webnovel arc7 chapter59

บทที่ 7 ตอนที่ 59 "ทาริตต้า ชูดราค"

ในเผ่าชูดราค จะมีคำว่า [พี่น้องคู่วิญญาณ] ซึ่งใช้เรียกเด็กสาวเผ่าชูดราคซึ่งเกิดในวันเดียวกันอยู่

ดังเช่น โฮลี่กับคูนา และ [ทาริตต้า] กับ [มารีอูลี]

ตามความเชื่อที่ว่าเด็กสาวที่เกิดวันเดียวกันจะเชื่อมต่อกันด้วยวิญญาณ พี่น้องคู่วิญญาณจึงสนิทกันยิ่งกว่าครอบครัวร่วมสายเลือดเสียอีก

. [มารีอูลี] เป็นสาวชูดราคผมดำที่ย้อมปลายผมสีชมพู เธอมีความอ่อนโยนและใจกว้างตรงข้ามกับทาริตต้าที่เก็บตัวและขี้อาย

ทาริตต้าจึงขอปรึกษามารีอูลีเป็นประจำเกี่ยวกับความกลุ้มใจเรื่องการสืบทอดตำแหน่งหัวหน้าเผ่าของมิเซลด้า

และพอวันหนึ่งที่มารีอูลีอยากขอคำปรึกษากลับบ้าง เธอก็เอ่ยประโยคนั้นขึ้นมา

มารีอูลี: ――นี่ ทาริตต้า ฉันถูกเลือกให้เป็น [นักอ่านดารา] และได้รับลิขิตสวรรค์มาล่ะ

(ในสปอยล์ตอนก่อน ผมเข้าใจผิดว่าคนพูดประโยคนี้คือมิเซลด้า ตอนนี้เคลียร์แล้วครับ)

มารีอูลีได้รับบทบาทมาจากดวงดารา เป็นความลับที่ไม่ควรบอกใคร แต่เธอก็ยอมเปิดเผยให้ทาริตต้าที่เป็นพี่น้องคู่วิญญาณทราบ

แต่ในช่วงแรก ทาริตต้าก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนักอ่านดารานัก เพราะคิดว่าเป็นแค่เรื่องเพ้อฝัน

. ในเผ่าชูดราคจะแบ่งหน้าที่ออกเป็นสองบทบาทหลักๆ คือ “นักล่า” ผู้ออกล่าสัตว์และหาเสบียงและ “ผู้พิทักษ์” ซึงมีหน้าที่เลี้ยงเด็กและปกป้องหมู่บ้าน

วันหนึ่งมิเซลด้ากับทาริตต้าที่เป็นนักล่าได้ออกไปล่าสัตว์ แต่พอกลับมาถึงหมู่บ้านพวกเธอก็ได้ยินเสียงเพลงประหลาดไม่เคยได้ยินมาก่อน

ผู้ที่ขับขานบทเพลงคือ [มารีอูลี] ซึ่งรับหน้าที่ดูแลเด็กๆ อยู่ที่หมู่บ้าน

มารีอูลียิงธนูไม่เก่ง แต่เชี่ยวชาญการทำอาหารและเย็บปักถักร้อย เธอจึงได้รับบทบาทผู้พิทักษ์ไป การร้องเพลงกล่อมเด็กเองก็ถือเป็นเรื่องสามัญสำหรับผู้พิทักษ์

มิเซลด้าและคนอื่นๆ นั้นคิดว่าเพลงของมารีอูลีไพเราะดี แต่ว่าทาริตต้านั้นต่างออกไป ทาริตต้าเป็นคนเดียวที่ฟังเพลงนี้แล้วรู้สึกไม่สบายใจ

“นี่เธอได้บทเพลงนี้มาจากดวงดาราหรือเปล่านะ?”

พอเอาความสงสัยไปถามไถ่ มารีอูลีบอกว่าเธอได้รับเนื้อเพลงมาจาก “นักอ่านดารา” อีกคนหนึ่ง ซึ่งยิ่งสร้างความสับสนให้ทาริตต้ายิ่งกว่าเดิม

. วันเวลาผ่านไป มารีอูลีเริ่มเอาแต่ร้องเพลงที่ตัวเธอไม่รู้ความหมายและส่งต่อความรู้ที่ตัวเธอไม่เข้าใจความหมาย

นับวันมารีอูลียิ่งเอาแต่เหม่อมองดูดวงดาวบนท้องฟ้าเป็นส่วนใหญ่ เริ่มให้ความสนใจต่อทาริตต้า ลูกสาวตัวเองและเผ่าชูดราคคนอื่นน้อยลง

ทาริตต้า: คุณเองเหรอคะ ที่เป่าหูมารีอูลี?

