สุบารุที่เป็นผู้ทำสัญญาวิญญาณรู้ดีกว่าแค่การส่งมานาให้คู่หูก็ทำได้ยากแล้ว
แต่นี่ยอร์น่าทั้งเชื่อมต่อโอโดกับบริวารเป็นร้อยคน แถมยังสามารถเชื่อมต่อกับสิ่งไม่มีชีวิตอย่างปราสาทหรือไปป์คิเซะรุของเธอได้ด้วย
โอลบาร์ต: ฮ่าฮ่า เป็นลูกเล่นที่ประหลาดเสียจริง ให้ตายสิ ต่อให้จะอายุยืนแค่ไหน เล่นเจอวิชาใหม่ผุดมาเป็นดอกเห็ดแบบนี้ก็ปวดหัวดีแท้น้อ
ยอร์น่า: นั่นแหละคือโลกที่เราอาศัยอยู่ รำพึงไปก็ไม่ได้อะไรเจ้าค่ะ เท่าที่ข้าน้อยทราบมา วิชาของผู้เฒ่าโอลบาร์ตเองก็ชวนปวดหัวพอกัน… คงต้องกำจัดทิ้งเจ้าค่ะ
โอลบาร์ต: คั่กคั่กคั่ก! กำจัดข้าไม่ได้ง่ายๆแบบนั้นหรอ… เหวอ!?
พอโอลบาร์ตกระโดดถอยหลังไปตั้งหลัก กระเบื้องที่เขาลงจอดกลับระเบิดออกต่อเนื่องกันตามการกระดิกนิ้วของยอร์น่า
พอโอลบาร์ตตีลังกาหลบหลีกออกไป ยอร์น่าก็ขนาบหลังเขาด้วยกลุ่มกระเบื้องหลังคาที่ยกตัวขึ้นมาเป็นคลื่นยักษ์
. ทว่า โอลบาร์ตก็ถีบอากาศแล้วพุ่งตัวทะลุคลื่นกระเบื้องด้วย “วิชาเจาะผ่านดิน” มาได้อย่างชิวๆ
ต่างฝ่ายต่างยังไม่บาดเจ็บสักแผล แถมดูเหมือนว่าทั้งคู่ยังกั๊กฝีมือที่แท้จริงเอาไว้ เรียกว่าได้ว่า “เก้าแม่ทัพเทวะ” เป็นกลุ่มรวมพวกสัตว์ประหลาดอย่างแท้จริง
ยอร์น่า: เอาแต่หนีอย่างนั้น ผู้เฒ่าโอลบาร์ตคิดว่าจะทำให้จุดประสงค์ตัวเองลุล่วงได้งั้นหรือเจ้าคะ?
โอลบาร์ต: ไม่ไหวๆ ฟังแล้วปวดใจแท้ ลำดับ 7 ต่อกรกับลำดับ 3 ได้แบบนี้ คงเลี่ยงความพิโรธของใต้เท้าไม่ได้
ยอร์น่า: ถ้างั้นจะเอายังไงต่อดีล่ะเจ้าคะ?
โอลบาร์ต: นั่นสิน้อ เอาเหอะ ข้าก็ไม่ได้เอาแต่โดดไปโดดมามั่วๆหรอกน้อ…
ตอนนั้นเองดวงตาสีเหลืองที่ส่องประกายของโอลบาร์ตก็จดจ้องมาทางพวกสุบารุที่ยืนดูอยู่ไกลๆ ยอร์น่าจึงรีบพุ่งตัวเข้าประชิดชิโนบิเฒ่าเพื่อขัดขวางเขา
ยอร์น่า: ผู้เฒ่า!!
