webnovel arc7 chapter57

บทที่ 7 ตอนที่ 57 "ใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาดมิได้"

สุบารุติดอยู่ในโลกแห่งเงามืด(สวนแห่งเงา) ที่เขารู้สึกเหมือนว่าตัวเองไร้แขนขา เป็นเพียงร่างกายท่อนบนที่ล่องลอยอยู่ในความว่างเปล่า

[ซาเทลล่า: ――รักนะ]

สุบารุเริ่มได้ยินเสียงจากที่ไกล เสียงที่ทำให้เขาอยากฟังให้ชัดมากขึ้นโดยสัญชาตญาณ

[ซาเทลล่า: ――รักนะ รักนะ รักนะ]

ทุกครั้งที่ได้ยินคำบอกรัก ความสงสัยที่ว่าตัวเองมาติดอยู่ที่นี่ได้อย่างไรก็ถูกรีเซ็ตกลับไปเป็นศูนย์

[ซาเทลล่า: ――รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ]

แต่กลายเป็นว่ายิ่งได้ยินเสียงนั้นมากขึ้น สุบารุก็ยิ่งอยากกลับไปหาเจ้าของเสียง อยากเปลี่ยน [ศูนย์] ให้กลายเป็น [หนึ่ง] เพราะงั้น――

สุบารุ: ใคร…ก็ได้…

สุบารุเริ่มเรียกหาใครสักคน ใครที่จะมาช่วยเขาจากสถานการณ์สิ้นหวังนี้ได้ ――ทั้งหมด เพื่อที่จะเอื้อมไปให้ถึงเสียงบอกรักที่สะท้อนอยู่ไกลออกไป

. ฉากตัดกลับมาที่ห้องพักที่อัลกับโอลบาร์ตอยู่

อัลรู้ดียิ่งกว่าใครถึงภยันตรายของเงาดำ เพราะความน่ากลัวของมันสลักอยู่ในดวงวิญญาณของเขา

เดิมทีโอลบาร์ตกลับมาที่ห้องพักเพื่อตามหาวินเซนต์(ตัวปลอม) แต่พอทราบจากอัลว่าองค์จักรพรรดิไปด้วยกันกับทันซ่า โอลบาร์ตก็คิดจะทิ้งหน้าที่และหนีไปทั้งอย่างนั้น

ไม่ยึดติดในยศถา ตำแหน่งหรือกระทั่งหน้าที่คุ้มครองจักรพรรดิ โอลบาร์ตเป็นพวก [นอกกฎหมาย] อย่างแท้จริง

แต่ก็เพราะการใช้ชีวิตแบบนั้น โอลบาร์ตถึงได้เป็นยอดชิโนบิที่มีชีวิตรอดมาได้นานถึงเพียงนี้

โอลบาร์ต: เวลาที่เกิดเรื่องฉิบหายขึ้น เจ้าเองก็ควรหนีเหมือนกันล่ะน้อ ถึงจะเสี่ยงชีวิตที่นี่ไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ผู้ที่ใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาดเท่านั้นคือผู้ชนะล่ะน้อ

. อัล: …คุณปู่ ขอถามอะไรอย่าง

โอลบาร์ต: ――? ถามอะไรล่ะ?

อัล: ข้างใน…ข้างในมวลของเงาดำนั่น คงไม่ได้มีพี่น้องอยู่ใช่ไหม?

โอลบาร์ต: โอ้ นั่นสินะ ข้าเห็นกับตาเลยว่าเงามันออกมาจากไอ้หนูนั่น ――พอได้ยินแบบนั้นแล้ว เจ้าคิดจะทำอย่างไรต่อล่ะ?

อัลหลับตาลงและขบฟันแน่น

ถ้าหากว่า [นัตสึกิ สุบารุ] อยู่ที่ใจกลางเงาดำนั่น [อัลเดบารัน] ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตามไป

อัล: บอกให้ใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาดสินะ คุณปู่?

โอลบาร์ต: อือ ใช่แล้ว ข้าคิดอย่างนั้นแหละ

อัล: แต่ว่าชั้นไม่ได้คิดแบบนั้นเลยเฟ้ย คุณปู่ วิธีการใช้ชีวิตของปู่น่ะไม่ได้ฉลาดหรอก มันก็แค่วิถีคนเหลี่ยมจัด ――ชั้นน่ะไม่คิดจะเป็นผู้ใหญ่ที่กลิ้งกลอกแบบนั้นเฟ้ย

อัลใช้กำปั้นชกพื้น เขาอาศัยความเจ็บปวดและโมเมนตั้มจากการชกในการพยุงตัวเองลุกขึ้นยืนพิงกำแพง

เข่ายังสั่นไม่หาย หัวใจก็ยังหวาดกลัว จิตใจเต็มไปด้วยบาดแผลไม่พร้อมสู้ แต่ถึงกระนั้น อัลก็――

อัล: ไม่ใช่เวลามัวมานั่งเฉยๆ นะเฟ้ย …แบบนี้ก็ไม่มีหน้ากลับไปเจอพ่อแม่พอดีโว้ย…!