ถึงแม้ทาริตต้าจะเป็นพี่น้องคู่วิญญาณของมารีอูลี แต่การเอ่ยถามดวงดาวของเธอก็ไม่เคยได้รับเสียงตอบกลับมา

ทาริตต้า: ――เอาพี่น้องคู่วิญญาณของฉันคืนมานะ

ทาริตต้ายิงธนูขึ้นฟ้า แต่สุดท้ายลูกศรก็ร่วงโรยลงพื้นโดยที่ไปไม่ถึงเป้าหมาย ดวงดารามิได้แยแสต่อการต่อต้านอันไร้ค่าของเธอด้วยซ้ำ

. “ดวงดาราพูดไม่ได้ ดวงดาราไม่ได้มอบลิขิตสวรรค์ เช่นนั้นแล้วสิ่งใดกันที่ทำให้มารีอูลีเปลี่ยนไป?”

ทาริตต้าไม่กล้าเอาเรื่องนี้ไปปรึกษามิเซลด้า เพราะกลัวว่ามารีอูลีอาจถูกขับไล่ออกจากเผ่า

ทาริตต้าจึงได้แต่เก็บเงียบเรื่องนี้ไว้ในใจ จนกระทั่งวันหนึ่งได้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ทาริตต้าเห็นฝันร้ายเดียวกันทุกคืน

มารีอูลี: ――ทำยังไงดีล่ะ ทาริตต้า ฉันน่ะเป็นนักอ่านดาราแท้ๆ

. [ตัดฉากมาปัจจุบัน]​

ที่แนวรบด้านหน้าสุดกลางเมืองเคออสเฟลม ทั้งรุย มีเดียม อัล คาฟม่าและชาวเมืองต่างต่อกรกับเงาดำอย่างไม่ย่อท้อ

หลังต่อสู้มาได้สักพัก พวกเขาก็ประเมินกันว่าเจ้า [มหาภัยพิบัติ] นี้ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต

การโจมตีของมันดูดกลืนทุกสิ่งที่สัมผัสให้หายไปและร่างเงาของมันก็ไม่มีการโจมตีใดที่ดูจะได้ผล แต่ว่าพฤติกรรมของมันเป็นแบบ One Pattern

อัล: มันไม่มีสมองที่จะคิดหาวิธีตอบโต้หรือเปลี่ยนวิธีโจมตีฝ่ายเราด้วยซ้ำ

พออะไรเข้าใกล้ก็โจมตี พอไม่มีอะไรใกล้ๆ ก็ขยายเงาเพื่อกระจายความเสียหายให้กว้างขึ้น

การเคลื่อนไหวของมันมีรูปแบบตายตัวที่จับต้องได้ พวกอัลถึงได้สู้ถ่วงเวลามาได้นานขนาดนี้

. ยอร์น่า: ทุกท่าน เตรียมถอยทัพด้วยเจ้าค่ะ

ตอนนั้นเองยอร์น่าก็กระทืบเท้าส่งคลื่นกระแทกที่ทำให้ทั้งพื้นดินและเจ้าเงาดำแหกครึ่ง แต่เงาดำก็ใช้เวลาเพียงชั่วขณะในการต่อกลับมาเป็นรูปร่างเดิม

ยอร์น่า: ――ปล่อยให้เมืองนี้ถูกกลืนเข้าไป แล้วข้าพเจ้าจะระเบิดมันจากภายในเองเจ้าค่ะ นอกเหนือจากนี้ คงไม่มีวิธีการอื่นที่จะสามารถหยุดยั้งมหาภัยพิบัติที่คลุ้มคลั่งได้อีก

ยอร์น่าสั่งให้ทุกคนถอยทัพเพื่อทำตามแผนการของวินเซนต์ ถ้่าหากปราสาทไม่ได้ผล ก็ลองระเบิดทั้งเมืองดู

ถ้าเมืองยังไม่ได้ผลอีก ยอร์น่าอาจจะต้องขึ้นเป็นจักรพรรดินีแล้วระเบิดทั้งประเทศใส่เพื่อกำจัดมัน ซึ่งไอเดียนี้ก็ถูกค้านอย่างหนักจากคาฟม่า

มีเดียม: ――ทุกคนมาช่วยกันสู้เพื่อถอยกลับกันเถอะ! ให้ไวเลย!