โอลบาร์ต: เพราะงี้แหละน้อ ไม่ว่าเจ้าจะก่อกบฏสักกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงตัวใต้เท้าเสียที
ส้นรองเท้าของทั้งคู่เข้าปะทะกัน เกิดเป็นคลื่นปะทะรุนแรงที่ส่งร่างของทั้งคู่ให้กระเด็นไปยังทิศตรงข้ามกัน
. โอลบาร์ตล้วงมือไปหยิบวัตถุทรงกลมสีดำออกมา 4 ก้อน แต่คราวนี้มันไม่ใช่อาหารสนาม แต่เป็นศิลามนตราอัคคีที่อัดเป็นก้อน
โอลบาร์ตโยนระเบิดก้อนสีดำขึ้นฟ้าเหมือนเล็งมั่วๆ แต่สุบารุเข้าใจทันทีว่าชิโนบิเฒ่าตั้งใจสุุ่มเล็งไปที่ประชาชนนครมารที่อยู่เบื้องล่าง
โอลบาร์ต: เท่าที่ได้ยินมา เจ้ากับพวกคนในเมืองนี้น่ะแกร่งน่าดู… แต่จะแกร่งสู้คนจากหมู่บ้านข้าได้หรือเปล่านะ?
ยอร์น่า: ---ไอ้คนต่ำช้า! -----ย่าาาาาาาาห์!
ยอร์น่ากระทืบเท้าแล้วตวัดไปป์เป็นวงสวิงแนวนอนเพื่อปล่อยกลุ่มควันออกมาเป็นแนวยาวตามเส้นที่ฟันไป
กลุ่มควันสีม่วงที่ปกคลุมน่านฟ้านครมารดักจับระเบิดที่กระจายออกไปได้ครบทุกลูก -—หลังจากนั้นก็เกิดระเบิดต่อเนื่องที่ทำให้น่านฟ้าเหนือปราสาทสะเทือน
. หนึ่งในลูกระเบิดอยู่ใกล้สุบารุจนเขาได้รับความเสียหายไปด้วย มันส่งผลให้เขาทั้งหัวหมุนและทิวทัศน์กลายเป็นสีแดงฉาน
รุย: อูอาอู!
รุยรีบเข้ามาดูอาการเขาด้วยความเป็นห่วง แต่แล้วสุบารุก็เหลือบไปเห็นโอลบาร์ตที่ลอบเข้าหลังยอร์น่าโดยอาศัยช่องโหว่ที่เธอพึ่งปัดระเบิดไปสุดแรง
ถ้าปล่อยไว้ ฝ่ามือของชิโนบิเฒ่าคงได้แทงทะลุหัวใจของยอร์น่าแแน่ๆ
สุบารุ: รุย—!
สุบารุรีบจับมือรุยแล้วชี้นิ้วไปทางพวกยอร์น่าเพื่อให้สัญญาณวาร์ป ในพริบตาต่อมาการเคลื่อนย้ายข้ามมิติก็เกิดขึ้น
สุบารุ: อะ…
ตอนนั้นเองสุบารุก็สัมผัสได้ว่าของเหลวอุ่นๆบางอย่างสาดมาเปื้อนหน้าเขา พร้อมกับสัมผัสแปลกๆเหมือนว่าแขนของรุยเบาลง
โอลบาร์ต: ตะกี้มันอะไรกันน่ะ? พวกเจ้าควรจะยืนทำอะไรไม่ได้อยู่ตรงโน้นไม่ใช่หรือไงกันน้อ?
พอสุบารุหันไปตามเสียง เขาก็เห็นชิโนบิเฒ่าที่ฝ่ามือเปื้อนเลือดอยู่ข้างๆ สุบารุจึงรีบให้ส่งสัญญาณให้รุยวาร์ปหนี ทว่า---
สุบารุ: รุย…? -—รุย! เราต้องรีบ…
โอลบาร์ต: ไม่ไหวนา ขออะไรที่เป็นไปไม่ได้แบบนั้น ส่วนหัวไม่เหลือแล้วรู้ไหมน้อ?
สุบารุ: เอ๋?
. ทัศนวิสัยของสุบารุยังคงแดงไปหมด เขามองเห็นไม่ชัดว่าเกินอะไรขึ้น และยังคงปฏิเสธที่จะทำความเข้าใจสิ่งที่โอลบาร์ตพูดออกมา
ยอร์น่า: กล้าดียังไง… ถึงได้ทำแบบนั้นกันเจ้าคะ!!
