webnovel arc7 chapter102

บทที่ 7 ตอนที่ 102 "กำแพงแห่งการเตรียมใจ"

ท็อดด์ แฟงก์ ไม่คิดว่าตัวเขาเป็นคนรอบคอบหรือขี้ระแวงเลย

เขาก็แค่มองโลกแง่ร้ายและคอยอุดช่องโหว่ที่เห็นได้ชัดเพื่อป้องกันความผิดพลาดในชีวิต หากเจอศัตรูที่เหนือความคาดหมาย เขาก็จะหลีกเลี่ยงการปะทะ

ท็อดด์รอดชีวิตมาถึงทุกวันนี้เพราะแนวคิดข้างต้น แต่ช่วงหลังมานี้เขารู้สึกว่าตัวเองค่อนข้างอับโชค และต้นเหตุก็มาจากชายนอกคอกที่เขาเจอที่ค่ายทหารในป่า

ท็อดด์เคยมุ่งหมายจะสังหารชายนอกคอกคนนั้น แต่พอตัดใจว่าทำไม่ไหว ท็อดด์ก็ตัดสินใจจะอยู่ให้ห่างจากตัวเชื้อโรคร้าย

ท็อดด์ยอมเสียสละจามาลที่เป็นเกราะกันภัยเพื่อสร้างหนี้บุญคุณแก่แม่ทัพยศสูงอย่างอาราเคีย โดยที่หวังว่าตัวเขาจะได้อยู่ห่างจากสถานการณ์เลวร้าย

แต่สุดท้ายแผนการก็ส่งผลตรงข้าม ท็อดด์เลยมาลงเอยอยู่ท่ามกลางสงครามระหว่างกบฏกับจักรวรรดิ ทั้งหมดมันเป็นเพราะ “ตัวเชื้อโรค” นั่น

. ปัจจุบันท็อดด์ออกจากจุดประจำการเพื่อมาตามเก็บบุคคลที่ทำให้ฝ่ายศัตรูได้เปรียบด้านสงครามข้อมูล

หากเทียบเป็นอวัยวะ แม่ทัพก็คงเป็นศีรษะหรือหัวใจที่ฝ่ายศัตรูจะปกป้องไว้อย่างแน่นหนา แต่ฝ่ายข้อมูลก็เป็นเหมือน “เส้นเลือด” ซึ่งหากสูญเสียไป ฝ่ายกบฏก็แตกพ่ายได้เช่นกัน

ท็อดด์: ――ไม่ไหวๆ กะว่าจะเก็บให้หมดรวดเดียวอยู่เชียว

การลอบโจมตีของท็อดด์ไม่เป็นไปตามคาด เหลือเด็กสาวรอดอยู่สองคนกับผู้ชายอีกหนึ่งคน หนึ่งในนี้น่าจะเป็น “เส้นเลือด” ที่ท็อดด์หมายหัวไว้

ชายที่กล้าคุยกับท็อดด์ไม่มีแววเป็นนักรบก็จริง แต่เขาเก็บซ่อนความหลักแหลมเอาไว้ ดูท่าจะเป็นประเภทที่กล้าใช้ชีวิตตัวเองเป็นเครื่องมือแบบไม่ลังเล

เด็กสาวอีกสองคนดูเป็นแค่มนุษย์ธรรมดา ไม่ใช่ตัวตนเหนือตรรกะอย่างแม่ทัพมาเดลิน แต่ในเมื่อพวกเธอมาอยู่ในสนามรบแบบผิดที่ผิดทาง ท็อดด์จะไม่คิดจะประมาท

เด็กสาวคนหนึ่งมีแววตาเด็ดเดี่ยวอย่างน่าประปลาด ส่วนเด็กสาวคนที่ตั้งท่าต่อสู้ก็มีมาดนักรบอย่างชัดเจน เธอน่าจะเคยฆ่าคนมาก่อน ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับวอลลาเคีย

ทว่า นั่นก็แปลว่าเด็กสาวได้ก้าวข้าม “กำแพงแห่งการเตรียมใจ” มาแล้ว และเป็นคู่ต่อสู้ที่ท็อดด์ไม่ควรจะประมาท

ท็อดด์: ไม่รู้สิ ลางสังหรณ์ของชั้นก็แค่บอกมาน่ะ ว่าพวกนายคือต้นเหตุของความเลวร้ายทั้งมวลในสงครามนี้ อีกอย่าง ลางสังหรณ์ชั้นบอกไว้งี้ด้วย…

ออตโต้: อะไรล่…?

