล้วนแต่เกรงกลัวเขากันทั้งนั้น
สำหรับคนทั่วไปเซซิลุสนั้นคือ “สัตว์ประหลาดที่ไม่อาจทำความเข้าใจได้”
เขาถึงเป็นแม่ทัพที่ไม่ได้เป็นที่นิยมชมชอบในหมู่ทหารและประชาชน แม้ว่าจะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศก็ตาม
. ด้วยเหตุนี้ ถ้าหากวินเซนต์เลือกพึ่งพาฝีมือเซซิลุส(ที่ชื่อเสียงแย่)คนเดียวเพื่อพลิกสถานการณ์แล้วแย่งบัลลังก์กลับมา
ความนิยมต่อตัววินเซนต์ในอนาคตก็จะเสื่อมเสียตามไปด้วยว่าเป็นจักรพรรดิขี้ขลาดที่มีดีแต่พึ่งพาสูตรโกง
วินเซนต์ก็เลยมองว่าไม่มีความจำเป็นต้องรีบไปเอาเซซิลุสมาเข้าพวก
สุบารุ: แต่ถึงชื่อเสียงจะแย่ยังไง ปล่อยคนแบบนั้นไว้จะดีเหรอ…?
วินเซนต์: นั่นก็เป็นปัญหาอยู่ เจ้าสิ่งนั้นน่ะสามารถเปลี่ยนทิศทางของสนามรบได้ด้วยตัวคนเดียว ต่อให้แม่ทัพเทวะอีก 8 คนช่วยกันขวางไว้ก็ไม่ได้การันตีว่าหัวของทางนี้จะไม่หลุดจากบ่า
. สุบารุปวดหัวกับความวุ่นวายเกี่ยวกับตัวเซซิลุสที่เป็นทั้งระเบิดเวลาและหมากที่แย่ในด้านการเมืองในเวลาเดียวกัน
เขาอดคิดไม่ได้ว่าโชคดีขนาดไหนที่ไรน์ฮาร์ดมีทั้งความเทพและความเป็นที่นิยม การเลือกขอให้หมอนั่นช่วยไม่เคยทำให้มีปัญหาละเอียดอ่อนแบบนี้ตามมาเลย
สุบารุเริ่มคิดถึงตัวเลือกว่าถ้าเขาตะโกนขอความช่วยเหลือ ไรน์ฮาร์ดจะวิ่งข้ามประเทศมาช่วยเขาไหม? (ไรน์ฮาร์ดเอม่อนช่วยด้วย! 🤣)
แต่ก็โดนพริสซิลล่าอ่านความคิดออกและปฏิเสธว่าเปล่าประโยชน์ไป เนื่องจากว่าไรน์ฮาร์ดไม่สามารถออกนอกประเทศได้จนกว่า “ผู้นำประเทศ” ของทางนี้จะอนุญาต
. สุบารุยังมีคำถามเหลืออยู่ แต่เขาก็ถูกขัดจังหวะโดยฟล็อปที่เข้ามาแจ้งผลของการรักษาคนเจ็บ
ข่าวดีก็คือการรักษาดำเนินไปอย่างราบรื่น ไม่มีใครตายเพิ่มนอกจาก 7 คนที่พวกท็อดด์ฆ่าไป
วินเซนต์ถามว่า “ผู้ใช้เวทรักษา(เรม)” เป็นยังไงบ้าง? ฟล็อปเลยตอบว่าถ้าหมายถึง “คุณภรรยา” ล่ะก็เธอสบายดีแค่กำลังพักผ่อนอยู่
พออัลได้ยินฟล็อปพูดถึงภรรยา เขาก็หันมาทักสุบารุว่าไม่เห็นว่า “เอมิเลีย” อยู่ด้วยกันเลยนี่
สุบารุเลยตอบว่าสถานการณ์มันวุ่นวายจนต้องสร้างเรื่องปิดบังนิดหน่อย แต่ “ภรรยา” ที่ว่านี่ไม่ได้หมายถึงเอมิเลีย แต่เป็นเด็กสาวคนสำคัญที่เขาอยากพากลับบ้านให้ได้
. หลังพริสซิลล่าล้อเลียนที่ฟล็อปเคลมว่าเขาเป็น “เพื่อนใหม่” ของวินเซนต์ ฟล็อปก็เปลี่ยนไปทำหน้าเศร้าโศก
