ณ นครหลวงจักรวรรดิที่น้ำกำลังค่อยๆ ท่วม ท็อดด์ แฟงก์ ได้กลายเป็นศัตรูของสุบารุอย่างหลีกเลี่ยงมิได้อีกต่อไป
ที่ผ่านมาท็อดด์ก่อวีรกรรมโหดร้ายต่อสุบารุกับผองเพื่อนไว้มาก แต่ด้วยพลัง “ตายแล้วกลับมา” ทุกอย่างจึงถูกรีเซ็ตไปพร้อมเหตุผลที่สุบารุจะเกลียดท็อดด์
แถมท็อดด์ยังให้ความช่วยเหลือในการกำจัดพวกซอมบี้เป็นอย่างดี หากไม่มีเขาช่วย สุบารุคงต้องตายเพื่อรีเซ็ตไปหลายรอบกว่าจะวิธีช่วยทุกคนให้ปลอดภัย
ทว่า ท็อดด์กลับเลือกทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจที่สุบารุพยายามจะมีให้เขาไปหมดสิ้น
สุบารุ: …ทำไมวะ!
ท็อดด์: ยังหน้าด้านถามอยู่อีก นายเข้าใจสถานการณ์ดีถึงป้องกันไว้ได้ ไม่เชิงว่าสัมผัสจิตสังหารได้ แค่ระวังตัวไว้ตลอดเวลาใช่ไหมล่ะ?
. ท็อดด์ที่ตาขวาแดงก่ำชำเลืองมองขวานของเขาที่ลอยเคว้งอยู่กลางอากาศ ซึ่งแท้จริงแล้วมันถูก “อินวิซิเบิล โพรวิเดนซ์” ของสุบารุคว้าเอาไว้
ท็อดด์: พลาดแล้วๆ ดันตกหลุมพลางของนายเสียได้
สุบารุ: ผิดแล้ว…
ท็อดด์: จงใจแยกกลุ่มออกมาเพื่อที่จะได้กำจัดศัตรูทิ้งงั้นเรอะ… แสดงเก่งนะเนี่ย
สุบารุ: ผิดแล้ว…
ท็อดด์: ที่จริงกะจะระเบิดชั้นให้เละตั้งแต่ก่อนหน้านี้เลยใช่มั้ยเนี่ย? ถ้างั้นล่ะก็เสียใจด้วยนะที่พลาด
สุบารุ: ผิดแล้ว! ชั้นน่ะ ชั้นอยากจะร่วมมือกับนายจริงๆ นะ!
ท็อดด์: ――ไม่ต้องมาตอแหล
หลังกล่าวคำนั้นจบ ดวงตาของท็อดด์ก็ไร้สีสัน ราวกับว่าประเมินค่าสุบารุเสร็จแล้วและไม่คิดเสียเวลาอีกต่อไป
ท็อดด์: ลึกๆ แล้วนายเองก็คงรู้ดี ว่าพวกเราน่ะไม่มีทางเข้ากันได้
สุบารุ: …
ท็อดด์: ชั้นระแวงคนอื่นอย่างสุดโต่ง ส่วนนายก็เชื่อใจคนอื่นอย่างสุดโต่ง ถึงจะบอกว่ามันคนละเรื่องกัน สุดท้ายสิ่งที่เห็นค่ามันก็ต่างกันอยู่ดี
. สุบารุลองเกลี้ยกล่อมครั้งสุดท้ายด้วยประเด็นคาชัว แต่ท็อดด์ตั้งใจจะหนีไปกับคาชัวแค่สองคนหลังจากพ้นกำแพงเมืองอยู่แล้ว
สุบารุ: ทำไมล่ะ! ชั้นไม่เคยคิดทำร้ายคุณคาชัวเลย! ไม่ได้คิดจะสู้กับนายด้วยซ้ำ! แล้วทำไมกัน!
ท็อดด์: ――แต่ว่านายน่ะชั่งใจว่าจะช่วยคาชัวดีไหมล่ะสินะ?
