webnovel arc7 chapter47

บทที่ 7 ตอนที่ 47 "■■ที่ไม่เลือนหาย" (ตรง ■■ เป็นคำที่เซนเซอร์ไว้)

รุยถูกเด็กชายแกะใช้แขนหวดกระเด็นเข้าไปชนกับโครงเตนท์ แล้วเตนท์ทั้งหลังก็ถล่มลงมาทับซ้ำอีกที

เด็กชายแกะจะคิดหวดสุบารุที่มัวแต่ตะลึงอีกคน แต่เขาก็ถูกมีเดียมกระโดดถีบไหล่ขวางไว้ จากนั้นมีเดียมก็ตะโกนสั่งให้สุบารุรีบไปช่วยรุยก่อน

สุบารุ: รุย รุย! ยังไม่ตายใช่ไหม! เฮ้ย รุย!

สุบารุพยายามจะช่วยยกเสาที่ทับร่างเธออยู่ออก แต่พละกำลังของเขามันน้อยเกินไป พอรู้ตัวอีกที เลือดก็เริ่มไหลอาบชุดสีขาวของรุยไปแล้ว

สุบารุ: รุย… รุย…

หัวของสุบารุโล่งไปหมด เขาจำไม่ได้แล้วว่าก่อนหน้านี้กลัวรุยทำไม ลืมไปแล้วว่ารุยเคยทำอะไรกับเขาไว้บ้าง

สิ่งเดียวที่ชัดเจนคือรุยพึ่งช่วยชีวิตเขาเอาไว้

สุบารุ: หะ… ห้ามตายนะ รุย! ห้ามตาย เธอจะตายไม่ได้นะ…! ห้ามตายนะ! ห้ามตายเด็ดขาด!

รุย: อาอู…

สุบารุที่หมดสิ้นหนทางกุมมือรุยไว้แล้วขอร้องแบบไร้เหตุผล แต่เสียงของเขาก็ทำให้เด็กสาวลืมตากลับขึ้นมา

. ทางฝั่งมีเดียมก็กำลังต่อสู้กับเด็กชายแกะ เนื่องเธอตัวหดลง มีเดียมเลยใช้ดาบได้แค่เล่มเดียว แถมยังต้องจับดาบสองมือด้วย

ทุกครั้งที่มีเดียมฟันโดนตัวศัตรู ไม่ว่าจะเป็นส่วนผิวหนัง ผม นิ้วมือหรือศีรษะก็ตาม ดาบของเธอก็จะกระดอนกลับ

กลับกันเจ้าเด็กแกะหวดแขนแค่ทีเดียวสามารถสร้างหลุมบนพื้นได้เลย

โชคดีที่การเคลื่อนไหวของเขาเป็นแบบมือสมัครเล่นที่มีแต่ช่องว่าง มีเดียมที่ประสบการณ์ช่ำช่องกว่าเลยพอหลบได้

. อย่างไรก็ตาม ถ้ากำลังเสริมโผล่มาเพิ่ม ถ้ามีคนที่ตัวใหญ่กว่าหรือสู้เก่งกว่านี้โผล่มา สถานการณ์จะเปลี่ยนทันที

มีเดียม: อัลจิน! นี่อัลจิน!

มีเดียมพยายามตะโกนเรียกสติอัล แต่เด็กชายแขนเดียวกลับคุกเข่าแน่นิ่ง แถมยังเอาแต่จ้องมือตัวเองราวกับว่าเขาทำอะไรบางอย่างหล่นหายไป

อัล: …ทำไม…กัน?

. สุดท้ายก็มีศัตรูตาลุกเป็นไฟโผล่มาเพิ่มอย่างที่มีเดียมกลัว แถมมันยังเล็งไปที่อัลซึ่งเป็นเป้านิ่งก่อน

พอจิตใจของเธอหวั่นไหว มือที่กุมดาบของมีเดียมก็จะอ่อนแรงตาม เพราะงี้มีเดียมถึงได้พยายามทำตัวร่าเริงอยู่ตลอด

ในคราวนี้มีเดียมไม่มีพี่ชายมาตะโกนเชียร์ว่า “พยายามเข้านะ!” เหมือนทุกที เธอจึงสิ้นหวังในความไร้กำลังของตน

วินเซนต์: ---ยังไม่ยอมขยับอีกรึ เจ้าคนเขลา

แต่แล้ว วินเซนต์ก็ถีบอัลที่มัวแน่นิ่งให้กระเด็นออกไป จนเขาพ้นทางกรงเล็บของศัตรู รอดมาได้หวุดหวิด

วินเซนต์: มีเดียม

พอถูกอีกฝ่ายเรียกชื่อแล้วจ้องตาผ่านหน้ากากอสูร มีเดียมก็นึกว่าเธอกำลังจะโดนด่าเพราะทำหน้าที่ได้ไม่ดี ไม่ต่างจากเมื่อสมัยที่โดนพวกผู้ใหญ่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าด่า---

วินเซนต์: -​—จงเข้มแข็งเข้าไว้

มีเดียม: …อื้อ! จะพยายามค่ะ!

