ย้อนความไปเล็กน้อย ท็อดด์และสุบารุได้ปรึกษาหารือกันเรื่องแผนรับมือซอมบี้อิซเมล
เนื่องจากซอมบี้บางตัวฟื้นคืนชีพหลังตายไปไม่กี่ชั่วโมง ท็อดด์จึงประเมินว่ายิ่งปล่อยไว้นาน พวกมันก็ยิ่งคุ้นชินกับร่างกายใหม่จนอาจกลบจุดอ่อนที่มีได้
แต่สุบารุก็มองเห็นหนทางในการใช้ประโยชน์จากการที่ซอมบี้อิซเมลยังไม่รู้จักประสิทธิภาพร่างกายของตัวเขาเองดีด้วยเช่นกัน
. ตัดกลับมาปัจจุบัน แผนการของพวกสุบารุคือให้ทันซ่าและอิโดร่าเปิดฉากโจมตีตอดศัตรูด้วยการปาของใส่เพื่อดึงความสนใจ
ที่ทันซ่าเป็นคนปาของชิ้นใหญ่กว่าอิโดร่า (ปาบ้านทั้งหลัง) ก็เนื่องจากว่าเธอได้รับบัฟจากทั้งสุบารุและยอร์น่า
หลังจากที่ท็อดด์โผล่ไปล่อความสนใจศัตรู รุยก็พาสุบารุกับเบียทริซวาร์ปมาโผล่ด้านหลังซอมบี้อิซเมลเพื่อปิดฉาก
ใบหน้าแสยะยิ้มชั่วร้ายของซอมบี้อิซเมลทำให้สุบารุขนลุกเล็กน้อย แต่เขากับคู่หูเบียทริซก็ไม่ลังเลที่จะร่ายเวท “เอล มีเนีย” ยิงอัดศัตรูทันที
เนื่องจากอิซเมลมั่นใจในร่างกายของตัวเองเกินไป เขาจึงกล้ารับการโจมตีจากผลึกเวทมนตร์แทนที่จะหลบหลีก
ผลลัพธ์ก็คือร่างซีกซ้ายของอิซเมลถูกผลึกสามแท่งเจาะทะลุและแปรเปลี่ยนให้กลายเป็นผลึกสีม่วงตามไปด้วย
. จนถึงปัจจุบัน พวกสุบารุสามารถสรุปคุณลักษณะของซอมบี้ได้สองข้อ
-
จุดอ่อนของพวกซอมบี้น่าจะเป็นหัวใจมากกว่าศีรษะ เนื่องจากเวลาถูกโจมตีบริเวณหัวใจ พวกมันจะฟื้นคืนสภาพได้ช้าที่สุด
-
เวทมนตร์ใช้ได้ผลดีกับพวกซอมบี้ ทั้งเวทมีเนียที่หยุดเวลาของร่างกายเหยื่อเพื่อเปลี่ยนเป็นผลึกและเวทอัคคี(อ้างอิงจากท็อดด์)
ผลลัพธ์จากการใช้ไพ่ทุกอย่างที่มี สุดท้ายพวกสุบารุก็หลอกให้อิซเมลผยองจนกล้ารับการโจมตีจากเวทมีเนียซึ่งสามารถสังหารซอมบี้ได้ 100%
สุบารุ: ปกติคงไม่มีทางยืนรับเต็มๆ แบบนี้หรอก
อิซเมล: …
หากอิซเมลยังเป็นคนเดิมก่อนตาย แผนการของพวกเขาคงไม่มีทางได้ผลแน่นอน สุบารุจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเวทนาอดีตนักรบผู้นี้
ทันซ่า: ――ท่านชวาร์ซ!
ทันใดนั้นเอง อิซเมลที่ถูกเคลือบเป็นผลึกไปครึ่งซีกก็จ้องเขม็งมายังสุบารุ ดวงตาที่สับสนและยอมรับชะตากรรมก่อนหน้านี้แปรเปลี่ยนดวงตามุ่งร้าย
บางทีคำพูดของสุบารุคงไปกระตุ้นต่อมโมโหเข้า ซอมบี้อิซเมลจึงเตะเศษกระสุนปืนใหญ่เล็งใส่เขา โดยไม่สนแม้ว่าแรงปะทะจะทำให้แขนซ้ายของมันหลุดออก
รุย: อูอาอู!
สุบารุ: อึก ――รุย!
