re zero webnovel arc9 chapter14 part1 แปลไทย

บทที่ 9 ตอนที่ 14 "สุดแกร่ง" พาร์ท 1

ผู้ที่อยู่เบื้องหน้าอัลเดบารันคือวีรชนผู้ถูกเลือก ตัวตนที่โลกอวยพรให้ตั้งแต่กำเนิดและเป็นขั้วตรงข้ามกับตัวเขา [นักดาบเทวา] ไรน์ฮาร์ด วาน แอสเทรอา

ทั่วทั้งโลกใบนี้มีอยู่เพียงแค่สองบุคคลที่เป็นอุปสรรคต่อแผนการของอัลเดบารัน คนแรกคือ “นัตสึกิ สุบารุ” ที่ถูกโอล ชามัคผนึกไปพร้อมเบียทริซแล้ว

ดังนั้น อุปสรรคสุดท้ายของอัลเดบารันจึงเป็นการโค่นล้มชายผู้มีสมญานาม [สุดแกร่ง] ที่ยืนประจันหน้าเขาอยู่กลางทะเลทรายยามค่ำคืน

ว่ากันตามตรงไรน์ฮาร์ดมิใช่ผู้ที่สุดยอดในทุกเรื่อง ในโลกนี้มีผู้ที่มีทักษะเหนือกว่าตัวเขาอยู่หลายด้าน

[อัสนีสีฟ้า] เซซิลุส เซ็กมุนต์ รวดเร็วกว่าเขา [เจ้าสำราญ] ฮาริเบล ฝีมือช่ำช่องกว่าเขา [เจ้าชายคลั่ง] เวก แอดการ์ด ห่างไกลจากความตายยิ่งกว่าเขา

สี่มหาวิญญาณมีมานามากกว่าเขา บิชอปมหาบาปแห่งลัทธิแม่มดมีพลังที่โกงกว่าเขา [แม่มด] แห่งมหาบาปคร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่าเขา

คนดีโดยทั่วไปโกหกเก่งกว่าเขา คนชั่วโดยทั่วไปดื้อด้านกว่าเขา

กระนั้นสถานะ [สุดแกร่ง] ของไรน์ฮาร์ด วาน แอสเทรอากลับมิเคยสั่นคลอนเลยแม้แต่น้อย

. อัลเดบารันรู้สึกขนลุกต่ออุปสรรคสุดโหดหินที่ตนต้องก้าวข้าม แต่เขาก็ยังเหลือไพ่โจ๊กเกอร์อยู่ในมือ ซึ่งก็คือ [มังกรเทพอัลเดบารัน]

มังกรเทพอัลคือตัวเขาอีกคนหนึ่งที่เกิดขึ้นจากการอินสตอลความทรงจำของอัลเข้าไปในเปลือกมกรที่ว่างเปล่าของ [มังกรเทพ] วอลคานิก้า

ไรน์ฮาร์ด: ――สายตระกูล [นักดาบเทวา] ไรน์ฮาร์ด วาน แอสเทรอา

การประกาศชื่อและตำแหน่งก่อนเริ่มต่อสู้คือธรรมเนียมปฏิบัติของโลกนี้ที่กระทั่งบิชอปมหาบาปยังยึดถือ

บ้างก็ทำไปเพราะความหยิ่งพยอง บ้างก็ทำไปเพื่อแสดงความเคารพต่ออีกฝ่าย บ้างก็ทำไปเพื่อยกตนข่มท่าน บ้างก็ทำไปเพื่อปลุกใจที่ขลาดเขลาของตนเอง

ในกรณีของไรน์ฮาร์ด เขาทำไปเพื่อแสดงความเคารพต่ออัลเดบารัน ทั้งที่น่าจะได้ยินวีรกรรมของอัลมาจากแฟรมแล้วแท้ๆ เพราะงั้นอัลจึง…

อัล: บิชอปมหาบาปแห่งลัทธิแม่มด ตำแหน่ง [เย่อหยิ่ง] สไตรด์ วอลลาเคีย

ไรน์ฮาร์ด: ――อึก

อัล: ถ้าตอบแบบนั้นคงจะน่าสนใจดีเนอะ?

