re zero IF-PRIDE แปลไทย

รูทเย่อหยิ่งพาร์ท 12 : คนชั่ว

. เอลซ่าบอกลาสั้นๆแล้วกระโจนเข้าไปเต้นรำกับไรน์ฮาร์ดด้วยความว่องไวดุจสัตว์ป่า ศึกตัดสินระหว่างวีรบุรุษกับฆาตกรเริ่มต้นขึ้น

งานฉลองเลือดครั้งสุดท้ายของเอลซ่า แกรนฮิลเต้คงจะจบลงในไม่ช้า

สุบารุ: ――แม่งเอ๊ย!

สุบารุจะยังตายไม่ได้ เขาเลยละสายตาจากการต่อสู้และวิ่งลงเนินมา ท่ามกลางขุมนรกนี้เขาได้ยินทั้งเสียงการต่อสู้ เสียงอาคารพังทลาย เสียงกรีดร้องและร่ำไห้ของพ่อแม่และเด็ก เสียงของชายและหญิง

นี่คือขุมนรกที่สุบารุสร้างขึ้นเอง นรกที่มีไว้เพื่อทำลายภาพลักษณ์ของไรน์ฮาร์ดและเพื่อบรรลุจุดมุ่งหมาย ที่เหลือก็มีแค่――

สุบารุ: แกมัน…

กิลตี้เลาว์: ――กรร

ทันใดนั้นเองสัตว์ปีศาจก็คาบชายเสื้อแล้วเหวี่ยงเขาขึ้นไปไว้บนหลังแล้วเริ่มออกวิ่ง สุบารุรีบทรงตัวบนหลังสีดำของสัตว์หน้าตาเหมือนสิงโตดุร้ายตัวนั้นไว้

สุบารุ: แกมัน… แต่เมลี่ตายไปแล้วนี่…

หนึ่งในสัตว์มารของเมลี่ “กิลตี้เลาว์” แบกร่างสุบารุวิ่งฝ่าเมืองหลวงที่ลุกเป็นไฟ เขาไม่มีเจ้านายแล้วแท้ๆ ไม่จำเป็นต้องทำตามคำสั่ง ――แต่กระนั้นกิลตี้เลาว์ก็ยังเต็มใจพาสุบารุไปยังจุดหมาย

. สุบารุ: ช่วยหาเธอให้เจอทีนะ ต้องอยู่ที่ไหนสักแห่งนี่แหละ…

เขาเริ่มสวดภาวนา จิตใจของนัตสึกิ สุบารุสั่นเครือไปด้วยความรู้สึกที่เรียกไม่ถูกว่าโล่งใจหรือยอมแพ้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ก็ทำให้เขาถึงขีดจำกัด

เอมิเลีย: ――พอแค่นั้นแหละ

ร่างของกิลตี้เลาว์ที่วิ่งอยู่ถูกหอกน้ำแข็งเสียบทะลุจนล้มลง สุบารุหล่นลงมากระแทกพื้นหินตาม

สุบารุ: อั่ก… อะไรน่ะ…

พอลืมตาขึ้นมาดูเขาก็เห็นกิลตี้เลาว์ที่ลุกขึ้นสู้ด้วย “ทิฐิ” ส่วนตัวในฐานะสัตว์มารตัวสุดท้ายของเมลี่ แต่ปากของมันก็ถูกหอกน้ำแข็งเจาะทะลุและถูกเปลี่ยนทั้งร่างให้กลายเป็นประติมากรรมน้ำแข็ง

. สุบารุค่อยๆ ยืนขึ้นมา แขนซ้ายของเขายกไม่ขึ้น คงเพราะไหล่หลุดไปตอนกระแทกพื้น สมองเขาสั่งการไม่ให้น้ำตาไหลออกมา เพราะเขาไม่อยากให้โมเมนต์นี้เสียเปล่า

เอมิเลีย: ――พอแค่นั้นแหละ เจ้าคนชั่ว

ท่ามกลางเมืองที่ลุกไหม้ทั้งสองยืนประจันหน้าโดยมีรูปปั้นน้ำแข็งอยู่ตรงกลาง ดวงตาสีม่วงครามที่เปล่งประกายไปด้วยภาระหน้าที่และความขุ่นเคืองประสานเข้ากับดวงตาสีดำที่เอ่อล้นไปด้วยความสุข

ผมสีเงินถูกแต่งแต้มด้วยแสงจันทร์ ดวงตาสีม่วงครามดุจเม็ดพลอย ความงดงามของเธอนั้นทำให้หัวใจของสุบารุหวั่นไหว เสียงกระดิ่งเงินของเธอเองก็ทำให้เขาหลงว่าเป็นเสียงภูตขับร้องบทเพลง

เด็กสาวที่เขาไล่ตาม ใฝ่หา ปรารถนาและรักใคร่มาโดยตลอดมาอยู่ตรงหน้าแล้ว

สุบารุ: ――เอมิเลีย

เอมิเลีย: รู้จักฉันด้วยเหรอ?