ทว่า รุยที่เกาะหลังอยู่ก็รีบผลักสุบารุออกให้พ้นทาง เธอจึงโดนเศษกระสุนอัดกระแทกใส่แทน
. เบียทริซรีบเรียกสติสุบารุให้สนใจศัตรูตรงหน้าก่อนจะเป็นห่วงรุย แถมเธอยังยิงผลึกเวทมีเนียซ้ำทันที
แต่แล้วอิซเมลกลับโชว์เหนือด้วยการใช้ส่วนหัวไหล่ที่กลายเป็นผลึกไปแล้วรับการโจมตี การเคลือบผลึกจึงไม่ลุกลามไปมากกว่านั้น
อิซเมล: โอ้วววววว!!
สุบารุ: อั่ก!
อิซเมลปล่อยขวานศึกจากมือที่เหลืออยู่เพื่อที่จะกระชากคอเสื้อสุบารุ แล้วอัดเขากระแทกกับพื้นอย่างรุนแรง
เบียทริซพยายามยิงเวทมีเนียซ้ำเพื่อช่วย แต่อิซเมลหาได้แคร์ไม่ ขอเพียงรักษาส่วนแขนขวาไว้ได้ เขาก็สามารถบีบคอสุบารุจนตายตกตามกันไปได้แล้ว
ท็อดด์: เพราะดันไปเวทนามันแบบแปลกๆ แท้ๆ
ทันใดนั้นเอง ศีรษะของอิซเมลก็ถูกท็อดด์ใช้ขวานจามจนขาดกระเด็น เท่านั้นไม่พอ ทันซ่ายังกระโจนตามไปเตะอัดหัวให้กระเด็นหายไปราวกับลูกฟุตบอล
ส่วนร่างกายที่เหลืออยู่ของอิซเมลแหลกสลายกลายเป็นเศษผลึกสีม่วงจนหมด
. พอตั้งสติได้ สุบารุก็ถามหารุยด้วยความเป็นห่วง อิโดร่าช่วยดูอาการให้ก่อนแล้ว รุยแค่หัวกระแทกยังไม่ตาย สุบารุจึงวานให้เบียทริซช่วยรักษาเธอ
เบียทริซลังเลเล็กน้อยแต่ก็ยอมรักษาตามที่คู่หูขอ ในระหว่างนี้พวกเรมน่าจะอ้อมหนีออกจากเมืองไปแล้ว เบียทริซจึงเป็นคนเดียวที่ใช้เวทรักษาได้
สุบารุโทษความประมาทของตัวเขาเองที่ทำให้รุยต้องบาดเจ็บ แถมท็อดด์เองก็สั่งสอนแบบพูดจาแทงใจดำซ้ำ ทำเอาทันซ่าโมโหแทน
ลึกๆ แล้วสุบารุมองว่าท็อดด์พูดถูก เขาจึงไม่เถียงกลับ พอเห็นทันซ่ากับท็อดด์เริ่มมีปากเสียงกัน อิโดร่าจึงช่วยเตือนสติทันซ่าก่อน
ระหว่างที่สุบารุกำลังคิดจะส่งต่อรุยให้เรมรับช่วงรักษาต่อ เขาก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างตัดผ่านสายลมดัง “ฟึ่บ” คล้ายมีคนสะบัดเส้นอะไรสักอย่าง
ทันซ่า: อะ
พอทันซ่ารู้สึกตัวอีกที ก็มีเส้นรยางค์ปลายแหลมลึกลับแทงทะลุช่องท้องของเธอจากด้านหลัง
แล้วพอมองตามสายรยางค์ไป สุบารุก็พบว่ามันงอกออกมาจากส่วนศีรษะของอิซเมลที่ถูกตัดขาดไปก่อนหน้านี้
. อิซเมลกลายร่างเป็นอสุรกายอัปลักษณ์ที่มีแขนขาผิดรูปลักษณ์งอกออกมาจากส่วนคอที่ถูกตัดขาดไป
สิ่งที่มันใช้แทงทะลุร่างของทันซ่าแท้จริงแล้วก็ไม่ใช่รยางค์ แต่เป็น “นิ้วมือ” ที่ยืดยาวได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
หลังเจ้าอสุรกายหดนิ้วมือกลับ เลือดก็พุ่งทะลักออกมาจากร่างของทันซ่าจนเด็กสาวเข่าทรุดลง
สุบารุ: ทันซ่าาาา!!