มังกรเทพอัล: ――ก๊าซซซซ!!

อัลเดบารันเลือกที่จะย่ำยีความเคารพของอีกฝ่ายด้วยการไม่ยอมบอกชื่อจริงตามธรรมเนียม เมื่อเห็นว่าไรน์ฮาร์ดออกอาการชะงัก มังกรเทพอัลก็เปิดฉากจู่โจมทันที

ต่างจากลมหายใจแบบการจามที่พ่นใส่การ์ฟีลกับเอซโซ่บนยอดหอคอย ลำแสงสีขาวที่มังกรเทพอัลพ่นออกมาคราวนี้เป็นการจู่โจมแบบมุ่งหวังทำลายอีกฝ่ายให้สิ้นซาก

. ลมหายใจที่สามารถเปลี่ยนภูมิทัศน์ของทะเลทรายได้ปะทะเข้าใส่ไรน์ฮาร์ดเต็มๆ จนพื้นยุบเป็นหลุม หากไม่โจมตีอีกฝ่ายด้วยเจตนาฆ่า ก็เลิกหวังว่าจะสู้ไหวได้เลย

มังกรเทพอัล: ――เฮือก ถอยไป ตัวชั้น!!

อัล: เหวออออ!?

จู่ๆ มังกรเทพอัลก็รีบใช้กรงเล็บเกี่ยวอัลเดบารันแล้วเหวี่ยงเขาให้กระเด็นออกไปไกล อัลตีลังกาหลายตลบจนทรายเข้าหมวกเหล็ก

หลังจากที่ถุยทรายทิ้ง อัลเดบารันก็เงยหน้ามาเห็นว่าไรน์ฮาร์ดที่ไร้บาดแผลได้พุ่งเข้าปะทะกับมังกรเทพอัล ซึ่งเป็นการเปิดฉากศึกเดือดระหว่างอสุรกายต่างไซซ์

มังกรเทพอัล: ไม่ไหม้เลยนี่หว่า! ไม่อยากจะบ่นว่า “ไม่น่ารักเอาซะเลย” หรอกนะ แต่นี่มันหลักการอะไรฟะเนี่ย!?

ไรน์ฮาร์ด: อาศัยพลังของ [ดาบมังกร] ดาบเล่มนี้จะไม่มีวันแหลกสลาย ต่อให้วันที่โลกล่มสลายจะมาถึงก็ตาม มันถูกสร้างมาเพื่อการนั้นล่ะนะ ก็เลยใช้ปัดป้องไว้ได้

มังกรเทพอัล: ไอ้คำตอบนั่น สุดท้ายแล้วสิ่งที่เทพมันไม่ใช่ดาบแต่เป็นเอ็งนี่หว่า! ไม่ได้ช่วยอธิบายว่าทำไมถึงไม่ไหม้ด้วย!

ไรน์ฮาร์ด: นั่นเป็นเพราะผลของ [พรคุ้มครองแดดเผา] ยังไงล่ะ

ระหว่างที่ตอบ ไรน์ฮาร์ดก็พลิกตัวกลางอากาศแล้วเตะสวนใส่กรงเล็บของมังกรที่แหวกห้วงอากาศจนฉีกขาด แรงปะทะนั้นทำให้เกิดการระเบิดคล้ายดอกไม้ไฟหรือกระสุนปืนใหญ่ขึ้น

. การแลก ‘การโจมตีธรรมดา’ ระหว่าง [มังกร] กับ [นักดาบเทวา] ก่อให้เกิดแรงระเบิดแบบต่อเนื่อง แถมคลื่นกระแทกจากแต่ละรอบยังรุนแรงพอจะซัดยอดนักรบให้กระจุยได้

