
นิยายสปินออฟ EX5 บท "หมาป่าดาบสีเพลิง" พาร์ท 11: ดาวอับโชค
. หลังพริสซิลล่าประกาศจุดประสงค์ที่แท้จริงของตัวการใหญ่ไปทั่วเกาะ ฝ่ายกบฏก็แทบจะพ่ายแพ้ไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว
แม่ทัพเทวะและกองทหารจักรวรรดิที่ขึ้นเกาะทาสดาบมาหลังสะพานชักถูกปลดลงจึงเหลือหน้าที่เพียงแค่การเก็บกวาดงานเท่านั้น
ส่วนอัลที่สู้สุดตัวจนก๊อกทั้งแรงกายและแรงใจก็อยากไปนอนพักอยู่เต็มแก่ แต่ดันมีตาแก่ที่หัวเราะเสียงดังคนหนึ่งมาหาอาราเคียก่อน
โอลบาร์ต: เจ้าเองสินะ? คนที่ช่วยปลดสะพานชักลง ช่วยได้มากเลยน้อ ถ้าเกิดข้าไม่รีบเก็บกวาดงานเร็วๆ มีหวังได้ถูกฝ่าบาทฆ่าพอดี
ชายแก่ร่างเล็กนาม “โอลบาร์ต ดันคลูเคน” ที่ตามมาสมทบกับอาราเคียเอ่ยขอบคุณอัลเช่นนั้น
ถึงรูปลักษณ์ภายนอกจะเป็นเช่นนี้ แต่โอลบาร์ตนั้นเป็นถึงเก้าแม่ทัพเทวะลำดับ 3
――มิหนำซ้ำสัญชาตญาณในตัวอัลยังบอกเขาอีกว่าโอลบาร์ตนั้นแกร่งเสียยิ่งกว่าฮอร์เน็ตที่อัลต้องตายไปเกือบ 800 ครั้งกว่าจะฆ่าได้เสียอีก
อันดับความแข็งแกร่งลำดับ 3/4 ของฮอร์เน็ตที่ตราตรึงอยู่ในประสบการณ์ของเขามานานถูกแซงหน้าอย่างรวดเร็วจนอัลรู้สึกเอือมระอา
อัล: โลกนี้มันช่างกว้างใหญ่… แต่แค่เกาะเล็กๆ นี่ก็ใหญ่พอสำหรับชั้นแล้วล่ะ
โอลบาร์ต: ไร้ความโลภงั้นรึ? เจ้าพึ่งจะ… ที่จริงก็เรียกว่ายังหนุ่มไม่ค่อยได้ แต่ตามมุมมองข้า ไม่ว่าใครก็ยังเด็กหมดแหละน้อ! ยังหนุ่มยังแน่นก็ควรมีความฝันไม่ใช่รึไงน้อ?
อัล: ถ้าเป็นเรื่องความฝันล่ะก็ มันเป็นจริงขึ้นมาแล้วนี่ไง
อัลเอ่ยพลางยื่นมือไปลูบหัวอาราเคียที่ยืนอยู่ข้างๆ ตัวเขา เด็กสาวสับสนเล็กน้อยแต่ก็ปล่อยให้อัลลูบเส้นผมสีเงินที่เปรอะเปื้อนของเธอ
อัล: ความฝันของชั้นคือการได้ปกป้องสาวสวยผมเงิน ――นั่นคือสิ่งที่ชั้นจะทำไปชั่วชีวิต
โอลบาร์ต: นี่เจ้าคิดกับยัยหนูแบบนั้นเรอะ? ข้าหวงอาราเคียอยู่น้อ ความฝันแบบนั้นคงยอมไม่ได้หรอก!
อัล: ชั้นห่วงใยเธอ แต่ไม่ได้รักใคร่แบบชายหญิง ผมเงินน่ะคือที่สุด
. โอลบาร์ตบอกว่าวีรกรรมของอัลสมควรได้รับรางวัลตอบแทน หากเจ้าตัวต้องการ รางวัลที่ว่าสามารถขอเป็นการออกจากเกาะกินุนไฮฟ์ได้ด้วยเช่นกัน
อัล: ชั้นไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ไม่คิดจะออกจากเกาะนี้ด้วย แต่ถ้าให้เลือกล่ะก็ ขอให้ที่นี่ยังมีอยู่ต่อไปก็แล้วกัน
โอลบาร์ต: เรื่องนั้นอย่าได้ห่วงไปน้อ จักรวรรดิมีพวกวายร้ายอีกเยอะแยะ เหตุการณ์ครั้งนี้ยิ่งทำให้เราจับอาชญากรได้อีกเพียบ อีกไม่นานก็เติมจำนวนทาสดาบของที่นี่ได้แล้ว คั่ก คั่ก คั่ก คั่ก!