อิโดร่า: อึก! ท่าไม่ดีแล้ว! ชวาร์ซ!
อิโดร่ารีบผลักสุบารุจนกระเด็น ส่งผลให้สุบารุหลุดพ้นจากการโจมตีต่อเนื่องของนิ้วมือที่เฉือนอาคารบ้านเรือนแหกได้แบบฉิวเฉียด
ท็อดด์: ชิ! นี่หรือว่ามันจะฟื้นฟูจากส่วนหัวที่ถูกตัดได้งั้นเรอะ?
ท็อดด์คว้าร่างของสุบารุที่กระเด็นมาเอาไว้แล้วเริ่มวิเคราะห์สถานการณ์
สุบารุ: โกหกน่า… ลำตัวถูกเคลือบเป็นผลึกและแหลกไปแล้วแท้ๆ ทำไมถึงยังขยับได้อยู่ล่ะ!?
ท็อดด์: ถึงจะทำใจยอมรับได้ยาก แต่มันก็เห็นกันอยู่ตรงหน้าแล้ว ไอ้ตัวน่าขนลุกนั่นน่ะ…
สุบารุ: กระบวนการฟื้นฟูร่างกายมันติดบัครึไงวะ!
เบียทริซ: สงสัยว่าจะเป็นผลจากการไม่ยอมตายทั้งที่ได้รับดาเมจแบบถึงตายกระมัง!
. สุบารุร้องขอให้อิโดร่าคุ้มกันทันซ่าที่บาดเจ็บ แต่ถ้าหากอิโดร่าไม่ระวังแล้วโดนเล่นงานอีกคน โอกาสชนะของพวกสุบารุก็จะกลายเป็นศูนย์ทันที
สุบารุเริ่มสิ้นหวังจนความคิดที่ว่า “ลูปนี้คงมาได้แค่นี้” ก่อตัวขึ้นในหัวเขาชั่วขณะ แต่สุดท้ายสุบารุก็ปัดความคิดบ้าบอนั้นทิ้ง
ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายเหมือนเจอทางตันขนาดไหน แม้ว่าเขาจะยอมแพ้ในการหวังให้ตัวเองรอดไปแล้ว แต่สุบารุก็จะไม่มีวันยอมแพ้ที่จะช่วยผู้อื่นเด็ดขาด
ท็อดด์: ――เป็นแววตาที่น่าขนลุกชะมัด
สุบารุ: เอ๋?
ท็อดด์: แววตาของคนที่มองชีวิตตัวเองกับชีวิตผู้อื่นต่างกันสุดขั้วยังไงล่ะ
คำที่ท็อดด์พึมพำออกมาแฝงความรังเกียจไว้อย่างชัดเจน แต่สุบารุก็ไม่มีเวลาให้คำนึงเรื่องนั้นมาก เนื่องจากท็อดด์เริ่มออกวิ่งทั้งที่อุ้มสุบารุเอาไว้อยู่
แถมท็อดด์ยังวิ่งไปในทิศตรงข้าม โดยที่ทิ้งพวกทันซ่าและเบียทริซเอาไว้ สาเหตุที่ทำเช่นนี้ เพราะท็อดด์ดูออกว่าเป้าหมายหลักของศัตรูคือตัวเขากับสุบารุ
แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ อิซเมลที่กลายพันธุ์ด้วยความอาฆาตเลือกไล่ตามท็อดด์กับสุบารุ
ท็อดด์: เป้าหมายคือชั้นที่เป็นคนฆ่ามันรอบแรกกับนายที่เป็นคนฆ่ามันรอบสอง
สุบารุ: …อึก! ล่อมันมาเพื่อที่จะได้ไม่ไปยุ่งกับคนอื่นงั้นเหรอ?