สาเหตุก็คือเขายังไม่ได้เล่าข่าวร้ายให้ที่ประชุมฟังเลย ว่าแล้วฟล็อปก็เรียกทั้งสุบารุ หลังวินเซนต์ไล่เรียงชื่อและฉายาของแม่ทัพเทวะแต่ละคนให้ฟังบรรยากาศในห้องประชุมก็เปลี่ยนไป
สุบารุก็สัมผัสได้ว่า “ถ้าเป็นอนิเมะ นี่คงเป็นฉากพีคที่เปิดเผยชื่อตัวละครสำคัญระดับหัวหน้า” ถึงแม้ว่าเขาจะแทบไม่รู้จักใครในนี้เลยก็ตาม
ฉายาของแม่ทัพแต่ละคนก็มีแต่พวกเดายากว่าจะเป็นแนวไหน มีก็แต่ “เจ้าแห่งอุปกรณ์เวท” กับ “แม่ทัพมังกรบิน” นี่แหละที่ฟังดูตรงตัวหน่อย
. สุบารุที่ยังมีข้อกังขาอยู่ชูห้านิ้วขึ้นมาเพื่อถามวินเซนต์เพิ่มเติม
ถ้านี่คือศึกการแย่งชิงแม่ทัพเทวะมาเข้าฝ่ายตัวเอง นั่นแปลว่าฝ่ายที่รวบรวมแม่ทัพเทวะได้ “5 คน” ก่อนจะเป็นฝ่ายชนะ
ทว่า ฝ่ายศัตรูมีอาราเคียกับจิชาอยู่แน่ๆแล้วสองคน ส่วนฝ่ายวินเซนต์มีเพียง “กอซ” ที่คอนเฟิร์มได้ว่าอยู่ฝ่ายเดียวกัน แต่ชะตากรรมของกอซก็ยังบอกแน่ชัดไม่ได้ว่าเสียชีวิตไปหรือยัง
ถ้านับเลขแบบตรงๆ ก็สรุปอย่างง่ายๆได้ว่าฝ่ายศัตรูกำลังนำวินเซนต์อยู่ 2-0 แล้ว
. สุบารุถามต่อว่าแล้วตอนนี้พวกแม่ทัพเทวะประจำการอยู่ที่เมืองหลวงหรือเปล่า?
วินเซนต์ พริสซิลล่าและซีคูร์เลยช่วยกันอธิบายเสริมถึงการจัดกำลังทัพในวอลลาเคีย
เนื่องจากว่าวอลลาเคียเป็นประเทศใหญ่ แม่ทัพเทวะเลยถูกส่งกระจายตัวไปประจำการตามเมืองต่างๆเพื่อที่จะได้รับมือสถานการณ์วุ่นวายได้ทันท่วงที
มันทำให้สุบารุนึกถึงรอสวาลขึ้นมา เพราะเจ้าตัวตลกก็เป็นมาร์เกรฟที่ได้รับหน้าที่ดูแลพื้นที่ฝั่งตะวันตกของประเทศเหมือนกัน
สุบารุ: พอมาคิดดูแล้วเจ้าหมอนั่นก็ถือเป็นชีทยูนิต(ตัวละครที่เก่งจนโกง)เหมือนกันนะ… สงสัยจริงว่ารอสวาลจะเทียบฝีมือกับแม่ทัพเทวะได้ขนาดไหน
. ข่าวดีที่สุบารุสรุปได้จากข้อมูลนี้ก็คือ แม่ทัพเทวะอาจจะไม่ได้ร่วมมือกันก่อกบฏทุกคน วินเซนต์เองก็ยืนยันว่าเรื่องนั้นเป็นไปได้
สุบารุ: ถ้าความเก่งของแม่ทัพเทวะเรียงกันตามอันดับจริง เราเน้นหาคนที่อันดับสูงไว้ไม่ดีกว่าเหรอ?
วินเซนต์: อา เป็นการประเมินที่ถูกต้องแล้ว
สุบารุ: ถ้างั้น เจ้าคนที่ฝีมือทัดเทียมกับไรน์ฮาร์ดนั่น ชื่อเซซิลุสใช่ไหมนะ? ถ้าได้คนๆนั้นมาไม่เท่ากับว่ารู้ผลเลยเหรอ? …หรือว่าชั้นลืมเรื่องอะไรไป?
วินเซนต์: …ก็จริงอยู่ถ้าได้ “เจ้าสิ่งนั้น” มาก็จะแก้ปัญหาด้านกำลังรบของทางนี้ได้ …แต่มันก็มีปัญหาอยู่
สุบารุ: ปัญหาอะไร?