โอลบาร์ตหัวเราะลั่นก่อนจะเริ่มเดินจากไป อาราเคียเองก็เดินตามชายแก่ไป แต่เธอหันหน้ากลับมาหาอัลเป็นครั้งสุดท้ายก่อน
อาราเคีย: ขอบใจนะ
อัล: ยู อาร์ เวลคัม (You’re welcome)
อาราเคีย: …พูดอะไรไม่เห็นเข้าใจเลย
อัล: การตอบรับแบบนั้นแหละ ให้ร้อยคะแนนเต็มเลย อา ขนลุกซู่ซ่านไปหมด… ขอให้มีชีวิตยืนยาวล่ะ คุณหนู
. ในที่สุดการปฏิวัติบนเกาะทาสดาบก็สิ้นสุดลง ผู้คนที่อัลรู้จักรวมถึงฮอร์เน็ตล้มหายตายจากไปหมด
แต่เขาได้ยินข่าวลือว่าอูบิรูคหายตัวไปแบบไร้ร่องรอย ทั้งที่แผนสังหารจักรพรรดิก็ไม่สำเร็จ
อัลเลือกที่จะเชื่อว่าป่านนี้อูบิรูคคงกลายเป็นอาหารปลาไปแล้ว นั่นคงเป็นชะตากรรมที่เหมาะสมต่อคนโง่เขลาที่คิดจะเปลี่ยนชะตากรรมของผู้อื่น
แต่พอมาคิดดูดีๆ แล้ว อัลเองก็พึ่งเปลี่ยนชะตากรรมของอาราเคียด้วยการช่วยชีวิตเธอไว้เช่นกัน
ในเมื่อเด็กสาวได้มีชีวิตอยู่ต่อไป หลังจากนี้เธออาจจะมีครอบครัว มีลูกหลาน กลายเป็นหนึ่งในร่องรอยที่อัลเหลือทิ้งไว้บนโลกนี้
อัล: ถ้าพูดจาแบบนั้น มีหวังได้โดนคุณครูด่าแหง
อัลพึมพำเรื่อยเปื่อยและเริ่มเดินกลับเข้ายังเกาะทาสดาบ สถานที่ที่เป็นเหมือนบ้านสำหรับแกะดำที่ไร้คนต้องการอย่างอัล
ตอนนั้นเองที่อัลนึกถึงเด็กสาวที่ใช้อุปกรณ์สื่อสารประกาศไปทั่วเกาะขึ้นมาได้ เธอเรียกทาสดาบทุกคนว่า “ทหารไร้หัว” เพื่อเตือนสติให้พวกเขาเอาศีรษะตัวเองคืนมา
อัล: อำมหิตชะมัดเลยนะ ยัยนั่น
อัลหวังอยู่ลึกๆ ในใจว่าทั้งชีวิตนี้ขอให้ตัวเขาอย่าได้พบเจอเจ้าของเสียงแสนเย่อหยิ่งคนนั้นเลย
. ณ ห้องรับแขกของตระกูลเพนดัลตัน เด็กสาวผู้เย่อหยิ่งได้ออกหน้าเป็นคนรับแขกแทนสามีที่ยังคงตื่นกลัวไม่หายจากประสบการณ์บนเกาะ
ดูเหมือนว่าจะเกิดการจราจลขึ้นไปทั่วจักรวรรดิอย่างที่พริสซิลล่าคาดการณ์ไว้ แต่สุดท้ายองค์จักรพรรดิก็ยังปลอดภัยดี แถมอูบิรูคก็หายวับไป
พริสซิลล่า: พึ่งขึ้นครองบัลลังก์แท้ๆ แต่ดูเหมือนว่าองค์จักรพรรดิจะสบายใจได้พักหนึ่งล่ะนะ ข้าพเจ้าจะคอยจับตาดูไว้ว่าเขาจะรับมือภาระงานที่หาเรื่องใส่ตัวเองได้ดีแค่ไหน
เซรีน่า: เธอนี่พูดจาแบบนั้นกับกระทั่งองค์จักรพรรดิเลยสินะ แปลกคนเหลือเกินนะ คุณภรรยายังสาว อีกอย่าง…
พริสซิลล่า: มีอะไรหรือ?