ท็อดด์: ――ว่าไม่ควรเสียเวลาคุยกับพวกนาย

ท็อดด์ชั่งใจไม่ถูกว่าในบรรดาทั้งสามคนใครเป็นตัวอันตรายที่สุด เขาจึงตัดสินใจว่าต้องรีบกำจัดทิ้งทั้งสามคนทันที

. ออตโต้ ซูเวน สาปแช่งความประมาทของตัวเขาเองที่ทำให้ทั้งสามมาตกอยู่ในสถานการณ์ปัจจุบัน

ออตโต้ลืมคำนึงถึงกรณีที่มีศัตรูรู้ตัวว่าฝ่ายตนกำลังเสียเปรียบสงครามข้อมูลและมาตามล่าตัวเขาที่เป็นต้นเหตุถึงที่

คำถามคือทหารสวมผ้าโพกหัวตรงหน้าเล็ดลอดผ่านการตรวจจับจากชาแนลของออตโต้ได้อย่างไร? และทำไมชายคนนี้ถึงรู้ตำแหน่งของพวกออตโต้ได้?

สุดท้ายการสนทนาถ่วงเวลาของออตโต้ไม่ได้ข้อมูลเพิ่มเติมเลยเพราะอีกฝ่ายเป็นประเภทคนเจ้าเล่ห์ที่ไม่ยอมหลงกลง่ายๆ

ด้วยเหตุนี้ออตโต้จึงจำใจต้องปะทะกับศัตรูผู้เหวี่ยงขวานเข้ามาทั้งที่ตัวเขาแทบจะไม่ได้เตรียมการเข้าตั้งรับไว้ล่วงหน้าเท่าไหร่เลย

. ยามที่ตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน เพทร่า เลย์เต้ มักจะรู้สึกเสียใจที่ตัวเธอไม่ได้ขัดเกลาฝึกฝนทักษะมามากพอ

ท็อดด์: ――ว่าไม่ควรเสียเวลาคุยกับพวกนาย

ท็อดด์เหวี่ยงขวานเข้ามาแท้ๆ แต่เพทร่ากลับแน่นิ่ง เพราะหางตาเธอเหลือบไปเห็นศพทหารส่งสารที่ถูกเผาจนเกรียม

หากออตโต้ไม่ได้ช่วยดึงตัวเธอไว้ก่อนหน้านี้ เพทร่าก็คงตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับทหารสองคนนั้น

ออตโต้: เพทร่าจัง! ――หมายเลข 7!

เสียงตะโกนของออตโต้เรียกสติเพทร่ากลับคืนมา เธอยกแขนขึ้นตามสัญญาณ นึกถึงสุบารุเพื่อเรียกกำลังใจ จากนั้นก็กัดฟันเพื่อเตรียมทำตามขั้นตอนที่ได้ฝึกฝนมา

เพทร่า: ――จิวาลด์!

ลำแสงสีขาวถูกยิงออกมาจากนิ้วของเพทร่าตามคำร่ายเวท หากผู้ใช้เป็นนักเวทผู้ช่ำช่อง หอกแสงจากเวทจิวาลด์นั้นสามารถเจาะทะลุได้แทบทุกสิ่ง

ทว่า จิวาลด์ของนักเวทฝึกหัดแบบเพทร่านั้นทำได้แค่เพียงสร้างรอยไหม้ไว้ในจุดที่ยิงใส่เท่านั้น แต่มันก็เพียงพอแล้วในสถานการณ์นี้

ลำแสงสีขาวพุ่งไปใส่พื้นด้านหลังท็อดด์ มันคือตำแหน่ง “หมายเลข 7” ซึ่งมีศิลามนตราธาตุอัคคีซ่อนอยู่

. ออตโต้ได้ฝังศิลามนตราเป็นกับดักไว้รอบบริเวณ เผื่อไว้ในกรณีที่เขากับเพทร่าถูกศัตรูลอบโจมตีระหว่างที่เปิดชาแนลอยู่

การเตรียมการมันไม่สมบูรณ์เพราะออตโต้พกศิลามนตราได้จำกัดจำนวน แถมพวกเขายังต้องคอยย้ายที่อยู่เรื่อยๆ

จุดที่เพทร่ายิงไปใส่มันอยู่ไกลพอสมควร แรงระเบิดจึงมาไม่ถึงตัวท็อดด์ แต่จังหวะที่ท็อดด์หันไปสังเกตด้านหลังด้วยความระแวดระวังก็เป็นโอกาสให้มีเดียมเข้าโจมตี

มีเดียม: ฮึ่ยย่าาาาาห์!!

