webnovel arc7 chapter70

บทที่ 7 ตอนที่ 70 "อย่างเดียว"

ปู่นูลไม่ใช่ผู้รักษามืออาชีพ เขาเป็นแค่ทาสดาบที่ถูกส่งไปประจำการห้องรักษา ดังนั้นสุบารุจึงไม่มีทางหาสุดยอดยาพิษที่สามารถฆ่าคนได้ทันทีจากเขาได้แน่นอน

อย่างเดียวที่ปู่นูลพอจะผสมขึ้นได้คือยาพิษที่ทำให้เหยื่อตกอยู่ในสภาพเลือดไหลเวียนผิดปกติจนค่อยๆ ตายอย่างทรมาน ซึ่งไม่เหมาะกับการฆ่าตัวตายเลย

ทว่า สำหรับสุบารุนั่นคือสิ่งจำเป็น ยาพิษที่แสนทรมานนี้คือสิ่งย้ำเตือนว่าความตายมันไม่ใช่สิ่งที่ชินชาได้ง่ายๆ

ถ้าหากสุบารุมียาพิษแบบไม่ทรมานให้ใช้ เขาคงจะใช้มันเพื่อรีเซ็ตเรื่องเล็กๆ น้อยๆ จนกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่ไม่เข้าใจความทุกข์ทรมานของมนุษย์ไป

. อยู่ดีๆ สุบารุก็นอนคุดคู้ในสภาพน้ำหูน้ำตาไหลท่วมหน้า ไวส์จึงรีบเข้ามาดูอาการแล้วใช้มือปาดคราบสกปรกทั้งหลายออกให้ทันที

ไวส์: เฮ้ย ชวาร์ซ! จู่ๆ เป็นอะไรไป!?

สุบารุ: มะ…ไม่เป็นรายยย

ไวส์: สภาพแบบนั้น…ยังมีหน้ามาบอกว่าไม่เป็นไรอีกเหรอ!

สุบารุ “ตายแล้วกลับมา” หลังกลืนยาพิษสุดแสนทรมาน ทำให้ดวงวิญญาณของเขายังตามความเจ็บปวดของร่างกายที่หายไปไม่ทัน

เขามีอาการแบบนี้ทุกครั้งที่หลังรีเซ็ตลูปที่ฆ่าตัวตายด้วยยาพิษของปู่นูล โชคดีที่ช่วงระหว่าง “สปาร์ก้า” ส่วนใหญ่สุบารุจะตายเพราะเขี้ยวเล็บของสัตว์อสูรเสียมากกว่า

กระนั้น ถ้าหากมีลูปไหนสุบารุไม่ตายทันที หรือเอาชนะสปาร์ก้าได้แต่มีสมาชิกในทีมตาย เขาก็จะกลืนยาพิษหลังฟันกรามเพื่อรีเซ็ตทันที

. ผ่านไปสักพัก อาการของสุบารุก็ค่อยๆ ดีขึ้น แล้วเขากับไวส์ก็ได้ยินเสียงกลไกของสะพานชักทำงาน

นั่นเป็นสัญญาณเตือนว่าอาราเคียกับท็อดด์ได้มาถึงเกาะกินุนไฮฟ์และสุบารุจะต้องดวลกับศัตรูตัวฉกาจอีกครั้ง

สุบารุกลัวท็อดด์จนตัวสั่น แต่ถ้าหากปล่อยไว้ พวกไวส์ก็จะต้องตายอีกแน่

สุบารุพอเดาได้ว่าท็อดด์เป็นคนช่วยอาราเคียเอาไว้ที่เมืองกัวราล เขาจึงไม่แปลกใจที่สองคนนี้จะอยู่ด้วยกัน แต่ถึงอย่างงั้นก็เถอะ…

สุบารุ: แม่งเอ๊ย ไหนมันว่าจะกลับไปหาคู่หมั้นไง? ทำไมไม่กลับไปอยู่บ้านเกิดเงียบๆ ล่ะวะ… ไอ้ขี้โม้เอ๊ย!

ไวส์: เหยื่อสังเวยของ “สปาร์ก้า” กลุ่มใหม่มาเรอะ…?

