
รูทตะกละพาร์ท 9 : แกเป็นใคร
ออตโต้: อ่อก…แค่ก…!
การ์ฟีล: เฮียออตโต้เป็นอะไรหรือเปล่าครับ!? คายน้ำออกมา! คายออกมาให้หมดเลย!
การ์ฟีลพยามช่วยจับออตโต้กลับหัวกลับหางให้เขาสำลักน้ำที่ล้นปอดออกมา ถึงจะพ้นขีดอันตรายมาได้แต่ร่างกายและจิตใจของออตโต้ก็สั่นเทา
การ์ฟีล: แม่งเอ๊ย! นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นวะเนี่ย…!?
ออตโต้: …ประตูกั้นน้ำของเมืองน่าจะถูกเปิดออก เพราะงั้นทั้งเมืองก็เลยจมอยู่ใต้น้ำครับ ที่พวกเราอุตส่าห์ต่อสู้แบบไม่คิดชีวิตเพื่อขับไล่พวกลัทธิบูชาแม่มดไป ทุกอย่างมันสูญเปล่าหมดเลย
. ออตโต้โชคดีที่ได้การ์ฟีลช่วยแบกขึ้นหลังหนีมาได้ แต่คงมีเพียงไม่กี่คนในเมืองที่สามารถหนีรอดมาได้ด้วยวิธีเดียวกันนี้
ทั้งสองยืนมองภาพของเมืองที่จมอยู่ใต้น้ำจากบนหลังคาสูง สถานการณ์สิ้นหวังจนเขี้ยวของการ์ฟีลสั่นเทา ดวงตาสีเขียวที่เศร้าโศกของผู้เป็นเหมือนน้องชายนั้นทำให้ออตโต้สลดใจ
การ์ฟีล: ทุกอย่างจมอยู่ใต้น้ำหมดเลย…
ออตโต้สัมผัสได้ว่าการ์ฟีลคงได้พบใครบางคนที่สำคัญต่อเขาในเมืองพริสเทล่าแห่งนี้ แต่น้ำท่วมใหญ่ตรงหน้ามันก็พรากสายสัมพันธ์ที่ว่าของการ์ฟีลไปเสียแล้ว
. ออตโต้: …เปล่าเลย ไม่ใช่แค่นั้นหรอก
ถึงจะกังวลถึงสภาพจิตใจของการ์ฟีลที่ยืนอึ้งจนตาเบิกกว้าง แต่ออตโต้ก็ต้องคิดถึงคนอื่นๆเช่นกัน ทั้งเอคิดน่าที่เอาข่าวกลับมาแจ้งและผู้เกี่ยวข้องกับการคัดสรรกษัตริย์คนอื่นที่มารวมตัวกันเพื่อฟังรายงาน
ออตโต้: จะขอพูดอะไรโหดร้ายหน่อยนะ การ์ฟีล ช่วยลุกขึ้นมาด้วย พวกเราจะต้องรับมือกับสถานการณ์นี้เหมือนกับคราวก่อนที่ลัทธิบูชาแม่มดบุกมา
การ์ฟีล: ฮะ…เฮียออตโต้ครับ…แต่ว่า…
ออตโต้: ถ้าเวลาแบบนี้พวกเรายังเอาแต่นั่งบื้ออยู่เฉยๆ คิดว่าอะไรมันจะดีขึ้นเหรอไง!? ตอนนี้ทั้งคุณนัตสึกิและท่านเอมิเลียก็ไม่อยู่ทั้งคู่แล้ว! ช่วยลุกขึ้นมาทีเถอะ การ์ฟีล! พวกเราเหลือกันอยู่แค่สองคนนี่แหละ!
การ์ฟีล: …
ออตโต้คว้าคอเสื้อของน้องชายผู้มีสีหน้าอ่อนปวกเปียก
ถึงจะใจร้ายไปหน่อยที่ระเบิดอารมณ์ใส่ แต่เขาก็ต้องทำให้หัวใจที่ท้อถอยของการ์ฟีลกลับมาลุกโชนเพื่อลุกขึ้นสู้กับสถานการณ์ปัจจุบัน
. ออตโต้: เราต้องค้นหาผู้รอดชีวิต แล้วไปรวมตัวกับผู้ท้าชิงบัลลังก์กับพวกอัศวินที่ยังเหลือรอดอยู่ ถ้าหากการโจมตีเมืองนี้เป็นฝีมือของคนที่ประสงค์ร้าย เราก็ต้องรวบรวมกำลังพลมาสู้กลับ…
การ์ฟีล: ――เฮ้ย! เฮียออตโต้!