ท็อดด์: ชิ

มีเดียมชักมีดพร้าเล็งฟันใส่แขนของอีกฝ่าย แต่ท็อดด์ก็ไหวตัวทันและใช้ขวาดฟันตั้งรับไว้ได้

แต่มีเดียมก็ไม่เปิดโอกาสให้ศัตรูได้พักหายใจ เธอใช้โมเมนตัมจากแรงปะทะหมุนตัวกลับเข้ามาฟันซ้ำได้อย่างช่ำช่อง แถมยังทำแบบต่อเนื่องกลายเป็นระบำดาบที่น่าเกรงขาม

ออตโต้: หมายเลข 4!

เพทร่า: ค่ะ! ――จิวาลด์!

พอออตโต้แตะไหล่ให้สัญญาณ เพทร่าก็ยิงลำแสงไปใส่จุดที่ทั้งสองเตี๊ยมกันเอาไว้

คราวนี้เกิดระเบิดในจุดที่ใกล้จนทั้งท็อดด์และมีเดียมโดนแรงระเบิดไปด้วยกัน ท็อดด์ประมาทเพราะไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะกล้ายิงเล็งให้พวกตัวเองบาดเจ็บ

ออตโต้: ถ้าจำเป็น คงต้องยอมให้คุณมีเดียมโดนลูกหลงไปด้วยครับ

เพทร่า: เดี๋ยวจะใช้เวทฟื้นฟูช่วยรักษาให้ทีหลังค่ะ

มีเดียม: โอ้วววว! ถึงจะยังไม่ค่อยเข้าใจ แต่ชั้นไม่ยอมหยุดมือหรอก!

. เพทร่ายอมรับความคิดของออตโต้ เลือกที่จะยอมให้มีการเจ็บตัวเกิดขึ้นต่อฝ่ายตน ขอเพียงทั้งสามรอดไปจากสถานการณ์นี้ได้

และตอนนั้นเองที่ท็อดด์เอ่ยปากขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ แทนที่จะโมโหหรือหงุดหงิด

ท็อดด์: เฮ้ยๆ ให้มันน้อยๆ หน่อยสิ ――นี่คิดเหมือนกันเลยงั้นเรอะ?

ออตโต้: หมายเลข 2!

เพราะเธอพอเข้าใจว่าท็อดด์ตั้งใจจะสื่ออะไร เพทร่าเลยรู้สึกขุ่นเคืองขึ้นมา กระนั้นเธอก็ไม่ลังเลที่เล็งยิงลำแสงใส่พื้นที่พวกตนยืนอยู่ตามคำสั่งของออตโต้

จุดหมายเลข 2 นี้คือ “ทางหลบหนีฉุกเฉิน” ที่ออตโต้เตรียมเอาไว้ โดยอาจจะต้องแลกด้วยการยอมเจ็บตัวเสียหน่อย

พื้นจุดที่ออตโต้กับเพทร่ายืนอยู่ระเบิดออกพร้อมประกายสีแดง ส่งร่างของทั้งคู่ให้กระเด็นออกไปโดยที่ออตโต้กอดเพทร่าไว้เพื่อป้องกันแรงระเบิดและกันไม่ให้กระเด็นไปคนละทิศ

แต่เพทร่าเองก็ไม่ได้นิ่งดูดาย เธอรีบใช้เวทแสงเสริมแกร่งร่างกายของออตโต้ไว้ก่อนที่เขาจะรับแรงระเบิด

. เพทร่าที่ได้เห็นประกายแสงจากระเบิดเต็มสองตารู้ตัวว่านั่นคือเปลวเพลิงแบบเดียวกับที่คร่าชีวิตทหารส่งสารทั้งสองคน

สรุปคือขวานในมือท็อดด์เป็นแค่ตัวหลอก เขาตั้งใจจะฆ่าพวกเพทร่าด้วยเปลวเพลิงที่เก็บซ่อนไว้ด้วยวิธีการคล้ายกับออตโต้ เพราะงี้ท็อดด์ถึงได้บ่นว่าทั้งสองฝ่ายคิดเหมือนกันเลย

หลังลงถึงพื้นจากแรงระเบิด ออตโต้ก็รีบกัดฟันและพยุงตัวขึ้นเพื่อเตรียมรับมือศัตรูต่อ

ทว่า แทนที่จะไล่ตามมาทันที ท็อดด์กลับเลือกที่จะยืนตรวจสอบพื้นที่ระเบิดออกเมื่อครู่และดมกลิ่นควันไฟกับหญ้าไหม้ จากนั้นก็…

ท็อดด์: ตรงนั้นกับตรงนู้น แล้วก็ตรงโน้น

หลังท็อดด์พึมพำออกมา จุดฝังศิลามนตราหมายเลข 6 หมายเลข 9 หมายเลข 1 หมายเลข 5 และหมายเลข 8 ก็ทยอยกันเกิดการระเบิดขึ้นมา

เพทร่า: ดะ…ได้ไงกัน?