สุบารุ: ไม่น่าใช่หรอก ไวส์ ช่วยอะไรหน่อยได้มั้ย?

ไวส์: …ลืมที่ข้าพูดไปก่อนหน้านี้แล้วรึไง?

สุบารุ: “แค่อยากเป็นกำลังให้” ใช่มั้ย? ถ้างั้นขอยืมกำลังนายหน่อย

ไวส์: ถ้ายังจำได้ก็ดี… แล้วอยากให้ข้าช่วยอะไรล่ะ?

ไวส์ไม่ลังเลแม้แต่น้อยที่จะให้การช่วยเหลือสุบารุอย่างเต็มที่ เขารู้สึกนับถือไวส์ได้ด้านนั้นมาก

สุบารุ: แค่แป๊บเดียวก็ยังดี ช่วยถ่วงเวลาพวกที่กำลังเข้ามาที่เกาะไว้ให้หน่อย

. ตั้งแต่ที่โดนวิชาหดร่างของโอลบาร์ต อำนาจ “ตายแล้วกลับมา” ของสุบารุก็มีจุดเซฟสั้นลงเหมือนทำงานผิดปกติ แต่จุดเซฟในคราวนี้คือประมาณ 30 นาทีก่อนที่ทุกคนจะตาย

ถึงจะวานให้ไวส์ช่วยถ่วงเวลา แต่สุบารุก็ย้ำเตือนไม่ให้เขาไปอาละวาด เพราะเดี๋ยวจะถูกอาราเคียไม่ก็ท็อดด์เชือดทิ้งเอาได้

สุบารุ: ทุกคนเลือดไหลออกจากหน้าจนตาย… แก๊สพิษเหรอ? หรือว่าเป็นเวทมนตร์ประเภทหนึ่ง?

สุบารุเริ่มทำการวิเคราะห์สถานการณ์ ในลูปก่อนเขาไม่มีเวลาเช็คว่าพวกสัตว์อสูรในกรงตายหรือเปล่า แต่มนุษย์ทุกคนตายกันหมด ทั้งทาสดาบและทหารยาม

ข้อยกเว้นเดียวก็คือตัวเขากับท็อดด์ ถึงแม้ว่าสุบารุจะมีอาการแบบเดียวกับเหยื่อคนอื่น แต่เขากลับไม่ตายโดยทันที

สุบารุ: ถ้าเป็นแก๊สพิษ ท็อดด์มันกินยาถอนพิษไว้ล่วงหน้าเหรอ? ถ้านั่นเป็นเวทมนตร์ประเภทหนึ่ง… อาราเคียเป็นคนร่ายหรือเปล่า? พอมาคิดดูแล้ว หาตัวอาราเคียไม่เจอเลย

ในลูปก่อนสุบารุเจอศพแทบทุกคนที่รู้จัก ยกเว้น อาราเคีย กุสตาฟและเซซิลุส อาราเคียน่าจะอยู่ฝ่ายเดียวกับท็อดด์อยู่แล้ว สุบารุจึงสงสัยเรื่องชะตากรรมของกุสตาฟกับเซซิลุส

สุบารุลองคำนึงถึงความเป็นไปได้ของ “กฎคำสาป” แต่เขาก็ลองท้าทายกุสตาฟดูแล้วและพิสูจน์ได้ว่ามันน่าจะเป็นแค่คำขู่ อีกอย่างกุสตาฟก็ไม่น่าจะฆ่าทหารยาม

. สุดท้ายแล้ว มีความเป็นไปได้เหลือแค่สองอย่างในหัวสุบารุคือแก๊สพิษของท็อดด์หรือเวทมนตร์ของอาราเคีย แต่ทั้งสองทฤษฎีมีช่องโหว่หนึ่งอย่าง

สุบารุ: ทำไมชั้นถึงได้รับผลน้อยกว่าคนอื่น?

