สุบารุหมดสติไปหนึ่งวันหลังจากที่ “สปาร์ก้า” จบลง
หลังหมอแก่ไร้ฟันประเมินว่าร่างกายของเขาปลอดภัยดี มีแค่สภาพจิตใจที่หนักหน่วง ทันซ่ากับเซซิลุสก็แวะมาเยี่ยม
ทันซ่าดูทุกข์ร้อนที่เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นต่อหลังเมืองเคออสเฟลมถูกระเบิดหายไป ส่วนเซซิลุสก็ยังคงดี๊ด๊าไม่ดูบรรยากาศ
แต่ไม่ว่าจะรำคาญแค่ไหน สุบารุก็ปฏิเสธไม่ได้การที่เซซิลุสช่วยตามทันซ่ามาให้นั้น ช่วยลดจำนวนลูปที่ตายไปเยอะ
สุบารุ: ทั้งไวซ์ ทั้งเฮียอิน ทั้งอิโดร่า เราพยายามกันมาเยอะเลย
การที่เขาช่วยให้สามคนนั้นรอดมาได้ช่วยเสริมความมั่นใจในทักษะการเป็นลีดเดอร์ให้แก่สุบารุ
และช่วยเติมเต็มความภาคภูมิใจของเขาในฐานะลูกชายของนัตสึกิ เคนอิจิ
. ห้องพักของที่นี่กำหนดให้พักห้องละสามคน
ไวซ์ เฮียอินและอิโดร่าเป็นเพื่อนร่วมห้องกัน พวกเขาฟื้นและกลับไปพักที่ห้องกันแล้ว พวกสุบารุ ทันซ่าและเซซิลุสเองก็เป็นเพื่อนร่วมห้องเดียวกันเช่นกัน
ทันซ่าอยากกลับไปที่เมืองเคออสเฟลมโดยเร็วที่สุดเพื่อช่วยการรื้อฟื้นเมือง สุบารุเองก็เป็นห่วงรุยเช่นกัน เขาจึงตั้งมั่นที่จะหนีออกไปจากเกาะนี้กับทันซ่าให้ได้
ทันซ่า: ท่านชวาร์ซ ขอคุยหน่อยได้ไหมคะ? ท่านคนนี้น่ะ… คือท่านเซซิลุส เซ็กมุนต์เหรอคะ?
สุบารุ: หือ อ้อ ก็แค่เด็กเลี้ยงแกะจอมดื้อด้านแหละนะ
เซซิลุส: อะฮ่าฮ่า ถูกเรียกว่าจอมดื้อด้านด้วย! ว่าแต่ “เด็กเลี้ยงแกะ” นี่มันหมายถึงอะไรเหรอครับ? ถ้าหมายถึง “มนุษย์หมาป่า” ขอบอกเลยว่าไม่ใช่นะ ผมอาจจะปากพล่อยไปบ้าง แต่นั่นก็เป็นสเน่ห์อย่างนึงล่ะเนอะ?
สุบารุ: โทษที ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าจะสื่ออะไร
. สุบารุยังคงปักใจเชื่อว่าเซซิลุสคนนี้เป็นตัวปลอม เป็นแค่เด็กเกรียนที่แอบอ้างชื่อคนดัง
แต่ทันซ่าลังเลใจเพราะเซซิลุสวัยผู้ใหญ่ที่เธอเคยเห็นมีหน้าตาเหมือนเซซิลุสเด็กคนนี้เป๊ะเลย สุดท้ายทันซ่าเลยลงความเห็นว่าเด็กคนนี้อาจจะเป็น “น้องชาย” ของเซซิลุส
เซซิลุส: เดี๋ยวสิๆ ไม่ใช่แล้วครับ ผมเป็นลูกคนเดียว ไม่ได้มีพี่น้องที่หน้าตาเหมือนกันอยู่สักหน่อย! จริงอยู่ว่ามันเป็นไปได้ที่คุณพ่ออาจจะมี “น้องชาย” หลังจากที่ทิ้งผมไป แต่ที่กำลังพูดถึงกันอยู่มันกรณีพี่ชายของผมนี่ครับ?