สุบารุ: …ห๊ะ?
สุบารุไม่เข้าใจคำถามนั้น เขาไม่คิดจะทำร้ายคาชัวอยู่แล้ว มันสำคัญตรงไหนกันว่าได้คิดช่างใจว่าจะช่วยเธอดีไหมหรือเปล่า?
ทว่า วินาทีที่สุบารุเกิดลังเลเพราะคำถามนั้นขึ้นมา ท็อดด์ก็ได้คำตอบที่เขาต้องการมาแล้ว
ท็อดด์: ――ไม่คิดจะขอการให้อภัยจากนายหรอกนะ
ท็อดด์พุ่งตัวย่นระยะเข้าประชิดเข้ามา สุบารุจึงเตรียมใช้หัตถ์ล่องหนเขวี้ยงขวานสวนกลับไปทันที
สุบารุ: อะ…อ๊ากกกกก!?
ทว่า ท็อดด์เป็นฝ่ายที่เร็วกว่า เขาเขวี้ยงมีดมาเสียบติดต้นขาข้างขวาของสุบารุทีเผลอ ความเจ็บปวดทำให้สุบารุเสียการควบคุมหัตถ์ล่องหนจนขวานหลุดมือ
ท็อดด์ที่เข้าประชิดสำเร็จเตะอัดหน้าอกของสุบารุจนกระเด็น แผ่นหลังและหลังศีรษะกระแทกกับพื้นแข็งอย่างเจ็บปวดจนความคิดยิ่งกระเจิงเข้าไปใหญ่
. ท็อดด์เก็บขวานที่หล่นอยู่มาจามหัวสุบารุที่ยังนอนอยู่ซ้ำ แต่สุบารุตั้งสติได้ก่อน เขาจึงเรียกใช้หัตถ์ล่องหนมายื้อขวานไว้พร้อมเสริมแรงด้วยมือปกติอีกสองข้าง
ท็อดด์: ดื้อด้านเหลือเกิน… รีบตายๆ ไปได้แล้ว!
สุบารุ: ไม่เอา…ด้วยหรอก… ยังไง…ก็ไม่ยอม!
ท็อดด์ออกแรงกดขวานแบบใช้น้ำหนักทั้งร่าง ส่วนสุบารุก็ยื้อขวานเอาไว้ด้วยสามแขนช่วยกันประสานกำลัง
หากคนอื่นได้มาเห็น การต่อสู้ของสุบารุกับท็อดด์คงไม่ต่างอะไรจากศึกระหว่างทหารกระจอก ต่างฝ่ายต่างไร้ทักษะพิเศษ ไร้อาวุธลับ ไร้ไพ่ตาย
แถมนี่ไม่ใช่ศึกที่มีเหตุผลยิ่งใหญ่อย่างการชิงบัลลังก์จักรพรรดิมาครอง แต่เป็นเพียงศึกระหว่างคนสองคนที่ไม่มีวันเข้ากันใจกันได้
ท็อดด์: ตายไปซะ!
สุบารุ: ไม่ยอมหรอกกก!