การตอบสนองนั้นทำให้สุบารุอดหัวเราะไม่ได้ ความประทับใจในตัวเธอของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลยตั้งแต่ที่ได้เจอกันที่เมืองหลวงเมื่อครานั้น

. เธอเป็นถึงผู้ท้าชิงตำแหน่งกษัตริย์ที่คนทั้งประเทศต่างให้ความสนใจ ที่เธอไม่รู้ตัวไม่ใช่ว่าขาดความตระหนักรู้ แต่เป็นเพราะว่าเธอมองตัวเองเป็นคนด้อยค่า

เธอมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกในฐานะวีรสตรีที่กำราบบิชอปมหาบาปเกียจคร้าน โลภะ ตะกละ โทสะ และราคะลงได้ และในวันนี้ผลงานของเธอจะได้สมบูรณ์เสียที

เอมิเลีย: มีอะไรน่าขำเหรอ?

สุบารุ: เปล่า โทษที ว่าไงดีล่ะ ชั้นก็แค่ดีใจน่ะ แบบว่า เธอน่ะดูไม่ได้เปลี่ยนไปเลยและนั่นทำให้ชั้นรู้สึกว่าทุกอย่างมันคุ้มค่าแล้ว

เอมิเลีย: หมายความว่าไง? นี่คุณกับฉันเคยไปเจอกันเมื่อไหร่…?

ถึงเอมิเลียจะนึกย้อนอย่างตั้งใจแค่ไหน นัตสึกิ สุบารุก็ไม่หลงเหลืออยู่ในความทรงจำของเธอ การพบพานของทั้งสองหลงเหลืออยู่ในสุบารุคนเดียว และการพบพานนั้นนี่แหละที่นำเขามาสู่จุดนี้

เอมิเลีย: นี่คุณ…

พัค: ลิอา อย่าไปฟังที่เขาเพ้อเจ้อดีกว่านะ

สุบารุ: ――พัคเหรอ?

วิญญาณแมวสีเทาที่โผล่ขึ้นมานั้นสุบารุจดจำได้ดี ความทรงจำของวันนั้นเป็นอดีตที่นานมาแล้ว เพราะงั้นเขาถึงได้เฝ้าคิดถึงมันอยู่เรื่อยมา เขาจึงไม่มีทางลืมเลือนทุกคนที่ปรากฏอยู่ในความทรงจำแสนล้ำค่านั้น

พัค: เรียกชื่อกันง่ายๆเหมือนสนิทเลยนะ ก่อเรื่องไว้ซะเว่อร์วังขนาดนี้ คงต้องขอให้ชดใช้ให้สาสมหน่อยนะ ว่าไหม?

สุบารุ: จะชดใช้ให้สาสม ตามที่หวังเลย ――ยังไงซะก็ไม่มีทางจะหนีรอดไปได้

พัค: …? ยอมรับง่ายๆงี้เลยเหรอ? น่าสงสัยจริงน้า

. สุบารุรูดซิปเสื้อวอร์มออกและกางแขนเพื่อบ่งบอกว่าไม่ต่อต้าน

ใช่แล้ว เสื้อวอร์มตัวเดิมที่สุบารุเก็บซ่อนไว้มาตลอด เขาเฝ้าฝันมาอย่างยาวนานถึงวันที่จะได้สวมเสื้อวอร์มตัวนี้มายืนต่อหน้าเอมิเลียอีกครั้ง

สุบารุ : ที่ชั้นกำลังจะบอกหลังจากนี้คือคำเพ้อเจ้อของคนเสียสติ ไม่ต้องไปจำก็ได้นะ

เอมิเลีย : ――เอ๋?

