webnovel arc9 chapter2

บทที่ 9 ตอนที่ 2 "ตัวร้ายไม่สะทกสะท้าน"

ยูการ์ดและไอริส/ยอร์น่าตัดสินใจใช้ช่วงเวลาสุดท้ายที่เหลืออยู่ร่วมกัน หากเทียบกับการจากลาครั้งก่อนที่ไอริสไม่ทันได้ร่ำลา มันถือว่าดีกว่ากันมาก

สิ่งที่ต่างออกไปคือคราวนี้ยูการ์ดจะเป็นฝ่ายที่ต้องจากไปก่อน กระนั้นยูการ์ดก็พึงพอใจต่อชีวิตแล้ว เพราะเขามีโอกาสได้แก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดจากการตัดสินใจชั่ววูบหลังไอริสด่วนตายจากไป

วินเซนต์จะเป็นผู้ยุติคำสาปที่ลากเหล่ามนุษย์หมาป่าและมนุษย์หนูดินมาเกี่ยวพัน เท่านี้ความปรารถนาของไอริสและความรู้สึกผิดบาปของยูการ์ดก็จะได้รับการคลี่คลายเสียที

ไอริส/ยอร์น่าพร้อมที่จะจากโลกนี้ไปตามคนรัก เพราะตัวเธอไม่คู่ควรต่อยุคสมัยนี้เช่นกัน แต่ยูการ์ดดักคอไว้ว่าไอริสควรใช้ชีวิตให้เต็มที่ก่อนเพราะเธอได้สร้างสายสัมพันธ์ไว้กับยุคสมัยนี้แล้ว

ระยะห่างระหว่างคู่รักที่ข้ามกาลเวลามาพบพานกันอีกครั้งใกล้ชิดขึ้นยิ่งกว่าที่เคย ทั้งสองจุมพิตกันเป็นการอำลา โดยที่ไอริสตั้งมั่นที่จะใช้ชีวิตอยู่ต่อเพื่อพิสูจน์คำพูดของยูการ์ด

ยูการ์ด: ――ดวงดาราของข้า เราผู้นี้รักเจ้านะ

ไอริส: ฉันเองก็เช่นกันค่ะ ใต้เท้า ความรักใคร่ที่มีต่อท่านจะไม่มีวันจางหายไปชั่วนิรันดร์ค่ะ

ทั้งบอกรัก จุมพิต และยิ้มให้กัน นี่คือจุดจบที่แท้จริงของตำนาน [ไอริสและราชาแห่งหนาม] ที่ริเริ่มขึ้นตั้งแต่อดีตกาลและดำเนินมาตราบจนถึงปัจจุบัน

. ผ่านไปหนึ่งค่ำคืนหลัง [มหาภัยพิบัติ] สิ้นสุดลง วิกฤติการณ์ผีดิบถูกหยุดยั้งเอาไว้โดยวินเซนต์ วอลลาเคียและเหล่าหมาป่าดาบชาววอลลาเคียที่ลุกขึ้นสู้

เมืองใหญ่มากมายเสียหายอย่างรุนแรง ทั้ง [นครจักรพรรดิ] ลูปุกาน่า [นครป้อมปราการ] การ์คลา [นครโลหิตเหล็ก] กลาราเซีย [นครมาร] เคออสเฟลม และ [นครทะเลหมอก] เมโซเรย์อา

รายงานความเสียหายจากหลายแหล่งยังไหลเวียนเข้ามาไม่หยุด เหล่าผู้บริหารประเทศจึงไม่มีเวลาว่างมาฉลองชัยชนะและต้องทำงานต่อเนื่องจนไม่ได้พัก

หนึ่งในรายงานความเสียหายคือข่าวการจากไปของหญิงสาวผู้ใช้ชีวิตดุจเปลวเพลิง(พริสซิลล่า)ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้จักรวรรดิเอาชนะศึกสุดท้ายมาได้