พอได้คำเชียร์ของวินเซนต์ มีเดียมฮึดขึ้นมาแล้วอัดเจ้าเด็กแกะแบบรัวๆ ทั้งต่อยหน้า ใช้ดาบเสยคาง เตะลำตัว กระทืบหัวเข่า

“เป็นไงบ้าง? รู้สึกดีไหมเวลาที่ได้เอาคืนแบบสองเท่า?”

ในระหว่างที่รัวหมัด คำพูดของผู้มีพระคุณที่เคยช่วยมีเดียมกับพี่ชายออกมาจากสถานการณ์ลำบากก็ลอยขึ้นมาในหัว

พอได้จังหวะ มีเดียมก็ใช้ดาบกระทุ้งหน้าผากเจ้าเด็กแกะจนกระเด็นไปไกล ทำให้ศัตรูหมดท่าไปหนึ่งคนได้สำเร็จ

(ถ้าเป็นตามปกติการโจมตีนี้ของมีเดียมคงผ่าหัวแยกไปแล้ว แต่พลังป้องกันจากวิชายอร์น่าช่วยทำให้แค่กระเด็น)​

. มีเดียมโดนศัตรูอีกคนที่เป็นมนษย์แรดย่องเข้าด้านหลังแล้วดึงผมเอาไว้จนตัวลอย เธอจึงรีบตะโกนบอกให้วินเซนต์พาอัลที่นอนแน่นิ่งหนีไป

แต่มันสายไปเสียแล้ว เพราะวินเซนต์ถูกศัตรูเป็นกลุ่มห้อมล้อมโดยมีมนุษย์วัววัยกลางคนเป็นแกนนำ กระนั้นวินเซนต์ก็ยังยืนหน้านิ่งวิเคราะห์สถานการณ์ต่อได้

มนุษย์วัว: โทษที แต่คงปล่อยให้หนีไปไม่ได้หรอก พวกนายจะต้องถูกจัดการที่นี่…

วินเซนต์: ---แกเป็นมนุษย์วัว แล้วเจ้าคนก่อนก็เป็นมนุษย์แกะ

มนุษย์วัว: ว่าไงนะ?

วินเซนต์: พวกที่ล้อมห้องพักไว้ก็มีเขาเหมือนกัน… ถ้าได้เห็นเงื่อนไขขนาดนี้จะเป็นใครก็ต้องรู้ตัว กลุ่มที่หมายหัวพวกเราอยู่คือพวก “มีเขา” สินะ

ถึงมีเดียมจะงงและตามไม่ทัน แต่ข้อสังเกตของวินเซนต์ก็ถูกต้อง ศัตรูของพวกเขาเป็นอมนุษย์ประเภท “มีเขา” ทั้งนั้นเลย

. วินเซนต์: ---จะลองดูก็ได้นะ

มนุษย์วัว: เอ๋?

วินเซนต์: จะลองดูก็ได้นะว่าแกมีน้ำยาพอจะฆ่าชั้นได้หรือเปล่า

มนุษย์วัว: ไม่คิดว่าข้าจะหักคอบางๆของแกได้อย่างง่ายดายหรือไง?

พอโดนท้าทายขนาดนั้น มนุษย์วัวตาลุกเป็นไฟก็กระทืบพื้นด้วยความโมโห

แค่พละกำลังเพียวๆของเขาแบบไม่ต้องพึ่งพาวิชาของยอร์น่าก็น่าจะมากพอสำหรับการหักคอวินเซนต์แล้ว

วินเซนต์: ถ้าอยากรู้ว่าจะง่ายจริงหรือไม่ คำตอบล้วนแต่อยู่ในการกระทำ ดังนั้น จะลองดูก็ได้นะ ถ้าหากว่าแกมีน้ำยามากพอ เปลวเพลิงก็จะยินยอม แต่ว่า---

มนุษย์วัว: แต่ว่า อะไร?

วินเซนต์: ถ้าหากมีน้ำยาไม่มากพอ เปลวเพลิงก็จะกลืนกินกระทั่งดวงวิญญาณของแก ---เอาสิ จะเลือกแบบไหนดี? ลองดูก็ได้ว่าแกจะสามารถก้าวข้ามเปลวเพลิง “ผู้พิพากษา” ได้หรือไม่

. คำท้าทายของวินเซนต์ทำให้มนุษย์วัวร้องคำรามและกัดฟันกรอดด้วยความเดือดดาล

เขายกแขนที่ขนาดใหญ่และหนาเหมือนท่อนซุงขึ้น เตรียมซัดร่างของวินเซนต์ให้แหลกสลาย

มีเดียมที่ดิ้นไม่หลุดพยายามมองหาความช่วยเหลือ แล้วเธอก็หันไปเห็นสุบารุที่กุมมือของรุยและกำลังหาทางช่วยดึงเธอขึ้นมาจากกองเตนท์ที่ถล่มทับอยู่

---ทว่า ในพริบตาต่อมา ร่างของสองคนนั้นก็หายไปจากทิวทัศน์ของมีเดียม

รุย: อู—!

