webnovel arc7 chapter51

บทที่ 7 ตอนที่ 51 "นายหญิงแห่งนครมาร"

โอลบาร์ต: นั่นสิน้อ ไอ้หนู เจ้าน่ะหิวหรือเปล่า?

สุบารุ: …หะ…หิวเรอะ?

นั่นคือคำถามแรกที่จู่ๆโอลบาร์ตก็เอ่ยถามสุบารุผู้ตามหาเขาเจอเป็นครั้งที่สอง

โอลบาร์ต: โอ้ ใช่แล้ว ความหิว ยังไงซะ ตั้งแต่ตื่นมาเจ้าก็ยังไม่ได้กินอะไรเลยจริงไหมน้อ? ความหิวน่ะส่งผลต่อการทำงานร่วมกันของสมองและร่างกาย

โอลบาร์ตวางน้ำเต้าบรรจุสุราแล้ว หยิบห่อที่บรรจุวัตถุทรงกลมสีดำขนาดลูกกอล์ฟออกมา

สุบารุ: นั่นมัน…

โอลบาร์ต: “เฮียวโรกัน” อาหารสนามของชิโนบิอย่างพวกข้า กินแค่ก้อนเดียวก็หายหิวไปทั้งวัน แถมร่างกายและจิตใจก็กระปรี้กระเปร่า แต่ว่ารสชาติของมันก็ห่วยแตกมาก

โอลบาร์ตบ่นว่าเขากินไอ้เจ้าอาหารสนามนี่มาตั้งแต่เด็ก ทุกครั้งที่ต้องกินมันตอนทำงานเขาก็รู้สึกอยากเกษียณไปพักเหมือนพวกผู้เฒ่ารุ่นก่อน

แต่ถึงจะบ่นอิดออด สุดท้ายโอลบาร์ตก็โยนอาหารฉุกเฉินเข้าปาก จากนั้นก็เคี้ยวและกลืนมันในคราวเดียว

. ยอร์น่าแสดงท่าทีโมโหต่อโอลบาร์ตที่บุกรุกปราสาทขึ้นมานั่งชมวิว แต่ชายแก่ก็ยังนั่งชิวแล้วโยนอาหารสนามอีกลูกหนึ่งเข้าปาก

โอลบาร์ต: แล้ว ไหงพวกเจ้าสามคนถึงสนิทสนมกันดีแบบนี้นะ? สาวจิ้งจอกกับเด็กน้อยสองคน ไม่น่ามีเหตุผลให้เป็นเพื่อนกันได้เลยนะ

ยอร์น่า: เสียใจด้วย ข้าน้อยไม่ได้มีรสนิยมชอบแกล้งเด็กและทรมานเด็กแบบไม่มีเหตุผลเฉกเช่นผู้เฒ่าอำมหิตโอลบาร์ตหรอกนะ กับเด็กๆน่ะ ต้องปฏิบัติตัวด้วยความเคารพอยู่แล้วเจ้าค่ะ อีกอย่าง---

ยอร์น่าหมุนควงไปป์คิเซะรุด้วยนิ้ว แล้วชี้กล้องยาสูบสีทองไปทางโอลบาร์ต

ยอร์น่า: พอได้ยินว่าผู้เฒ่าโอลบาร์ตหลอกลวงเด็กคนนี้และล่อลวงบริวารของข้าน้อยแล้ว… ในฐานะนายหญิงของนครแห่งนี้ คงต้องขอทำตามหน้าที่หน่อยเจ้าค่ะ

โอลบาร์ต: โฮ่โฮ่ โฮ่

โอลบาร์ตไม่ว่าอะไรที่สุบารุกล่อมหูยอร์น่ามาเข้าพวก เพราะฝั่งโอลบาร์ตเองก็ปล่อยให้พวกทันซ่าโจมตีพวกสุบารุเช่นกัน

มิหนำซ้ำโอลบาร์ตยังชื่นชมความเจ้าเล่ห์ของสุบารุและอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาเป็นหนึ่งในสายเลือดเชื้อพระวงศ์วอลลาเคียที่โดดเด่นด้านความเหี้ยมโหดหรือไงกัน

. ยอร์น่า: ถึงอยากจะตำหนิบริวารผู้น่าชื่นชมของข้าน้อย แต่เธอก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย เอาล่ะ ผู้เฒ่าโอลบาร์ตเอาเด็กคนนั้นไปซ่อนไว้ที่ไหนกันเจ้าคะ?