ออตโต้: ――!?
ระหว่างที่ออตโต้กำลังกล่าวโน้มน้าว การ์ฟีลก็คำรามและผลักอกของเขาจนหงายหลังล้มไป ชั่ววินาทีนั้นเองกระสุนแสงก็พุ่งมาเฉียดหน้าอกของออตโต้ด้วยความเร็วสูงกว่าที่ตาจะมองเห็น
ออตโต้: อ้ากกกกก!
ออตโต้ไร้บาดแผลก็จริง แต่ชั่วขณะที่กระสุนแสงพุ่งเฉียด หน้าอกของเขาก็ถูกความร้อนสูงเผาไหม้จนเนื้อถูกย่างไหม้เกรียม
. การ์ฟีล: โอ้วววววว!!
กระสุนแสงแห่งความตายอีกหลายนัดที่พุ่งตามมาด้วยความเร็วสูงถูกการ์ฟีลที่คำรามอย่างเดือดดาลปัดทิ้งด้วยโล่สีเงินที่แขน
การดวลระหว่างการ์ฟีลกับกระสุนแสงรวดเร็วจนตาของออตโต้ตามไม่ทัน
ออตโต้: โจมตีมาจากไหนกัน…
ออตโต้ทนความเจ็บแล้วกวาดตามองไปรอบๆเพื่อหาจุดกำเนิดของกระสุนแสง ศัตรูที่เปิดประตูกั้นน้ำและโจมตีพวกเขาคงจะเป็นลัทธิบูชาแม่มดหรือไม่ก็…
ออตโต้: ――เฮ้ย จากที่ไกลๆขนาดนั้นเนี่ยนะ!?
จากที่หอคอยประตูกั้นน้ำที่อยู่อีกฟากหนึ่งของเมือง ศัตรูสามารถยิงโจมตีมาถึงหลังคาที่ออตโต้กับการ์ฟีลยืนอยู่ได้
พริบตาที่เห็นแสงวูบวาบอยู่สุดขอบระยะสายตา กระสุนแสงก็พุ่งมาถึงตัวทันที แต่การ์ฟีลก็ยังปัดป้องมันไว้ได้
. การ์ฟีล: จากนี้ไปมันจะยิ่งเลวร้ายขึ้นอีก! พี่ออตโต้ไปหาที่ซ่อนก่อนเถอะ! ข้าคนนี้จะกระทืบไอ้เวรนี่ให้เละเลย!
ออตโต้: การ์ฟีล! เข้าไปใกล้น่ะมันจะดีจริงเหรอครับ!?
กระทั่งความเร็วของกระสุนจากระยะห่างที่ไกลขนาดนั้นการ์ฟีลยังแทบปัดป้องไว้ไม่อยู่ ถ้าหากเข้าใกล้กว่านี้ก็ยิ่งมีเวลารับมือกระสุนแต่ละนัดน้อยลง ความแตกต่างแค่นิดเดียวนั้นส่งผลถึงตายได้ในการต่อสู้ความเร็วสูง
การ์ฟีล: ยังไงมันก็ไม่เหลือทางอื่นแล้วนี่ฟะ! ไม่เหลือใครนอกจากพวกเราสองคนแล้วนี่! ใช่ไหมเล่า!?
ออตโต้: …ถูกของนายครับ การ์ฟีล!
การ์ฟีล: โอ้วววว!!
การ์ฟีลพุ่งตัวออกไปโดยใช้หลังคาของอาคารที่เกือบจมเป็นพื้นเหยียบ เขามุ่งหน้าไปสู่หอคอยที่มีกระสุนแสงยิงออกมาอย่างแน่วแน่
. การ์ฟีล: โอ้ โอ้ โอ้ววววว!!