การต่อสู้ของสุดยอดสิ่งมีชีวิตทำให้ระยะห่างหลายสิบเมตรกลายเป็นพื้นที่ไม่ปลอดภัย แต่อัลเดบารันก็มิอาจออกห่างจากสนามรบแห่งนี้ได้

เมทริกซ์ของอัลเดบารันนั้นมีข้อจำกัดในการตั้งค่าใหม่อยู่ ถ้าหากเมทริกซ์ออกห่างจากจุดที่ตั้งค่าไว้มากเกินไป อาณาเขตก็จะพังทลาย ซึ่งต้องหลีกเลี่ยงทุกกรณี

ไรน์ฮาร์ดกระโดดถอยหลังออกมาตั้งหลักทั้งที่ยังไม่เหนื่อยหอบเลยสักนิด นั่นเป็นเพราะว่าเขาสังเกตถึงความผิดปกติบางอย่างขึ้นมาได้

เมื่อหลายวันก่อน ตอนที่เดินทางมากับพวกแฟรมและเอซโซ่ ไรน์ฮาร์ดได้ปะทะกับ [มังกรเทพ] วอลคานิก้าเพราะความเข้าใจผิดมารอบนึงแล้ว

ไรน์ฮาร์ด: เทียบกับคราวนั้นแล้ว ตัวคุณในตอนนี้อ่อนแอลง ทำไมกันล่ะครับ?

มังกรเทพอัล: …ไอ้เบื๊อกนี่

ไรน์ฮาร์ด: …?

เขาสังเกตได้ว่า [มังกรเทพ] เมื่อวันก่อนกับปัจจุบันเคลื่อนไหวแตกต่างกัน ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะว่า [มังกรเทพ] เมื่อวันก่อนคือตัวจริง

ถึงแม้ว่าวอลคานิก้าจะอยู่ในสภาพเปลือกมกรที่ดวงจิตว่างเปล่าหลังให้กำเนิดมนุษย์มกร แต่อัลที่ไม่เคยควบคุมร่างมังกรมาก่อนย่อมอ่อนแอกว่าเป็นธรรมดา

กระนั้นการเผลอดูหมิ่นอย่างไร้เดียงสาของไรน์ฮาร์ดก็ทำให้มังกรเทพอัลปรี๊ดแตกอยู่ดี

. มังกรเทพอัล: เดี๋ยวจะให้เอ็งได้เห็นอะไรดีๆ เอง

มังกรเทพอัลประกาศกร้าวแล้วสยายปีกบินถลาเข้าจู่โจมทันที ระยะห่างถูกย่นภายในพริบตาพร้อมกันกับที่เจ้ามังกรง้างแขนเตรียมบดขยี้อีกฝ่าย

ไรน์ฮาร์ดที่มี [พรคุ้มครองเล่นทราย] ไม่เสียการทรงตัวในสนามรบนี้แม้แต่น้อย เขากระโดดหลบแขน แล้วเตะสวนอัดลิ้นปี่จนเจ้ามังกรกระเด็นขึ้นฟ้า

เท่านั้นไม่พอ ไรน์ฮาร์ดกระโดดตามขึ้นฟ้าไป แถมยังเร็วจนแซงหน้าเจ้ามังกรที่โดนเตะเสย จากนั้นก็แตะปลายเท้าบนแผ่นหลังของมังกรเพื่อหยุดโมเมนตัม

ไรน์ฮาร์ดง้างฝ่ามือที่คมกริบยิ่งกว่าดาบเลื่องชื่อเพื่อเตรียมผ่าเกล็ดของ [มังกรเทพ] ให้ขาดวิ่น

มังกรเทพอัล: บอกแล้วไงว่าจะให้เห็นอะไรดีๆ …รออีกสักหน่อยเหอะน่า

อัล: แพลน A

ไรน์ฮาร์ด: ――อึก

ไม่รู้ว่าไรน์ฮาร์ดจะได้ยินเสียงอัลเดบารันที่อยู่เบื้องล่างไหม แต่หลังสิ้นคำพูดนั้น ดวงดาวบนฟากฟ้าก็ร่วงหล่นลงมาใส่ [นักดาบเทวา]