จากนั้นรุยก็ปรากฏกายออกมาตรงหน้าเจ้ามนุษย์วัวแล้วใช้สองมือของเธอเสยคางมัน

. ในมุมมองของสุบารุ ทุกอย่างเกิดขึ้นในพริบตา

ชั่วขณะก่อนเขากำลังกุมมือรุยและร้องขอไม่ให้เธอตาย แต่ในวินาทีต่อมา เขาก็มาโผล่ตรงหน้าวินเซนต์แทน

สุบารุรับรู้ได้ว่านี่ไม่ใช่ทั้งการหยุดเวลาหรือการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง แต่เป็นการเคลื่อนย้ายข้ามมิติในระยะสั้น

รุยพุ่งตัวอย่างรวดเร็วและไล่โจมตีฝูงอมนุษย์ตามจุดสำคัญอย่างคอ ลำตัวและหัวเข่า ทำให้พวกมันล้มระเนระนาด

. พอถูกล้อม รุยก็ก้มลงแล้วฉีกพื้นปูถนนออกเป็นแผ่นเหมือนดึงพรม ทำให้พวกอมนุษย์สูญเสียสมดุล

จากนั้นรุยก็ปาแผ่นดินอัดใส่มนุษย์กวางหนุ่มที่ยังยืนอยู่ได้ เขาใช้แขนปัดกำแพงดินทิ้ง แต่รุยก็พุ่งไปเตะจมูกซ้ำ

รุยเคลื่อนย้ายไปโผล่เหนือกำแพงต่อ แล้วใช้มือฉีกผิวหน้าของกำแพงออกเหมือนลอกเปลือกผลไม้ จากนั้นก็โยนมันใส่กำลังเสริมที่มาเพิ่ม

สุบารุ: ระ…รุย นั่นมัน…

ภาพที่สุบารุเห็นมันไม่ต่างจากฝันร้าย ทั้งวิชาเทเลพอร์ตระยะสั้น วิชาฉีกผิวดินและศิลปะการต่อสู้ที่รุยใช้ล้วนแต่เป็น ■■ ที่ควรจะหายไปแล้ว (คำถูกเซนเซอร์ไว้)

. วินเซนต์: นี่เองเหรอ สาเหตุที่แกพกเด็กสาวคนนั้นไปไหนมาไหนด้วยกัน?

สุบารุ: มะ…ไม่ใช่

สุบารุพยายามจะปฏิเสธแต่ก็เอ่ยได้ไม่เต็มปาก เพราะเขาพยายามไม่ละสายตาจากรุยตลอดมาจริงๆ

ในระหว่างนั้นรุยก็เทเลพอร์ตไปตบบ้องหูสองข้างของมนุษย์แรดที่คิดจะใช้มีเดียมเป็นตัวประกันอันเป็นการปิดงานศัตรูตัวสุดท้าย

วินเซนต์เห็นว่าเป็นโอกาสดีจึงสั่งให้สุบารุรีบไปพาตัวอัลมา

สุบารุ: อะ… อัล! นายยังสบายดีอยู่ไหม? บาดเจ็บตรงไหน…

อัล: …สบายดี…ก็บ้าแล้ว

สุบารุ: …! บาดเจ็บเหรอ!? ตรงไหนกัน? นายต้องไปรักษาด่วนเลย…

อัล: ไม่ใช่เว้ย!

อัลแหกปากตะโกน ส่ายหน้าปฏิเสธ แล้วกำมือขวาที่สั่นเทาของตนเอาไว้

อัล: -​—ไร้ค่าสิ้นดี

สุบารุ: มะ…ไม่จริงหรอกน่า…

อัล: ไร้ค่าสิ้นดี ตัวชั้นในตอนนี้น่ะ เดี๋ยวก็ได้ตายแหงเลย

สุบารุ: …? พูดอะไรของ---

. ในระหว่างที่สุบารุพยายามจะถามอัลเพิ่ม เสียงโวยวายของมีเดียมจากอีกฝั่งของถนนก็ดังขึ้นมา

มีเดียม: อาเบลจิน! อย่าทำอะไรไม่ดีเลยนะ

วินเซนต์: เงียบไปก่อน มีเรื่องจำเป็นที่ต้องถามยืนยันจากเขาอยู่

ที่เบื้องหน้าของทั้งสองคนคือเจ้าเด็กแกะที่โยนสุบารุขึ้นฟ้า วินเซนต์ขยับหน้ากากอสูรเข้าไปใกล้เพื่อเอ่ยถามเรื่องหนึ่ง โดยไม่สนความกลัวและสภาพถูกอัดยับเยินของเด็กชาย

วินเซนต์: ผู้รักษาความสงบแห่งเผ่ามีเขา -​—เด็กสาวที่เรียกตัวเองว่า “ทันซ่า” ตัวการผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี่ซ่อนตัวอยู่ที่ไหนกัน? รีบสารภาพมาให้เร็วเลย

จบตอน