โอลบาร์ต: นั่นสิน้อ ไอ้หนู เจ้าน่ะหิวหรือเปล่า?
สุบารุ: …หะ…หิวเรอะ?
นั่นคือคำถามแรกที่จู่ๆโอลบาร์ตก็เอ่ยถามสุบารุผู้ตามหาเขาเจอเป็นครั้งที่สอง
โอลบาร์ต: โอ้ ใช่แล้ว ความหิว ยังไงซะ ตั้งแต่ตื่นมาเจ้าก็ยังไม่ได้กินอะไรเลยจริงไหมน้อ? ความหิวน่ะส่งผลต่อการทำงานร่วมกันของสมองและร่างกาย
โอลบาร์ตวางน้ำเต้าบรรจุสุราแล้ว หยิบห่อที่บรรจุวัตถุทรงกลมสีดำขนาดลูกกอล์ฟออกมา
สุบารุ: นั่นมัน…
โอลบาร์ต: “เฮียวโรกัน” อาหารสนามของชิโนบิอย่างพวกข้า กินแค่ก้อนเดียวก็หายหิวไปทั้งวัน แถมร่างกายและจิตใจก็กระปรี้กระเปร่า แต่ว่ารสชาติของมันก็ห่วยแตกมาก
โอลบาร์ตบ่นว่าเขากินไอ้เจ้าอาหารสนามนี่มาตั้งแต่เด็ก ทุกครั้งที่ต้องกินมันตอนทำงานเขาก็รู้สึกอยากเกษียณไปพักเหมือนพวกผู้เฒ่ารุ่นก่อน
แต่ถึงจะบ่นอิดออด สุดท้ายโอลบาร์ตก็โยนอาหารฉุกเฉินเข้าปาก จากนั้นก็เคี้ยวและกลืนมันในคราวเดียว
. ยอร์น่าแสดงท่าทีโมโหต่อโอลบาร์ตที่บุกรุกปราสาทขึ้นมานั่งชมวิว แต่ชายแก่ก็ยังนั่งชิวแล้วโยนอาหารสนามอีกลูกหนึ่งเข้าปาก
โอลบาร์ต: แล้ว ไหงพวกเจ้าสามคนถึงสนิทสนมกันดีแบบนี้นะ? สาวจิ้งจอกกับเด็กน้อยสองคน ไม่น่ามีเหตุผลให้เป็นเพื่อนกันได้เลยนะ
ยอร์น่า: เสียใจด้วย ข้าน้อยไม่ได้มีรสนิยมชอบแกล้งเด็กและทรมานเด็กแบบไม่มีเหตุผลเฉกเช่นผู้เฒ่าอำมหิตโอลบาร์ตหรอกนะ กับเด็กๆน่ะ ต้องปฏิบัติตัวด้วยความเคารพอยู่แล้วเจ้าค่ะ อีกอย่าง---
ยอร์น่าหมุนควงไปป์คิเซะรุด้วยนิ้ว แล้วชี้กล้องยาสูบสีทองไปทางโอลบาร์ต
ยอร์น่า: พอได้ยินว่าผู้เฒ่าโอลบาร์ตหลอกลวงเด็กคนนี้และล่อลวงบริวารของข้าน้อยแล้ว… ในฐานะนายหญิงของนครแห่งนี้ คงต้องขอทำตามหน้าที่หน่อยเจ้าค่ะ
โอลบาร์ต: โฮ่โฮ่ โฮ่
โอลบาร์ตไม่ว่าอะไรที่สุบารุกล่อมหูยอร์น่ามาเข้าพวก เพราะฝั่งโอลบาร์ตเองก็ปล่อยให้พวกทันซ่าโจมตีพวกสุบารุเช่นกัน
มิหนำซ้ำโอลบาร์ตยังชื่นชมความเจ้าเล่ห์ของสุบารุและอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาเป็นหนึ่งในสายเลือดเชื้อพระวงศ์วอลลาเคียที่โดดเด่นด้านความเหี้ยมโหดหรือไงกัน
. ยอร์น่า: ถึงอยากจะตำหนิบริวารผู้น่าชื่นชมของข้าน้อย แต่เธอก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย เอาล่ะ ผู้เฒ่าโอลบาร์ตเอาเด็กคนนั้นไปซ่อนไว้ที่ไหนกันเจ้าคะ?