ท็อดด์: พอมีคนอื่นมาเกี่ยวข้องทีไร หัวนายมันคิดได้ช้าลงทุกที
ดวงตาของท็อดด์ที่จนป่านนี้ก็ยังประเมินค่าตัวเขาไม่หยุดทำให้สุบารุรู้สึกขนลุกยิ่งกว่าเจ้าอสุรกายอัปลักษณ์ที่ไล่ตามพวกตนอยู่ตอนนี้
ท็อดด์ถามสุบารุว่าคิดวิธีปราบเจ้าอสุรกายโดยที่ไม่มีคู่หูไหวไหม สุบารุมีลางสังหรณ์ว่าหากเขาหมดประโยชน์ ท็อดด์อาจจะทิ้งเขาไว้เป็นเหยื่อล่อก็ได้
แต่ที่ท็อดด์ไม่ได้ทำเช่นนั้นทันทีคงเพราะเขาประเมินว่าโอกาสรอดหลังทิ้งสุบารุมีต่ำ ในทางกลับกัน หากสุบารุมีแผนการดีๆ ท็อดด์ก็น่าจะพร้อมร่วมมืออย่างเต็มที่
ระหว่างที่ท็อดด์กำลังวิ่งหนีแบบคอยใช้สิ่งกีดขวางบังทัศนวิสัยของเจ้าอสุรกาย สุบารุก็กวาดสายตาหาอาคารแห่งหนึ่งซึ่งเป็นแผนสำรองนอกเหนือจากมีเนีย
――มันคืออาคารที่อิโดร่าพูดถึงเอาไว้ก่อนหน้านี้
ท็อดด์: ทำงั้นได้ด้วยเหรอ?
สุบารุ: ――แน่นอน
ท็อดด์: เอาสิ ――มาลองใช้แผนของนายดูละกัน
. ณ ตอนนี้ สติของอิซเมล “เนตรยักษ์” นั้นเปี่ยมล้นไปด้วยความสับสนวุ่นวาย เขาลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าทำไมตนถึงได้ยึดติดกับศัตรูสองคนที่ไล่ตามอยู่
แขนขาที่ยืดยาวไม่เท่ากันจนเสียสมดุลทำให้เขาเคลื่อนไหวแบบล้มลุกคลุกคลานเหมือนเดรัจฉานพึ่งเกิด
แล้วทุกครั้งที่ล้มคะมำก็จะมีแขนขางอกออกมาเพิ่มความอัปลักษณ์ให้มากขึ้นไปอีก อสุรกายตนนี้มันไม่ใช่อิซเมลอีกต่อไปแล้ว
ร่างของยอดนักรบกลายพันธุ์เนื่องจากความยึดติดที่มีต่อศัตรูคู่อาฆาตทั้งสอง จนตอนนี้พลังฟื้นฟูของเขาเพิ่มพูนขึ้นเหนือกว่าที่ผู้สร้างสามารถควบคุมได้
ยิ่งวิ่งหนีนานเท่าไร เป้าหมายก็ยิ่งหมดแรง ในขณะที่อิซเมลเริ่มมีแขนขามากขึ้นจนล้มคะมำน้อยลง อีกไม่ช้าอิซเมลก็คงจะตามเป้าหมายทัน
อิซเมลใช้นิ้วยืดไปเฉือนแผ่นหลังและไหล่ของเป้าหมายคนหนึ่ง การได้เห็นศัตรูหลั่งเลือดและร้องทรมานมันช่างน่าปิติยินดี
หลังฆ่าศัตรูทั้งสองได้ ทุกสิ่งทุกอย่างมันคงว่างเปล่าน่าดู อิซเมลจึงไม่อยากให้การไล่ล่าครั้งนี้จบเร็วเกินไป
แต่ฝั่งศัตรูเองก็มาถึงขีดสุดแล้ว พวกมันถึงได้เข้าไปหลบในอาคารที่ไร้ทางออก
เจ้าอสุรกายผลักประตูเข้าไปเพื่อเตรียมปิดฉากเหยื่อที่จนมุมทั้งสอง ถึงแม้ภายในจะมืดมิด แต่ดวงตาพิเศษของมันก็สามารถมองเห็นศัตรูเป็นสีสันได้อยู่ดี
ทันใดนั้นเอง เจ้าอสุรกายก็รู้ตัวว่าภายในอาคารเต็มไปด้วยแป้งสีขาวคละคลุ้งไปทั่ว แป้งจากในกระสอบทั้งกระจัดกระจายอยู่ในอากาศและเปื้อนติดร่างของมัน
สุบารุ: สิ่งที่จะโค่นนายน่ะ ไม่ใช่ทั้งเวทมนตร์หรือวิชาลับอะไรหรอกเฟ้ย
เจ้าอสุรกายมองตามเสียงไปเห็นร่างของเด็กชายที่เปล่งประกายเป็นสีแดง แต่ผู้ชายอีกคนไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว
สุบารุ: เอาไปกินซะ แก่นแท้แห่งวิทยาศาสตร์ ――ระเบิดฝุ่น!!
