re zero EX5 แปลไทย

นิยายสปินออฟ EX5 บท "หมาป่าดาบสีเพลิง" พาร์ท 9: เป้าหมายที่แท้จริง

. พริสซิลล่าถูกจับกักตัวแยกจากสามี โดยทาสดาบสองคนเฝ้าดูเธอไว้ คนหนึ่งเป็นชายตัวใหญ่เงียบขรึมที่ใส่เกราะทั้งตัว ส่วนอีกคนเป็นชายตัวเล็กช่างจ้อ

พริสซิลล่า: พิษน่าจะถึงเวลาออกฤทธิ์แล้ว

ชายตัวเล็ก: พล่ามไรวะ?

พริสซิลล่า: เข้าใจไม่ยากหรอก ให้ข้าพเจ้าได้อธิบายให้พวกสมองน้อยเฉกเช่นพวกเจ้าเข้าใจได้ พิษเป็นแค่คำเปรียบเปรย แต่มีบางสิ่งที่กำลังกัดกินชีวิตอยู่กระทั่งในเพลานี้

ชายตัวเล็ก: ยิ่งพูดก็ยิ่งงง แต่ข้ารู้นะว่ากำลังหลอกด่าอยู่!

ชายตัวเล็กชักมีดคู่ออกมาด้วยความเดือดดาล หมายที่จะข่มขู่เด็กสาว แต่มันสายไปเสียแล้ว

ชายตัวเล็ก: ดูสิจะปากดีได้อีกนานแค่ไหน ยัยเด็กเปร――

บัลรอย: เธอก็คงจะพูดจาแบบนั้นไปจนวันตายนั่นแหละครับ

กว่าที่ชายตัวเล็กจะทันได้หันมาดูให้ชัดว่าใครพูดขัดเขา หอกของ “บัลรอย เทเมกริฟ” ก็แทงทะลุศีรษะของชายร่างเล็กจนตายคาที่

ชายตัวใหญ่ในชุดเกราะเองก็ไม่ทันได้ช่วยเพื่อน เพราะเขาถูกกระบี่ของ “กาจีท” สังหารตายตามกันไป

พริสซิลล่า: เจ้าปล่อยให้สุภาพสตรีรอเสียตั้งนาน

บัลรอย: โธ่ ชั้นอุตส่าห์รีบแล้วนะเนี่ย พอดีต้องทนฟังพี่ไมลซ์ด่าจนหูชาก่อน ไหนท่านไฮเคาน์เตสจะบอกให้รอดูจังหวะให้ดีอีก…

พริสซิลล่า: ไม่ต้องแก้ตัว อย่างน้อยข้าพเจ้าจะขอชมเชยที่เจ้ามาถึงก่อนที่พิษจะแพร่กระจายไปทั่ว

การที่กาจีททรยศพรรคพวกและเลือกกำหนดชะตาชีวิตของตนเอง แปลว่าพิษที่พริสซิลล่าหว่านเอาไว้เริ่มออกฤทธิ์แล้ว

ทาสดาบคนอื่นที่ประจำการอยู่ที่ห้องเจ้าของเกาะน่าจะตัดสินใจแล้วเช่นกัน ในกรณีเลวร้ายสุดพวกนั้นอาจจะตีกันเองตายหมดไปพร้อมกับโจร่าห์

ที่แน่ๆ หลังได้ล่วงรู้เป้าหมายที่แท้จริงของอูบิรูค ตอนนี้พริสซิลล่าก็เริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายต่อบทละครการปฏิวัติในครั้งนี้เสียแล้ว เพราะฉะนั้น…

พริสซิลล่า: ในองก์สุดท้ายของบทละครแสนจืดชืดนี้ ข้าพเจ้าผู้เป็นดั่งบุปผาจะช่วยเพิ่มสีสันให้เสียหน่อยก็แล้วกัน

. อัลเดบารันประจันหน้ากับศัตรูตัวฉกาจโดยมีแสงจันทร์และหอควบคุมสะพานชักเป็นฉากหลัง ระหว่างที่ตัวเขายืนปกป้องเด็กสาวตัวโชกเลือด

มันเป็นฉากที่ดูอลังการดุจว่าหลุดออกมาจากตำนาน เพียงแต่ว่าพระเอกดันไม่ใช่หนุ่มหล่อสุดแกร่ง แต่เป็นอัลที่มีแค่มีดสั้นในมือ

ส่วนทางฮอร์เน็ตนั้นก็กอดแขนดาบของตัวเองและเริ่มหัวเราะออกมาอย่างเพลิดเพลิน

อัล: ขำอะไรนักหนา?

ฮอร์เน็ต: นี่ รู้ไหม อัลจัง ฉันน่ะอยากสู้แบบถึงตายกับนายมาโดยตลอด

อัล: ไม่ได้อยากรู้เลย แต่ก็พอเดาได้แหละนะ ที่จริงเราสู้เอาเป็นเอาตายกันไปแล้วและชั้นก็พ่ายแพ้อย่างน่าสมเพช ลืมไปแล้วเรอะว่าเธอเตะชั้นตกหลุมไป?