ไม่ใช่ปัจจัยด้านอายุ เพราะทันซ่าเองก็ตาย ไม่ใช่การกระทำก่อนหน้านั้น เพราะไวส์ที่ไปด้วยกันเองก็ตาย ไม่ใช่ปัจจัยด้านเผ่าพันธุ์ เพราะเฮียอินกับอิโดร่าตายไม่ต่างกัน

เพราะเขามาจากต่างโลก? เพราะเขาเคยอยู่ในราชอาณาจักร? เพราะเขาทำสัญญากับวิญญาณสุดน่ารัก? เพราะเขามี “แม่มด” เป็นสตอล์คเกอร์? เพราะเขาโดนวิชาหดร่าง?

ทำไมกัน ทำไมกัน ทำไมกัน อะไรกันที่ทำให้สุบารุต่างจากคนอื่น?

เซซิลุส: ――ว่าไง บัสซู ทำหน้าเครียดอะไรอยู่น่ะ?

สุบารุ: อุหวา!? …ซะ…เซสซี่?

ระหว่างที่มัวครุ่นคิด เซซิลุสก็ทักมาจากด้านหลังด้วยท่าทีไม่ทุกข์ร้อนเหมือนเคย

สุบารุพบเจอกับเซซิลุสที่เนินสูงของเกาะซึ่งมองเห็นรถลากของแขก เซซิลุสชำเลืองลงไปแล้วแนะนำให้สุบารุไปหาข้อมูลสำหรับการหลบหนีจากผู้ส่งสารที่มาเยือน

. สุบารุไม่คิดว่าเซซิลุสจะช่วยท็อดด์สังหารหมู่ แต่เขาก็อดสงสัยไม่ได้ว่าลูปก่อนเขาแค่หาศพเซซิลุสไม่เจอหรือว่าหมอนี่ออกจากเกาะไปแล้วด้วยวิธีการบางอย่าง

สุบารุ: เซสซี่ กำลังจะเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นบนเกาะ อาจจะเป็นฝีมือของพวกที่มาจากนครหลวง แต่ก็เจาะจงไม่ถูกเหมือนกัน…

เซซิลุส: ฟังดูแย่จังเลยนะ… ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่คุณหนูมนุษย์กวางกับกลุ่มของบัสซูต้องเผชิญ ภาวะแห่งความตายหรือไงกันนะ

สุบารุ: อึก

เซซิลุส: ให้ตายซี่ การตอบรับของบัสซูมันช่างน่าชื่นใจและน่าประทับใจ อย่างงี้เองเหรอครับ? สัญญาณบ่งชี้ว่าเหตุการณ์สำคัญกำลังจะเกิด รอจนเบื่อแทบตายแล้วเนี่ย!

สุบารุ: เซสซี่! ไม่ได้ล้อเล่นนะโว้ย! ทุกคนกำลังจะซวยกันหมด!

แทนที่จะรู้สึกกระวนกระวาย เซซิลุสกลับตื่นเต้นต่อวิกฤตการณ์เสี่ยงภัยที่เขากำลังจะได้เผชิญ แถมเขายังไม่คิดจะยื่นมือช่วยเหลือสุบารุฟรีๆ อีกต่างหาก

เซซิลุส: ――ตอนนี้แหละครับ ตอนนี้แหละ เพลานี้คือช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ! อยากรู้ใช่ไหมว่าต้องทำยังไงผมถึงจะไปเข้าฝั่งด้วย ก็ฟังเงื่อนไขที่ผมกำลังจะบอกตอนนี้แหละ

สุบารุ: ตอนนี้เหรอ…

เซซิลุส: ช่าย ช่าย ใช่เลยครับ! ทำให้ผมหลงใหลในลางสังหรณ์ของบัสซู! เชื่อมโยงต่อความคาดหวัง! เอาล่ะ หมาป่าผู้ถูกดาบแทงเอ๋ย! จงฉายแสงให้แก่ผู้สังเกตการณ์ที่เฝ้ามองโลกาแสนทรหดแห่งนี้ ผู้ใดเอ่ยที่จะทำให้เซซิลุส เซ็กมุนต์ผู้นี้หลงใหลได้!