เสียงของมีเดียมเป็นสัญญาณสุดท้ายที่กระตุ้นทุกคนให้เริ่มทิ้งเมือง

. [ตัดฉากไปยังอดีต]​

ฝันร้ายที่มารีอูลีเห็นเป็นคืนเย็นเฉียบที่มีพระจันทร์สีขาวเยือกแข็ง

มารีอูลี: ――ทำยังไงดีล่ะ ทาริตต้า ฉันน่ะเป็นนักอ่านดาราแท้ๆ

มารีอูลีเอ่ยออกมาเช่นนั้น พร้อมอาเจียนเป็นเลือดไหลท่วมหน้าอกตัวเอง เดิมทีเธอก็มีร่างกายอ่อนแออยู่แล้วถึงต้องรับบทผู้พิทักษ์

มิเซลด้ามองว่ามารีอูลีที่ป่วยติดเตียงคงเหลือเวลาอยู่ไม่มาก เธอจึงอยากให้ทาริตต้าได้ใช้ช่วงเวลาน้อยนิดนี้อยู่เคียงข้างพี่น้องคู่วิญญาณ

เผ่าชูดราคทยอยกันบอกลาเพื่อนร่วมเผ่า ลูกสาวของมารีอูรียังเด็กเกินกว่าที่จะเข้าใจสถานการณ์ มารดาจึงลูบแก้มบุตรสาวเพื่อบอกราตรีสวัสดิ์เป็นครั้งสุดท้าย

. มารีอูลี: ทำยังไงดีล่ะ ทาริตต้า ฉันน่ะยังไม่ได้ทำตามลิขิตสวรรค์เลย…

ทาริตต้า: มารีอูลี…

มารีอูลี: ทิ้งไว้แบบนี้…ทำไมกัน…ตัวฉัน…เพื่ออะไรกัน

พอเหลือกันอยู่สองคน แทนที่จะห่วงเรื่องความตายของตัวเองหรืออนาคตของลูกสาว มารีอูลีกลับรู้สึกสิ้นหวังเรื่องคำทำนายของดวงดาวที่ทาริตต้ามิอาจเข้าใจ

ทาริตต้า: ยังพูดเรื่องนั้นอยู่อีกเหรอคะ… ลิขิตสวรรค์อะไรนั่นไม่ได้มีจริง ไม่มีหรอกค่ะ! คุณน่ะคือมารีอูลีแห่งเผ่าชูดราค! แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว ยังต้องการเป็นอะไรอีกคะ!

มารีอูลี: ――เหตุผล ที่เกิดมา… นั่นแหละที่ต้องการ

“เกิดเป็นชูดราค อยู่อย่างชูดราค ตายอย่างชูดราค”

นั่นคือคติของชนเผ่าที่มารีอูลีไม่สนใจใยดี เธอไม่พอใจที่มีลูกสาวกับทาริตต้าอยู่เคียงข้าง และไม่พอใจกับชาติกำเนิดตัวเอง

เอาแต่แสวงหาเหตุผลในการเกิดมาจากการเป่าหูของดวงดาว สำหรับทาริตต้าแล้ว นั่นคือการทรยศที่ไม่อาจให้อภัยได้

. ทาริตต้า: ――พอได้แล้วค่ะ …ฉันน่ะเป็นพี่น้องคู่วิญญาณของคุณ …เหตุผลที่เกิดมาน่ะ ก็อยู่ตรงหน้าของฉันแล้วนี่ไง

ทาริตต้าชักมีดมาจ่อมารีอูลีเพื่อหวังเรียกสติของพี่น้องคู่วิญญาณกลับคืนมา หารู้ไม่ว่านั่นคือความผิดพลาดครั้งใหญ่สุดในชีวิตของเธอ

มารีอูลี: จริงด้วยล่ะ ทาริตต้า ――ฉันน่ะยังมีเธออยู่

ทาริตต้า: เอ๋? มารีอูลี…!?