หลังสุบารุได้มีโอกาสพูดคุยและทำความเข้าใจนิสัยของยอร์น่า เขาก็ลองเสี่ยงเดิมพันเล่าข้อมูลเรื่องเกมซ่อนแอบของโอลบาร์ตกับเรื่องการร่่วมมือของทันซ่าให้เธอฟัง
ยอร์น่ามองว่านั่นคือการขอร้องให้ช่วยจากใจจริงของเด็กน้อย เธอถึงได้ยอมเชื่อและตัดสินใจติดตามขึ้นมาที่ยอดปราสาทด้วยกัน
. ยอร์น่า: ผู้เฒ่าโอลบาร์ต ข้าน้อยมีสองเรื่องที่อยากเรียกร้องเจ้าค่ะ
โอลบาร์ต: ข้อเรียกร้องรึ ว่ามาสิ
ยอร์น่า: อย่างแรก คืนตัวทันซ่ามาให้ฝั่งข้าน้อย
โอลบาร์ต: เฮ้ยๆ แบบนั้นก็เกินไปหน่อย เด็กคนนั้นก็มีความคิดเป็นของตัวเองจริงไหมน้อ ไม่อย่างนั้นคงไม่แอบวางแผนลับหลังคนสำคัญอย่างเจ้า
ยอร์น่า: …เงียบปากไป ---เสียใจด้วย แต่ความคิดเห็นของทันซ่าน่ะ จะขอฟังจากปากของเด็กคนนั้นเอง มาปล่อยให้ “ผู้เฒ่าอำมหิต” พูดแทนมันคงทนฟังไม่ได้เจ้าค่ะ
ตอนที่ยอร์น่าเปลี่ยนเข้าโหมดจริงจัง กระทั่งสุบารุที่เป็นฝ่ายเดียวกันยังกลัวจนหยุดหายใจ
ยอร์น่า: อีกข้อหนึ่ง เกมที่กำลังเล่นอยู่กับเด็กพวกนี้น่ะ ให้ยุติมันลงซะเจ้าค่ะ
. การเล่นไม่ซื่อของโอลบาร์ตถือเป็นการลบหลู่คำประกาศต่อหน้าองค์จักรพรรดิของยอร์น่า ที่ว่าห้ามใครแตะต้องคนส่งสารของเธอ
ถึงแม้เจ้าเมืองสาวจะไม่ได้ความโกรธทางน้ำเสียงและสีหน้า แต่โทสะที่เล็ดลอดออกมาก็ทำให้บรรยากาศเริ่มเดืิอดพล่าน
กระทั่งรุยก็รู้ตัวว่าเธอไม่อาจจะเข้าไปแทรกการต่อสู้ระหว่างสองสัตว์ประหลาดที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นได้ สิ่งเดียวที่รุยทำได้คือการพาสุบารุวาร์ปหนี ถ้าเขาตกอยู่ในอันตราย
. สุบารุ: -—อึก คุณโอลบาร์ต!
พอสุบารุตะโกนเรียกกลางคัน ชิโนบิเฒ่าก็แบ่งประสาทด้วยการใช้ตาขวาจดจ้องยอร์น่าไว้ ส่วนตาซ้ายเหล่มามองสุบารุ
สุบารุ: ทะ… ทำได้ยังไงกันล่ะนั่น?