สุบารุ: เพลิงที่กำลังลุกไหม้เมืองหลวงอยู่ตอนนี้เป็นฝีมือชั้นเอง และไม่ใช่แค่เมืองหลวงนะ เพลิงนี้จะเผาทั้งประเทศเป็นเถ้าถ่าน ไม่มีใครที่จะหยุดยั้งมันได้ นี่คือความผิดพลาดของประเทศนี้และอัศวินที่ทำหน้าที่ปกป้องมัน

วาจาติดๆ ขัดๆ ของสุบารุทำให้เอมิเลียสับสน พัคลังเลและเลือกที่จะไม่โจมตีขัดการพูดของเขา สุบารุรู้สึกขอบคุณความใส่ใจนั้นแล้วกล่าวต่อ

สุบารุ: เกียรติภูมิของไรน์ฮาร์ดในฐานะ “นักดาบเทวา” ถูกย่ำยี และถึงจะไม่รู้ว่าเงื่อนไขในพันธสัญญาสำหรับปกปักษ์รักษาราชอาณาจักรมิตรมังกรลุกุนิก้าคืออะไร แต่มังกรก็ไม่ยอมโผล่มาช่วย ชั้นลองมาหลายครั้งจนมั่นใจ สุดท้ายแล้วไรน์ฮาร์ดกับมังกรก็ไม่ต่างอะไรกัน

เอมิเลีย: เผาประเทศ? ฝีมือคุณเหรอ? ทั้งหมดก็เพื่อทำลายอาณาจักรนี้งั้นเหรอ?

สุบารุ: เปล่า ผิดแล้ว ที่ทำไปเพราะว่านี่คือวิธีเดียวที่จะทำให้เธอได้ขึ้นเป็นกษัตริย์

. สุบารุเผยรอยยิ้มออกมาในระหว่างที่เอมิเลียดวงตาเบิกกว้างเพราะมึนงง เขาบอกแต่แรกแล้วว่านี่คือการพูดเพ้อเจ้อ ดังนั้นถึงเธอจะไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร ขอแค่ความปรารถนาของเขาบรรลุผลก็พอ

สุบารุ: ผู้ที่จะปลิดชีพตัวการที่เผาทำลายประเทศนี้ไม่ใช่ไรน์ฮาร์ด ไม่ใช่มังกรเทพ แต่เป็นเธอ ผู้ท้าชิงตำแหน่งกษัตริย์คนที่เหลือไม่มีทางสร้างผลงานที่ดีกว่านี้ได้ เธอน่ะจะกลายเป็นวีรสตรีที่ทำให้สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงกว่า 400 ปีเดินหน้าต่อและช่วยโลกใบนี้ไว้ได้!

เอมิเลีย: นั่นมัน…ไม่ใช่… พูดอะไรของคุณน่ะ!? หยุดนะ ไม่เข้าใจเลย! ฉันไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้นเลย!!

เอมิเลียปิดหูไม่อยากได้ยินสิ่งที่เขาพูดอีกต่อไป พอเห็นน้ำตาของเธอ หัวใจของสุบารุก็สั่นเทาอย่างขมขื่น ส่วนหนึ่งของเขารู้สึกผิดที่ทำให้เธอเสียน้ำตา แต่อีกด้านในตัวก็รู้สึกยินดีที่การกระทำของเขาทำให้หัวใจของเธอสั่นไหว

สุบารุ: ไม่จำเป็นต้องเข้าใจหรอก ถึงจะไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร หลังจากนี้ก็แค่รอคนรอบตัวเธอร่วมเฉลิมฉลองยินดีก็พอ เธอจะได้ทำความปรารถนาของตัวเองให้เป็นจริง เพื่อการนั้นแล้วชั้นถึงได้เผาทำลายประเทศนี้ ทั้งหมดนั้นทำไปเพื่อเธอ

เอมิเลีย: โกหก! โกหก! โกหก! ก็ในเมื่อฉันน่ะ… คุณน่ะ ทำไมถึงได้…ตัวฉัน…

เอมิเลียทำได้เพียงคร่ำครวญต่อหน้าการอุทิศตนจากคนแปลกหน้าและสิ่งถวายที่เธอไม่เคยขอ ไม่แปลกที่เธอจะเศร้า ไม่แปลกที่เธอจะไม่เข้าใจ