สุบารุ: ก็จริงอยู่ แต่นายมันดื้อด้านนี่นา…
เซซิลุส: แต่ว่าๆ มีหลักฐานอยู่นะครับ! ผมมีเหตุผลให้เชื่อว่าตัวเองไม่มีทางมีพี่ชายหรือน้องชายได้ …หลักการพื้นๆ เลย เพราะว่าผมมีตัวตนอยู่ไงล่ะครับ
สุบารุ: หมายความว่าไง?
เซซิลุส: ถ้าเกิดผมมีพี่ชายอยู่ล่ะก็ การที่ผมยังอยู่ดีแปลว่าคุณพ่อคงจะฆ่าพี่ทิ้งไปแล้ว! แล้วถ้าเกิดว่าผมมีน้องชายอยู่ มันก็แปลกดีที่พ่อยังไม่ฆ่าผมทิ้ง! สรุปแล้วตราบใดที่ผมมีตัวตนอยู่ ทั้งพี่ชายและน้องชายไม่มีทางมีชีวิตอยู่ครับ! เป็นไงครับ?
สุบารุ: …หมายความว่าไง?
คำอธิบายของเซซิลุสมันราวกับว่าพ่อของเขาถูกสาปให้มีลูกได้แค่คนเดียว แต่ในเมื่อเซซิลุสเล่ามาขนาดนี้ สุบารุก็เริ่มชั่งใจใหม่
. สุบารุเริ่มตั้งทฤษฎีว่าเซซิลุสอาจจะถูก “วิชาหดร่าง” ของโอลบาร์ตทำให้กลายเป็นเด็กมานานยิ่งตัวเขา นั่นทำให้เซซิลุสลืมกระทั่งเรื่องที่ตัวเองถูกเปลี่ยนให้เป็นเด็ก
มันน่าแปลกอยู่ว่าเก้าแม่ทัพเทวะจะเล่นงานกันเองแบบนี้ทำไม แต่สุบารุก็ภาวนาให้ไม่มีผู้ใช้วิชาหดร่างคนอื่นนอกจากโอลบาร์ตอยู่
ในเวลานี้ ตัวเลือกที่เป็นไปได้อยู่เหลือแค่เด็กคนนี้คือเซซิลุสตัวจริงที่ถูกย้อนวัยหรือเด็กเลี้ยงแกะหน้าเหมือนที่อ้างตัวเป็นเซซิลุสเท่านั้น
สุบารุ: ทฤษฎีเด็กเปรตกับทฤษฎีไอ้แก่เฮงซวย ต้องเก็บไว้ในใจทั้งสองกรณีก่อน
. ดังสำนวนที่ว่า “กองทัพต้องเดินด้วยท้อง” สุบารุเลือกที่จะหาอะไรกินแก้หิวก่อนที่จะลงมือตามแผนขั้นต่อไป เขาจึงให้เซซิลุสนำทางมาที่ห้องอาหาร
แต่พอไปถึงก็มีคนลากสุบารุไปนั่งโต๊ะแล้วเอาจานอาหารที่ใส่เนื้อติดกระดูกกองเบ้อเร่อมาวางเสิร์ฟให้ทันที
ไวซ์: …กินสิ ชวาร์ซ นี่เป็นส่วนแบ่งของนาย
อิโดร่า: ไวซ์ ไม่ไหวมั้งแบบนี้ ดูสิ ชวาร์ซนิ่งจนค้างไปเลย
เฮียอิน: หึ แบบนี้ก็ไม่ต้องใส่ใจแล้วใช่ปะ? ตัวเล็กแบบนี้ไม่ต้องกินเยอะขนาดนั้นหรอก เรามาแบ่งกันดีกว่า… โอ๊ย!