หลังสุบารุได้มีโอกาสพูดคุยและทำความเข้าใจนิสัยของยอร์น่า เขาก็ลองเสี่ยงเดิมพันเล่าข้อมูลเรื่องเกมซ่อนแอบของโอลบาร์ตกับเรื่องการร่่วมมือของทันซ่าให้เธอฟัง

ยอร์น่ามองว่านั่นคือการขอร้องให้ช่วยจากใจจริงของเด็กน้อย เธอถึงได้ยอมเชื่อและตัดสินใจติดตามขึ้นมาที่ยอดปราสาทด้วยกัน

. ยอร์น่า: ผู้เฒ่าโอลบาร์ต ข้าน้อยมีสองเรื่องที่อยากเรียกร้องเจ้าค่ะ

โอลบาร์ต: ข้อเรียกร้องรึ ว่ามาสิ

ยอร์น่า: อย่างแรก คืนตัวทันซ่ามาให้ฝั่งข้าน้อย

โอลบาร์ต: เฮ้ยๆ แบบนั้นก็เกินไปหน่อย เด็กคนนั้นก็มีความคิดเป็นของตัวเองจริงไหมน้อ ไม่อย่างนั้นคงไม่แอบวางแผนลับหลังคนสำคัญอย่างเจ้า

ยอร์น่า: …เงียบปากไป ---เสียใจด้วย แต่ความคิดเห็นของทันซ่าน่ะ จะขอฟังจากปากของเด็กคนนั้นเอง มาปล่อยให้ “ผู้เฒ่าอำมหิต” พูดแทนมันคงทนฟังไม่ได้เจ้าค่ะ

ตอนที่ยอร์น่าเปลี่ยนเข้าโหมดจริงจัง กระทั่งสุบารุที่เป็นฝ่ายเดียวกันยังกลัวจนหยุดหายใจ

ยอร์น่า: อีกข้อหนึ่ง เกมที่กำลังเล่นอยู่กับเด็กพวกนี้น่ะ ให้ยุติมันลงซะเจ้าค่ะ

. การเล่นไม่ซื่อของโอลบาร์ตถือเป็นการลบหลู่คำประกาศต่อหน้าองค์จักรพรรดิของยอร์น่า ที่ว่าห้ามใครแตะต้องคนส่งสารของเธอ

ถึงแม้เจ้าเมืองสาวจะไม่ได้ความโกรธทางน้ำเสียงและสีหน้า แต่โทสะที่เล็ดลอดออกมาก็ทำให้บรรยากาศเริ่มเดืิอดพล่าน

กระทั่งรุยก็รู้ตัวว่าเธอไม่อาจจะเข้าไปแทรกการต่อสู้ระหว่างสองสัตว์ประหลาดที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นได้ สิ่งเดียวที่รุยทำได้คือการพาสุบารุวาร์ปหนี ถ้าเขาตกอยู่ในอันตราย

. สุบารุ: -​—อึก คุณโอลบาร์ต!

พอสุบารุตะโกนเรียกกลางคัน ชิโนบิเฒ่าก็แบ่งประสาทด้วยการใช้ตาขวาจดจ้องยอร์น่าไว้ ส่วนตาซ้ายเหล่มามองสุบารุ

สุบารุ: ทะ… ทำได้ยังไงกันล่ะนั่น?

โอลบาร์ต: คั่กคั่กคั่กคั่ก! การควบคุมร่างกายน่ะคือรากฐานของชิโนบิเลยน้อ ถ้าแยกประสาทมือขวามือซ้ายหรือเท้าขวาเท้าซ้ายไม่ได้ ก็เป็นชิโนบิไม่ได้หรอกน้อ

สุบารุพยายามเรียกร้องให้โอลบาร์ตยุติเกมด้วยผลเจ๊ากันไปเพราะต่างฝ่ายต่างโกง แล้วแลกของรางวัลที่สัญญากันไว้ (คลายวิชาหดตัว/ข้อมูลเปลวเพลิงแห่งดาบแสงตะวัน)