ตลอด 10 ปีที่อาศัยอยู่บนเกาะกินุนไฮฟ์ อัลไม่เคยรู้สึกสนุกไปกับการต่อสู้ช่วงชิงชีวิตเลย เพราะงั้นชั่วชีวิตนี้เขาคงจะไม่มีวันเข้าใจพวกคลั่งไคล้การต่อสู้อย่างฮอร์เน็ตได้

ฮอร์เน็ต: เอาล่ะนะ อัลจัง มาลุยกันเลย! ช่วยอย่าตายง่ายเกินไปล่ะ ได้ไหมจ๊ะ?

หลังเอ่ยร้องขอด้วยน้ำเสียงหวานรื่นหู ฮอร์เน็ตก็เริงระบำแขนดาบดุจวายุ อัลจึงตอบโต้ด้วยการก้มตัวหลบและชูมีดขึ้นเตรียมตั้งรับ

อัล: ――อึก!

ทว่า มีดสั้นของเขาถูกปัดกระจุยไปพร้อมกับร่างกายท่อนบน สุดท้ายแล้วอัลก็พลาดตายแบบง่ายๆ ตั้งแต่เริ่มศึก

. พริสซิลล่า: ข้าพเจ้าเชื่อว่าเป้าหมายที่แท้จริงของการจราจลในครั้งนี้ก็คือศีรษะของจักรพรรดิ

พริสซิลล่าประกาศออกมาเช่นนั้นระหว่างที่กำลังเดินตามหลังบัลรอยและกาจีทที่ช่วยกำจัดศัตรูที่ขวางทาง

บัลรอยฟังแล้วรู้สึกกังขา เพราะยังไงการจราจลครั้งนี้ก็ล่อจักรพรรดิให้มายังกินุนไฮฟ์ไม่ได้ อย่างมากเขาก็คงแค่ส่งเก้าแม่ทัพเทวะ 1-2 คนมาจบงาน

พริสซิลล่า: เช่นนั้นแล้ว คิดว่าทำไมหัวหน้าของพวกมันถึงได้วางแผนปฏิวัติทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าจะล้มเหลว?

บัลรอย: เอ่อ… ก็เพื่อที่จะล่อเก้าแม่ทัพเทวะออกมา แต่สู้ยังไงก็คงแพ้ราบคาบอยู่ดี…

พริสซิลล่า: แน่นอนอยู่แล้ว กระนั้น นั่นก็แปลว่าจักรพรรดิจะไม่มีแม่ทัพอยู่ข้างกายไปชั่วขณะเช่นกัน

บัลรอย: …ไม่มีทางน่า แบบว่า ตรรกะมันก็สมเหตุสมผลนะ แต่การที่แม่ทัพคนหรือสองคนออกห่างจากตัวแค่ไม่กี่นาทีมันไม่น่าส่งผลต่อความปลอดภัยของจักรพรรดินะครับ พวกนั้นมีกันตั้งเก้าคน ถึงได้เรียกว่า “เก้าแม่ทัพเทวะ” ไงครับ!

พริสซิลล่า: ย่อมได้ เช่นนั้นลองจินตนาการว่าเกิดเหตุด่วนเหตุร้ายที่ทำให้ต้องส่งตัวแม่ทัพเทวะทั้ง 9 คนออกไป ลองจินตนาการดูว่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้นนอกเหนือจากบนเกาะทาสดาบ

บัลรอย: เอาจริงดิ? …แต่นั่นมันบ้าไปแล้ว

บัลรอยไม่สามารถปฏิเสธความเป็นไปได้ที่ว่าการปฏิวัติบนเกาะนี้จะเป็นเพียงหนึ่งในปฏิบัติการร่วมเพื่อหลอกล่อให้จักรพรรดิเสียแม่ทัพชั้นเอกข้างกาย

ถึงอย่างไร ทุกคนบนเกาะนี้ก็ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกและไม่ได้รับรู้ข่าวสารว่ามันเกิดอะไรขึ้นนอกเกาะในตอนนี้บ้าง

. พริสซิลล่า: องค์จักรพรรดิเป็นชายที่มิเคยประมาท องค์รักษ์ของเขาก็เช่นกัน คงไม่น่าส่งแม่ทัพทั้ง 9 คนออกห่างตัวในคราเดียวหรอก กระนั้นจำนวนก็คนคุ้มกันก็คงมีน้อยลงกว่าปกติ ซึ่งนำไปสู่โอกาส

บัลรอย: แปลว่าทาสดาบทุกคนบนเกาะนี้เป็นแค่หมากใช้แล้วทิ้งสินะครับ?