ไวซ์: คุยกันแล้วว่าจะแบ่งให้… ถ้าคิดจะเบี้ยวต้องผ่านข้าไปก่อน
ระหว่างที่ไวซ์ใช้ซ้อมจิ้มเฮียอิน อิโดร่าก็หันมาถามสารทุกข์สุกดิบของสุบารุ
ซึ่งอิโดร่าได้เปลี่ยนสรรพนามเรียกสุบารุจาก “แก” ไปเป็น “นาย” แทน แถมยังโค้งคำนับขอบคุณเขาอีกด้วย
. ทั้งสามรู้สึกซาบซึ้งต่อสุบารุเป็นอย่างที่ยิ่งที่ช่วยให้พวกตนรอดมาได้ พวกเขาจึงเก็บส่วนแบ่งอาหารไว้เลี้ยงฉลองให้แก่สุบารุ
อิโดร่า: อย่างที่บอกไป เป็นเพราะนาย พวกเราถึงยังอยู่รอดปลอดภัย ในคืนแรกหลังจากที่ผ่าน “สปาร์ก้า” มาได้ กลุ่มที่ผ่านจะได้รับการเลี้ยงฉลอง เลยรู้สึกแปลกที่นายไม่ได้กินกับคนอื่นเขา
ไวซ์: ขอบอกเลยว่าข้านี่แหละเป็นคนต้นคิด…
เฮียอิน: หึ ที่จริงชั้นก็ไม่ได้ตั้งใจเหลือส่วนแบ่งให้เด็กเหลือขอหรอกนะ!
ทันซ่า: จริงเหรอคะ? เท่าที่ฉันจำได้ ท่านเฮียอินเป็นคนแรกที่บอกว่ารู้สึกไม่ดีที่ได้กินอยู่ฝ่ายเดียว
เฮียอิน: หา!? ไม่ได้พูดสักหน่อย!? ไม่เห็นรู้เรื่อง!? ยัยเด็กเหลือขอนี่ ลามปามแบบนี้ไม่ยกโทษให้หรอกนะ!
ไวซ์: ไม่เอาน่า เฮียอิน เอ็งน่ะชนะทันซ่าไม่ได้หรอก เธอเป็นคนกุดหัวเจ้ากิลตีราลนะ
สุบารุ: ขอบคุณนะ ขอรับไว้แบบไม่ลังเลยละกัน!
อิโดร่า: อย่ากินเร็วเกินไปจนปวดท้องล่ะ
สุบารุ: ไม่ต้องห่วง ถึงจะเห็นแบบนี้ แต่ชั้นเคยเป็นฟู้ดไฟเตอร์ประจำโรงเรียนที่คอยกินอาหารกลางวันของคนที่ขาดเรียนมาก่อน
เนื้อที่หยิบมาเขมือบเย็นชืดไปแล้ว แต่การปรุงรสถือว่าใช้ได้ แถมการที่เหล่าสหายของเขาอุตส่าห์เก็บอาหารไว้ให้ก็เปรียบได้ดั่งเครื่องเทศที่มิอาจหาอะไรทดแทน
. ระหว่างที่กินอยู่ ไวซ์ก็เปิดประเด็นถึงระบบการดูแลที่เปลี่ยนไปจากสมัยก่อนของเกาะกินุนไฮฟ์
หลังจากที่กุสตาฟได้เป็นอุปราชผู้ดูแลคนใหม่ ก็ไม่มีการจับทาสดาบมาดวลกันแบบเรื่อยเปื่อยอีกแล้ว
อิโดร่า: ได้ยินมาว่าทาสดาบทุกคนที่นี่ต้องเคยเข้าร่วม “สปาร์ก้า” แบบเป็น “กลุ่ม” อย่างน้อยครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นจะยุบกลุ่มก็ได้ แล้วแต่จะเลือก ว่าแต่กลุ่มของแกล่ะ…
เซซิลุส: อ้อ อย่าห่วงเรื่องกลุ่มของผมเลย คนอื่นนอกจากผมตายไปหมดแล้ว โชคดีว่าผมเป็นทาสดาบที่แค่คนเดียวก็เอาอยู่
อิโดร่า: ว่าไงนะ…?