วินเซนต์: ---หมอนั่นน่ะมีชื่อเสียงที่ย่ำแย่มากน่ะสิ
. สุบารุถึงกับไปไม่เป็นพอได้ยินเหตุผลนั้นเข้าไป วินเซนต์เลยอธิบายเสริมว่าเขามอบตำแหน่งแม่ทัพลำดับที่ 1 ให้เซซิลุสก็จริงอยู่ แต่ว่าเซซิลุสนั้นไม่ได้มีอำนาจสั่งการอะไรในกองทัพเลย
ที่วินเซนต์ทำแบบนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ทหารที่ทำเป็นแต่ฟันคนอย่างเซซิลุสมีอำนาจใช้มากเกินตัว
ซีคูร์อธิบายเสริมว่าถึงแม้เซซิลุสนั้นจะเป็นคนที่มีท่าทางเป็นมิตร แต่ทหารคนอื่นล้วนแต่เกรงกลัวเขากันทั้งนั้น
สำหรับคนทั่วไปเซซิลุสนั้นคือ “สัตว์ประหลาดที่ไม่อาจทำความเข้าใจได้”
เขาถึงเป็นแม่ทัพที่ไม่ได้เป็นที่นิยมชมชอบในหมู่ทหารและประชาชน แม้ว่าจะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศก็ตาม
. ด้วยเหตุนี้ ถ้าหากวินเซนต์เลือกพึ่งพาฝีมือเซซิลุส(ที่ชื่อเสียงแย่)คนเดียวเพื่อพลิกสถานการณ์แล้วแย่งบัลลังก์กลับมา
ความนิยมต่อตัววินเซนต์ในอนาคตก็จะเสื่อมเสียตามไปด้วยว่าเป็นจักรพรรดิขี้ขลาดที่มีดีแต่พึ่งพาสูตรโกง
วินเซนต์ก็เลยมองว่าไม่มีความจำเป็นต้องรีบไปเอาเซซิลุสมาเข้าพวก
สุบารุ: แต่ถึงชื่อเสียงจะแย่ยังไง ปล่อยคนแบบนั้นไว้จะดีเหรอ…?
วินเซนต์: นั่นก็เป็นปัญหาอยู่ เจ้าสิ่งนั้นน่ะสามารถเปลี่ยนทิศทางของสนามรบได้ด้วยตัวคนเดียว ต่อให้แม่ทัพเทวะอีก 8 คนช่วยกันขวางไว้ก็ไม่ได้การันตีว่าหัวของทางนี้จะไม่หลุดจากบ่า
. สุบารุปวดหัวกับความวุ่นวายเกี่ยวกับตัวเซซิลุสที่เป็นทั้งระเบิดเวลาและหมากที่แย่ในด้านการเมืองในเวลาเดียวกัน
เขาอดคิดไม่ได้ว่าโชคดีขนาดไหนที่ไรน์ฮาร์ดมีทั้งความเทพและความเป็นที่นิยม การเลือกขอให้หมอนั่นช่วยไม่เคยทำให้มีปัญหาละเอียดอ่อนแบบนี้ตามมาเลย
สุบารุเริ่มคิดถึงตัวเลือกว่าถ้าเขาตะโกนขอความช่วยเหลือ ไรน์ฮาร์ดจะวิ่งข้ามประเทศมาช่วยเขาไหม? (ไรน์ฮาร์ดเอม่อนช่วยด้วย! 🤣)
แต่ก็โดนพริสซิลล่าอ่านความคิดออกและปฏิเสธว่าเปล่าประโยชน์ไป เนื่องจากว่าไรน์ฮาร์ดไม่สามารถออกนอกประเทศได้จนกว่า “ผู้นำประเทศ” ของทางนี้จะอนุญาต
. สุบารุยังมีคำถามเหลืออยู่ แต่เขาก็ถูกขัดจังหวะโดยฟล็อปที่เข้ามาแจ้งผลของการรักษาคนเจ็บ
ข่าวดีก็คือการรักษาดำเนินไปอย่างราบรื่น ไม่มีใครตายเพิ่มนอกจาก 7 คนที่พวกท็อดด์ฆ่าไป
วินเซนต์ถามว่า “ผู้ใช้เวทรักษา(เรม)” เป็นยังไงบ้าง? ฟล็อปเลยตอบว่าถ้าหมายถึง “คุณภรรยา” ล่ะก็เธอสบายดีแค่กำลังพักผ่อนอยู่
พออัลได้ยินฟล็อปพูดถึงภรรยา เขาก็หันมาทักสุบารุว่าไม่เห็นว่า “เอมิเลีย” อยู่ด้วยกันเลยนี่
สุบารุเลยตอบว่าสถานการณ์มันวุ่นวายจนต้องสร้างเรื่องปิดบังนิดหน่อย แต่ “ภรรยา” ที่ว่านี่ไม่ได้หมายถึงเอมิเลีย แต่เป็นเด็กสาวคนสำคัญที่เขาอยากพากลับบ้านให้ได้