ปกติจักรพรรดิวินเซนต์ วอลลาเคียสามารถโต้ตอบข้อมูลข่าวสารได้แทบจะทันที แต่ข่าวร้ายนี้ทำให้เขาถึงกับเงียบไปพักใหญ่ ก่อนที่จะเอ่ยตอบรับเพียงสั้นๆ ว่า…

วินเซนต์: ――งั้นหรือ

. ตัดไปยัง เพทร่า เลย์เต้ ที่เดินเตร็ดเตร่อยู่ในเมืองการ์คลาซึ่งชาวเมืองกำลังร่วมแรงกันบูรณะขึ้นมาใหม่อย่างขยันขันแข็ง ปัจจุบันเพทร่าก็ยังคงไม่ค่อยชอบจักรวรรดิอยู่ดี

วอลลาเคียได้ช่วงชิงนัตสึกิ สุบารุไปจากเพทร่า แถมผู้คนที่เธอเกลียดก็มีมากกว่าที่ชอบ กระนั้นสุดท้ายพรรคพวกของเธอก็ร่วมกันกอบกู้จักรวรรดิไว้อยู่ดี

เหตุการณ์ครั้งนี้ได้ทิ้งบาดแผลแสนเจ็บปวดเอาไว้ต่อหัวใจของสุบารุ เนื่องจากการตายจากไปของหญิงสาวที่ชื่อ “พริสซิลล่า บาริเอล”

ที่จริงเพทร่าไม่เคยสนทนากับพริสซิลล่าแม้แต่ครั้งเดียว เพราะเธอกลัวว่าการข้องเกี่ยวกับศัตรูทางการเมืองของเอมิเลียไม่ใช่เรื่องดี สุดท้ายเพทร่าจึงต้องมานึกเสียใจที่ไม่กล้าคุย

การที่ไม่ได้รู้จักพริสซิลล่าเป็นการส่วนตัวทำให้เพทร่ามิอาจร่วมอาลัยต่อการจากไปของเธอร่วมกับสุบารุและเอมิเลียได้ เด็กสาวจึงได้แต่เก็บงำความข้องใจเอาไว้

. เพทร่าเดินมาเจอเข้ากับ “ซีคูร์ ออสมัน” แม่ทัพแห่งจักรวรรดิผู้ที่มิเคยหยิ่งผยองในยศถาบรรดาศักดิ์ ซีคูร์เองก็ติดพันงานมากมายหลังศึกใหญ่จบลง

ปัจจุบันซีคูร์พึ่งจัดกระบวนทัพใหม่เสร็จและกำลังอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายของเมืองด้วยตาตัวเองหลังจากที่ได้อ่านรายงานไปแล้ว

ล่าสุดเหล่าแม่ทัพเอกได้ถูกส่งกระจายไปประจำการตามเมืองในภูมิภาคต่างๆ ของจักรวรรดิ เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจต่อทหารและเป็นการเฝ้าระวังไปในตัว

แม้ว่าศึกใหญ่ที่ผู้คนทั้งประเทศร่วมแรงกันต่อกรกับภัยคุกคามจะพึ่งสิ้นสุดไป มันก็ยังมีพวกใจคดที่อาจจะชิงลงมือทำเรื่องชั่วในสถานการณ์นี้อยู่ดี เหล่าแม่ทัพเอกจึงมีงานชุกตัว

หลังทราบว่าภรรยาของเขาปลอดภัย แม่ทัพกอซก็มุ่งหน้าไปปฏิบัติภารกิจทันที ส่วนคาฟม่าก็ได้ยอมรับการเลื่อนยศเป็นแม่ทัพเอกแล้ว เนื่องจากตำแหน่ง [เก้าแม่ทัพเทวะ] ว่างลงหลายที่หลังจบศึก