ศึกยื้อพลังนี้ไม่นานก็จะรู้ผลเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหมดแรง และสุบารุก็เริ่มมีเลือดไหลออกจากหู ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเขาใช้หัตถ์ล่องหนมากเกินไป
แถมฝั่งท็อดด์เองก็สังเกตได้จากสีหน้าและอาการของสุบารุเช่นกันว่าลูกเล่นของเขาใกล้ถึงขีดจำกัดแล้ว
. ทันใดนั้นเอง อ่างเก็บน้ำที่ถึงขีดจำกัดและแตกออกก็ส่งเสียงดังออกมาพร้อมกันกับน้ำปริมาณมหาศาลที่เริ่มล้นทะลัก
เหตุการณ์นั้นทำให้ทั้งสองฝ่ายเสียสมาธิไปชั่วขณะ แต่สุบารุเป็นฝ่ายที่ฉวยโอกาสดึงพลังที่มีเขยื้อนตัวหลบ แล้วปล่อยให้ขวานที่ท็อดด์ออกแรงกดจามพลาดเป้า
สุบารุกลิ้งตัวอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างระยะห่าง ยอมทนเจ็บแม้ว่ามีดที่ยังปักขาอยู่จะกระแทกกับพื้นหลายครั้ง หลังกลิ้งไปชนกำแพง สุบารุก็พยุงร่างตัวเองลุกขึ้น
ท็อดด์: …ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ ก็เป็นคนที่น่ารังเกียจเหลือเกินนะ
กลายเป็นว่าท็อดด์ที่ออกแรงกดเป็นฝ่ายพลาดพลั้งล้มไปโดนขวานตัวเองปักหน้าอก ขวานมันผ่ากระดูกไหปลาร้า แผลลึกจนอาจทะลุถึงหัวใจ
ทว่า ท็อดด์กลับเพียงแค่เช็ดปากและถ่มเลือดออกมา สภาพไม่เหมือนคนใกล้ตายเลย ยิ่งพอรวมกับบาดแผลจากระเบิดและซอมบี้ก่อนหน้านี้ยิ่งน่าเหลือเชื่อ
ท็อดด์: ――เห็นแล้วสินะ? พลาดแล้วๆ
น้ำเสียงของท็อดด์เปี่ยมล้นด้วยโทสะต่อทั้งตัวเขาเองและต่อสุบารุที่ดันล่วงรู้สิ่งที่ไม่ควรจะรับรู้เข้า
ท็อดด์กระชากขวานออกจากร่างตัวเอง ปล่อยให้โลหิตกระฉูดออกมา แต่เพียงครู่เดียวมันก็หยุดไหล
นั่นคือผลลัพธ์จากการกลายร่างเป็นสัตว์เพื่อสมานบาดแผลที่สุบารุเคยเห็นมาก่อนแล้วไม่ผิดแน่
สุบารุ: ――แกเป็นพวกมนุษย์ครึ่งสัตว์เหรอ?
ท็อดด์: เสียใจด้วย นั่นน่ะยังถูกแค่ครึ่งเดียว
ท็อดด์ที่ดวงตาเปี่ยมไปด้วยโทสะ มอบคำตอบที่แท้จริงให้แก่สุบารุที่ยังคงอึ้งไม่หาย
ท็อดด์: ――มนุษย์หมาป่าไงล่ะ
. ในโลกนี้มีบางเผ่าพันธุ์ที่ถูกรังเกียจเพียงแค่เพราะมีตัวตนอยู่ ดังเช่น “ฮาล์ฟเอลฟ์” ที่โดนกล่าวหาว่ามีความเกี่ยวข้องกับแม่มดจากผู้คนทุกประเทศ
ในนครรัฐคารารากิ เผ่าอมนุษย์ที่ไร้ขนจะถูกมองว่า “ดวงซวย”
ในราชอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์กุสเทโก้ ยิ่งมีสีผมกับสีตาใกล้เคียงสีดำมากเท่าไร ก็ยิ่งถูกเหล่าวิญญาณรังเกียจ
และในจักรวรรดิวอลลาเคีย ก็มีอยู่สองเผ่าพันธุ์ที่ถูกรังเกียจ นั่นคือ “เผ่ามนุษย์ตัวตุ่น” และ “เผ่ามนุษย์หมาป่า”
ผลกรรมจากการทรยศสตรีผู้เป็นที่รักของชาวจักรวรรดิผู้หนึ่งจนนางต้องตาย ทำให้สองเผ่าพันธุ์นั้นติดตราบาปไปชั่วลูกชั่วหลาน
พวกมนุษย์ตัวตุ่นตัดสินใจขุดอุโมงค์หนีออกจากบ้านเกิด ส่วนมนุษย์หมาป่าที่หนีไม่เป็นก็ถูกไล่เข่นฆ่าจนแทบไม่หลงเหลือ