. ดวงดาวของโลกนี้คือก้อนมานาขนาดมหึมาที่ส่องประกายและลุกไหม้อยู่เหนือฟากฟ้าอันไกลโพ้น แถมปริมาณมานาภายในดาวแต่ละดวงยังมีมากพอๆ กับมหาวิญญาณเลย

ศาสตร์ต้องห้ามที่ชื่อว่า [อัล ชาริโอ้] คือเวทมนตร์ที่ดึงดูดดวงดาวเหล่านั้นลงมายังพื้นโลกด้วยการใช้มานาปริมาณมหาศาลพอๆ กัน

นอกจากนั้นก็ยังต้องอาศัยการควบคุมพลังเวทที่แม่นยำในการกำหนดจุดตกของดวงดาว ความยากในการใช้งานนี้แลกมากับความรุนแรงพอที่จะสังหารมังกรทั้งฝูง

นางแม่มดผู้ถนัดเวทมนตร์บทนี้เคยกล่าวกับอัลไว้ว่า [อัล ชาริโอ้] นั้นทรงพลังยิ่งกว่าลมหายใจของเผ่ามังกรเสียอีก

แต่สักวันหนึ่ง เวทมนตร์ที่ทรงพลังยิ่งกว่ามนตร์เรียกดวงดาวก็จะถูกคิดค้นขึ้นมาอยู่ดี เพราะว่ามนุษย์นั้นมี [ความโลภ] อันไม่สิ้นสุด

พอนึกถึงหน้าแม่มดผมขาวคนนั้น(เอคิดน่า)ขึ้นมา อัลเดบารันก็รู้สึกหงุดหงิด กระนั้นเขาก็เชื่อมั่นในคำพูดของเธอและเชื่อมั่นในอานุภาพของอัล ชาริโอ้

อัลเดบารันเป็นลูกศิษย์ของแม่มดผมขาวคนนั้น เธอถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับเวทมนตร์ทุกอย่างให้จนอัลกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านทฤษฎีเวทมนตร์ก็ว่าได้

ทว่า อัลเดบารันขาดคุณสมบัติที่จะใช้เวทมนตร์เหล่านั้นได้ทั้งหมด ต่อให้คนเราจะรู้วิธีต้มน้ำร้อน ก็มิอาจจะเติมอ่างอาบน้ำให้เต็มด้วยน้ำเพียงแก้วเดียวได้อยู่ดี

จุดประสงค์ที่นางแม่มดสอนเวทมนตร์ให้แก่ลูกศิษย์ที่ไร้พรสวรรค์มิใช่เพราะแค่ว่านางอยากจะอวดภูมิหรือหวังดีให้ความรู้ด้านเวทมนตร์ช่วยให้อัลฟันฟ่าอุปสรรคบางอย่างได้

หากแต่เป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในสถานการณ์ปัจจุบัน

. มังกรเทพอัล: ――อัล ชาริโอ้

ครั้น [มังกร] ร่ายมนตร์เรียกดวงดาวให้ร่วงลงมาสู่ทะเลทรายยามค่ำคืน องค์ความรู้แสนล้ำค่าที่นางแม่มดพร่ำสอนลูกศิษย์ก็สำแดงประโยชน์ตามจุดประสงค์หลัก

สาเหตุที่นางแม่มดมอบความรู้ด้านเวทมนตร์ให้แก่อัล ก็เพื่อให้ตัวเขายึดร่างของ [มังกรเทพ] และใช้มันเพื่อก้าวข้ามอุปสรรคอันใหญ่หลวงที่สุด

ดวงตาของไรน์ฮาร์ดเบิกกว้างต่อหน้าดวงดาวที่ร่วงหล่น นี่คือ [อัล ชาริโอ้] ที่ทรงพลังพอๆ กับตอนที่สฟิงซ์ร่ายในศึกตัดสินสุดท้าย ณ จักรวรรดิวอลลาเคีย