ตอนนั้นเองยอร์น่าที่เดือดดาลกว่าทุกทีก็ตามเข้ามาโจมตีเพื่อขับไล่โอลบาร์ตออกไปให้ห่างจากสุบารุ
โอลบาร์ต: โอ้ น่ากลัวๆ แต่ว่าเจ้าน่ะควรจะรู้สึกขอบคุณจริงไหมน้อ ยัยหนูจิ้งจอก
ยอร์น่า: เรื่องอะไรกันเจ้าคะ!?
โอลบาร์ต: ถ้าไอ้หนูกับยัยหนูนั่นไม่เข้ามา เจ้าน่ะคงตายไปแล้วจริงไหมน้อ? เอาเหอะ ที่เหลือก็เป็นเรื่องของเวลาแล้ว
ก่อนหน้านี้สมองของสุบารุไม่ยอมประมวลสิ่งที่โอลบาร์ตพูด แต่ตอนนี้เขาเริ่มเข้าใจภาพรวมของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว
---รุยตายไปแล้ว เธอตายเพราะทำตามคำสั่งของสุบารุ หัวของรุยขาดกระเด็นหลังเธอวาร์ปไปหาพวกโอลบาร์ตตามที่สุบารุสั่ง
. ยอร์น่า: เจ้าหนู! เจ้าหนู มองมาทางข้าน้อยนี่เจ้าค่ะ!
ใบหน้าของยอร์น่าที่สุบารุพอแยกแยะออกด้วยทัศนวิสัยที่จำกัดนั้นเป็นใบหน้าที่กำลังเศร้าโศก เธอกำลังมองสุบารุด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความเจ็บปวด
ตอนนั้นเองที่สุบารุได้เห็นใบหน้าที่เละยับเยินของตัวเขาเองผ่านภาพสะท้อนในดวงตาของยอร์น่า
ตาซ้ายของสุบารุเละยับเยินจนลูกตากลายเป็นสีแดง ส่วนตาขวาก็ทะลักออกมาจากเบ้าและห้อยต่องแต่งอยู่
ใบหน้าของสุบารุในตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากซอมบี้ในหนังเกรด B เลย
. ยอร์น่าประคองตัวไม่ให้สุบารุล้มลง ก่อนจะเอ่ยถามอะไรแปลกๆขึ้นมา
ยอร์น่า: เจ้าหนู… จงรักข้าน้อยซะ เดี๋ยวนี้เลย
ถึงแม้ว่ายอร์น่าจะคนดีและเป็นสาวสวยในสายตาสุบารุ แต่คำขอที่ไม่ดูสถานการณ์ของเธอก็ทำให้เขาสับสน
ยอร์น่า: เจ้าหนู! ขอแค่ยอมรักข้าน้อย แล้วบาดแผลก็จะ…
โอลบาร์ต: คั่กคั่กคั่กคั่ก! เฮ้ยๆ ถามจริง พูดอะไรของเจ้ากันน้อ ยัยหนู ข้าก็ไม่ได้เชี่ยวชาญนักหรอกนะ แต่ความรักมันไม่ใช่จะได้มาง่ายๆ จริงไหมน้อ?
ยอร์น่า: หุบปากไป!
ยอร์น่าเมินโอลบาร์ตที่นินทาอยู่ข้างหลังแล้วโน้มหน้าลงมาประกบริมฝีปากของเธอกับสุบารุ
ยอร์น่า: ริมฝีปากของข้าน้อยน่ะไม่ถูกนะ เท่านี้ก็…
หลังจูบเสร็จ ยอร์น่าก็ส่งสายตาวิงวอนราวกับจะถามว่า “เท่านี้เจ้ารักข้าน้อยได้หรือยัง?”
