
รูทเย่อหยิ่งพาร์ท 2 : นักล่าเครื่องใน & นักดาบเทวา
. “ตายแล้วกลับมา” คือพลังที่จะย้อนเวลาหลังเขาตาย สุบารุใช้พลังนี้แก้ไขโลกมาถึง 88 ครั้งแล้ว เขาพยายามมาเกือบ 100 ครั้งเพื่อที่จะช่วยเด็กสาวผมเงิน “ซาเทล่า” จากความตาย
สุบารุ: ถึงจะลองผิดลองถูกมาหลายครั้งแล้วก็เหอะ… แต่กับยัยนี่มันไม่ง่ายเหมือนพวกทนชินคันเลยน้า
นั่นคือคำประเมินของสุบารุต่อศัตรูคู่อาฆาตของการแก้ไขโชคชะตาครั้งนี้ “เอลซ่า แกรนฮิลเต้”
. เอลซ่าคือคนที่จ้างให้เฟลท์ขโมยเหรียญตราของซาเทล่าและยังเป็นตัวอันตรายที่ฆ่าซาเทล่ามาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ใน 87 ลูปที่ผ่านมาสุบารุพยายามกำจัดเอลซ่าแต่ก็พ่ายแพ้ให้กับทักษะการต่อสู้เหนือชั้นของเธอจนเขาถูกผ่าท้องตายไปมากกว่า 50 รอบ
ถ้าเป็นพวกทนจินคัน สุบารุยังสามารถจำรูปแบบการเคลื่อนไหวและคิดแผนเอาชนะ 100% ขึ้นมาได้ แต่กับนักคว้านท้องจอมซาดิสม์อย่างเอลซ่านั้น ไม่ว่าจะเป็นสุบารุ ปู่รอม เฟลท์หรือซาเทล่าก็ไม่สามารถก้าวข้ามเธอได้ สุบารุจึงคิดแผนใหม่ขึ้นมา――
เอลซ่า: วิเศษ! วิเศษไปเลยค่ะ! ช่วยทำให้ฉันสนุกมากกว่านี้ทีนะคะ!
ทหาร: อ้ากกกก!!
เอลซ่าตวัดมีดคร่าชีวิตแล้วชีวิตเล่าจนศพกองเต็มถนน เธออาบเลือดที่ท่วมตัวด้วยความปิติยินดี ภาพตรงหน้าทำให้สุบารุอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเอลซ่ากับ “ผีดูดเลือด” จากตำนานในโลกเดิม
. สุบารุ: รอบนี้เองก็ล้มเหลวเหรอ?
สุบารุที่แอบดูฉากสยองอยู่บนหลังคาถอนหายใจออกมา ท่ามกลางลานกว้างในย่านสลัม เหล่าทหารรักษาการณ์ของเมืองหลวงถูกเอลซ่าฆ่าล้างอยู่ฝ่ายเดียว ทหารเหล่านี้ได้รับข่าวสารจาก “พลเมืองดีคนหนึ่ง” จนมาเจอตัวเอลซ่า แกรนฮิลเต้ แต่การจับกุมตัวก็ล้มเหลวและถูกล้างบางไปทั้งกอง
สุบารุ: ไม่นึกเลยว่าพวกทหารรักษาการณ์ทั่วไปกับเอลซ่าจะฝีมือต่างชั้นกันขนาดนี้
พลเมืองดีที่แจ้งข่าวก็คือสุบารุเอง เขาแอบหวังให้พวกทหารที่คุ้มกันเมืองหลวงมีเวทเสริมกำลังกายบางอย่างแล้วสู้สูสีกับเอลซ่าได้ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะหวังสูงไปและตัวเอลซ่าเองก็ถือเป็นผู้มากฝีมือแม้แต่ในมาตรฐานของโลกนี้
ความเกลียดชังในตัวเอลซ่าของสุบารุเพิ่มมากขึ้น แต่ถึงจะเกลียดเธอแค่ไหนสุบารุก็ไม่มีวันจะแข็งแกร่งพอจะหยุดยั้งสาวโรคจิตคนนี้ได้ เขาเลิกหวังพึ่งว่าพวกทหารยามจะดวงดีฟลุคเอาชนะได้แล้วด้วยซ้ำ
. สุบารุ: ดูต่อไปก็คงจะเปล่าประโยชน์
สุบารุกะจะจบการทดลองแค่นี้ ถึงจะรู้สึกผิดต่อพวกทหารรักษาการณ์ แต่เมื่อเขาตายไปพวกทหารที่เสียชีวิตก็จะถูกรีเซ็ตมาใหม่อยู่ดี คราวหน้าสุบารุจะเลิกคาดหวังในตัวพวกเขาและปล่อยให้รักษาความสงบของเมืองหลวงต่อไป
และตอนที่สุบารุกำลังจะเดินจากไปนั้นเอง――
เอลซ่า: ――ตายจริง
พอกำลังเริ่มเบื่อพวกทหารยาม เอลซ่าก็เลียริมฝีปากยามเห็นเหยื่อเคราะห์ร้ายคนใหม่
ไรน์ฮาร์ด: ――พอแค่นั้นแหละ
บุคคลที่ยืนอยู่ตรงนั้นทำให้สุบารุเห็นภาพหลอนเป็นเสาแห่งไฟ ผมสีแดงเหมือนเปลวเพลิง ดวงตาสีน้ำเงินเหมือนท้องฟ้าบริสุทธิ์ ภายใต้เครื่องราชมีร่างกายกำยำและคาดดาบเล่มใหญ่ไว้ที่เอว แถมหน้าตายังหล่อเหลาจนไม่ว่าเพศใดก็ต้องหลงใหล
. มองแค่พริบตาเดียวสุบารุก็รู้ไปถึงแก่นวิญญาณเลยว่าชายคนนี้ต่างจากพวกทหารคนอื่น
ทหาร: อัศวินไรน์ฮาร์ด…!
