re zero EX5 แปลไทย

นิยายสปินออฟ EX5 บท "แสงสายัณห์สีชาด" พาร์ท 4: พิธีกรรมคัดเลือกจักรพรรดิ

. หากเทียบในบรรดา 4 ประเทศมหาอำนาจด้วยกัน จักรวรรดิเทวาวอลลาเคียถือเป็นประเทศที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุด กินพื้นที่ส่วนใหญ่ทางทิศใต้ของแผนที่โลก

วอลลาเคียมีทั้งสภาพอากาศที่อบอุ่นกำลังดีและแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ ผู้คนจึงช่วงชิงทรัพยากรกันอยู่เรื่อยมา

สุดท้ายการแข่งขันช่วงชิงก็หล่อหลอมวิถีแห่ง “ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่อยู่รอด” จนกลายเป็นคติที่ฝังรากลึกลงในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศ

องค์จักรพรรดิและเหล่าเชื้อพระวงศ์ที่เป็นตัวแทนของประเทศเองก็ต้องยึดถือคตินี้เช่นกัน

. พริสก้า: ขอยอมรับว่าการได้เห็นพี่น้องทุกคนมารวมกันในที่เดียวนี่ช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจ

วินเซนต์: ข้าเห็นด้วย

จักรพรรดิรุ่นที่ 76 “ไดรเซ็น วอลลาเคีย” มีบุตรชายและหญิงรวมกันจำนวน 67 คน

ซึ่งนั่นถือเป็นจำนวนที่น้อยมาก หากเทียบกับจักรพรรดิรุ่นก่อนๆ ที่มีลูกหลานเกินหลักร้อยเป็นอย่างต่ำ

และในวันนี้ เหล่าลูกๆ ผู้สืบสายเลือดของไดรเซ็นที่ยังเหลือรอดอยู่ จำนวน 32 คน ก็ได้มารวมตัวกันที่โรงเรือนแห่งหนึ่งในนครหลวงจักรพรรดิ

ในบรรดาพี่น้องที่มารวมตัวกันนี้ พริสก้าไม่เคยเจอหน้าพี่น้องต่างมารดาบางคนด้วยซ้ำ

. เด็กสาว: โฮ่ ก็นึกว่าใคร นั่นพริสก้านี่นา แถมยังหน้าบูดบึ้งอยู่ด้วย

พริสก้า: …

เด็กสาว: ตายจริง ไม่เจอหน้ากันตั้งนาน ไม่คิดจะทักทายหน่อยเหรอ? พี่สาวคนนี้เศร้าใจแย่เลย

เด็กสาวที่เข้ามาทักมีเส้นผมสีส้มเช่นเดียวกับพริสก้า แต่เธอคนนี้แก่กว่าพริสก้า 4-5 ปี แถมยังมีเรือนร่างเว้าโค้งสมหญิง

พริสก้า: ไปให้พ้น ลาเมีย น้ำเสียงเนิบนาบของเจ้ามันฟังแล้วอยากสำรอก น่าขนลุกยิ่งกว่ามีดอาบยาพิษเสียอีก

ลาเมีย: เย็นชา หยาบคาย ปากเสีย ท่านพี่วินเซนต์เห็นดีอะไรในตัวนางกันนะ? ช่วยบอกข้าทีได้ไหม ท่านพี่?

วินเซนต์: ข้าชอบความใจเด็ดของนาง

นามของเด็กสาวคือ “ลาเมีย ก็อดวิน” พี่สาวต่างมารดาของพริสก้า ทั้งคู่รู้จักกันมานาน ทว่า มันไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบพี่น้องที่รักใคร่กันดี

ลาเมียจิกกัดพริสก้าเรื่องที่เธอถูกลอบสังหารในคฤหาสน์ของตัวเองแบบไม่ปิดบังความประสงค์ร้าย ราวกับมั่นใจว่าไม่มีหลักฐานที่จะสาวกลับมาถึงตัวเธอได้

. หลังจากนั้นไม่นาน จักรพรรดิ “ไดรเซ็น วอลลาเคีย” ก็เสด็จมาถึงห้องโถงที่พวกพริสก้ารวมตัวกันอยู่

ไดรเซ็นเป็นชายชราร่างผอม ผิวซีดเหมือนคนป่วยใกล้ตาย แต่ดวงตาสีชาดของเขายังคงลุกโชน เปี่ยมล้นด้วยพลังชีวิต

เสียงคุยจ้อแจ้ก่อนหน้านี้เงียบหยุดไปทันที เหล่าทายาทส่วนใหญ่พากันคุกเข่าต่อหน้าพระบิดาที่ก้าวย่างไปยังบัลลังก์ด้านในสุด

ไดรเซ็น: อยากพูดอยู่หรอกว่าน่ายินดีที่พวกเจ้ามากันได้ทุกคน …แต่ดูเหมือนว่าจะมีบางคนไม่คุกเข่าต่อหน้าข้าผู้นี้นะ

มีแกะดำส่วนน้อยไม่ถึงสิบคนที่ไม่ยอมคุกเข่าต่อหน้าองค์จักรพรรดิ ซึ่งในจำนวนนั้นก็มี พริสก้า วินเซนต์และลาเมีย รวมอยู่ด้วย

พี่ชายคนโต: นี่พวกเจ้าทำบ้าอะไรกันอยู่? นี่มันต่อหน้าท่านพ่อ ――ต่อหน้าองค์จักรพรรดิเลยนะ เจ้าพวกจอมโอหัง!