ถ้าหากว่าสุบารุยอมรักยอร์น่าทุกอย่างก็จะง่ายลง เพราะความรักของบริวารคือแหล่งพลังของยอร์น่า มันคงจะเป็นเงื่อนไขในการเชื่อมต่อกันด้วย “วิชาวิวาห์ดวงวิญญาณ”
แต่ว่าสุบารุนั้น…
สุบารุ: มีคนที่ชอบ…อยู่แล้ว…
ที่อีกฝั่งของดวงตาสีแดงฉาน สุบารุเห็นใบหน้าของเด็กสาวผู้เป็นที่รักซึ่งอยู่ในที่ห่างไกล ยามที่ได้เห็นรอยยิ้มของเด็กสาว หัวใจของสุบารุก็เต้นแรงทุกที
---เพราะงั้นสุบารุถึงรักยอร์น่าไม่ได้
. ยอร์น่าแสดงสีหน้าเจ็บปวดหลังได้รับคำปฏิเสธ แล้วสุบารุก็ได้ยินเสียงบ่นผิดของโอลบาร์ต ในวินาทีต่อมาทิวทัศน์ของสุบารุก็หมุนวน
เขาเห็นพื้น เห็นยอร์น่าที่คุกเข่าอยู่ โอลบาร์ตที่ยืนอยูุ่ใกล้ๆ ศพของรุยนอนอยู่ข้างๆ ---แล้วก็เห็นร่างของสุบารุตัวจ้อยที่ส่วนศีรษะขาดหายไปอยู่ด้วย
โอลบาร์ต: ไม่ไหวๆ การฆ่าเด็กนี่มันทำใจลำบากเสียจริงน้อ แต่เอาเถอะ มันก็ง่ายและเปลืองแรงน้อยดีนะว่าไหม?
ยอร์น่า: ผู้เฒ่า!!
สองแม่ทัพเข้าประจันหน้ากันต่อจนทั้งปราสาทสั่นไหว ศีรษะของสุบารุที่ร่วงหล่นจากหลังคาได้เห็นภาพนั้นเป็นฉากสุดท้าย
Death Count: 10
. จิตของสุบารุถูกดึงเข้ามาใน “สวนแห่งเงา” พื้นที่ว่างเปล่าที่มืดสนิท ไร้พื้น ไร้ท้องฟ้า แต่ในที่แห่งนี้ สุบารุกลับได้ยินเสียงร่ำไห้ที่สะเทือนหัวใจเขา
[ซาเทลล่า: รักนะ]
คำบอกรักถูกเอ่ยขึ้นมา ปกติคำๆนี้จะแฝงด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย เช่น ความยินดี ความโกรธ ความเศร้า หรือความสุข
[ซาเทลล่า: รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ]
แต่คำบอกรักในครั้งนี้กลับแฝงไปด้วยอารมณ์เพียงอย่างเดียว นั่นคือ “ความเศร้าโศก” เพราะงั้นเธอคนนั้นถึงได้สะอื้นไห้ไม่หยุด
[ซาเทลล่า: ---หายไปไหนกัน?]
. โอลบาร์ต: เท่าที่ได้ยินมา เจ้ากับพวกคนในเมืองนี้น่ะแกร่งน่าดู… แต่จะแกร่งสู้คนจากหมู่บ้านข้าได้หรือเปล่านะ?
ยอร์น่า: ---ไอ้คนต่ำช้า! -----ย่าาาาาาาาห์!
สุบารุย้อนกลับมายังจุดเซฟตอนที่โอลบาร์ตเขวี้ยงระเบิดออกไป ซึ่งเป็นจังหวะที่ยอร์น่ากำลังตวัดไปป์คิเซะรุเพื่อสร้างควันไปสกัดกั้นพอดี
สุบารุรู้ดีว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น ทว่า สมองที่กำลังสับสนของเขาคิดหาทางรับมือไม่ทันจนโดนดวงตาโดนระเบิดเละอีกครั้ง
เนื่องจากรอบนี้เขาเข้าใจดีว่าเกิดอะไรขึ้นกับดวงตาตัวเอง ความเจ็บปวดที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จึงสะเทือนไปทั้งร่าง
สุบารุ: อะ…อะ…อ๊าาาาาาา!! อ้าาาาาากก!!
รุย: อูอาอู! อูอาอู~!