. พอได้เห็นความมุ่งมั่นของอัล โอลบาร์ตก็ชำเลืองดู [มหาภัยพิบัติ] นอกหน้าต่าง แล้วหันกลับมามองที่เด็กน้อย

โอลบาร์ต: กระตือรือร้นมันก็ดีอยู่หรอกน้อ แต่คิดว่าจะเอาชนะเจ้าสิ่งนั้นได้จริงเร้อ?

อัล: ไม่อยู่แล้วเฟ้ย! ไม่ว่าใครก็เอาชนะมันไม่ได้โว้ย! ต่อให้ชั้นจะพยายามสัก 10,000 ครั้งก็ไม่ชนะเฟ้ย! คนเดียวที่จะชนะเจ้านั่นได้… คนเดียวที่จะชนะเจ้านั่นได้มีแค่ นัตสึกิ สุบารุเท่านั้น!

ดวงตาของอัลลุกโชนด้วยเปลวเพลิงแห่งความเด็ดเดี่ยว เขาเริ่มก้าวเข้ามาหาชิโนบิเฒ่าใกล้ๆ

อัล: คุณปู่!

โอลบาร์ต: โอ้โอ้ เร่าร้อนเชียว แต่บอกไปแล้วนี่ว่าข้าไม่คิดจะช่วย…

อัล: ช่างหัวเอ็งสิวะ! แต่คืนร่างให้ชั้นก่อนสิ ตาแก่เฮงซวย

โอลบาร์ต: ――

อัล: พอถึงเวลาที่ควรหนี ชั้นก็จะหนีเอง เพราะงั้น คืน [อำนาจ] ของชั้นมาเซ่!

โอลบาร์ตยอมทำตามคำขอของอัล เพราะถึงอย่างไรสุบารุก็เป็นฝ่ายชนะเกม

ในระหว่างที่อัลมัวแต่กลัวหัวหด พี่น้องของเขาได้เผชิญหน้ากับโอลบาร์ตตรงๆ แถมยังเอาชนะมาได้ หลังจากที่พ่ายแพ้ซ้ำซ้อนครั้งแล้วครั้งเล่า

โอลบาร์ต: ขอถามอะไรหน่อยสิ คิดจะต่อกรกับศัตรูที่ถึงพยายามเป็น [หมื่น] ครั้งก็ไม่ชนะยังไงกันล่ะน้อ?

อัล: หุบปากไปน่า ตาแก่เฮงซวย ――ชั้นก็แค่ต้องยอมตาย ต่อให้จะเป็น [ล้าน] ครั้งก็ตาม

. วินเซนต์: ――[นักอ่านดารา] คนใหม่ ผู้ได้รับลิขิตสวรรค์ในการหยุดยั้ง [มหาภัยพิบัติ] เอ๋ย

ทันทีที่ประโยคนั้นถูกเอ่ยขึ้นมา โลกทั้งใบของทาริตต้าก็แตกสลาย ผิดกับมีเดียมที่ยังคงไม่เข้าใจสถานการณ์

วินเซนต์: ――[นักอ่านดารา] คือผู้มีหน้าที่ทำนายอนาคตตามการโคจรและการชี้นำของดวงดารา ไม่สิ คงต้องเรียกว่าเป็นวิชาชีพมากกว่าหน้าที่

มีเดียม: …นี่ตั้งใจพูดให้เข้าใจยากหรือเปล่าเนี่ย?

วินเซนต์: เปล่าเสียหน่อย ――เดิมที สาเหตุที่ชั้นถูกขับไล่ออกจากนครหลวงจักรวรรดิก็เกี่ยวข้องกับ [นักอ่านดารา] อยู่แล้ว ทาริตต้า แกน่าจะพอรู้รายละเอียดคร่าวๆ นี่

ทาริตต้า: ระ…รายละเอียดอะไรคะ…

วินเซนต์: แน่นอนว่าหมายถึงคำทำนายแห่งการล่มสลายของจักรวรรดิ แกเองก็ทราบเรื่องนั้นดี ――ถึงได้พยายามที่จะสังหารชั้นในป่าแบดไฮม์