อัลเดบารันไม่ได้นิ่งนอนใจว่าอัล ชาริโอ้อย่างเดียวจะเพียงพอต่อการกำจัดไรน์ฮาร์ด เพราะกระทั่ง [อัสนีสีฟ้า] ก็ยังเคยผ่าดวงดาวแยกในดาบเดียวมาแล้ว

เซซิลุสทำเช่นนั้นได้ด้วยทักษะวิชาดาบและพลังของ [ดาบมายา] แต่ไรน์ฮาร์ดที่ยังมิได้ชัก [ดาบมังกร] ออกจากฝักไม่น่าจะสามารถทำสิ่งเดียวกันได้

กระนั้นอัลเดบารันก็จะไม่ประมาท ก่อนที่ไรน์ฮาร์ดจะทันได้ตั้งตัว มังกรเทพอัลกลับตัวกลางอากาศแล้วใช้ปีกหวดใส่แผ่นหลังอีกฝ่าย

ไรน์ฮาร์ดยกเข่ากับข้อศอกมารับแรงกระแทกได้ทัน แต่เป้าหมายของมังกรเทพอัลคือการตบร่างของไรน์ฮาร์ดให้กระเด็นไปหาดวงดาวที่กำลังร่วงหล่น

มังกรเทพอัล: ก๊าซซซซ!!

สาเหตุที่สองอัลถูกไรน์ฮาร์ดเปิดฉากจู่โจมบนท้องฟ้าตั้งแต่แรกเป็นเพราะว่าอีกฝ่ายมี [พรคุ้มครองเมฆา] ซึ่งทำให้เขาสามารถใช้เมฆเป็นแท่นเหยียบได้

ดังนั้น เพื่อป้องกันมิให้อีกฝ่ายเหยียบเมฆหนี มังกรเทพอัลจึงคำรามให้ปุยเมฆรอบข้างกระจายตัวออก สร้างเป็นสถานการณ์ที่ต่อให้เป็นไรน์ฮาร์ดก็ต้องปะทะกับดวงดาวเต็มๆ

ไรน์ฮาร์ด: ――ได้รับมาแล้ว

ทว่า ทันทีที่ไรน์ฮาร์ดเอื้อมขาไปแตะบนดวงดาว มันกลับไม่เกิดการระเบิดขึ้น แถมไรน์ฮาร์ดยังเดินอยู่บนพื้นผิวของดวงดาวได้หน้าตาเฉย

สองอัล: อะไรวะเนี่ย!?

ไรน์ฮาร์ด: [พรคุ้มครองทรงตัวบนบอล] ไงล่ะ

ไรน์ฮาร์ดที่เดินไต่จากพื้นผิวด้านข้างของดวงดาวขึ้นมาจนถึงยอดบนสุดประกาศชื่อพรคุ้มครองใหม่ที่เขาได้รับหน้าตาเฉย

มังกรเทพอัล: ทรงตัว…บนบอล…

อัล: ถือว่านั่นเป็นลูกบอลไฟ อ่ะนะ?

. อัลไม่มีเวลามัวอึ้งที่ไรน์ฮาร์ดมองดาวตกหายนะเป็นเพียงแค่ [ลูกบอลไฟ]

เนื่องจากชื่อ [พรคุ้มครองทรงตัวบนบอล] มีนัยยะว่าอีกฝ่ายสามารถควบคุมลูกบอลที่เหยียบได้อิสระเหมือนกับเซอร์คัสเพอร์ฟอร์เมอร์(นักแสดงละครสัตว์)

ทันทีที่ไรน์ฮาร์ดใช้ปลายเท้าแตะผิวดวงดาว วงโคจรของมันแปรเปลี่ยนไปเป็นการพุ่งเข้าหามังกรเทพอัลเสียแทน ซึ่งบีบบังคับให้เขาต้องสะกัดมันด้วยลมหายใจ