. สุบารุรู้ดีว่าสิ่งที่ทำมันผิด สุบารุรู้ดีว่าที่ทำไปมันไม่ถูกต้อง สุบารุรู้ดีว่าวิธีนี้จะไม่ทำให้เอมิเลียมีความสุข

แต่นี่เป็นวิธีการเดียวที่เขามี วิธีที่จะช่วยเติมเต็มความปรารถนาของเธอ ทำให้เธอขึ้นเป็นกษัตริย์ และเป็นวิธีเดียวที่จะถ่ายทอดความรู้สึกของเขาให้เอมิเลียได้ทราบ

นัตสึกิ สุบารุรู้ตัวแต่แรกว่าเลือกเดินทางผิด แต่เขาก็มาถลำลึกถึงจุดนี้แล้ว ดังนั้นเขาจึงเริ่มหัวเราะและแสยะยิ้มออกมา

สุบารุ: ――มองชั้นสิ เอมิเลีย ดูชั้นสิ เกลียดชังชั้น และจดจำชั้นไว้

เอมิเลีย: คุณ..เป็น..ใครกัน? คุณน่ะ…เป็นใคร…กันแน่…?

เอมิเลียถามด้วยน้ำเสียงสั่นเทา สุบารุเดินเข้าหาเธอช้าๆพลางกางแขนออกและหลับตาลง เขาเฝ้ารอโมเมนต์นี้มาตลอด เฝ้ารอที่จะตอบคำถามนั้นต่อหน้าเอมิเลียมาตลอด

สุบารุ: ――ชื่อของชั้นคือ นัตสึกิ สุบารุ

เอมิเลีย: สุบา…รุ…

แค่ได้ยินเสียงเรียกชื่ออันแผ่วเบาจากเธอ อารมณ์ในตัวสุบารุก็ท่วมท้นอย่างรุนแรง แทบจะพอใจแล้วที่อุตส่าห์มาถึงที่นี่ เขาภาวนาให้ตัวเองพูดต่อจนจบได้โดยที่เสียงไม่สั่น

สุบารุ: ――บิชอปมหาบาปประจำตำแหน่ง “เย่อหยิ่ง” แห่งลัทธิบูชาแม่มด นัตสึกิ สุบารุ!

เอมิเลีย: บิชอปมหาบาป…!

. หลังแนะนำตัวอย่างภาคภูมิสุบารุก็ถีบพื้นเพื่อออกวิ่งครั้งสุดท้ายในชีวิต

เขาเสียสละผู้คนไปมากมาย ทำตัวไม่ดีต่อคนที่อาจจะได้เป็นพรรคพวก รู้สึกได้รับการปลอบประโลมจากสายสัมพันธ์ที่มี และในที่สุดก็ได้มายืนอยู่ต่อหน้าหญิงสาวที่รักอีกครั้ง

สุบารุ: ชั้นคือชายผู้เผาทำลายโลกใบนี้ ทำให้ทั้งประเทศสั่นไหว ฆ่าวีรชน แล้วก็――

เอมิเลีย: …

สุบารุ: ――เป็นชายที่จะถูกเธอฆ่า

พอรู้สึกได้ว่าหอกน้ำแข็งเจาะทะลุอก สุบารุก็ยิ้มออกมา เข่าทรุดลงและล้มกองกับพื้น เขาไปไม่ถึงตัวเอมิเลีย ได้แต่ล้มคะมำไม่เป็นท่าอยู่บนพื้นหิน

เอมิเลีย: ทำไมกัน?

พอปิดตารอคอยจุดจบ สุบารุก็ได้ยินเสียงเอมิเลียมายืนอยู่ข้างๆ น้ำตาของเธอหยดลงมาโดนเขาจนต้องลืมตากลับขึ้นมา

เอมิเลีย: ทำไมกัน?

คำถามเดิมที่ย้ำไปมา “ทำไม” ในที่นี้เธอหมายถึงอะไรกันนะ?

นายทำอย่างนี้ทำไม? ทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้? ทำไมนายถึงมาเจอหน้าฉันแค่เพื่อจะตาย?

ไม่ว่าจะมีคำว่า “ทำไม” อยู่กี่คำถาม สุบารุก็ใกล้สิ้นใจเต็มที เขาจึงเลือกใช้ลมหายใจสุดท้ายเพื่อตอบคำถามเหล่านั้นออกไป

สุบารุ: รักนะ (愛してる)

. ภาพประกอบโพสต์วาดโดยคุณ 石斑