เซรีน่า: ไม่มีอะไร แค่เกรงว่าฉันจะติดหนี้เธอ เพราะดันทำให้เธอตกอยู่ในอันตราย
เซรีน่า ดราคอย ไม่ชอบการติดหนี้บุญคุณผู้อื่น เธอจึงอยากตอบแทนพริสซิลล่าโดยเร็วที่สุด แต่ดูเหมือนว่าหนี้บุญคุณนั้นจะต้องติดค้างกันไปสักพักก่อน
เซรีน่าอดคิดไม่ได้ว่าที่พริสซิลล่าลงทุนสวมบทเป็นตัวเธอแบบนี้ก็เพื่อสร้างหนี้บุญคุณที่จะได้ขอค่าตอบแทนตั้งแต่แรก แต่ฝ่ายพริสซิลล่าคงไม่คิดจะยืนยันเรื่องนั้น
พริสซิลล่า: สักวันหนึ่ง ข้าพเจ้าจะเรียกร้องค่าตอบแทนจากเจ้าเอง ระหว่างนี้ก็จงตั้งตาคอยไปก่อนว่าข้าพเจ้าจะขออะไร
เซรีน่า: หึ ท่าทางว่าฉันจะสร้างหนี้ก่อนใหญ่ไว้เสียแล้วสิ
. ผู้คุม: เอ้านี่ อัลเดบารัน เอาไปซะ
อัล: บอกไปแล้วนี่ว่าอย่าเรียกชั้นแบบนั้น
ทหารยามหน้าบูดบึ้งคนใหม่ปลดกุญแจมือและมอบดาบมังกรฟ้าให้แก่อัล นั่นเป็นธรรมเนียมที่คล้ายเดิมแต่คนที่เป็นขาประจำดันไม่อยู่เสียแล้ว
ทุกวันนี้อัลก็ยังคงคิดถึงออร์ลันอยู่ ไม่แน่ว่าที่เขายอมสู้กับฮอร์เน็ตส่วนหนึ่งก็เพื่อแก้แค้นให้ออร์ลันด้วย
แต่กระนั้น โลกก็ยังคงดำเนินต่อไป ทั้งการปฏิวัติ ทั้งการปลุกระดมของอูบิรูค ทั้งความปรารถนาของทาสดาบ ทั้งความตายของออร์ลัน สุดท้ายก็คงเลือนหายไปตามกาลเวลาหมด
คู่ต่อสู้ของอัลที่ปรากฏตัวออกมาจากฝั่งตรงข้ามของสนามประลองเป็นคนที่เขาคุ้นเคยดี
อัล: กาจีทเรอะ? แกเองก็รอดมาได้สินะ? นึกว่าม่องเท่งไปแล้ว
กาจีท: เออ นึกว่าเอ็งตายแล้วเหมือนกัน แต่ข้ารู้ดีว่าตัวเองรอดมาได้ยังไง นี่มันเคราะห์กรรมหรือไงกันวะ? บางทีนั่นอาจจะเป็นสัญญาณว่าเราสักคนจะได้ตายวันนี้
ทาสดาบผู้ใช้กระบี่ กาจีท เป็นหนึ่งในคนแรกๆ ที่เข้าร่วมการปฏิวัติ แต่เขาคงทำอะไรสักอย่างจนได้รับการอภัยโทษจนรอดตายมาได้
อัล: งั้นก็มาเจอกันสักตั้ง อย่าแค้นเคืองกันล่ะเว้ย กาจีท
กาจีท: เออสิวะ พวกเราเป็นทาสดาบจนวันตาย กระทั่งฮอร์เน็ตยังชะตาขาดได้ สักวันพวกเราก็คงเหมือนกัน
สักวันหนึ่งทุกคนต้องตาย ความตายเป็นสิ่งที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ ยกเว้นอัลผู้เดียว
อัล: อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้
เมื่อฆ้องสัญญาณเริ่มการประลองถูกตีดังสะนั่น เสียงเชียร์ของผู้ชมก็ดังกระหึ่มสนาม
กาจีทเตรียมเล็งกระบี่เชือดคออัล ส่วนอัลเองก็เตรียมฟันคอเขาด้วยดาบมังกรฟ้าเช่นกัน
อัล: ――ดาวมันแย่ว่ะ
จบบท “หมาป่าดาบสีเพลิง”
. (อ่านต่อได้ในบท “การจากลาสีเลือด”)