บัลรอยรู้สึกขนลุกขึ้นมาทั้งต่อแผนการสังเวยครั้งใหญ่เพื่อลอบสังหารจักรพรรดิ รวมถึงพริสซิลล่าที่มองแผนการของศัตรูทะลุปรุโปร่งหลังได้ทราบว่าอีกฝ่ายต้องการ “ถ่วงเวลา”

และแน่นอนว่าเรื่องนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อกาจีทและเหล่าทาสดาบที่เป็นเพียงหมากใช้แล้วทิ้งในแผนการสเกลใหญ่เกินตัวพวกเขา

กาจีท: เฮ้ย นี่มันไม่ขำนะโว้ย! สังหารจักรพรรดิเรอะ!? ใครสนกันวะ!? พวกเราแค่อยาก――

พริสซิลล่า: อยากหลบหนีออกจากทางตันที่เจ้าเผชิญอยู่งั้นหรือ? แรงจูงใจแสนสามัญของเจ้านี่แหละที่ทำให้ถูกปั่นหัวได้ง่าย ทีหลังลองใช้หัวคิดได้ดีก่อน

กาจีท: กรอด! นังเด็กนี่!

กาจีทที่หัวร้อนยื่นกระบี่ไปจ่อคอพริสซิลล่า บัลรอยจึงพยายามโน้วน้ามให้เขาใจเย็นลงก่อน แต่มันก็ไม่ได้ผล

ตอนนี้พวกกาจีทกลายเป็นผู้มีส่วนร่วมในแผนการลอบสังหารองค์จักรพรรดิไปแล้ว แปลว่าพวกเขามีโอกาสถูกจับประหารสูงมาก ไม่แปลกเลยที่กาจีทจะแตกตื่น

. แม้ว่าเขาจะเห็นใจกาจีท แต่บัลรอยก็หลับตาลงและเริ่มเตรียมใจที่จะแทงหอกใส่ลำคอหรือหน้าอกของกาจีท เพื่อปลิดชีพเขาโดยไม่ต้องทรมาน

แต่กาจีทเองก็มีฝีมือพอใช้ได้ หากบัลรอยสังหารอีกฝ่ายไม่ได้ในหอกเดียว กาจีทก็อาจจะทำอันตรายต่อพริสซิลล่า ซึ่งนั่นเป็นผลลัพธ์ที่บัลรอยอยากหลีกเลี่ยงไม่ว่ายังไงก็ตาม

พริสซิลล่า: มัวแต่เหม่อลอยอยู่ทำไม? เจ้ากำลังวิตกอะไรอยู่ บัลรอย เทเมกริฟ? ――โลกใบนี้ถูกสรรค์สร้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ข้าพเจ้า

บัลรอย: …

พริสซิลล่า: ดังนั้น การตัดสินใจของเจ้ามิอาจทำร้ายข้าพเจ้าได้ ขอให้จดจำเรื่องนั้นเอาไว้

เด็กสาวผู้ถูกกระบี่จ่อคออยู่ประกาศกร้าวว่าตัวเธอเป็นจุดศูนย์กลางของโลกแบบไร้ความเกรงกลัว ทั้งบัลรอยและกาจีทต่างกลืนน้ำลาย จากนั้นก็…

ไมลซ์: ย้าากกกก!

กาจีท: อั่ก!

ไมลซ์: เหอะ! กล้าดียังไงเล็งอาวุธใส่ท่านไฮเคาน์เตส สามหาวเสียเหลือเกิน!

บัลรอย: พะ…พี่ไมลซ์?

หินก้อนหนึ่งปลิวมากระแทกศีรษะของกาจีทจนเขาล้มลง แถมไม่พอ “ไมลซ์” ที่เป็นคนปาหินยังคว้าเศษหินอีกก้อนมาทุบซ้ำจนกาจีทหมดสติ

การปรากฏตัวของพี่ชายทำให้ความลังเลทั้งหมดมลายหายไปจากใจของบัลรอย เขามักจะพึ่งพี่ชายคนนี้ให้เป็นคนใช้หัวแทนตัวเองอยู่เสมอ

หลังตรวจสอบดูว่าพริสซิลล่าปล่อยภัยไร้รอยขีดข่วน สองพี่น้องก็เตรียมนำทางเด็กสาวกลับไปรวมตัวกับโจร่าห์และนายหญิงของพวกตน

ทว่า พริสซิลล่าไม่คิดจะตรงไปหาสามีที่ห้องเจ้าของเกาะโดยทันที เพราะเธอมุ่งหมายที่จะยุติการปฏิวัติในครั้งนี้ลงเสียก่อน

คำถามคือเธอจะทำเช่นนั้นได้อย่างไรกัน?

บัลรอย: ถ้างั้น จะทำยังไงล่ะครับ?

พริสซิลล่า: เจ้าทาสดาบก่อนหน้านี้แสดงตัวอย่างให้เห็นแล้ว สิ่งที่ต้องทำก็มีแค่ทำให้พวกมันตระหนักถึงสถานการณ์เพียงเท่านั้น

. (อ่านต่อได้ในพาร์ทต่อไป)