re zero IF-TSUGIHAGU แปลไทย

รูทตะกละพาร์ท 14 : ไถ่บาป

[ออตโต้: ป่านนี้คุณไรน์ฮาร์ตคงได้เจอเด็กที่ชื่ออามิวคนนั้นแล้วล่ะมั้งครับ]

สุบารุ: คนเดียวที่เหลือรอดจากหมู่บ้านไหม้ๆนั่นใช่ไหม? ถ้าเด็กอายุประมาณนั้นได้เห็นไรน์ฮาร์ตเธอก็คงจะโล่งใจจนไม่ยอมแยกห่างจากเขาแน่ๆ ――ทีนี้เขาก็จะไม่มีเวลามาไล่ตามเราแล้ว

[ออตโต้: เจ้าเล่ห์จริงนะ หรือควรเรียกว่าเหลี่ยมจัดดี… แต่เอาเถอะ ตัวผมก็ไม่สิทธิ์ไปว่าอยู่แล้ว]

[การ์ฟีล: นั่นสิเน้อ ในเวลาแบบนี้เนี่ยหัวหน้ากับเฮียออตโต้เข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ยไปเลย]

สุบารุ & [ออตโต้]: แหวะ~

[การ์ฟีล: โอ๊ะ พูดพร้อมกันเป๊ะเลย]

สุบารุที่กำลังเดินฝ่าพุ่มไม้ในป่าใหญ่พร้อมกิ่งไม้ในมือกับออตโต้ที่เดินอยู่ข้างๆกันต่างขมวดคิ้วทำหน้าเหยเกคล้ายๆกันทั้งคู่

ส่วนการ์ฟีลที่มองดูทั้งสองอยู่ก็ปรบมือและขบเขี้ยวหัวเราะชอบใจ

. [เอมิเลีย: หุหุ แต่ว่าดีจังเลยเนอะที่ในที่สุดพวกเราก็มาอยู่พร้อมหน้ากันสักที ที่มันมีชีวิตชีวาขึ้นมามากขนาดนี้…ก็ต้องขอบคุณความทุ่มเทของสุบารุเลยนะ]

สุบารุ: พอได้ยินแบบนั้นชั้นก็รู้สึกเหมือนว่าน้ำพักน้ำแรงที่เสียไปมันคุ้มค่าหมดเลยล่ะ ถ้าเธอรู้สึกว่าชั้นจัดการได้เรียบร้อยดีแล้ว ก็อยากให้เอมิเลียตันช่วยให้รางวัลแบบนั้นแบบนี้อยู่หรอกนะ…

[เอมิเลีย: ที่อยากได้อยู่หรอกนี่อะไรเหรอ?]

สุบารุ: …แบบว่า ในฐานะที่เป็นเด็กหนุ่มผู้ใสซื่อคนนึงแล้ว ชั้นคงจะปล่อยให้สัญชาตญาณความเป็นชายมาพูดแทนไม่ได้หรอก

เอมิเลียเอียงคออย่างไร้เดียงสา ส่วนสุบารุที่เกาแก้มและหันหน้าหนีด้วยความเขินอายก็หันไปเจอกับแรมที่จ้องเขาด้วยสายตารังเกียจแทน

[แรม: น่าขนลุกค่ะ]

สุบารุ: สกัดดาวรุ่งกันเฉย! ถ้ามองอย่างเป็นกลางชั้นก็ยังไม่ทันพูดอะไรเลยไม่ใช่เรอะ! จงเชิดชูจิตใจอันมั่นคงของชั้นที่ทนไม่พูดความปรารถนาที่น่าอายออกมาซะ!

[แรม: แรมเนี่ยนะ? เชิดชูบารุสุ? ขอยอมให้โลกทั้งใบพลิกกลับด้านยังจะดีซะกว่า]

สุบารุ: นี่เห็นค่ากันต่ำกว่ามหาภัยพิบัติอีกเรอะ!?