แสงสีขาวและแดงปะทะเข้าหากัน เกิดเป็นแสงสว่างจ้าราวกับราตรีถูกเผาไหม้จนเลือนหายไป สะเก็ดของดวงดาวที่แตกออกร่วงหล่นสู่เบื้องล่างราวกับระเบิดปูพรม

อัลเดบารันโดนแรงระเบิดอัดกระเด็นจนเกิดแผลไหม้ขึ้นทั่วร่าง ตามมาด้วยเสียงกระแทกดังสนั่น

พอเงยหน้าไปดูตามเสียง เขาก็เห็นว่ามังกรเทพอัลได้ร่วงสู่ผืนทะเลทรายในสภาพที่ปีกหักข้างหนึ่ง ส่วนปีกอีกข้างถูกตัดขาด

ไรน์ฮาร์ดที่ควรจะโดนลูกหลงจากการระเบิดของดวงดาวลงมายืนอยู่ข้างอัลเดบารันกับมังกรเทพที่เจ็บปางตายในสภาพไร้บาดแผล

อัลเดบารันเคยได้ยินว่าบิชอปมหาบาป [โลภะ] เคยสังหารไรน์ฮาร์ดได้ครั้งหนึ่ง เขาจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าหมอนั่นทำสำเร็จได้ยังไงกัน

อย่างไรก็ตาม ศึกครั้งนี้รู้ผลแล้ว ทั้งสองฝ่ายต่างเข้าใจดี นี่ถือเป็นครั้งที่ 8,466 แล้วที่ไรน์ฮาร์ดเป็นฝ่ายมีชัย

อัล: ――รอบต่อไป

มังกรเทพอัลเค้นแรงที่เหลืออยู่พ่นลมสายใจเล็งใส่ทั้งไรน์ฮาร์ดและอัลเดบารันที่อยู่ภายในระยะวิถียิงเดียวกัน

ไรน์ฮาร์ด: …ไม่ขอยอมรับวิธีการแบบนี้!

แต่แทนที่จะหลบเลี่ยง ไรน์ฮาร์ดกลับตวัด [ดาบมังกร] ที่ยังคงอยู่ในฝักไปฟันผ่าลมหายใจของมังกรเทพอัลจนแยก

น้ำเสียงของไรน์ฮาร์ดเปี่ยมล้นไปด้วยความโกรธเนื่องจากมังกรเทพอัลโจมตีแบบกะให้อัลเดบารันที่เป็นพวกเดียวกันโดนลูกหลงไปด้วย

ใจดีซะเหลือเกิน ฉะนั้น เขาจะนำข้อมูลนี้ไปประกอบการวางกลยุทธิ์ในรอบหน้า ว่าแล้วอัลเดบารันจึงกัดซองบรรจุยาพิษแล้วกระเดือกลงคอ

ไรน์ฮาร์ด: อะไรกัน…

สีหน้าของไรน์ฮาร์ดเปลี่ยนไปเมื่อหันกลับมาเห็นอัลเดบารันชักดิ้นชักงอในสภาพที่ฟองเลือดฟูมปาก

×  ×  ×

ไรน์ฮาร์ด: ――พอแค่นั้นแหละ

หลังน้ำเสียงอันองอาจดังขึ้น ประกายแสงก็จะปะทะกับ [มังกร] จนอัลเดบารันที่เกาะอยู่บนหลังเสียหลัก

อัลที่วางเงื่อนไขปฏิกิริยาตอบสนองของตนเองจนชินรีบคว้าส่วนหนึ่งบนหลังมังกรไว้ทันทีเพื่อป้องกันการสกายไดวิ่ง(ดิ่งเวหา)แบบไม่มีพาราชูต(ร่มชูชีพ)

ไรน์ฮาร์ด: ขอแนะนำให้ยอมแพ้ดีกว่านะครับ หากเลือกได้ ก็ไม่อยากที่จะฟันคุณ

อัล: อย่าทำเป็นเก่งไปหน่อยเลย ฮีโร่ ยังไงชั้นก็เป็นฝ่ายชนะอยู่ดี ――ดวงดาวนั่นแหละที่ผิด