มารีอูลีเอื้อมมือไปยังแขนข้างที่ถือมีดของทาริตต้าแล้วออกแรงกดจนคมมีดเฉือนร่างกายตัวเอง

ใบมีดที่ถูกออกแบบมาเพื่อเจาะทะลุเนื้อหนาๆ ของสัตว์ป่าแหวกหน้าอกของมารีอูลีออกอย่างง่ายดายจนเลือดสาดกระเซ็น

มารีอูลี: ฟังนะ! …หลายค่ำคืน…หลังจากนี้…ฉันน่ะ… เธอน่ะ จะได้พบกับนักเดินทาง

ทาริตต้า: ――

มารีอูลี: นักเดินทางคนนี้…เป็นพรรคพวกของ [มหาภัยพิบัติ] ที่จะนำพาหายนะมาสู่ประเทศนี้ …เพราะฉะนั้น จะต้อง…ฆ่าให้ได้ …ต้อง…ฆ่า…ให้ได้

ทาริตต้า: มารีอูลี? …มารีอูลี!

มารีอูลี: นักเดินทาง…ผมสีดำ…ตาสีดำ…ฆะ…ฆ่ามันให้ได้

ทาริตต้า: ――

มารีอูลี: หยุดยั้ง…[มหาภัยพิบัติ] เอาไว้…ทาริตต้า …นั่นน่ะคือ หน้าที่ของฉัน ฉันทำมันไม่ได้…อีกต่อไปแล้ว… ขอร้องล่ะ…ทาริตต้า… พี่น้อง…คู่วิญญาณ…ของฉัน

. มารีอูลีสิ้นใจลงหลังจากที่ฝากฝังภาระหน้าที่ของ [นักอ่านดารา] ให้ทาริตต้าสืบทอดต่อ

ทาริตต้าพยายามวิ่งออกไปหาความช่วยเหลือ แต่เธอก็รู้ตัวก่อนว่ามีเด็กสาวคนหนึ่งแอบมองดูเธออยู่ในความมืด มันเป็นทักษะการซุ่มมองเหยื่อที่ผิดคาดสำหรับเด็กสาวตัวจ้อย

[อูตาคาตะ] ลูกสาวของมารีอูลีจ้องมองมายังทาริตต้าผู้น้ำตาไหลรินและร่างกายเปียกโชกไปด้วยเลือดของมารดาของตน

. [ตัดฉากมาปัจจุบัน]

เมื่อไร้แนวหน้าที่คอยหลอกล่อการโจมตี เงาดำของแม่มดก็ขยายตัวเป็นสองเท่า เพิ่มขอบเขตทำลายล้างขึ้นไปอีก

ทว่า ความเสียหายต่อมนุษย์กลับน้อยผิดคาด ทุกคนสามารถถอยทัพได้อย่างราบรื่นด้วยผลงานของ [อัล]

อัล: คุณหนูมีเดียม! ถอยมาหน่อย! แค่นั้นพอ! คงหนีพร้อมคุณหนูในตอนนี้ต่อไม่ได้แล้วล่ะ! นำไปก่อนเลย!

มีเดียม: งื้อ~ เจ็บใจชะมัด! แต่ก็ ขอโทษด้วยนะ!

มีเดียมเชื่อการตัดสินใจของอัลแล้ววิ่งนำไปก่อน มีเงาดำกลุ่มหนึ่งพุ่งตามหลังเธอมา แต่ก็ถูกไม้หนามของคาฟม่าสกัดไว้

อัลบอกให้คาฟม่าถอยเช่นกัน แต่อีกฝ่ายเป็นพวกหัวรั้นที่ขอเลือกอยู่เป็นแนวหน้าต่อ

. ตามแผนการ หลังอพยพผู้คนจากกลางเมืองไปยังสวนด้านนอกเสร็จ ยอร์น่าก็จะระเบิดนครมารทิ้ง

วิธีการนี้คือความหวังเดียวในการหยุดยั้งไม่ให้ [มหาภัยพิบัติ]​ กลืนกินทั้งจักรวรรดิ

ด้วยเหตุผลบางประการ ดวงวิญญาณของยอร์น่านั้นมีขนาดใหญ่กว่าของคนทั่วไปกว่า 1,000 เท่า วิชาวิวาห์ดวงวิญญาณของเธอถึงได้ทรงพลังเป็นพิเศษ

อัล: ――อึก ยัยบ้านั่น!