พริสก้า: โอหังงั้นหรือ? น่าขันสิ้นดี หากเจ้าเป็นเชื้อพระวงศ์ตระกูลวอลลาเคียเช่นเดียวกับข้าพเจ้า มันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าฝ่ายใดถูกและฝ่ายใดเป็นคนเขลาไร้สมอง

พี่ชายคนโต: หวา!? พริสก้า เจ้าคนปากดี… กล้าดียังไงถึงพูดจากับพี่ชายเช่นนั้น!

ไดรเซ็น: หยุดเสียเถอะ

พี่ชายคนโต: อึก… ตะ…แต่ว่า ท่านพ่อครับ!

ไดรเซ็น: ข้าผู้นี้มิได้ตำหนิที่นางไม่ยอมคุกเข่า แต่เห็นพ้องด้วยซ้ำ

ไดรเซ็นเอ่ยขัดการมีปากเสียงระหว่างพี่น้อง แต่แทนที่จะสนับสนุนฝั่งพี่ชายที่แก่กว่าพริสก้าถึง 20 ปี เขากลับเห็นดีด้วยกับกิริยาท่าทางไร้ความเคารพของพริสก้าแทน

. ไดรเซ็น: พริสก้าเอ๋ย เหตุใดเจ้าถึงมิยอมคุกเข่าให้ข้าผู้นี้?

พริสก้า: จำเป็นต้องเอ่ยออกมาด้วยหรือ? เพราะว่าท่านไม่ควรค่าแก่การคุกเข่ายังไงเล่า ท่านแก่ชรายิ่งนัก ท่านพ่อ ท่านไม่เหมาะสมต่อตำแหน่งผู้ปกครองสูงสุดแห่งจักรวรรดิที่มีคติว่า “จงเป็นผู้แข็งแกร่ง” อีกต่อไปแล้ว

ไดรเซ็น: ฮ่าฮ่า!

แทนที่จะเดือดดาลเพราะถูกบุตรสาววัยแค่ประมาณสิบกว่าปีดูหมิ่น ไดรเซ็นกลับหัวเราะชอบใจ

เหล่าทายาทจำนวนไม่ถึงสิบคนที่ไม่ยอมคุกเข่านั้นเห็นพ้องกับพริสก้าว่าจักรพรรดิไดรเซ็นมิควรค่าต่อการคุกเข่าอีกต่อไปแล้ว

ไดรเซ็น: เช่นนี่สิถึงจะคู่ควรแก่การเป็นเชื้อพระวงศ์ตระกูลวอลลาเคีย ต้องเช่นนี้แหละถึงจะคู่ควรต่อการเป็นบุตรของข้าผู้นี้!

พี่ชายคนโต: ท่านพ่อ!

ไดรเซ็น: รอมเมล เมื่อครู่เจ้าพูดว่าโอหังงั้นหรือ? เจ้านั่นแหละที่โอหัง! …รอมเมลเอ๋ย เจ้าอยากลองดูไหมเล่า?

ว่าแล้วจักรพรรดิไดรเซ็นจึงกวักมือไปยังความว่างเปล่าตรงหน้า แล้วทันใดนั้นมิติก็เกิดบิดเบือนและมีด้ามดาบที่ตกแต่งอย่างงดงามปรากฏออกมา

เพียงแค่ส่วนปลอกดาบที่โผล่มาให้เห็นนิดเดียวก็ทำให้ดวงตาของรอมเมลเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้นแล้ว

ไดรเซ็น: ดาบแสงตะวัน “วอลลาเคีย”

รอมเมล: ดาบที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่นในเชื้อพระวงศ์วอลลาเคีย… ภาระรับผิดชอบใหญ่หลวงเช่นนี้ช่างเป็นเกียรติยิ่งนัก ฝ่าบาท…

รอมเมลน้อมรับคำเชื้อเชิญของบิดาและย่างก้าวเข้าไปหา เขาเตรียมใจให้พร้อมแล้วยื่นมือออกไปหาด้ามดาบที่ลอยเคว้งอยู่กลางอากาศ

. ดาบแสงตะวันที่มีชื่อเรียกว่า “วอลลาเคีย” ตามชื่อจักรวรรดินั้น มีอยู่มาตั้งแต่ยุคก่อตั้งประเทศแล้ว มันคืออาวุธในตำนานที่กระทั่งพริสก้าก็พึ่งได้ยลโฉมเป็นครั้งแรก

ว่ากันว่า มีเพียงองค์จักรพรรดิแห่งวอลลาเคียเท่านั้นที่สามารถใช้งานดาบแสงตะวันได้ เหตุผลก็คือ…

รอมเมล: เอ๋?