ฝั่งยอร์น่าก็เงียบเฉยซึ่งแปลว่าเธอไม่ได้คัดค้าน สุบารุรู้สึกขอบคุณที่เธอเคารพการตัดสินใจของเขา

สุบารุ: คุณโอลบาร์ต

ต่อหน้าสายตาคาดหวังของเด็กน้อย โอลบาร์ตหยิบน้ำเต้าออกมาแล้วซดสุราด้านในจนหมด

โอลบาร์ต: นี่ ไอ้หนู ข้าก็ไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าคิดเรื่องนั้นขึ้นมาเพราะสภาพตอนนี้ หรือว่าตัวเจ้าคนเดิมก็คงจะคิดแบบเดียวกัน ---แต่เมื่อเริ่มเล่นไปแล้ว ข้าก็ไม่คิดจะล้มเลิกเกมที่ตัวเองชนะแน่ๆกลางคันหรอกนะ ---คนแก่น่ะดื้อด้านว่าไหมน้อ?

โอลบาร์ตประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนพร้อมขยี้ขวดน้ำเต้าที่ถือไว้ในมือจนแหลก

. ยอร์น่า: ผู้เฒ่าที่ไม่ยอมรับข้อเสนอที่เด็กอุตส่าห์ยื่นให้ ช่างเป็นความดื้อด้านที่น่าเศร้าเหลือเกิน

หลังกล่าวจบ ยอร์น่าก็ยกขาเรียวยาวของเธอขึ้น จากนั้นก็ฟาดส้นลงใส่หลังคาปราสาทจนมันแยกออกเป็นสองส่วน

การตอกส้นเท้าของยอร์น่าทำให้ปราสาทรูริแดงเกิดรอยร้าว แตกสลาย ระเบิดออก จนสุดท้ายตัวประสาทพังทลายไปส่วนหนึ่ง

แรงปะทะทำให้สุบารุเกือบร่วงจากหลังคา โชคที่รุยคว้าตัวเขาไว้ได้ทัน ยอร์น่าสั่งให้สุบารุหาที่หลบด้านหลังดีๆ เพราะเธอออมมือไม่ค่อยเป็น

. ยอร์น่าปัดฝุ่นแล้วเงยหน้าขึ้นไปมองโอลบาร์ตที่ลอยอยู่กลางอากาศ แฝงตัวอยู่กับกลุ่มควันและเศษซากที่กระจัดกระจาย

ยอร์น่าสูดไปป์แล้วพ่นควันสีม่วงออกมา ส่วนโอลบาร์ตก็กลับตัวกลางอากาศแล้วพุ่งตัวเข้ามาด้วยความเร็วเหมือนลูกศร

ลูกเตะของโอลบาร์ตปะทะเข้ากับควันของยอร์น่า แต่ม่านควันที่ควรจะไร้น้ำหนักกลับรับเท้าของโอลบาร์ตไว้ได้ก่อนที่จะกระจายหายไป

โอลบาร์ตแสยะยิ้มแล้วรัวลูกถีบซ้ำเข้าไปประมาณ 20 ครั้งในชั่วพริบตาเดียว ซึ่งส่งผลทำให้กำแพงควันทั้งหมดสลายหายไป

. โอลบาร์ต: ลูกเล่นน่าสนใจดีนี่ ถ้าจดใส่สมุดบันทึกวิชาได้ก็คงดีน้อ

ยอร์น่า: น่าเสียดายนะเจ้าคะ ชิโนบิที่รักใครไม่เป็นน่ะลอกเลียนศาสตร์ลับนี้ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ

พอชิโนบิเฒ่าฝ่าม่านควันมาได้ ยอร์น่าก็กระโดดไปกลางอากาศแล้วใช้ไปป์คิเซะรุฟาดเล็งไปที่ศีรษะด้านข้างของโอลบาร์ต

โอลบาร์ตหันกลับมาปามีดคุไนที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อสวนไป ทว่า ไปป์ของยอร์น่ากลับหวดมีดคุไนของโอลบาร์ตจนแหลกไปซะเอง

สองแม่ทัพเข้าต่อสู้กันแบบแลกอาวุธ การโจมตีแต่ละครั้งของยอร์น่านั้นรุนแรงมาก ส่วนการโจมตีของโอลบาร์ตนั้นไม่ได้โดดเด่น แต่เน้นการสวนกลับ