ก่อนที่ยอร์น่าจะเตรียมใจระเบิดเมืองที่รักเสร็จ อัลก็สบถออกมา เนื่องจากว่า [รุย]​ ได้กลับเข้าไปหาเงาดำเพื่อหาทางช่วยสุบารุ

มันเป็นเรื่องที่ทำใจได้ลำบาก แต่ยอร์น่าก็เตรียมใจเรื่องการเสียสละสุบารุเพื่อกำจัดเงาดำไว้แล้ว ดังนั้นการกระทำของรุยจึงมีแต่จะสูญเปล่า

คาฟม่า: ต้องพาเด็กคนนั้นกลับมา!

อัล: บ้าหรือเปล่า! อย่าไปสนไอ้เด็กเวรนั่นเลย! ยังไงซะยัยนั่นก็…

คาฟม่า: เด็กคนนั้นมันทำไม!?

อัล: ยัยนั่นน่ะ… บัดซบ บัดซบๆๆ บ้าเอ๊ย! ทำไมชั้นจะต้องมาห่วงยัยนั่นแบบนี้ด้วยเนี่ย! เวรจริงเชียว พี่น้อง!

ถึงปากจะบ่น แต่อัลก็ออกวิ่งฝ่าห่าฝนเศษซากที่เป็นลูกหลงการโจมตีของเงาดำตามหลังรุยไป จากนั้นก็กระโดดคว้าตัวรุยไว้ราวกับว่าดักทางได้ล่วงหน้า

อัล: รู้ทันหรอกน่า!

รุย: อู!? อูว! อูอาอู! อาอู!

อัล: ――หลับไปเลย

อัลใช้ด้ามดาบทุบรุยให้สลบ จากนั้นก็หลบหลีกการโจมตีของเงากลับไปหาพวกยอร์น่า โดยมีคาฟม่าใช้ไม้หนามสร้างทางสนับสนุน

. พอพวกอัลหนีออกมาพ้นระยะ วินเซนต์ที่จับตาดูสถานการณ์โดยรวมอยู่ตลอดก็ออกคำสั่ง

วินเซนต์: ――ลงมือเลย ยอร์น่า มิชิกุเระ!!

ยอร์น่า: ข้าน้อยรักท่าน(เมืองเคออสเฟลม)​นะคะ

เพียงแค่เอื้อมมือออกไป นครมารเคออสเฟลมที่อัดแน่นไปด้วยวิญญาณของยอร์น่าก็ระเบิดอย่างรุนแรงจากภายใน [มหาภัยพิบัติ]​

ความรุนแรงของมันเป่าศูนย์กลางเมืองให้ไม่เหลือซาก สร้างลมกรรโชกรุนแรง มากพอที่จะทำลายล้างเงาดำของแม่มด――

วินเซนต์: ――ยังไม่พองั้นหรือ

ทว่า เงาดำก็ยังไม่ถูกทำลายล้างโดยสมบูรณ์ ยังคงเหลือเศษเสี้ยวของความมืดมิดปะปนอยู่กับกลุ่มควัน

ก่อนที่ยอร์น่าจะทันได้ลงมือทำอะไร เด็กสาวมนุษย์กวางคนหนึ่งก็พุ่งตัวเข้าไปหาเงาดำที่หลงเหลืออยู่

ยอร์น่า: ――ทันซ่า?

. [ตัดฉากไปยังอดีต]​

อูตาคาตะ: อูเห็นล่ะ “มา” ใช้มีดของ “ทา” แทงตัวเอง

ทีแรกชาวเผ่าชูดราคล้วนแต่สงสัยทาริตต้าที่เป็นเจ้าของมีด แถมตัวยังโชกไปด้วยเลือดของมารีอูลี

ตามธรรมเนียม ผู้สังหารเพื่อนร่วมเผ่าควรจะถูกขับไล่ไม่ให้กลับมาเหยียบหมู่บ้านอีก แต่แล้ว [อูตาคาตะ] ลูกสาวของมารีอูลีก็ได้ช่วยพูดแก้ต่างให้แก่ทาริตต้า

