
รูทตะกละพาร์ท 4 : เพื่อเอาเขาคืนมา
สุบารุ: ――เฮือก เฮ่อ~
พอปล่อยมือจากหนังสือ สติของเขาก็กลับคืนมาสู่โลกแห่งความจริง เข่าทั้งสั่นและยังหายใจหอบ วิงเวียนเหมือนจะหน้าวูบทั้งๆที่นั่งอยู่
――เป็นความรู้สึกที่ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ไม่รู้สึกชินชาเสียที
สุบารุ: เฮ่อ…เฮ่อ…
เหงื่อท่วมหน้าผากจนต้องเช็ดออก หัวใจก็เต้นรัวอย่างโกลาหลราวกับว่าดวงวิญญาณและร่างกายไม่ลงรอยกัน
ยิ่งเปิดหนังสืออ่านมากเท่าไร [ตัวตน] ของเขาก็ยิ่งเลือนรางลง ตัวตนผสมเข้ากับคนอื่นจนถ้าเป็นคนที่มีสติดีทั่วไปคงจะเสียความเป็นตัวเองไปแล้ว
. ชอล่า: ท่านอาจารย์เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?
สุบารุ: อื้ม ไม่เป็นไร…ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่เจอเล่มต่อไปแล้วหรือยัง?
ชอล่า: คือว่า~ กำลังหาอยู่น่ะค่ะ มันหายากเหมือนการหาภาพเหมือนเลยนะค้า~ อะไรที่ต้องพึ่งแรงงานแบบนี้มันไม่เหมาะกับเค้าเลยง่ะ
ชอล่าไขว้นิ้วแสดงความผิดหวังต่อตัวเอง แต่แม้ว่ามนุษยธรรมในตัวเขาจะเลือนรางแทบไม่เหลือเพียงไหน สุบารุก็ไม่คิดจะตำหนิเด็กสาวที่ช่วยงานเขาฟรีๆทั้งๆที่เป็นงานที่ไม่เหมาะกับเธอ
. สุบารุ: ถึงจะรู้ว่าไม่เหมาะกับงานแต่ก็ต้องขอพึ่งเธอหน่อยนะ ชอล่า นอกจากเธอชั้นก็ไม่เหลือใครให้พึ่งพาอีกแล้ว
ชอล่า: ท่านอาจารย์จะขอพึ่งพาแค่เค้าคนเดียว… อยากให้พูดแบบนั้นน่ะค่ะ
สุบารุ: …ตอนนี้คนที่ชั้นจะขอพึ่งพาก็คือเธอคนเดียวนะ
ชอล่า: ฮุฮุ แบบนั้นฟังแล้วชื่นใจดีค่า
ชอล่ากลับเข้าไปในกองหนังสือด้วยความเบิกบานใจ การมีเธอไว้ช่วยกระทั่งเรื่องใช้แรงงานและการพึ่งสายตาแบบนี้จำเป็นต่อสุบารุระดับถึงชีวิตเลย
. สุบารุหยิบหนังสือเล่มที่อ่านไปเมื่อครู่ขึ้นมา นาม [เรกิน ซูเวน] ถูกเขียนไว้ที่สันและบนหน้าปก
สุบารุได้เรียนรู้ชีวิตของเด็กหนุ่มผู้โชคร้ายที่เคยมีประสบการณ์ได้พบเจอ [นัตสึกิ สุบารุ] คนนั้นราวกับได้สัมผัสด้วยตัวเอง แต่กระนั้นแล้ว…
สุบารุ: …ไม่ได้สนิทกันเท่าไหร่แฮะ ในมุมมองของเรกิน [นัตสึกิ สุบารุ] เป็นแค่คนที่มาเป็นเซ็ตกับพี่ชาย ท่าทางจะไม่ได้รู้จักกันดีมาก
สุบารุนึกถึงความทรงจำที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของเขาแล้วถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกผิดหวังที่คว้าน้ำเหลว แต่เรกินผู้เป็นเหยื่อต่างหากที่คงอยากถอนหายใจมากกว่า
[เรกิน: เดี๋ยวสิ ไม่ว่าจะมองยังไงมันก็ไม่ใช่แบบนั้นเลยนี่ครับ คุณนัตสึกิ]
สุบารุ: …โทษทีนะ ถึงจะดึงเอาความทรงจำของนายมาหมด แต่ความสัมพันธ์ของเราก็ยังเบาบางจนอัตราการสร้างใหม่ต่ำอยู่ดี แบบนี้คงจะไม่ค่อยมีโอกาสได้สนใจนายเท่าไหร่
. เรกินที่ยืนอยู่ข้างชั้นวางหนังสือส่งสายตาตำหนิมายังหนังสือที่มีชื่อของเจ้าตัวอยู่
ไม่ว่าเป็นใครก็คงจะอารมณ์เสียถ้าการตายของตนถูกมองว่าไร้ประโยชน์ สุบารุจึงกล่าวจากใจจริงว่า “ขอโทษที”