. หลังพริสซิลล่าล้อเลียนที่ฟล็อปเคลมว่าเขาเป็น “เพื่อนใหม่” ของวินเซนต์ ฟล็อปก็เปลี่ยนไปทำหน้าเศร้าโศก
สาเหตุก็คือเขายังไม่ได้เล่าข่าวร้ายให้ที่ประชุมฟังเลย ว่าแล้วฟล็อปก็เรียกทั้งสุบารุ วินเซนต์ คูนาและโฮลี่ขึ้นไปที่ชั้นบนด้วยกัน
ฟล็อปพาทั้งสี่ไปเยี่ยมอาการของ “มิเซลด้า” ที่บาดเจ็บสาหัสจากศึกที่ศาลากลาง
ร่างกายของเธอถูกเผา ถูกพายุพัดปลิว ถูกอาราเคียแทงทะลุเครื่องใน ---นอกจากนั้นขาขวาของเธอก็ขาดด้วนตั้งแต่ช่วงเข่าลงไปเสียแล้ว
มิเซลด้า: ก่อนอื่น ฉันต้องขอขอบคุณเรม ที่ยังมีชีวิตอยู่ได้ก็เพราะเธอ ปาฏิหาริย์ชัดๆ …นายเองก็ยึดเมืองได้สำเร็จ ในฐานะหัวหน้าเผ่าชูดราค ฉันขอชมเชย นอกจากนี้ก็มีเรื่องอยากประกาศเกี่ยวกับศึกในภายภาคหน้าหน่อย
สุบารุ: …
มิเซลด้า: ตำแหน่งหัวหน้าเผ่าชูดราคจะถูกส่งมอบต่อให้ “ทาริตต้า” น้องสาวของเรา ตัวฉันน่ะทำหน้าที่นั้นต่อไปไม่ได้อีกแล้ว
จบตอน
#rezeroarc7 ดูน้อยลง คูนาและโฮลี่ขึ้นไปที่ชั้นบนด้วยกัน
ฟล็อปพาทั้งสี่ไปเยี่ยมอาการของ “มิเซลด้า” ที่บาดเจ็บสาหัสจากศึกที่ศาลากลาง
ร่างกายของเธอถูกเผา ถูกพายุพัดปลิว ถูกอาราเคียแทงทะลุเครื่องใน ---นอกจากนั้นขาขวาของเธอก็ขาดด้วนตั้งแต่ช่วงเข่าลงไปเสียแล้ว
มิเซลด้า: ก่อนอื่น ฉันต้องขอขอบคุณเรม ที่ยังมีชีวิตอยู่ได้ก็เพราะเธอ ปาฏิหาริย์ชัดๆ …นายเองก็ยึดเมืองได้สำเร็จ ในฐานะหัวหน้าเผ่าชูดราค ฉันขอชมเชย นอกจากนี้ก็มีเรื่องอยากประกาศเกี่ยวกับศึกในภายภาคหน้าหน่อย
สุบารุ: …
มิเซลด้า: ตำแหน่งหัวหน้าเผ่าชูดราคจะถูกส่งมอบต่อให้ “ทาริตต้า” น้องสาวของเรา ตัวฉันน่ะทำหน้าที่นั้นต่อไปไม่ได้อีกแล้ว
จบตอน
#rezeroarc7 ดูน้อยลง นี่เลยเป็นครั้งแรกที่สุบารุได้เห็นแผนที่โลกและได้เห็นตาว่าวอลลาเคียเป็นประเทศที่ใหญ่ขนาดไหน (ใหญ่ที่สุดใน 4 มหาประเทศ)
วินเซนต์ตั้งใจจะเข้ายึดเมืองใหญ่ที่อยู่รอบบริเวณไปเรื่อยๆเพื่อสร้างเครือข่ายขึ้นมา
และวินเซนต์ก็ตั้งใจจะทำแบบนั้นด้วยการหา “แม่ทัพเทวะ” มาเข้าเป็นพวกเดียวกันเขาให้ได้มากที่สุด
วินเซนต์: [อัสนีสีฟ้า] เซซิลุส เซ็กมุนด์ / [ผู้เสพวิญญาณ] อาราเคีย / [ผู้เฒ่าอำมหิต] โอลบาร์ต ดันคลูเคน / [แมงมุมขาว] จิชา โกลด์ / [อัศวินราชสีห์] กอซ ราลฟอน / [จ้าวอุปกรณ์ไสยเวท] กรูวี่ กัมเล็ต / [สีมั่งคั่ง] ยอร์น่า มิชิกุเระ / [มนุษย์โลหะ] โมโกร ฮากาเนะ / แล้วก็ [แม่ทัพมังกรบิน] มาเดลิน เอสชาร์ต
สุบารุ: ----
วินเซนต์: ในศึกครั้งนี้ ฝ่ายที่ครอบครองเก้าแม่ทัพเทวะได้มากกว่าคือผู้มีชัย นั่นแหละคือวิธีการเอาชนะ และเป็นเงื่อนไขที่ยังไงข้าก็ต้องทำให้สำเร็จให้จงได้
จบตอน
#rezeroarc7 ดูน้อยลง