แถมมิเซลด้ายังช่วยโน้มน้าวเผ่าชูดราคคนอื่นอีกทีว่าลักษณะแผลของผู้ตายเป็นการแทงตัวเอง

. กระนั้น ทาริตต้าก็ยังโทษตัวเองที่ปล่อยให้มารีอูลีแทงตัวตายอยู่ดี สิ่งเดียวที่ทาริตต้าพอจะทำได้เพื่อไถ่บาป ก็คือการสานต่อ [ลิขิตสวรรค์] และยับยั้งมหาภัยพิบัติให้ได้

เธอต้องสานต่อภารกิจเพ้อฝันที่พี่น้องคู่วิญญาณได้ยินมาจากดวงดาวให้สำเร็จ เพื่อไม่ให้ความสิ้นหวังก่อนตายของมารีอูลีสูญเปล่า

ทาริตต้า: ดวงดาราบ้าบออะไรกัน แหลกไปซะให้หมดก็ดี!

และแล้ววันหนึ่ง เวลานั้นก็มาถึง “นักเดินทาง” ผมสีดำ ตาสีดำได้มาปรากฏตัวอยู่ในป่าแบดไฮม์

สุบารุ: ――เรม!!

แต่แล้วลูกศรของทาริตต้าก็พลาดเป้า เพราะนักเดินทางกระโจนไปช่วยเด็กสาวอีกคน เธอจึงต้องสวมวิญญาณ “นักล่า” ด้วยจิตวิญญาณที่กู่ร้องไม่หยุด

. [ตัดฉากกลับมาปัจจุบัน]

ทันทีที่เห็นว่าการระเบิดนครมารยังไม่เพียงพอที่จะกำจัดเงาดำของแม่มด [ทันซ่า]​ ที่ดวงตาลุกเป็นไฟก็กระโจนตัวออกออกมาจากที่ซ่อนทันที

ยอร์น่า: ――อย่าทำแบบนั้นเลยนะ!!

ยอร์น่าเข้าใจทันทีว่าบริวารของเธอตั้งใจทำอะไร เธอจึงคิดจะหยุดยั้งทันซ่าเอาไว้

แต่ทาริตต้ามองว่านี่อาจเป็นโอกาสเดียว โอกาสหนึ่งในพันที่จะได้ทำลายล้าง [มหาภัยพิบัติ]​ อย่างเด็ดขาด

ถ้าหากยอร์น่าหยุดทันซ่าเอาไว้ ความพยายามที่ผ่านมาและการลงทุนระเบิดเมืองทิ้งอาจจะสูญเปล่าไปเลย

วินเซนต์: ――ทาริตต้า

พอหันกลับไปมองตามเสียงเรียก วินเซนต์ก็ชี้นิ้วขึ้นสู่ฟากฟ้า นั่นไม่ใช่สัญญาณว่าให้มองด้านบน แต่เป็นการบ่งบอกว่านี่แหละคือ [ลิขิตสวรรค์]

ความลังเลหายไปจากจิตใจของทาริตต้า เธอหยิบลูกธนูออกมา เล็งคันศรไปยังเป้าหมายและเปลี่ยนเข้าโหมดนักล่าโดยฉับพลัน

ทาริตต้า: ――ลิขิตสวรรค์อะไรกัน ไม่เข้าใจเลยสักนิด

ลูกศรที่ทาริตต้าแผลงออกไปปักใส่ขาของยอร์น่าจากด้านหลังอย่างแม่นยำจนเธอล้มคะมำ

ทาริตต้่าจะไม่ปล่อยมีอะไรมาขวางการตัดสินใจของเด็กสาวในการแลกชีวิตขัดขืนโชคชะตา

ทันซ่า: ――ท่านยอร์น่า

เด็กสาวเอ่ยนามของบุคคลอันเป็นที่รักเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะกระโจนตัวฝ่ากลุ่มควันเข้าไปและยอมให้ [มหาภัยพิบัติ]​ กลืนกิน

แล้วในชั่วพริบตาต่อมาก็เกิดการระเบิดที่รุนแรงพอๆ กับการระเบิดทั้งเมืองในรอบแรก ทำลายล้างเงาดำของแม่มดจนสิ้นซาก

จบตอน