ความบ้าระดับที่เพ้อเจ้อว่าตัวเองสามารถสื่อสารกับโลกและคิดว่าตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของโลก

หลังจากที่กังขามาโดยตลอด สุบารุเริ่มที่จะปักใจเชื่อแล้วว่าหมอนี่คือ “เซซิลุส เซ็กมุนต์” ตัวจริง

สุบารุ: ชั้นจะ…

เซซิลุส: ว่าไงครับ?

สุบารุ: ชั้นจะเอาแกมาเป็นพวกเดียวกันให้ได้ แล้วก็จะใช้งานให้สาสมเลยคอยดู

เซซิลุส: ――ไม่เกลียดความบ้าบิ่นแบบนั้นหรอก ชอบด้วยซ้ำ

เซซิลุสเผยรอยยิ้มที่ต่างออกไปจากทุกทีออกมา เหมือนเป็นสัญญาณว่าเขารับคำท้าของสุบารุ

ทว่า ทันใดนั้นเองก็มีเลือดไหลหยดออกมาจากจมูกของเซซิลุส สุบารุที่ตื่นตระหนกรีบกวาดสายตาดูและเห็นผู้คนบนเกาะเริ่มล้มลง

――การสังหารหมู่เริ่มต้นขึ้นแล้ว

. เซซิลุส: โอ๊ะโอ

สุบารุ: เซสซี่! ปะ…เป็นอะไรรึเปล่า!?

เซซิลุส: ให้ตายซี่ ท่าทางจะงานเข้า ศัตรูโหดหินเอาเรื่องนะเนี่ย บัสซู ดูท่าจะเล่นงานทุกวิถีทางเลย

ถึงแม้จะมีเลือดไหลพรากออกมาจากจมูกและดวงตา โทนเสียงของเซซิลุสก็ยังคงรื่นเริงไม่เปลี่ยน แต่ว่านั่นยังไม่ใช่ส่วนที่น่าขนลุกที่สุดของเขา

สุบารุ: นายไม่กลัวตายเลยเหรอ…?

เซซิลุส: ผู้คนยังไงก็ต้องตายอยู่ดีล่ะนะ

ไม่ลังเล ไม่สับสน ไม่กลัว ไม่กังวล ไม่เสียใจ

เซซิลุสปล่อยมือออกจากจมูกที่โลหิตไหลพรั่งพรู ซ่อนมือที่เปื้อนเลือดไว้ใต้แขนเสื้อ แล้วนอนแน่นิ่งพิงรัวกั้นจนจากไปอย่างสงบ

เซซิลุสไม่ได้มีพลังที่จะช่วยโกงความตายแบบสุบารุ แต่เขากลับสามารถยอมรับความตายได้อย่างง่ายดาย

สุบารุ: อ่อก

แล้วหลังจากที่เซซิลุสตายจากไป สุบารุก็เริ่มออกอาการไอเป็นเลือดต่อทันที

. สุบารุเดินเตร็ดเตร่หาผู้รอดชีวิตบนเกาะ แต่พวกทันซ่าและปู่นูลก็ต่างเสียชีวิตไปกันหมดแล้ว นั่นทำให้สุบารุนึกเสียใจที่เขาไม่ได้มาเตือนพวกทันซ่าก่อน

รอบนี้สุบารุไปเช็คกรงขังสัตว์อสูรด้วย พวกมันเองก็นอนตายในสภาพเลือดไหลออกจากดวงตาและจมูกไม่ต่างจากมนุษย์

ตอนนี้สุบารุเองก็ใกล้ตายเต็มที เขาหายใจไม่ค่อยออกเพราะเลือดกำเดาอุดจมูก ดวงตาก็เปียกแฉะและแดงฉานเพราะโลหิตจนมองไม่ค่อยเห็น

สุบารุเดินมาหยุดรอบริเวณลานกว้างและรอคอยให้ยมทูตผู้น่ารังเกียจโผล่มาพรากชีวิตของเขาไป

ท็อดด์: ――นี่นาย ทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ล่ะเนี่ย?