โอลบาร์ต: การจะฆ่าคนไม่จำเป็นต้องใช้พลังระดับทำลายปราสาทหรอก สุดท้ายใช้แค่เข็มยาวๆแท่งหนึ่งเจาะกะโหลกก็เหลือเฟือแล้วน้อ

ยอร์น่า: ถ้างั้นก็ลองดูสิ

ต่อหน้าคำท้าทาย โอลบาร์ตเร่งเครื่องขึ้นแล้วพุ่งตัวด้วยความเร็วที่ดวงตาของมนุษย์ธรรมดาตามไม่ทัน

ชิโนบิเฒ่าเคลื่อนไหวปราดเปรื่องราวกับเป็นเครื่องบินรบและโจมตีหนักหน่วงราวกับกระสุนไรเฟิล

กระนั้นฝ่ายยอร์น่าก็ยังคงยืนตั้งรับด้วยไปป์หรือไม่ก็หลบหลีกด้วยประสาทสัมผัสเฉียบแหลม

. การต่อสู้ระดับสองผู้เหนือมนุษย์ทำให้สุบารุกับรุยได้แต่อึ้งจนลืมหายใจ

สุบารุเริ่มกังวลว่าการต่อสู้สุดเดือดของทั้งสองจะเรียกพรรคพวกของแต่ละฝ่ายมารวมตัวกันจนกลายเป็นสงครามกลางเมือง

โอลบาร์ต: ไฮย่าาาาหห์!!

ในระหว่างนั้น โอลบาร์ตก็ลงจอดกระทืบหลังคาอย่างแรง ส่งแรงคลื่นกระแทกไประเบิดใต้เท้ายอร์น่าและส่งเธอลอยขึ้นฟ้า ซึ่งมีชูริเคนที่โอลบาร์ตปาไว้ล่วงหน้าไว้ 10 อันดักรออยู่รอบทิศทาง

ยอร์น่า: ควรจะเข้าใจได้แล้วนะเจ้าคะ ข้าน้อยคือนายใหญ่ของนครแห่งนี้ เป็นผู้ปกครองแห่งนครมารเจ้าค่ะ

แต่แล้วชูริเคนก็ถูกหยุดยั้งเอาไว้โดย “กระเบื้อง” ปูหลังคาที่ลอยตัวขึ้นมาขวางกั้น

แล้วพอยอร์น่าโบกมือให้สัญญาณ กระเบื้องก็เรียงตัวกัน กลายเป็น “บันไดวน” ให้เธอเดินลงมาจากลางอากาศอย่างสง่างาม

นี่ไม่ใช่เวทมนตร์มี่สุบารุเคยรู้จัก วิชาของยอร์น่าไม่ได้ควบคุมไฟ น้ำ ลม ดิน แต่เป็นการควบคุมสิ่งปลูกสร้าง . โอลบาร์ต: คั่ก ชวนปวดหัวจริงๆเลยน้อ เจ้าเนี่ย นี่เองเหรอที่เซซิลุสกับอาราคิเคยพูดถึง? ทำได้ยังไงกันละนั่น

ยอร์น่า: บอกไปแล้วนี่เจ้าคะ มันคือศาสตร์ลับที่ชิโนบิผู้ไม่รู้จักความรักไม่สามารถใช้ได้… ข้าน้อยน่ะเป็นสตรีที่ดูแลทุกอย่างดีเสมอ

ยอร์น่าใช้ปากคาบไปป์ไว้แล้วทำการปรบมือ หลังจากนั้นปราสาทที่พังไปครึ่งหนึ่งก็เริ่มทำการซ่อมแซมตัวเอง คล้ายกับเป็นสิ่งมีชีวิตที่บาดแผลฟื้นฟูเองได้ตามกาลเวลา

ศาสตร์ลับของยอร์น่าบิดเบือนความจริงได้ราวกับเป็นความฝัน มันทำให้สุบารุตกตะลึงจนพูดไม่ออก แต่เขาก็พอคาดเดาที่มาที่ไปของพลังลึกลับนี้ได้

สุบารุ: กระทั่งปราสาทก็ได้รับผลจาก “วิชาวิวาห์ดวงวิญญาณ” งั้นเหรอ…?

จบตอน