โทสะของชาวจักรวรรดิไม่จบแค่ในประเทศตัวเอง หากได้ยินว่ามีการพบเจอมนุษย์ตัวตุ่นกับมนุษย์หมาป่าที่ใด ชาวจักรวรรดิก็พร้อมจะส่งกำลังพลข้ามพรมแดนไปฆ่า
ในยุคปัจจุบัน มนุษย์ตัวตุ่นมีชีวิตอยู่ได้โดยหลบซ่อนจากสังคมอยู่ใต้ดิน ส่วนมนุษย์หมาป่าที่เหลือรอดอยู่ก็มักจะเนียนแอบอ้างว่าพวกตนเป็นเผ่า “มนุษย์สุนัข”
มีเพียงผู้เดียวในโลกที่กล้าประกาศตัวว่าเป็นเผ่ามนุษย์หมาป่า คนผู้นั้นก็คือฮาลิเบล “ผู้เลื่อมใส” ชายผู้แข็งแกร่งที่สุดในนครรัฐคารารากิ
สัญลักษณ์ประจำประเทศวอลลาเคียคือหมาป่าที่ถูกดาบแทง มันสื่อถึงคุณสมบัติน่าเคารพของผู้ไม่ย่อท้อแม้จะตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก
แต่มันก็สื่อถึงเผ่ามนุษย์หมาป่าที่ถูกรังเกียจจนต้องหนีและหลบซ่อนจากการถูกดาบแทงด้วยเช่นกัน
ดังนั้นการมีตัวตนอยู่ของทั้งเผ่ามนุษย์หมาป่าและลูกครึ่งเผ่ามนุษย์หมาป่าจึงเป็นเหมือนคำสาปที่มิอาจชำระล้างได้
. สุบารุไม่ได้ล่วงรู้ถึงการถูกรังเกียจของเผ่ามนุษย์หมาป่า ไม่ได้รู้ว่าหญิงสาวผู้ถูกมนุษย์หมาป่ากับมนุษย์ตัวตุ่นทรยศมีชื่อว่า “ไอริส”
และไม่ได้รู้วิญญาณของไอริสก็ยังคงอยู่มาถึงปัจจุบันในร่างของ “ยอร์น่า มิชิกุเระ”
เขาไม่ได้รู้ประวัติศาสตร์เบื้องลึกเบื้องหลังอะไรเลยทั้งสิ้น กระนั้นคำว่า “มนุษย์หมาป่า” ก็ยังทำให้สุบารุขนลุกขนพอง
ท็อดด์: เท่านี้ก็ไม่ต้องยั้งมืออีกแล้วจริงไหม? มนุษย์หมาป่าต้องถูกเชือด มันคือคำสาปที่อยู่ในสายเลือดอยู่แล้ว นายเองก็ด้วย
สุบารุปฏิเสธสุดใจว่ามันไม่เกี่ยวกับสายเลือดเลย ที่สุบารกับท็อดด์ต้องมาฆ่ากันเป็นเพราะพฤติกรรมของท็อดด์เองล้วนๆ
สุบารุเหลืออดเต็มทีที่ท็อดด์มายัดเยียดเหตุผลในการฆ่าให้ เขาจึงตัดสินใจประกาศว่าจะไม่ฆ่าท็อดด์ตามที่เจ้าตัวต้องการ แต่พอได้ยินดังนั้นท็อดด์ก็หัวเราะลั่น
ท็อดด์: นายเนี่ยเป็นอสุรกายยิ่งเสียกว่าเจ้าซอมบี้ตัวนั้นอีกนะ
จิตสังหารที่ท็อดด์ปล่อยออกมาทำให้สุบารุสัมผัสได้ถึง “ความกลัว” ของสิ่งที่จะนำพาไปสู่ความตาย
. ท็อดด์เริ่มการกลายร่าง บาดแผลทั่วร่างถูกสมานลง ผิวหนังมีขนสีเดียวกับเส้นผมงอกออกมา ส่วนจมูกขยายออก ฟันกลายเป็นเขี้ยวแหลมคมสีขาว
ร่างที่แท้จริงของ ท็อดด์ แฟงก์ เป็นมนุษย์หมาป่าดังที่ประกาศไว้ เขายืนสองขาและถืออาวุธคู่กายไว้ในมือสองข้าง
ท็อดด์: ตายซะ
สุบารุ: ――อินวิซิเบิล โพรวิเดนซ์
ศัตรูพุ่งเข้ามาประชิดด้วยจิตสังหารที่เปี่ยมล้น สุบารุจึงใช้หัตถ์ล่องหนคว้าเศษหินมาปัดขวานทิ้งให้กระเด็นไปไกล
ทว่า ท็อดด์ในร่างมนุษย์หมาป่าก็แยกเขี้ยวเตรียมขย้ำเขาต่อทันที สุบารุจึงกระชากมีดที่ปักขาตัวเองออกมา แล้วแทงมันเข้าไปในช่องว่างระหว่างเขี้ยวของศัตรู
ท็อดด์: ――กรร!