[เรกิน: เอาเถอะ ยังไงก็ต้องยอมรับว่าตายไปแล้วล่ะนะ อีกอย่าง ถ้าเป้าหมายของคุณนัตสึกิสำเร็จลุล่วง ทุกอย่างก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมใช่ไหมครับ? มาหวังให้เป็นไปตามนั้นกันเถอะ]
สุบารุ: โอ้ ช่างใจกว้างดุจมหาสมุทร ขอโทษด้วยที่เอาเปรียบความเอื้ออาทรของนาย แต่ก็ขอฝากด้วยนะ ไว้จะชดเชยหนี้บุญคุณนี้ให้เรียบร้อยตอนที่ทุกอย่างกลับคืนมาแล้ว
[เรกิน: ถ้างั้นแทนที่จะหวังก็มารอคอยเวลานั้นกันเถอะครับ]
เรกินยักไหล่และโบกมือให้สุบารุ จากนั้นร่างของเขาก็เลือนหายไปเหมือนหมอก
. สุบารุนำ [หนังสือคนตาย] ของเรกินไปเก็บไว้ที่ชั้นวาง จากนั้นก็หยิบกระดาษที่เต็มไปด้วยรายชื่อขึ้นมาแล้วใช้ปากกาขนนกขีดฆ่าชื่อของเรกินทิ้งไป
สุบารุ: …23 คนแล้วสินะ
เขานับจำนวนที่ขีดฆ่าแล้วเอียงคอให้กระดูกลั่น งานนี้ยังคงอีกยาวไกล แต่หอสมุด [ไทเกต้า] ก็ยังไม่เป็นมิตรเหมือนเคย
ขนาดว่าสุบารุมาใช้บริการบ่อยขนาดนี้ มันก็ยังไม่มีการเซอร์วิสลูกค้าอย่างระบบช่วยค้นหาหนังสือหรืออะไรแบบนั้นเลย
[เบียทริซ: ถึงห้องสมุดต้องห้ามของเบตตี้จะใหญ่เหมือนกัน แต่ก็เทียบกันกับที่นี่ไม่ได้เลยล่ะนะ ถึงนายจะหาจนหมดวันก็คงใครไม่มีใครบ่นหรอก สุบารุ]
[ยุลิอุส: ถูกต้องตามนั้นเลย การจะเจาะจงหาหนังสือเล่มใดเล่มหนึ่งในห้องสมุดที่กว้างขนาดนี้มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยนะ นั่งลงก่อนแล้วค่อยๆหาไปก็ได้ ถึงจะรีบหาแบบมั่วๆไปเดี๋ยวก็หมดแรงเอาเปล่าๆ]
. เบียทริซกับยุลิอุสที่เดินสำรวจห้องสมุดอยู่ให้คำแนะนำเขามา แต่สุบารุจำต้องส่ายหน้าให้ความเห็นใจของทั้งคู่
จริงอยู่ว่าการค่อยๆทุ่มเทเวลาจะทำให้เขาได้ผ่อนคลายลง ทว่า――
สุบารุ: ผ่อนคลายไปก็ใช้เวลาฟุ่มเฟือยเปล่าๆ ชั้นไม่มีเวลามาเอ้อระเหยแล้ว ต้องรีบหาคำตอบอย่างเร็วที่สุด…
[แรม: แล้วถ้าเกิดว่าหาคำตอบไม่ได้ล่ะ? ถึงบารุสุจะรีบขึ้นนิดหน่อย มันจะช่วยเปลี่ยนอะไรได้เหรอ?]
สุบารุ: เปลี่ยนสิ ――ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปหมดเลย
สุบารุกำหมัดแน่นและหันหนีสายตาเย็นชาของแรม เขาหันเหความสนใจไปหารายชื่อของชาวบ้านจากหมู่บ้านของเรกินที่เขียนไว้บนกระดาษ
หากอ้างอิงจากความทรงจำของเรกิน ความเป็นไปได้ที่หนังสือของคนพวกนี้จะมีความสำคัญต่อเขานั้นค่อนข้างต่ำ แต่โอกาสก็ไม่ใช่ศูนย์
[เอมิเลีย: หลังได้อ่านหนังสือของคนเหล่านี้หมดแล้ว สิ่งที่สุบารุอยากทำจะกลายเป็นจริงงั้นเหรอ?]
สุบารุ: เอมิเลียตัน…
. สายตาเป็นกังวลของเอมิเลียทำให้เขาลังเลไปครู่หนึ่ง แต่แล้วสุบารุก็พยักหน้าบอกเอมิเลียและย้ำตัวเองไปพร้อมกัน
สุบารุ: แน่นอนอยู่แล้วล่ะ ชั้นน่ะ…ตั้งแต่ที่ลืมทุกอย่างไปชั้นก็เอาแต่สร้างปัญหามากมายให้กับทุกคน นี่แหละคือวิธีเดียวที่จะทำให้ทุกอย่างกลับคืนมาดังเดิม
[เอมิเลีย: ไม่ต้องคิดเรื่องเอาทุกอย่างกลับมาก็ได้นะ…]
สุบารุ: ――แบบนั้นน่ะยังไม่ดีพอหรอก!