ทัศนวิสัยกลายเป็นสีแดงฉาน ใครบางคนเอามือมากดสุบารุไว้ ห้ามไม่เขาดิ้นพล่านไปมาด้วยความเจ็บปวด
ไม่อยากเจ็บปวด ใครก็ได้ช่วยที เจ็บเจ็บเจ็บเจ็บเจ็บเจ็บเจ็บเจ็บเจ็บเจ็บ
สุบารุได้ยินเสียงโอลบาร์ตกับยอร์น่าถกเถียงกัน แต่ว่าเขาก็เจ็บปวดเกินกว่าจะจับใจความได้ ความเจ็บปวดนี้ สีแดงฉานนี้ล้วนแต่ไม่ใช่ความผิดเขา
สุบารุ: ความผิดของพวกมัน…! พวกมัน…พวกมันนั่นแหละที่ผิด! ชั้นไม่ผิด! ชั้นไม่ผิดแท้ๆ ฮือออออ!
รุย: อู!!
โอลบาร์ต: เสียงเด็กร้องแงๆ นี่มันสุดจะทนแท้น้อ -—น่ารำคาญ
ยอร์น่า: เดี๋ยว---!
โอลบาร์ตเขวี้ยงบางอย่างมาทางเขา รุยจึงเปลี่ยนจากการยึดแขนมากอดสุบารุไว้ แต่มันก็ไม่ช่วยอะไรเพราะสิ่งโอลบาร์ตโยนมามันระเบิดใส่พวกสุบารุเต็มๆ
Death Count: 11(?)
. โอลบาร์ต: เท่าที่ได้ยินมา เจ้ากับพวกคนในเมืองนี้น่ะแกร่งน่าดู… แต่จะแกร่งสู้คนจากหมู่บ้านข้าได้หรือเปล่านะ?
ยอร์น่า: ---ไอ้คนต่ำช้า! -----ย่าาาาาาาาห์!
สุบารุ: เอ๋?
หลังความเจ็บปวดหายไป ทุกอย่างก็เกิดขึ้นใหม่อีกครั้ง สีสันกลับมายังดวงตา หูได้ยินเสียงลม และสัมผัสได้ถึงความอุ่นของเด็กสาวคนข้างๆ
---จากนั้นก็เกิดการระเบิดที่ชะโลมทัศนวิสัยของสุบารุเป็นสีแดงอีกครั้ง
สุบารุล้มนอนครวญครางด้วยความเจ็บปวด ตาซ้ายระเบิด ตาขวาทะลักออกเบ้า แก้วหูแตก น้ำหูน้ำตาไหล ฉี่ราด
ทำไมกัน? เมื่อกี้เขาตายใช่ไหม? ตายสิ ตายแน่ๆเพราะเขาเจ็บปวดขนาดนั้น
ในระหว่างที่หัวของสุบารุเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย สิ่งเดียวที่สุบารุมั่นใจได้ก็คือ---
“นี่มันไม่ใช่”
สุบารุ: อี้อัน…ไม่… (นี่มันไม่…)
รุย: อูอาอู! อาอู อู---!
สุบารุ: อั่ยอั่ย… อ๋องอั้น…(ไม่ใช่…ของชั้น)
ไม่ใช่ไม่ใช่ไม่ใช่ไม่ใช่ไม่ใช่ไม่ใช่ไม่ใช่ไม่ใช่ไม่ใช่ไม่ใช่ไม่ใช่ไม่ใช่ไม่ใช่ไม่ใช่ไม่ใช่ไม่ใช่ไม่ใช่ไม่ใช่ไม่ใช่ไม่ใช่
สุบาร: อี้อัน… (นี่มัน)
ก่อนที่ความเจ็บปวดจะอัดอั้นเต็มหัวเขา สุบารุจะต้องย้ำเตือนตัวเองถึงสาเหตุเขาต้องมาตกอยู่ในโลกแห่งความทรมานแห่งนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
สุบารุ: อั่ยอั่ย…! (ไม่ใช่)
นี่มันไม่ใช่ “ตายแล้วกลับมา” ของนัตสึกิ สุบารุ แต่เป็นบางอย่างที่ต่างออกไป
Death Count 12(?)
จบตอน