ในพริบตาที่รอมเมลสัมผัสปลอกดาบ ร่างกายของเขาก็ถูกเปลวเพลิงแผดเผาเป็นเถ้าถ่าน ตายไปโดยไม่ทันที่จะได้ส่งเสียงร้องใดๆ

เหล่าเชื้อพระวงศ์ส่วนใหญ่เริ่มกรีดร้องหวาดผวาต่อภาพสยองตรงหน้า บ้างก็คลื่นไส้ต่อกลิ่นเนื้อมนุษย์ถูกย่างสดจนอยากอาเจียน

ลาเมีย: อี๋ เหม็นชะมัด

วินเซนต์: มีเพียงองค์จักรพรรดิเท่านั้นที่สามารถสัมผัสมันได้ กระจ่างชัดเลยล่ะ

มีเชื้อพระวงศ์จำนวนเพียงหยิบมือที่ยอมรับสถานการณ์ได้แบบไม่สะทกสะท้าน พริสก้าเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

. ทายาทจักรพรรดิ: ท่านพ่อ! นี่มันหมายความว่าไง――!

ไดรเซ็น: เงียบซะ

ชายชรากวาดสายตาไปยังบุตรแต่ละคน จากนั้นมิติเบื้องหน้าเหล่าเชื้อพระวงศ์ก็เกิดบิดเบือนและมีด้ามดาบสีแดงปรากฏออกมา

รวมทั้งหมดเป็นด้ามดาบจำนวน 31 เล่ม เท่ากับจำนวนทายาทที่เหลืออยู่

ไดรเซ็น: พิธีกรรมคัดเลือกจักรพรรดิจะเริ่มขึ้น ณ บัดนี้

ทันทีที่เขาเอ่ยจบ ไดรเซ็นก็ยื่นมือไปสัมผัสด้ามดาบแสงตะวันที่ลอยเคว้งอยู่เบื้องหน้าเขา

ไดรเซ็น: ดาบแสงตะวันจะเลือกผู้เป็นนาย เงื่อนไขแรกในการร่วมท้าชิงบัลลังก์จักรพรรดิคือการถูกยอมรับจากดาบแสงตะวันก่อน

ร่างของจักรพรรดิชราที่หมดสิ้นคุณสมบัติลุกเป็นเพลิงโดยทันที แต่คราวนี้ไม่มีเชื้อพระวงศ์คนใดกล้าส่งเสียงร้องขัดอีกต่อไป

ไดรเซ็น: ――ชะตากรรมของพวกเจ้าคือดาบที่อยู่เบื้องหน้า เอาล่ะ! จงหยิบมันขึ้นมาเสียสิ สิ่งนี้แหละคือโชคชะตาที่พวกเจ้าไม่มีวันหลีกหนีได้

นั่นคือคำพูดสุดท้ายก่อนที่อดีตจักรพรรดิ “ไดรเซ็น วอลลาเคีย” จะถูกเผาจนมอดไหม้

ดาบแสงตะวันหมดธุระกับจักรพรรดองค์เก่าและต้องการแสวงหาจักรพรรดิองค์ใหม่จากเหล่าทายาท นี่แหละคือพิธีกรรมคัดเลือกจักรพรรดิที่ดำเนินมาหลายยุคสมัย

วินเซนต์: พริสก้า

ท่ามกลางความเงียบงันของพี่น้องคนอื่น วินเซนต์เอ่ยทักน้องสาวขึ้นมา สองพี่น้องจ้องตากันสักครู่เพื่อแลกเปลี่ยนความเข้าใจโดยไม่ต้องเอ่ยคำใดออกมา

จากนั้นพริสก้าก็ยื่นมือออกไปสัมผัสด้ามดาบตรงหน้าโดยไม่ลังเล

พริสก้า: โลกใบนี้ถูกสรรค์สร้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ข้าพเจ้า

――ดาบแสงตะวันยอมให้พริสก้า เบเนดิคต์ ชักมันออกมา

พิธีกรรมนองเลือดระหว่างพี่น้องซึ่งเป็นศึกตัดสินเพื่อคัดเลือกจักรพรรดิรุ่นที่ 77 แห่งจักรวรรดิวอลลาเคียได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

. (อ่านต่อได้ในพาร์ทหน้า)