ชั่ววินาทีต่อมา ทัศนวิสัยของเจ้าอสุรกายก็กลายเป็นสีแดงฉาน เนื่องจากร่างของมันถูกระเบิดเละภายใน “โรงสีข้าว”
. [อิโดร่า: ดูนั่นสิ ชวาร์ซ ใช้โรงสีข้าวนั่นเป็นจุดสังเกตกัน อาคารที่มีกังหันน้ำอยู่ข้างๆ นั่นน่ะ]
อิโดร่าที่เป็นลูกชายเจ้าของโรงสีข้าวชี้ตำแหน่งของสถานที่ที่เขาคุ้นเคยให้สุบารุดูระหว่างที่ควบม้านำทัพอยู่ เขาจึงได้ไอเดียการใช้ระเบิดฝุ่นมาตั้งแต่ตอนนั้น
ระเบิดฝุ่นคือปรากฏการณ์ที่สสารประเภทผงฝุ่นติดไฟได้กระจายตัวอยู่ในอากาศของพื้นที่ปิด แล้วเกิดประกายไฟขึ้น ทำให้ผงฝุ่นติดไฟปะทุเนื่องจนกลายเป็นการระเบิด
ผลลัพธ์ของแผนการทำให้เจ้าอสุรกายถูกระเบิดเละไปพร้อมโรงสีข้าว หลังการระเบิดสงบลง สุบารุก็เริ่มเดินสำรวจเศษซากที่เหลืออยู่
สุบารุ: …ยังไม่ตายใช่ไหม ท็อดด์?
ที่แผนการนี้สำเร็จได้เป็นเพราะความร่วมมือระหว่างทั้งสองคน ท็อดด์เป็นคนวิ่งล่อเจ้าอสุรกายก่อน ระหว่างนั้นสุบารุก็แอบมาที่โรงสีข้าวเพื่อโปรยแป้งให้ทั่ว
พอสุบารุเตรียมการเสร็จ ท็อดด์ก็จะล่ออสุรกายเข้ามาในโรงสีข้าว จากนั้นก็จุดไฟเพื่อระเบิดมันทิ้ง
เนื่องจากว่าท็อดด์เป็นคนจุดไฟเอง เขาเลยอาจจะโดนลูกหลงไปด้วย…
สุบารุ: ท็อดด์…ท็อดด์!
ท็อดด์: …ไม่เห็นต้องเรียกกันแบบน่าสังเวชแบบนั้นเลย ยังอยู่ดีน่า
. สุบารุพบว่าท็อดด์คุกเข่าที่ถนนด้านนอกอาคารโดยมีเศษกำแพงที่น่าจะถูกเป่ากระเด็นมาพร้อมกันกองอยู่บนพื้น
ท็อดด์: ทำซะชั้นหวิดตายเลยนะ นายเนี่ย
สุบารุ: …เดี๋ยวคนอื่นเขาเข้าใจผิดหมด เตือนไปแล้วนี่ว่ามันโคตรแรงน่ะ?
ท็อดด์: นานๆ ทีก็ได้ยินว่ามีอุบัติเหตุทำนองนี้เกิดขึ้น หลังได้ฟังหลักการถึงได้เชื่อไง
พอท็อดด์นอนหงายหลังบนถนนด้วยความเหนื่อย สุบารุก็ชี้ให้เห็นเศษซากของอิซเมลที่สลายกลายเป็นฝุ่นทราย ชัดเจนว่าศัตรูถูกกำจัดอย่างราบคาบแล้ว
ท็อดด์เป็นคนอาสารับบทตัวล่อเองอย่างเหนือความคาดหมาย เขาจึงได้รับบาดเจ็บหนักพอสมควรจากการถ่วงเวลาให้สุบารุเตรียมการระเบิดฝุ่น
ท็อดด์เสียเลือดไปมาก เขาต้องรีบได้รับการรักษา สุบารุเป็นห่วงรุยกับทันซ่าเช่นกัน เขาจึงเตรียมจะไปตามเบียทริซมาสมทบ
ท็อดด์: ――โดนไปขนาดนี้ คาชัวก็คงไม่บ่นแล้วแหละนะ
สุบารุ: เอ๋?