. เพทร่าถามซีคูร์ว่ามีเรื่องน่ายินดีเกิดขึ้นกับตัวเขาบ้างไหม เนื่องจากเธอเห็นว่าซีคูร์ทุ่มเทอย่างหนักในศึกใหญ่โดยการทำหน้าที่เป็นคนกลางประสานงานระหว่างศูนย์บัญชาการกับแม่ทัพที่แนวหน้า

ซึ่งสำหรับซีคูร์ การที่เขาได้ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่วินเซนต์นับตั้งแต่ที่เมืองกัวลาลก็ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีหาอะไรเทียบมิได้แล้ว ซึ่งเพทร่าไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาถึงพอใจกับเรื่องแค่นั้น

ซีคูร์จึงเปรียบเปรยว่าเพทร่าก็คงมีบุคคลที่ชอบหรือนับถืออยู่ เพียงแค่ผลงานของตนทำให้บุคคลนั้นยิ้มออก ตัวเขาก็รู้สึกว่ามันคุ้มค่าแล้ว

ตอนนั้นเองที่เซรีน่ากับรอสวาลเข้ามาทักทายทั้งสองพอดี เพทร่าถึงกับเบ้ปากไม่พอใจทันทีที่เห็นรอสวาล ทำเอาเซรีน่ารำพึงว่าเธอจะไม่แปลกใจเลยหากรอสวาลถูกแทงข้างหลังเข้าสักวัน

รอสวาลแก้ต่างว่าเขาจ้างคนแบบเพทร่าและออตโต้ที่ความสามารถล้วนๆ ไม่ได้มองเรื่องที่อีกฝ่ายเหม็นขี้หน้าเขาไหม แถมรอสวาลยังมั่นใจว่าเพทร่าไม่ใช่เด็กที่คิดอะไรตื้นๆ แบบนั้นแน่

. ช่วงศึกใหญ่เฟรเดริก้าทำหน้าที่เป็นทั้งหน่วยพยาบาลและคนส่งสาร เพทร่า รัม และการ์ฟีลจึงต้องช่วยกันเซ้าซี้จนในที่สุดเธอก็ยอมไปนอนพักผ่อนบ้างเสียที

รอสวาล: ――แล้วเธอล่ะ ยังไหวอยู่ไหม?

เพทร่า: …เวทตะวัน ยังได้ผลดีอยู่ค่ะ

เวทตะวันที่เพทร่าเรียนรู้มาจากรอสวาลสามารถใช้เพิ่มทั้งพละกำลังและเสริมความกระชุ่มกระชวยให้แก่เป้าหมายได้ เพทร่ายังใช้กับคนอื่นไม่เก่ง แต่สามารถร่ายมนตร์กับตัวเองได้

เพราะงั้นเพทร่าจึงสามารถทำงานต่อได้นานกว่าคนอื่นทั้งที่ยังไม่ได้พัก กระนั้นเวทมนตร์ก็มีขีดจำกัดของมันที่ต้องระวังไว้ไม่ให้ปะทุอยู่ดี

รอสวาลที่หลับตาลงข้างหนึ่งไม่คิดจะห้ามเพทร่าและปล่อยให้เธอทำตามใจตัวเองเต็มที่ แถมเขายังพูดออกมาจากใจจริง ซึ่งทำให้เพทร่ายิ่งหงุดหงิด

. เพทร่า: นายท่านน่ะ ตั้งใจจะทำอะไรกับสุบารุกันแน่คะ?