เซซิลุส: ก็ผมน่ะแกร่งที่สุดนี่ครับ! ไม่มีใครชนะผมได้อยู่แล้ว เพราะงั้นถึงได้ไม่ห่วงไง อะฮ่าฮ่า
. พวกอิโดร่าอาจจะเคลือบแคลงใจต่อสิ่งที่เซซิลุสพูด แต่สุบารุเริ่มประเมินสถานการณ์ว่าต้องญาติดีกับเซซิลุสไว้เผื่อว่าต้องซื้อใจเขามาเข้าฝั่งในภายหลัง
แต่แล้วเซซิลุสก็รู้ทันเหมือนอ่านใจเขาได้และแนะนำสุบารุว่าต้องซื้อใจเขาด้วยการกระทำหรือความเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่น ไม่ใช่คำพูด
หลังเซซิลุสเดินออกไปจากวงโต๊ะอาหาร สุบารุก็เริ่มชั่งใจว่าเขาควรพาอิโดร่า เฮียอินและไวซ์หนีไปจากเกาะนี้ด้วยดีไหม
. ตอนนั้นเองเหล่าทาสดาบรุ่นพี่ก็พากันมาห้อมล้อมน้องใหม่ทั้ง 5 เพื่อทำการต้อนรับ
พวกรุ่นพี่ทาสดาบเล่าว่าเจ้ากิลตีราลตัวนี้เชือดกลุ่มหน้าใหม่ทิ้งมาเกือบสิบกลุ่มแล้ว ก่อนที่จะถูกกลุ่มของสุบารุมาหยุดสถิติเอาไว้ได้
ทาสดาบ 1: มหรสพครั้งหน้าโหดหินแน่ๆ
สุบารุ: มหรสพ?
ทาสดาบ: อา ที่นี่จะมีการจัดมหรสพให้เหล่าขุนนางจากทั่วจักรวรรดิรวมตัวกันดูการประลองแบบถึงตายของพวกเรา “สปาร์ก้า” กับการดวลรายวันน่ะเป็นแค่การซ้อมมือก่อนของจริง
สุบารุ: ซ้อมมือ…
. เหล่ารุ่นพี่ทาสดาบเตือนสุบารุว่าให้ระวังเซซิลุสไว้ อย่าไปสุงสิงกับหมอนั่นมาก
ทาสดาบ: อา เจ้านั่นดูเหมือนจะถูกใจนายก็จริง แต่จะวางใจได้แค่ไหนกันเชี่ยว? ――หมอนั่นน่ะมาที่นี่ประมาณเมื่อ 20 วันก่อน
สุบารุ: หืม
ทาสดาบ: ในระหว่าง “สปาร์ก้า” รอบแรก หมอนั่นยืนดู “กลุ่ม” ของตัวเองถูกล้างบาง จากนั้นก็สังหารทาสดาบเดรัจฉานทิ้งด้วยมือเปล่าหลังกลุ่มตัวเองตายหมดแล้ว
สุบารุ: …
ทาสดาบ: จากนั้นหลังถูกจับมาดวลทีไร หมอนั่นก็จะเล่นอีกฝ่ายแบบถึงตาย แล้วยังเรียกตัวเองว่าแม่ทัพระดับหนึ่งเซซิลุส เซ็กมุนต์อีก
เหล่ารุ่นพี่ทาสดาบพากันมองออกไปยังประตูที่เซซิลุสเดินจากไปด้วยความหวาดกลัว เป็นมุมมองที่ตรงข้ามกับสิ่งที่สุบารุได้เห็นมาจากเซซิลุสที่ผ่านมาอย่างชิ้นเชิง
ทาสดาบ: ――อุปราชกุสตาฟกับเจ้ามัจจุราชนั่นคือต้นเหตุของเรื่องประหลาดที่เกิดขึ้นบนเกาะทาสดาบ
จบตอน