ไรน์ฮาร์ด: พวกคุณทุกคนช่วยถอยออกมาด้วยครับ ผู้หญิงคนนี้คือ… “นักล่าเครื่องใน” แค่นี้ก็มีผู้สังเวยมากพอแล้ว ผมไม่อยากให้มีเหยื่อมากไปกว่านี้
ไรน์ฮาร์ตมองต่ำลง เขาทั้งสงสารเหล่าผู้ที่ถูกสังหารเหมือนหนอนแมลงและขุ่นเคืองต่อการกระทำของฆาตกรนามเอลซ่า
ไม่ว่าจะเป็นความมีเหตุผล แนวคิดหรือจิตใจของเขาก็ล้วนเที่ยงธรรม และนั่นทำให้สุบารุที่มองอยู่ฉุนเฉียว
เอลซ่า: ไรน์ฮาร์ด วาน แอสเทรอา จากตระกูล “นักดาบเทวา” วิเศษมาก วิเศษไปเลยค่ะ!
ไรน์ฮาร์ด: ผมต้องทนแบกรับความคาดหวังอยู่บ่อยๆเลยล่ะ เธอคือ “นักล่าเครื่องใน” สินะ?
เอลซ่า: ใช่แล้วค่ะ ทนแทบไม่ไหวเลย ทำอย่างไรดีนะ? ฉันมีงานต้องสะสางแท้ๆแต่ไหนๆก็ได้เจอกับคุณทั้งที
เอลซ่าหายใจหอบด้วยความลุ่มหลง แต่ฝ่ายไรน์ฮาร์ตมีสีหน้าจริงจังไม่เหยาะแหยะ ด้วยจุดยืนที่ต่างกัน ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะต้องหายไป
. ไรน์ฮาร์ด: ตามปกติแล้วผมคงจะแนะนำให้คุณยอมแพ้ แต่ว่า…
เอลซ่า: เห็นโศกนาฏกรรมตรงหน้าแล้วคุณยังจะบอกฉันแบบนั้นอีกเหรอคะ? อ่อนโยนจังเลยนะคะ อ่อนโยนจนโหดร้ายต่อฉันและพวกเขาเลย
ไรน์ฮาร์ด: ――ไม่เลย ผมเห็นด้วย มันถือเป็นการไม่เคารพต่อเหล่าผู้ตายถ้าผมยอมอ่อนข้อให้คุณ ดังนั้นผมคงจะขอให้คุณยอมแพ้ไม่ได้
เอลซ่าเตะศพทหารอย่างร่าเริง ทางไรน์ฮาร์ตก็ส่ายหัวและยื่นมือไปหาทหารยามข้างตัวและกล่าวขึ้นมาว่า “ขอดาบหน่อยครับ”
ทหาร: โปรดน้อมรับมันไว้ด้วยครับ
ไรน์ฮาร์ดรับดาบมาจากทหารยามและจับให้เข้ามือ เอลซ่าที่ดูอยู่มีท่าทางประหลาดใจ
เอลซ่า: จะไม่ใช้ดาบที่คาดเอวอยู่เหรอคะ? ฉันละอยากลองสัมผัสความคมของดาบมังกรชื่อดังอยู่เชียว
ไรน์ฮาร์ด: เสียใจด้วยแต่ดาบเล่มนี้จะยอมให้ชักออกมาต่อหน้าศัตรูที่มันประเมินว่าคู่ควรเท่านั้น เป็นคุณสมบัติที่ยุ่งยากจริงๆ และดูเหมือนว่ามันจะไม่ถูกใจคุณนะครับ ผมเลยจะขอจัดการคุณด้วยดาบเล่มนี้แทน
เอลซ่า: เฮ้อ
เอลซ่าถอนหายใจแสดงความขัดเคืองชั่วครู่ ก่อนจะเลียริมฝีปากเตรียมเข้าปะทะศึกที่ต้องหลั่งเลือด
. เอลซ่า: “นักล่าเครื่องใน” เอลซ่า แกรนฮิลเต้
ไรน์ฮาร์ด: จากสายเลือดแห่ง “นักดาบเทวา” ไรน์ฮาร์ด วาน แอสเทรอา
หลังกล่าวแนะนำตัวทั้งคู่ก็เข้าปะทะกันเหมือนสายลมและศึกนั้นก็จบลงด้วยการประดาบเพียงครั้งเดียว
แค่การตวัดดาบแบบดาษดื่นทีเดียวของชายที่ถูกเรียกว่า “นักดาบเทวา” ก็สร้างประกายแสงที่ทำลายล้างสลัมย่านนั้นจนหายไป
นัตสึกิ สุบารุที่มองดูอยู่ตาเบิกกว้าง เข่าของเขาสั่นเทาและน้ำตาไหลออกมาโดยที่ตัวเขาเองก็ไม่ทราบสาเหตุ