โอลบาร์ต: คั่กคั่กคั่กคั่ก! การควบคุมร่างกายน่ะคือรากฐานของชิโนบิเลยน้อ ถ้าแยกประสาทมือขวามือซ้ายหรือเท้าขวาเท้าซ้ายไม่ได้ ก็เป็นชิโนบิไม่ได้หรอกน้อ
สุบารุพยายามเรียกร้องให้โอลบาร์ตยุติเกมด้วยผลเจ๊ากันไปเพราะต่างฝ่ายต่างโกง แล้วแลกของรางวัลที่สัญญากันไว้ (คลายวิชาหดตัว/ข้อมูลเปลวเพลิงแห่งดาบแสงตะวัน)
ฝั่งยอร์น่าก็เงียบเฉยซึ่งแปลว่าเธอไม่ได้คัดค้าน สุบารุรู้สึกขอบคุณที่เธอเคารพการตัดสินใจของเขา
สุบารุ: คุณโอลบาร์ต
ต่อหน้าสายตาคาดหวังของเด็กน้อย โอลบาร์ตหยิบน้ำเต้าออกมาแล้วซดสุราด้านในจนหมด
โอลบาร์ต: นี่ ไอ้หนู ข้าก็ไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าคิดเรื่องนั้นขึ้นมาเพราะสภาพตอนนี้ หรือว่าตัวเจ้าคนเดิมก็คงจะคิดแบบเดียวกัน ---แต่เมื่อเริ่มเล่นไปแล้ว ข้าก็ไม่คิดจะล้มเลิกเกมที่ตัวเองชนะแน่ๆกลางคันหรอกนะ ---คนแก่น่ะดื้อด้านว่าไหมน้อ?
โอลบาร์ตประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนพร้อมขยี้ขวดน้ำเต้าที่ถือไว้ในมือจนแหลก
. ยอร์น่า: ผู้เฒ่าที่ไม่ยอมรับข้อเสนอที่เด็กอุตส่าห์ยื่นให้ ช่างเป็นความดื้อด้านที่น่าเศร้าเหลือเกิน
หลังกล่าวจบ ยอร์น่าก็ยกขาเรียวยาวของเธอขึ้น จากนั้นก็ฟาดส้นลงใส่หลังคาปราสาทจนมันแยกออกเป็นสองส่วน
การตอกส้นเท้าของยอร์น่าทำให้ปราสาทรูริแดงเกิดรอยร้าว แตกสลาย ระเบิดออก จนสุดท้ายตัวประสาทพังทลายไปส่วนหนึ่ง
แรงปะทะทำให้สุบารุเกือบร่วงจากหลังคา โชคที่รุยคว้าตัวเขาไว้ได้ทัน ยอร์น่าสั่งให้สุบารุหาที่หลบด้านหลังดีๆ เพราะเธอออมมือไม่ค่อยเป็น
. ยอร์น่าปัดฝุ่นแล้วเงยหน้าขึ้นไปมองโอลบาร์ตที่ลอยอยู่กลางอากาศ แฝงตัวอยู่กับกลุ่มควันและเศษซากที่กระจัดกระจาย
ยอร์น่าสูดไปป์แล้วพ่นควันสีม่วงออกมา ส่วนโอลบาร์ตก็กลับตัวกลางอากาศแล้วพุ่งตัวเข้ามาด้วยความเร็วเหมือนลูกศร
ลูกเตะของโอลบาร์ตปะทะเข้ากับควันของยอร์น่า แต่ม่านควันที่ควรจะไร้น้ำหนักกลับรับเท้าของโอลบาร์ตไว้ได้ก่อนที่จะกระจายหายไป
โอลบาร์ตแสยะยิ้มแล้วรัวลูกถีบซ้ำเข้าไปประมาณ 20 ครั้งในชั่วพริบตาเดียว ซึ่งส่งผลทำให้กำแพงควันทั้งหมดสลายหายไป
. โอลบาร์ต: ลูกเล่นน่าสนใจดีนี่ ถ้าจดใส่สมุดบันทึกวิชาได้ก็คงดีน้อ
ยอร์น่า: น่าเสียดายนะเจ้าคะ ชิโนบิที่รักใครไม่เป็นน่ะลอกเลียนศาสตร์ลับนี้ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ
พอชิโนบิเฒ่าฝ่าม่านควันมาได้ ยอร์น่าก็กระโดดไปกลางอากาศแล้วใช้ไปป์คิเซะรุฟาดเล็งไปที่ศีรษะด้านข้างของโอลบาร์ต