. สุดท้าย ทาริตต้าก็ยอมสารภาพและถามวินเซนต์ว่าเขารู้ตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำเอามีเดียมที่พยายามปกป้องเธอมาตลอดอึ้งไปเลย

วินเซนต์: คำทำนายของ [นักอ่านดารา]… ลิขิตสวรรค์น่ะจะถูกแบ่งปันทั่วถึงกันในหมู่ [นักอ่านดารา] พอชั้นหนีออกจากนครหลวงจักรวรรดิแล้ว ก็เดาได้ไม่ยากว่าคนที่ทราบลิขิตสวรรค์จะมาตามล่าตัวต่อ ――นอกจากนี้ ถ้าหากว่าทราบกลไกของบัลลังก์ ก็คงเดาได้อยู่แล้วว่าชั้นต้องพึ่งพา [ชนเผ่าชูดราค] มั่นใจได้แบบ 9 เต็ม 10 เลยว่าต้องมีมือสังหารอยู่ในหมู่ชูดราค

ทาริตต้า: ――

วินเซนต์: แต่เพราะว่าแกดันระบุตัวชั้นผิดและไปหมายหัวนัตสึกิ สุบารุแทนนั่นแหละ ถึงยืนยันการมีอยู่ของมือสังหารได้

ทาริตต้าไม่รู้หน้าตาของจักรพรรดินอกจากสีตากับสีผม เธอเลยประหลาดใจเป็นอย่างมากที่ในวันนั้นมีชายผมสีดำถึงสองคนโผล่มา

วินเซนต์ไม่คิดว่าทาริตต้าเป็นลูกสมุนของ [ผู้สังเกตการณ์] เพราะเธอซื่อตรงต่อความรู้สึกเกินไป

มิหนำซ้ำ ทั้งตอนที่กัวราลและเคออสเฟลม ทาริตต้าก็ไม่ได้หมายเอาชีวิตของวินเซนต์อีกเลยทั้งที่เธอมีโอกาสตั้งมากมาย

. วินเซนต์: เหตุใดถึงไม่ทำตามลิขิตสวรรค์กัน? เคยได้ยินว่าวิชาชีพของ [นักอ่านดารา] เป็นสิ่งที่มิอาจต้านทานได้แม้จะรู้ตัว แกไม่น่าจะมีจิตใจแกร่งพอที่จะต้านวิชาชีพที่เพรียกหาได้

วินเซนต์ประเมินอย่างโหดร้าย แต่ก็แทงใจดำตรงๆ จิตของทาริตต้าไม่เข้มแข็งพอที่จะต่อต้านลิขิตสวรรค์

ถ้าหากว่าทาริตต้าไม่ทำตามลิขิตสวรรค์ [มหาภัยพิบัติ] ก็จะทำให้จักรวรรดิถึงคราวล่มสลาย

กระนั้นทาริตต้ากลับไม่ยอมฆ่าวินเซนต์ตอนที่มีโอกาส ทำให้มีเดียมรู้สึกกังขาในประเด็นนั้น

ทาริตต้า: …เพราะว่า ถึงลงมือไปก็ไม่มีความหมายค่ะ

วินเซนต์: ――ถ้าหากว่ามันจะช่วยจักรวรรดิจากการล่มสลายได้ ยังจะต้องการเหตุผลอันใดอีก?

ทาริตต้า: ฉันน่ะ! ไม่รู้ทั้งเรื่องที่ท่านเป็นจักรพรรดิหรือเรื่องที่ถูกขับไล่ออกจากนครหลวงจักรวรรดิด้วยซ้ำ! เพราะว่า ฉันน่ะเป็น [นักอ่านดารา] เพราะว่าฉันน่ะ――

มีเดียม: ――ไม่น้า!!

ก่อนที่ทาริตต้าจะมีโอกาสได้ระบายความรู้สึกที่อัดอั้นออกมา เงาดำที่รวมตัวกันเป็นรูปมือขนาดยักษ์ก็ปกคลุมน่านฟ้าเหนืออาคารที่ทั้งสามยืนอยู่

. เมื่อได้เห็นมือเงาที่หมายจะคว้าทั้งสามเอาไว้ ทาริตต้าก็ละทิ้งความคิดก่อนหน้านี้ทั้งหมดแล้วแบกทั้งมีเดียมกับวินเซนต์กระโดดถอยออกมา

แต่นั่นก็ยังไม่พ้นทาง ขอเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสโดน ทั้งสามคนก็จะหายไปจากโลกนี้

คาฟม่า: ฝันไปเถอะ――!!