สุบารุ: อ๊าาาาาา!!
มีดยื้อเขี้ยวแหลมคมของมนุษย์หมาป่าไว้ได้ แต่ขืนปล่อยให้เป็นศึกดวลพลังกายแบบนี้ ทางสุบารุนั่นแหละจะเป็นฝ่ายที่พ่ายแพ้
สุบารุ: ชั้นจะ… ไม่ฆ่าแก!
กระทั่งว่าเขี้ยวของท็อดด์ใกล้จะปักลงใส่ลำคอ สุบารุก็ยังคงยืนกรานอย่างดื้อด้านเช่นนั้น และในตอนนั้นเอง
??: ――พอแค่นั้นแหละ
เสียงที่ดังขึ้นท่ามกลางความโกลาหลทั่วทั้งจักรวรรดินั้นกังวาลไปถึงดวงวิญญาณของนัตสึกิ สุบารุ กลบเกลื่อนเสียงอื่นใดออกไปจากโลกของเขาในวินาทีนั้น
แล้วในชั่วพริบตาต่อมา ร่างของท็อดด์ก็โดนหวดกระเด็นไปไกลด้วย “ค้อนน้ำแข็ง” ที่อยู่ในมือของสาวงามผมสีเงินในชุดสีขาว
สุบารุ: ――เอมิเลีย
ชื่อของเธอหลุดปากเขาออกมาโดยอัตโนมัติ ดวงตาสีม่วงครามที่หันมามองทำเอาสุบารุเผลอจดจ้องด้วยความเคลิบเคลิ้ม
เอมิเลีย: เด็กคนนั้นน่ะ มาทางนี้สิ!
สุบารุ: เอ๋?
เอมิเลียคว้าร่างที่โชกเลือดและเปื้อนโคลนของสุบารุเอาไว้และกระโดดไต่กำแพงแบบต่อเนื่องอย่างคล่องแคล่วขึ้นไปบนหลังคา
. พอตั้งสติได้ สุบารุก็เข้าใจว่าทำไมเอมิเลียต้องทำเช่นนั้น เนื่องจากที่ถนนเบื้องล่างมีกระแสน้ำโคลนเชี่ยวกรากไหลท่วมมากลืนกินทุกสิ่งที่ขวางทาง
หากเอมิเลียมาช้าไปกว่านี้เพียงวินาทีเดียว สุบารุคงโดนกระแสน้ำพัดพาจมหายไปแล้ว ท็อดด์ที่หนีไม่ทันเองก็คงถูกกระแสน้ำกลืนไปเช่นกัน
สุบารุ: ――แล้วหมอนั่นล่ะ!?