โอลบาร์ตหันกลับมาปามีดคุไนที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อสวนไป ทว่า ไปป์ของยอร์น่ากลับหวดมีดคุไนของโอลบาร์ตจนแหลกไปซะเอง
สองแม่ทัพเข้าต่อสู้กันแบบแลกอาวุธ การโจมตีแต่ละครั้งของยอร์น่านั้นรุนแรงมาก ส่วนการโจมตีของโอลบาร์ตนั้นไม่ได้โดดเด่น แต่เน้นการสวนกลับ
โอลบาร์ต: การจะฆ่าคนไม่จำเป็นต้องใช้พลังระดับทำลายปราสาทหรอก สุดท้ายใช้แค่เข็มยาวๆแท่งหนึ่งเจาะกะโหลกก็เหลือเฟือแล้วน้อ
ยอร์น่า: ถ้างั้นก็ลองดูสิ
ต่อหน้าคำท้าทาย โอลบาร์ตเร่งเครื่องขึ้นแล้วพุ่งตัวด้วยความเร็วที่ดวงตาของมนุษย์ธรรมดาตามไม่ทัน
ชิโนบิเฒ่าเคลื่อนไหวปราดเปรื่องราวกับเป็นเครื่องบินรบและโจมตีหนักหน่วงราวกับกระสุนไรเฟิล
กระนั้นฝ่ายยอร์น่าก็ยังคงยืนตั้งรับด้วยไปป์หรือไม่ก็หลบหลีกด้วยประสาทสัมผัสเฉียบแหลม
. การต่อสู้ระดับสองผู้เหนือมนุษย์ทำให้สุบารุกับรุยได้แต่อึ้งจนลืมหายใจ
สุบารุเริ่มกังวลว่าการต่อสู้สุดเดือดของทั้งสองจะเรียกพรรคพวกของแต่ละฝ่ายมารวมตัวกันจนกลายเป็นสงครามกลางเมือง
โอลบาร์ต: ไฮย่าาาาหห์!!
ในระหว่างนั้น โอลบาร์ตก็ลงจอดกระทืบหลังคาอย่างแรง ส่งแรงคลื่นกระแทกไประเบิดใต้เท้ายอร์น่าและส่งเธอลอยขึ้นฟ้า ซึ่งมีชูริเคนที่โอลบาร์ตปาไว้ล่วงหน้าไว้ 10 อันดักรออยู่รอบทิศทาง
ยอร์น่า: ควรจะเข้าใจได้แล้วนะเจ้าคะ ข้าน้อยคือนายใหญ่ของนครแห่งนี้ เป็นผู้ปกครองแห่งนครมารเจ้าค่ะ
แต่แล้วชูริเคนก็ถูกหยุดยั้งเอาไว้โดย “กระเบื้อง” ปูหลังคาที่ลอยตัวขึ้นมาขวางกั้น
แล้วพอยอร์น่าโบกมือให้สัญญาณ กระเบื้องก็เรียงตัวกัน กลายเป็น “บันไดวน” ให้เธอเดินลงมาจากลางอากาศอย่างสง่างาม
นี่ไม่ใช่เวทมนตร์มี่สุบารุเคยรู้จัก วิชาของยอร์น่าไม่ได้ควบคุมไฟ น้ำ ลม ดิน แต่เป็นการควบคุมสิ่งปลูกสร้าง . โอลบาร์ต: คั่ก ชวนปวดหัวจริงๆเลยน้อ เจ้าเนี่ย นี่เองเหรอที่เซซิลุสกับอาราคิเคยพูดถึง? ทำได้ยังไงกันละนั่น
ยอร์น่า: บอกไปแล้วนี่เจ้าคะ มันคือศาสตร์ลับที่ชิโนบิผู้ไม่รู้จักความรักไม่สามารถใช้ได้… ข้าน้อยน่ะเป็นสตรีที่ดูแลทุกอย่างดีเสมอ
ยอร์น่าใช้ปากคาบไปป์ไว้แล้วทำการปรบมือ หลังจากนั้นปราสาทที่พังไปครึ่งหนึ่งก็เริ่มทำการซ่อมแซมตัวเอง คล้ายกับเป็นสิ่งมีชีวิตที่บาดแผลฟื้นฟูเองได้ตามกาลเวลา
ศาสตร์ลับของยอร์น่าบิดเบือนความจริงได้ราวกับเป็นความฝัน มันทำให้สุบารุตกตะลึงจนพูดไม่ออก แต่เขาก็พอคาดเดาที่มาที่ไปของพลังลึกลับนี้ได้
สุบารุ: กระทั่งปราสาทก็ได้รับผลจาก “วิชาวิวาห์ดวงวิญญาณ” งั้นเหรอ…?
จบตอน