ตอนนั้นเอง ชิ้นส่วนกำแพงปราสาทที่ถูกฉีกกระชากออกมาโดยเถาวัลย์หนามสีเขียวก็พุ่งเข้ามาขวางมือเงาขนาดยักษ์

ยอร์น่า: จะไม่ยอมทนต่อความรุนแรงที่มาก่อในเมืองของข้าน้อยหรอกเจ้าค่ะ!

ยอร์น่ากระโดดตามมาแล้วต่อคอมโบด้วยการเตะเสยชิ้นส่วนกำแพงปราสาทซ้ำ สร้างเป็นคลื่นกระแทกไปโจมตีมือเงายักษ์

การหยุดชะงักเพียงชั่วพริบตานั้นเป็นโอกาสมากพอให้พวกทาริตต้าหนีออกมาพ้นระยะโจมตีได้

. ระหว่างที่ยอร์น่ารับช่วงการรับมือกับเงาดำต่อ วินเซนต์ก็หันมาถามทาริตต้าว่าเธอช่วยเขาไว้ทำไม จะว่าต้องฆ่าวินเซนต์ด้วยมือตัวเอง ลิขิตสวรรค์ถึงจะลุล่วงก็ไม่น่าใช่

ก่อนที่จะฟังคำตอบ มีเดียมลองกล่อมวินเซนต์ให้ขอบคุณทาริตต้าที่ช่วยชีวิตทั้งคู่ไว้ก่อน แต่วินเซนต์ก็ปากแข็งไม่ขอบคุณตามเคย

แต่การบ่นของมีเดียมก็ช่วยให้วินเซนต์นึกสงสัยอะไรบางอย่างขึ้นมา

วินเซนต์: ทาริตต้า ลิขิตสวรรค์ของแกน่ะคือการปลิดชีพชั้นเพื่อที่จักรวรรดิจะได้หลีกเลี่ยงการล่มสลาย ไม่ผิดไปจากนี้ใช่ไหม?

ทาริตต้าส่ายหัวยืนยัน ลิขิตสวรรค์ของเธอไม่อาจทำให้ลุล่วงได้

วินเซนต์: เช่นนั้น เจ้านั่นน่ะใช่วิบัติที่แกทราบมาไหม? แกล่วงรู้ถึงคำทำนาย [มหาภัยพิบัติ] ที่จะนำไปสู่การล่มสลายของจักรวรรดิ… แต่ว่า แกแน่ใจหรือเปล่าว่าเจ้านั่นน่ะถูกตัวแล้ว ไม่ผิดแน่นะ?

คำถามของวินเซนต์ทำให้ทาริตต้านึกย้อนถึงฝันร้ายที่เธอได้เห็นซ้ำไปซ้ำมา ฝันร้ายที่นำไปสู่จุดจบของตัวเธอเอง แต่ว่า…

ทาริตต้า: เจ้านั่นน่ะ จะใช่ [มหาภัยพิบัติ] หรือเปล่านะ…

วินเซนต์: แกไม่ทราบแน่ชัด งั้นหรือ? เช่นนั้นแล้ว [นักอ่านดารา] อีกคนหนึ่งล่ะ?

ทาริตต้ามีรากฐานต่างออกไปจากนักอ่านดาราคนอื่น เธอไม่ได้เชื่อมต่อกับใครและไม่ได้รู้จักนักอ่านดาราคนอื่นเป็นการส่วนตัว

――นอกเสียจากชายแปลกหน้า(อูบิรูค)ที่พึ่งได้พบเมื่อไม่กี่นาทีก่อน ตอนที่ [มหาภัยพิบัติ] โผล่ออกมา ชายคนนั้นได้กล่าวไว้ว่า…

ทาริตต้า: เจ้านั่น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย งั้นเหรอ…?

วินเซนต์: ――[นักอ่านดารา] อีกคนกล่าวไว้เช่นนั้น งั้นหรือ? เป็นเช่นนี้เอง

มีเดียม: อาเบลจิน?

วินเซนต์หันไปมองยังเงามืดสีดำสนิทที่กลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า พลางวางฝ่ามือประทับบนหน้ากากอสูร

วินเซนต์: [มหาภัยพิบัติ] นั่นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการล่มสลายของจักรวรรดิงั้นหรือ?

วินเซนต์พึมพำและถอนหายใจ จากมุมมองของทาริตต้า เธอเห็นราวกับว่าเขากำลังหัวเราะอยู่

วินเซนต์: เช่นนั้นก็ไม่เหลือเหตุผลอันใดให้ถอยหลังกลับ ――คงต้องขอเอาแกออกจากกระดาน เจ้าคนนอกจอมสามหาว

จบตอน