สุบารุที่โมโหจนเผลอขึ้นเสียงทำให้เอมิเลียมีสีหน้ามัวหมองไป เขาจ้องตาเอมิเลียที่ยังคงตกใจและกล่าวต่อ
สุบารุ: ขอร้องล่ะ อย่าพูดแบบนั้นเลยนะ ไม่ว่าจะยังไง ชั้นก็ต้องเอา [นัตสึกิ สุบารุ] กลับคืนมาให้ได้ หลังจากนั้นแล้ว…
[เอมิเลีย: …หลังจากนั้นแล้ว?]
สุบารุ: หลังจากนั้นก็จะได้เจอพวกเธอทุกคนอีกครั้งไงล่ะ… ได้พบกันและเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง
เขารู้ตัวสายไป พึ่งมารู้ตัวว่าทุกอย่างล้วนสำคัญก็ตอนที่เสียมันไปหมดแล้ว ทำไมคนเราถึงพึ่งมาเห็นความสำคัญตอนที่เสียอะไรไปและแก้ไขไม่ได้แล้ว?
เอมิเลีย: …
ดวงตาสีม่วงครามของเอมิเลียเต็มไปด้วยอารมณ์ซับซ้อนที่สุบารุไม่อาจเข้าใจ เธอจ้องมายังเขาด้วยสายตาอ่อนไหว
เธอคิดอะไรอยู่? เธอรู้สึกยังไง? เธอมองสุบารุคนปัจจุบันว่าเป็นยังไง? สุบารุรู้สึกเป็นกังวลที่เขาเข้าไม่ถึงหัวใจของเธอทั้งๆที่ควรจะได้รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเธอมาแล้ว
. ชอล่า: ――ท่านอาจารย์คะ! เจอหนังสือเล่มต่อไปแล้วค่า! ชมหน่อยสิคะๆ!
สุบารุ: อะ…อื้อ ทำได้ดีมาก เธอเก่งมากนะ ชอล่า
ชอล่า: อุเฮะๆๆๆ ค่า
การสนทนาระหว่างเขากับเอมิเลียจบลงเมื่อชอล่าโผล่มาแทรก เขาลูบหัวชอล่าจนเธอแสดงสีหน้าเคลิบเคลิ้ม ในมือของชอล่ามีหนังสือของบุคคลในรายชื่ออยู่
สุบารุ: …[นัตสึกิ สุบารุ] หลับไหลอยู่ในตัวของคุณมานานขนาดไหนกันนะ?
สุบารุรับหนังสือมาแล้วเอ่ยถามเช่นนั้น และคำตอบที่เขาต้องการก็อยู่ในหนังสือนั่นแหละ การเสียสละและการกระทำป่าเถื่อนทั้งหลายทั้งหมดก็เพื่อการนี้
สุบารุ: ขอแค่เป็นข้อมูลตามจุดประสงค์ต่อให้แตกยิบย่อยก็ไม่เป็นไร จะรวบรวมมันเข้าด้วยกันเพื่อทำให้ใกล้เคียงของสมบูรณ์เอง…
. การประเมินเกิดจากการตัดสินตามเกณฑ์วัดของแต่ละบุคคล ดังนั้นเขาจะรวบรวมการประเมินและเกณฑ์วัดของทุกคน เอาข้อมูลมาเทียบกันและประกอบเป็นคนๆนั้นขึ้นมาใหม่
“เพื่อเอาตัว [นัตสึกิ สุบารุ] กลับคืนมา”
นั่นแหละคือสิ่งที่สำคัญที่สุด มันคือเป้าหมายหลักในการเดินทางของเขา การเสียสละทั้งที่แล้วมาและในอนาคตนั้นล้วนจำเป็นต่อการเอาตัว [นัตสึกิ สุบารุ] กลับมา
――อย่างน้อยก็ขอเพียงแค่ได้ตัวเขาคืนมา
สุบารุ: …ถ้าเป็นนายก็คงจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยได้แน่นอน
ความทรงจำของเอมิเลีย เบียทริซ แรม เมลี่ ยุลิอุสและคนอื่นๆที่มีความเกี่ยวข้อง เขาต้องการรวบรวมความทรงจำแบบนั้นทั้งหมด
ก็เพราะว่าเขาต้องการพลังที่มีอยู่ในตัว [นัตสึกิ สุบารุ] เพียงเท่านั้น
สุบารุ: ――ช่วยชั้นทีนะ
ขอร้องล่ะ [นัตสึกิ สุบารุ] ถ้าหากว่านายเป็นวีรชนจริงล่ะก็…ช่วยชั้นทีนะ