. แรมยักไหล่และเดินจากไปอย่างสง่าผ่าเผย ส่วนสุบารุก็ไหล่ตกด้วยความหดหู่จนมือเล็กๆ สองข้างต้องเข้ามากุมมือซ้ายกับมือขวาของเขาไว้อย่างอ่อนโยน

[เบียทริซ: ให้ตายสิ หม่นหมองจนเห็นชัดแต่ไกลเลยนะ ถ้าพาร์ทเนอร์ของเบตตี้ดันมาเป็นซะแบบนี้ ก็น่ากังวลถึงอนาคตข้างหน้าเสียจริงนะ]

[เพทร่า: ใช่ๆ ท่านพี่แรมเธอก็เป็นคนขวานผ่าซากแบบนี้มาตลอดไม่ใช่เรื่องใหม่ซะหน่อย เพราะงั้นฉันจะเป็นคนอ่อนโยนกับท่านสุบารุแทนเองนะคะ เด็กดีๆ]

สุบารุ: เฮ้ยๆไม่จริงน่า นี่คือการถูกแซนด์วิชโดยเด็กสาวงั้นเหรอ… แต่เพทร่าก็ไม่ได้ตัวจิ๋วขนาดนั้นแล้วล่ะนะ ไม่ไหวๆ กาลเวลานี่มันโหดร้ายจริงๆ พอเวลาผ่านไปก็คงเหลือแค่เบียโกะที่ยังเป็นเด็กน้อยอยู่คนเดียว…

[เบียทริซ: เด็กน้อยๆ อยู่นั่น หนวกหูย่ะ! หยาบคายต่อเลดี้ซะจริงนะ!!]

เพทร่ายืดอกพอใจที่เธอไม่ได้ถูกมองเป็นเด็กสาวอีกแล้ว ส่วนเบียทริซที่เป็นเด็กสาวโดยธรรมชาติเสมอก็กำลังโลเลใจอยู่

สุบารุ: รู้สึกว่าคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายในโลกนี้เขาก็อยากให้ลูกๆ หยุดโตตอนไทม์มิ่ง(ช่วงวัย)ที่น่ารักที่สุดกัน ถ้ามองแง่นั้นเธอนี่ก็เหมือนฝันที่เป็นจริงเลยล่ะ เบียโกะ

[เบียทริซ: งื้อ… พูดแบบนั้นจะบอกเป็นนัยว่าเบตตี้น่ารักที่สุดในโลกงั้นเหรอ?]

สุบารุ: ถ้าเป็นตำแหน่งน่ารักที่สุดในโลก ชั้นก็อยากจะรวมคนที่เข้าเค้ามาแข่งขันกันดูก่อนนะ แต่ถ้าตำแหน่งคนที่พริตตี้(Pretty)ที่สุดในโลกก็เป็นเธอแน่นอน ไว้ชั้นจะหาเหรียญรางวัลให้นะ

[เพทร่า: แล้วฉันล่ะคะ? นี่ๆ ท่านสุบารุ แล้วฉันล่ะคะ?]

สุบารุ: อื้ม เพทร่าน่ะคิ้วท์(Cute)ที่สุดในโลกเลย

[เพทร่า: ไชโย!]

. เพทร่ากุมมือเบียทริซและกระโดดโลดเต้นไปมาอย่างสนุกสนาน ทางเบียทริซที่อยู่ดีๆ โดนลากมาเต้นเองก็ดูจะไม่ได้อารมณ์บูดแต่อย่างใด

[รอสวาล: แหม~ แหม ท่าทางอารมณ์ดีน่าดูม่าย~ ใช่เหรอนั่น ถ้าไม่นับเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก อายุจริงของเธอก็ควรจะมากกว่าคนอื่นเขาหมดเลย แต่ก็ดูน่าร้าก~ ดีแหละนะ]

[เบียทริซ: แหวะย่ะ…]

ทั้งเบียทริซและเพทร่าต่างทำหน้าขัดเคืองต่อรอสวาลที่เดินเข้ามาด้วยท่าทางสำรวม ก็ไม่น่าแปลกหากคำนึงถึงสิ่งที่นายท่านคนนี้เคยทำต่อฝ่ายตัวเองมา

[เฟรเดริก้า: ท่านเบียทริซ เพทร่าด้วย อย่าแสดงสีหน้าไม่พอใจแบบนั้นสิคะ]