ต่อให้เป็นมนุษย์หมาป่า ก็คงไม่น่ารอดจากกระแสน้ำท่วมเฉียบพลัน สุบารุกวาดสายตาตามหาท็อดด์ไว้ก่อนทั้งที่ไม่แน่ใจว่าอยากให้หมอนั่นรอดหรือตาย
เอมิเลีย: เดี๋ยวเถอะ ใจเย็นก่อน! หาอะไรอยู่… อ๊ะ! พอดูดีๆ แล้ว เจ็บหนักเลยนี่นา! ถ้าไม่รีบรักษาไว้ก่อน…
เอมิเลียวางตัวสุบารุลงให้เขานั่งพักก่อน แล้วบอกว่าเธอจะไปตามตัวคนที่ใช้เวทรักษาได้มา แต่สุบารุยังคงวิตกกังวลไม่หายหากเขาละสายตาจากท็อดด์
ทันใดนั้นเอง มนุษย์หมาป่าท็อดด์ก็กระโจนตัวออกมาจากน้ำ มันอ้าปากกว้างเพื่อเตรียมเขมือบลำคอของสุบารุจากด้านหลัง
ทั้งสุบารุที่หมดแรงและเอมิเลียที่เดินห่างออกไปเพราะเตรียมไปตามคนมาช่วย ทั้งสองคนมิอาจตอบโต้การลอบโจมตีของท็อดด์ได้ทัน
เรม: อย่ามายุ่ง
ทว่า บุคคลที่สาม เด็กสาวผู้มีดวงตาสีฟ้าอ่อนก็เหยียบขึ้นมาบนหลังคาพอดีพร้อมกับอาวุธในมือ
เรม: ――กับคนๆ นั้นนะ!!
ในมือของเรมคือขวานของท็อดด์ที่สุบารุปัดกระเด็นไปก่อนหน้านี้ ไม่รู้ว่ามันมาอยู่ในมือเธอได้อย่างไร แต่เรมใช้มันจามใส่เจ้าของเดิมที่แผลเก่าเต็มแรง
ร่างของมนุษย์หมาป่าท็อดด์ แฟงก์ ถูกขวานปักอกและหวดกระเด็นลงไปเบื้องล่าง เขาจมหายไปกับกระแสน้ำโคลนอย่างแท้จริงในคราวนี้
. เรมเขวี้ยงขวานทิ้งลงน้ำตามเจ้าของ เธอหันมากอดสุบารุและดูอาการว่าเขาปลอดภัยดีไหม แต่ระหว่างนั้นสุบารุก็ยังคงกวาดสายตามองหาร่างของท็อดด์ไม่เลิก
ทว่า เขาหาร่างของชายคนนั้นไม่เจออีกแล้ว หรือต่อให้หาเจอก็คงจะอยู่ในสภาพศพ จนถึงท้ายที่สุดสุบารุก็ไม่อาจทำความเข้าใจท็อดด์ได้
ระหว่างที่ความขมขื่นก่อตัวขึ้นในใจของเขา เอมิเลียก็ตามกลับมาสมทบกับเรมพอดี
เอมิเลีย: เรม! โล่งอกไปที ช่วยรักษาแผลให้เด็กคนนี้หน่อย! ฉันจะรีบไปหาสุบารุก่อน…
เรม: เดี๋ยวก่อนค่ะ! เด็กคนนี้ไงคะ! เด็กคนนี้นี่แหละค่ะ! เด็กคนนี้นั่นแหละที่เรียกตัวเองว่านัตสึกิ สุบารุ…
เอมิเลีย: เอ๋!? เด็กคนนี้คือสุบารุเหรอ!? แต่ว่าน่ารักจังเลย…?
ภาพที่เอมิเลียกับเรมพูดคุยกันเกี่ยวกับตัวเขาเป็นสิ่งที่สุบารุไม่ได้เห็นมานานเหลือเกิน น่าเสียดายที่สุบารุในตอนนี้หมดเรี่ยวแรงเต็มที สติก็เลือนลางมากๆ
สุบารุ: ท็อดด์ ไอ้เจ้างั่งเอ๊ย…
ความขุ่นเคืองที่มีต่อชายผู้นั้นคือสิ่งสุดท้ายที่อยู่ในใจสุบารุก่อนที่เขาจะหมดสติไป
. จบตอน