ท็อดด์: ที่พูดไว้ตอนอยู่ที่คฤหาสน์ไง ยัยนั่นมองว่าชั้นเป็นคนขี้เกียจ แต่นี่เรารอดมาได้ โค่นศัตรูที่แข็งแกร่ง แถมยังได้บาดแผลอย่างสมเกียรติมาด้วย อย่าบอกนะว่านายจะฮุบเป็นผลงานไว้คนเดียวน่ะ?
ท็อดด์ที่เจ็บหนักและใบหน้าซีดเซียวยังมีหน้าเล่นมุกแบบไม่เข้าสถานการณ์ แถมกระทั่งตอนนี้ท็อดด์ก็ยังคำนึงถึงคาชัวอยู่เสมอ
สุบารุ: คุณคาชัวสำคัญต่อนายมากจริงๆ สินะ
ท็อดด์: แหงอยู่แล้วสิ ก็คู่หมั้นนี่นะ คาชัวคือชีวิตของชั้นเลยก็ว่าได้
. ถึงแม้ว่าสุบารุจะยังกลัวท็อดด์อยู่ แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความร่วมมือของท็อดด์เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้สุบารุโค่นศัตรูที่แข็งแกร่งลงได้
ท็อดด์พึ่งลงทุนเสี่ยงชีวิตช่วยให้พวกสุบารุรอดไปจากวิกฤตินี้ได้ทุกคน บางทีคงถึงคราวนี้ที่สุบารุต้องตอบแทนท็อดด์บ้าง
เนื่องจากเสียงระเบิดอาจจะล่อพวกซอมบี้ตัวอื่นมา สุบารุจึงเสนอให้ท็อดด์หาที่ซ่อนรอเขาพาคนกลับมาช่วย
แต่เพราะขนาดตัวที่ต่างกัน สุบารุจึงช่วยพยุงไหล่ท็อดด์ไม่ได้ เขาเลยจะหาอะไรสักอย่างมาเป็นไม้เท้าให้ท็อดด์ใช้ไปพลางก่อน
ซึ่งตอนนั้นเองที่สุบารุเหลือบไปเห็นหิ้งติดผนังที่โดนระเบิดจนเกรียมและหลุดออกมา
“แก๊ง”
――และในวินาทีต่อมาก็เกิดเสียงดังกังวาลเหมือนกับว่าโลหะกระทบเข้ากับอะไรบางอย่าง
สุบารุ: …ทำไมกันล่ะ?
สุบารุหันหลังกลับไปมองพลางกำหมัดแน่น ริมฝีปากและดวงตาสีดำของเขาสั่นเทาราวกับไม่เชื่อสายตาตัวเอง
สุบารุ: ทำไมกันล่ะ?
จะทำไมเสียอีก ก็เพราะว่าขวานของท็อดด์มันเล็งจามกะโหลกของเขาให้แยกจากด้านหลังอย่างชัดเจน
――ทว่า ส่วนคมของใบขวานได้ถูกหยุดไว้กลางอากาศเพียงไม่กี่นิ้วก่อนที่จะถึงศีรษะของสุบารุด้วย “หัตถ์ล่องหน”
ท็อดด์: ชิ พลาดแล้วๆ
ท็อดด์ปล่อยมือจากขวานและกระโจนตัวถอยหลังเว้นระยะอย่างคล่องแคล่ว ราวกับว่าเรื่องที่ว่าเขาเจ็บหนักและเสียเลือดไปมากเป็นเพียงแค่คำลวง
ทั้งการพูดถึงคาชัวเองก็ด้วย ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเพียงการแสดง เป็นการซื้อใจให้สุบารุประมาท
สุบารุ: …ทำไมกันวะ!
นับเป็นครั้งที่สามที่สุบารุยิงคำถามนั้นออกไป น้ำตาแห่งความขุ่นเคืองไหลพรั่งพรูออกมาโดยที่เขามิอาจหักห้ามได้
สุบารุ: จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้ทำอะไรเลย! ยังไม่ได้ฆ่าใครเลย! ชั้นน่ะ อาจจะให้อภัยนายได้แท้ๆ!!
ท็อดด์: ความเชื่อใจของชั้นที่มีต่อนายมันค่อยๆ สูญเสียไปเรื่อยๆ ยังไงล่ะ
ท็อดด์ แฟงก์ ชักมีดออกมาเตรียมแทนขวาน ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนัตสึกิ สุบารุ แตกหักแบบยากที่จะแก้ไขได้อีกต่อไป
. จบตอน