รอสวาล: หืม

เพทร่า: ช่วยตอบมาด้วยค่ะ

เมื่อถูกถามไปตรงๆ เช่นนั้น รอสวาลก็สลับดวงตาที่มองเพทร่าจากสีน้ำเงินมาเป็นสีเหลืองแทน เธอไม่ชอบดวงตาที่เปี่ยมด้วยประกายที่ไร้มนุษยธรรมข้างนั้นเอาเสียเลย

สุบารุ เอมิเลีย และเฟรเดริก้าให้อภัยการกระทำของรอสวาลไปแล้ว เบียทริซกับการ์ฟีลยังเคืองอยู่ ส่วนรัมก็อยู่ในสถานะพิเศษ มีเพียงแค่เพทร่ากับออตโต้เท่านั้นที่ยังคงระแวงและมิเคยให้อภัยเขา

ทว่า เพทร่าสัมผัสได้ว่ามีความตึงเครียดระหว่างสุบารุกับรอสวาลซึ่งต่างออกไปจากกรณีของเธอกับออตโต้อยู่ ราวกับว่าทั้งสองกำลังกุมความลับบางอย่างร่วมกันไว้

ความลับที่คนนอกมิอาจล่วงรู้ แต่มันอาจจะนำความทุกข์มาสู่สุบารุได้

รอสวาลเลี่ยงที่จะตอบคำถาม แถมยังถามเพทร่ากลับหน้าตาเฉยว่าเขาควรเข้าหาสุบารุในตอนนี้อย่างไรดี ระหว่างนั้นก็จุดประกายเวทสีแดงที่มือขวาและสีฟ้าที่มือซ้าย

เพทร่าไม่รู้ความหมายที่รอสวาลต้องการจะสื่อผ่านประกายเวทสองสีแน่ชัดนัก สีไหนกันที่ดีต่อเหล่าคนที่เพทร่าห่วงใย

. เพทร่า: ถ้าเกิดว่า

รอสวาล: หือ

เพทร่า: ถ้าเกิดว่าทำให้สุบารุต้องเจ็บปวดหรือเศร้าไปมากยิ่งกว่านี้ล่ะก็ ฉันน่ะจะไม่มีวันให้อภัยนายท่านแน่ค่ะ …ไม่สิ จะทำให้ต้องนึกเสียใจแน่นอนค่ะ

หนึ่งปีครึ่งที่รู้จักกันมาทำให้เพทร่ารู้ซึ้งแล้วว่าการไม่ให้อภัยมิใช่สิ่งที่จะทำให้รอสวาลสะทกสะท้านได้ ดังนั้น สิ่งที่เพทร่าต้องทำก็คือ…

เพทร่า: ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม สิ่งที่นายท่านต้องการจะทำหรือว่ากำลังทำอยู่น่ะ จะขัดขวางให้ดูเอง

เพทร่าทำหน้าขึงขังเต็มที่ระหว่างที่ข่มขู่รอสวาลซึ่งนิ่งเงียบไปสักพัก ก่อนที่เขาจะรำพึงออกมาว่าเพทร่าได้รับความรักมากกว่าตนเองเหลือเกิน

รอสวาลกล่าวต่อว่าความรักที่ว่าคือพลังประหลาดที่ไม่ว่าตัวเขาจะต่อต้านแค่ไหนก็ไม่เคยที่จะเอาชนะได้เสียที ซึ่งฝั่งเพทร่าไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงการได้รับความจากใครหรืออะไรกันแน่

สิ่งที่เพทร่าต้องการคือการได้รับความรักจากเหล่าผู้คนที่เธอหวงแหน รวมถึงการทำให้เหล่าคนที่เธอรักมีความสุขและสามารถยิ้มได้

เพทร่า: อยากให้ท่านพี่เอมิเลียกับสุบารุ สามารถยิ้มได้ต่อไป

เพทร่ากุมมือไว้ตรงหน้าอกพลางภาวนาให้คำอธิษฐานของเธอกลายเป็นดั่งปุยเมฆที่จะลอยอยู่บนฟ้าและคอยปกป้องผู้คนที่เธอรักจากเบื้องบน

เซรีน่ากับซีคูร์ที่มองอยู่ห่างๆ มิอาจเข้าไปขัดขวางบรรยากาศความตึงเครียดระหว่างนายบ่าวคู่นั้นได้เลย

. จบตอน