ถึงจะรับการโจมตีนัดแล้วนัดเล่าไว้ได้โดยไม่เสียการทรงตัว แต่แรงปะทะของกระสุนแต่ละนัดก็สั่นสะเทือนไปถึงกระดูก
ศัตรูนั้นร้ายกาจ ทั้งเรื่องความแม่นยำและจำนวนมานาที่ทำให้รัวกระสุนได้ต่อเนื่องขนาดนี้ล้วนไม่ปกติ
การ์ฟีล: ถึงอย่างนั้นก็เถอะ…
ต่อให้รู้ว่าศัตรูเก่งและได้เปรียบเรื่องระยะห่างการ์ฟีลก็จะไม่ยอมแพ้ เรื่องที่อีกฝ่ายทำนั้นเกินกว่าจะให้อภัย
เขาสร้างโศกนาฏกรรมที่ทำให้เหยื่อมากมายต้องจมน้ำตายและพรากครอบครัวของการ์ฟีลไป
การ์ฟีล: ――กรอด!
การ์ฟีลกัดฟันเพื่อกำจัดความคิดวอกแวก แต่กระนั้นความเศร้าโศกและความโกรธแค้นก็ยังผสมปนเปกันอยู่ในหัวใจของเขา
การ์ฟีลเลยเลือกที่จะใช้โทสะสีดำมืดนี้เสริมพลังให้เขี้ยวและเล็บของเขาเพื่อกำจัดศัตรู
. สุบารุ: ――การ์ฟีล
ตอนนั้นเองเสียงเรียกชื่อก็ดังมาถึงกระโหลกของเขาท่ามกลางความวิโรธ
การ์ฟีล: ――หัวหน้าเหรอ?
นั่นคือเสียงของคนที่การ์ฟีลเฝ้าคอยให้กลับมาจนเขาไม่คิดจะเชื่อรายงานของเอคิดน่าด้วยซ้ำ เขาปฏิเสธความจริงนั้นเต็มที่เพราะสำหรับการ์ฟีลแล้วสุบารุไม่ใช่คนที่จะทำอะไรพลาด
เขาเชื่อมั่นว่าเสียงของนัตสึกิ สุบารุที่ได้ยินนั้นจะเป็นตัวช่วยฝ่าฟันทางตันนี้ออกไป เพราะงั้นการ์ฟีลถึงได้มองหาตัวตนนั้นท่ามกลางสถานการณ์แบบนี้
สุบารุ: ถึงนายจะไม่เคยแยกแยะสิ่งที่สำคัญที่สุดได้เลย ――แต่ดวงตาที่เฉียบแหลมนี่น่าจะสืบทอดกันมาในสายเลือดสินะ
ทันทีที่มองเห็นเด็กหนุ่มอยู่เบื้องล่าง การ์ฟีลก็ขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ ไม่ใช่เพราะเรื่องที่เขาพูด แต่เป็นรูปร่างหน้าตาถึงจะชวนคุ้นเคยแต่ก็ให้ความรู้สึกที่ต่างออกไป
การ์ฟีล: ――แกเป็นใครวะ?
. ถึงจมูกของเขาจะคุ้นเคยกับกลิ่นนี้ แต่สัญชาตญาณของเขามันตีกับประสาทสัมผัสเพื่อที่จะปฏิเสธตัวตนของบุคคลตรงหน้า
แต่ชั่ววินาทีที่เขาพลั้งเผลอไปจมอยู่ในความคิดนั้นก็กลายเป็นข้อผิดพลาดที่ถึงแก่ชีวิต
ชอล่า: ――ฮึ่ย ย่า~!
การ์ฟีล: อะ
หญิงสาวผมดำพุ่งตัวเข้ามาเตะ การ์ฟีลเลยต้องตั้งรับด้วยโล่สองข้างของเขา
แรงปะทะจากลูกถีบของเธอรุนแรงเหมือนถูกรถลากมังกรชน เธอคนนี้ไม่ใช่ศัตรูที่เขาจะมัวมาหันเหความสนใจไปสองที่พร้อมกันได้
ชอล่า: ฝีมือไม่เลวนะ แต่ว่าความรักต่อท่านอาจารย์ของเค้าน่ะเหนือกว่านั้นเป็น 100 เท่าเลยค่า
พอหญิงสาวฉีกยิ้มอย่างพึงพอใจและยื่นฝ่ามือออกมา การ์ฟีลก็ขนลุกทั่วร่างจนต้องหงายหลังเพื่อเอาหัวหลบทันที
“แผละ”
แต่แล้วกระสุนแสงก็เจาะทะลุหน้าท้องของการ์ฟีลจนเครื่องในไหลทะลักออกไปทางด้านหลัง