[รอสวาล: ใช่เลยๆ สมแล้วล่ะน้า~ เฟรเดริก้า จัดการบอกสองคนนั้นให้เรียบร้อย…]

[เฟรเดริก้า: ยิ่งทำสีหน้าแบบนั้นนายท่านเขาก็ยิ่งชอบใจนะ รู้ไหมคะเนี่ย? ก็นายท่านเขาเป็นคนประเภทนั้นนี่นา]

[รอสวาล: ขอถอนคำพูดละกาน~ นะ]

วาจาคมคายที่คมคายนั้นทำเอารอสวาลถึงกับเสียความเยือกเย็น ส่วนเพทร่ากับเบียทริซก็เชื่อฟังคำพูดเฟรเดริก้าแล้วตอบกลับว่า “ค่า~” กับ “เข้าใจแล้วย่ะ” ตามลำดับ

. สุบารุ: …เอาเหอะ ถึงจะรู้สึกวุ่นวายอยู่บ้าง แต่ความวุ่นวายนี้มันก็คือหนึ่งเพจ(หน้า)ในชีวิตประจำวันแหละนะ

[ยุลิอุส: ในหนึ่งเพจของชีวิตประจำวันนั่นคงไม่ได้ลืมนับฉันกับคุณหญิงเมลี่รวมไปด้วยใช่ไหม?]

สุบารุ: อื้ม…

ยุลิอุสที่เดินตามหลังฝ่ายเอมิเลียอยู่ทักขึ้นมา เขาปิดตาลงข้างหนึ่งแล้วใช้ดวงตาสีเหลืองข้างที่เหลือชำเลืองมาทางสุบารุ

[ยุลิอุส: ฉันรู้สึกภูมิใจนะที่คำแนะนำของตัวเองมีประโยชน์ตอนที่นายได้เผชิญหน้ากับไรน์ฮาร์ต]

สุบารุ: จะไม่บอกว่ามันไร้ประโยชน์หรอกนะ แต่การประเมินของนายมันก็อวยไรน์ฮาร์ตเป็นยอดชายในฝันเกินไปหน่อย ความน่าเชื่อถือนี่น่ากังขามาก เพลาๆ อาการคลั่งไคล้วีรชนลงหน่อย

[ยุลิอุส: เป็นคำตอบที่ฟังแล้วไม่อยากช่วยอะไรอย่างนี้ จากนี้ไปฉันลองเปลี่ยนท่าทีดูสักหน่อยดีไหมนะ?]

[อนาสตาเซีย: เดี๋ยวเถอะๆ พูดแบบนั้นไม่ดีนะ ยุลิอุส เขียนสัญญากู้ยืมให้นัตสึกิคุงเขาหน่อยดีไหมน้า ถึงจะไม่ใช่การทำสัญญาแต่ก็น่าจะพอถูไถได้อยู่]

ก่อนที่การโต้ตอบระหว่างสุบารุกับยุลิอุสจะกลายเป็นการถกเถียง อนาสตาเซียก็แทรกเข้ามาสงบศึก

. อนาสตาเซียผู้ได้รับท่าทีเสมือนแม่ค้ากลับคืนมาจ้องสุบารุด้วยดวงตาสีฟ้าอ่อนจนเขาถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย

[อนาสตาเซีย: นัตสึกิคุงยังไม่ได้ลืมไปใช่ไหม? ถ้าเราร่วมมือกันเป็นอย่างดี พอนัตสึกิคุงกลับเป็นเหมือนเดิมแล้ว…]

สุบารุ: ――อื้อ จำได้สิ ถ้าชั้นเอาตัว [นัตสึกิ สุบารุ] คืนมาได้และย้อนกลับไปตอนที่ทุกอย่างกลับเป็นปกติเรียบร้อยดีแล้ว พอถึงตอนนั้น…

สุบารหยุดคำพูดเล็กน้อยเพื่อสูดหายใจแล้วกล่าวต่อ

สุบารุ: ในที่สุดชั้นก็จะได้ใช้ไทม์มิ่ง(ช่วงเวลา)นั้นเพื่อไถ่บาปให้กับทุกคนที่ฆ่าไป