ออตโต้: …อย่าบอกนะว่า ใช้วิญญาณ?

แม้จะเป็นเรื่องที่ทำใจยอมรับได้ยาก แต่ก็มีโอกาสสูงที่ท็อดด์จะเป็นผู้ใช้ศาสตร์วิญญาณแบบสุบารุกับเอมิเลีย สองบุคคลที่เพทร่าเคารพรัก

เพทร่า: แต่ว่า ทำไมพวกวิญญาณถึงได้…

ท็อดด์: มันมีมากกว่าหนึ่งวิธีที่จะทำให้พวกมันเชื่อฟัง ยิ่งถ้าหากพวกมันไม่อยากถูกกินด้วยล่ะนะ

เพทร่า: เอ๋?

คำตอบของท็อดด์ทำให้เพทร่าแข็งกระด้างจนออตโต้ต้องแตะไหล่เรียกสติ เธอไม่รู้ว่าจงใจท็อดด์พูดหลอกให้ฝ่ายเธอเปิดช่องว่างหรือเปล่า

แต่ที่แน่ๆ เพทร่าเกลียดผู้ชายคนนี้

. มีเดียมแฝงตัวมากับควันระเบิดและลอบเข้าไปจู่โจมท็อดด์ เธอเล็งมีดพร้าฟันใส่แผ่นหลังที่เปิดโล่งอยู่ ทว่า…

ท็อดด์: ในบรรดาพวกแกสามคน เธอนี่แหละอ่านง่ายที่สุด

มีเดียม: อา…

ท็อดด์หลบวิถีดาบของมีเดียม ปล่อยให้การโจมตีวืดไป แล้วอาศัยจังหวะสองจามขวานใส่เด็กสาวจากด้านหลัง

ท็อดด์: มีแต่เธอที่ยึดคติตามวิถีจักรวรรดิ อยากจะอ้วก

เพทร่า: มีเดียมจัง!

. มีเดียม โอคอนเนล เป็นคนไม่ชอบใช้หัวคิดอะไรซับซ้อน เพราะเธอเชื่อมั่นคำสอนของพี่ชายที่ว่าหากตัวเธอใช้หัวใจคิดแทนหัวสมองทุกอย่างมันก็เป็นไปด้วยดีเอง

กระทั่งในวินาทีที่เธอโจมตีลอบกัดพลาดและกำลังจะโดนศัตรูใช้ขวานจามสวนจนหน้าแหก มีเดียมก็สามารถยอมรับความตายได้อย่างใจเย็น

มีเดียม: อา ไม่รอดแล้วสินะเรา

จริงอยู่ว่ามีเดียมอยากเจอพี่ชายอีกครั้งและอยากช่วยเรมกับนัตสึมิ แต่ในเมื่อเธอตัดสินใจจู่โจมตามที่ใจสั่งแล้วดันพลาดเอง มีเดียมก็เลือกที่จะยอมรับความผิดพลาดนั้น

――เพราะว่านั่นคือวิถีแห่งวอลลาเคีย

ทว่า ขวานของท็อดด์กลับถูกฟันสะท้อนกลับไปก่อนที่จะมาถึงตัวมีเดียม …ด้วยดาบมังกรฟ้า

มีเดียม: อันจังนี่สุดยอดอย่างที่คิดเลย ทำงี้ทีไรตัวชั้นรอดตายมาได้ทุกที

อัล: ――โอ้ อิจฉาเลยนะเนี่ย ทางชั้นเนี่ยผ่านมาเยอะจนนับครั้งไม่ถูกละ

ท็อดด์: แกคือใคร…

อัล: โทษทีที่มาขัดตอนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม กำลังคิดอยู่เลยว่าตรงไหนจะงานเข้าที่สุด นี่แหละน้าที่เขาว่า “เส้นผมบังภูเขา” ให้ตายสิ อนาคตมันมืดบอดจนมองไม่เห็นอะไรเลย

ท็อดด์จดจ้องชายแขนเดียวสวมหมวกเหล็กที่โผล่มาขัดขวางเขาด้วยความขุ่นเคือง

เขาแสดงความระแวดระวังต่อ “อัลเดบารัน” ออกมาอย่างชัดเจน ราวกับนักล่าที่รู้ดีว่ากระต่ายตรงหน้าเป็นสิ่งอื่นที่แอบปลอมตัวมา

อัล: อนาคตที่มืดมัวแบบนี้มันก็เกินไปนะ จะทำไมซะอีก ก็มันมองไม่เห็นดวงดาวเลยน่ะสิ

. จบตอน