หลังจากที่ลงจอดบนพื้นพร้อมตัวเขาอีกคนหนึ่งได้สำเร็จ การต่อสู้ครั้งที่ 8,467 ของอัลเดบารันก็เริ่มต้นขึ้น

. การปะทะกับไรน์ฮาร์ดเป็นสิ่งที่อัลเดบารันรู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ กระนั้นใจจริงเขาก็มิอยากให้ศึกดังกล่าวมันเริ่มต้นไวขนาดนี้

หลังจากที่ประกาศกร้าวอย่างองอาจในตอนแรก ลูกฮึดของอัลเดบารันก็เริ่มถดถอยลงเรื่อยๆ หลังจากที่ได้ยินประโยค “พอแค่นั้นแหละ” มากว่า 8,000 ครั้ง

กว่าอัลจะเรียนรู้วิธีการลงจอดอย่างปลอดภัยด้วยการใช้ปีกของมังกรเทพอัลทำการ ‘ซอฟต์แคช’ ตัวเอง เขาต้องผ่านประสบการณ์ร่วงลงไปกระแทกพื้นจนคอหรือกระดูกสันหลังหักเป็นร้อยรอบ

แล้วทุกครั้งที่เริ่มต้นใหม่ เขาก็ต้องมาทนฟังประโยค “พอแค่นั้นแหละ” ทุกรอบ

หลังจากที่รู้ตัวว่าผู้กล่าวประโยค “พอแค่นั้นแหละ” คือใคร อัลก็รู้สึกโล่งใจอย่างน่าประหลาด ดีแล้วที่อีกฝ่ายคือไรน์ฮาร์ดมิใช่อีกคนหนึ่ง (เอมิเลีย)

เพราะสำหรับอัลเดบารันนั้น ความเจ็บปวดทางใจมันน่ากลัวยิ่งกว่าความเจ็บปวดทางกายเสียอีก แต่ความดีใจต่อเรื่องนั้นก็ไม่ยืนยง

อัล: ถือว่าโชคยังดีที่มันไม่ได้เป็นจุดเซฟแบบโดนรุกฆาตล่ะนะ…

จุดอ่อนเดียวของอำนาจของอัลเดบารันก็คือการเผลอกำหนดเมทริกซ์ในจุดที่ยังไงก็ไม่มีทางรอด เคราะห์ดีที่มันยังไม่เคยเกิดขึ้น

เพื่อความไม่ประมาท อัลจึงมักจะตั้งค่าเมทริกซ์ใหม่ทุกๆ 15 วินาที การทำเช่นนั้นจนเคยชินทำให้เขากำหนดจุดเซฟเป็นตอนได้ยินประโยค “พอแค่นั้นแหละ” พอดี

ถ้าหากเขาเผลอกำหนดเมทริกซ์เป็นตอนประโยคท่อนหลัง “――นั้นแหละ” ก็คงได้ติดลูปที่ยังไงก็ตายสถานเดียว

เนื่องจากว่าอัลเดบารันไม่สามารถย้อนไปยังทาสค์(Task)ก่อนหน้าได้ หลังจากที่ตั้งค่าเมทริกซ์ใหม่ไปแล้ว

แต่ผลลัพธ์จึงกลายเป็นว่าอัลเดบารันต้องหาทางเอาชนะไรน์ฮาร์ด วาน แอสเทรอาด้วยเมทริกซ์ที่เริ่มต้นตอนประโยค “พอแค่นั้นแหละ” ให้จงได้

นี่คงเป็นศึกที่ยากลำบากเหมือนเต่าที่ต้องคลานขึ้นยอดเขา แต่อัลเดบารันมีมังกรเทพอัลอยู่ด้วยและแผนการโค่นล้มไรน์ฮาร์ดก็กำลังคืบหน้าขึ้นเรื่อยๆ

. อ่านต่อพาร์ท 2