ทันทีที่ยมทูตนามว่า “ท็อดด์ แฟงก์” ปรากฏตัวออกมา สุบารุก็ชูนิ้วกลางที่สั่นไหวใส่หน้าเขา

ท็อดด์: นึกว่าพวกคนบนเกาะนี้จะโดนถอนรากถอนโคนไปหมดแล้วซะอีก…

ท็อดด์ทำการชักมีดออกมาเตรียม เขาคงรู้สึกประหลาดใจน่าดูที่ยังมีผู้รอดชีวิตหลงเหลืออยู่

. บนเกาะไม่หลงเหลือใครให้สุบารุพูดคุยด้วยได้แล้วนอกเหนือจากท็อดด์ ก่อนตายเขาเลยขอเสวนากับยมทูตเสียหน่อย

ท็อดด์เป็นคนที่เจ้าเล่ห์และขี้ระแวงขั้นสุด กระทั่งอีกฝ่ายเป็นเด็กใกล้ตาย เขาก็ไม่เคยบอกใบ้อะไรให้สุบารุเป็นของแถมก่อนลาโลก

สุบารุพยายามคิดหาหนทางดึงข้อมูลจากยมทูตผู้เลือดเย็น ในลูปนี้อย่างมากเขาก็คงหาข้อมูลได้อีกแค่ “อย่างเดียว” ดังนั้น ข้อมูล “อย่างเดียว” ที่ว่ามันจะต้องสำคัญ

ท็อดด์คือคนที่สังหารหมู่ทุกคนหรือเปล่า? ถามไปก็ไร้ความหมาย

ใครยังรอดอยู่บ้าง? ถามไปก็ไร้ความหมาย

อาราเคียอยู่ไหน? ถามไปท็อดด์ก็คงไม่บอกอยู่ดี ไร้ความหมาย

กุสตาฟเป็นยังไงบ้าง? ถามไปก็คงไม่ตอบ

แล้วถ้าถามเกี่ยวกับวิธีการสังหารหมู่ล่ะ?

มันไม่ใช่แก๊สพิษแน่ๆ ตัวเขากับเซซิลุสที่ขึ้นไปบนเนินสูงเหนือกระแสลมยังไม่รอด หรือว่ามันจะเป็นเวทมนตร์ของอาราเคียจริงๆ?

[เซซิลุส: ――ตอนนี้แหละครับ ตอนนี้แหละ]

เสียงของเซซิลุสที่ตายไปแล้วดังก้องขึ้นมาในหัวสุบารุ มันกลายเป็นการจุดชนวนให้แก่ความคิดที่หยุดนิ่งของเขาจนกล้าที่จะร้องตะโกนสิ่งที่อยู่ในใจออกไป

สุบารุ: ――กฎคำสาปสินะ!!

มันคือทฤษฎีที่เคยปัดทิ้งไปก่อนหน้า แต่ทันทีที่เขาได้ยินเสียงร่ำร้องของสุบารุ ยมทูตนามท็อดด์ก็เคลื่อนไหวโดยไม่รีรอ

ท็อดด์: ตายซะ

จิตสังหารของท็อดด์พุ่งสูงขึ้นในพริบตา เขาเข้าประชิดตัวเพื่อใช้มีดแทงคอสุบารุแล้วชักออกอย่างรวดเร็วจนโลหิตพุ่งสาดกระเซ็นไปทั่ว

สุบารุที่หงายหลังกระแทกพื้นพยายามกัดถุงยาพิษแต่ดันล้มเหลว ทว่า บาดแผลในรอบนี้ไม่จำเป็นต้องพึ่งพิษก็คงตายไงอยู่ดี

ท็อดด์: ใส่นี่ไว้ในปาก บ้าไปแล้วเหรอ?

ท็อดด์สังเกตเห็นถุงยาพิษในปากของสุบารุแล้วใช้นิ้วเขี่ยมันขึ้นมาดู สุบารุไม่รู้ว่าท็อดด์ใช้วิธีการใดยืนยันว่าของในถุงเป็นยาพิษ แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับข้อมูลที่เขาพึ่งได้มา

สุบารุ: ยะ…

ท็อดด์: ว่าไงนะ?

สุบารุ: อย่าง…เดียว…

ท็อดด์: ――ชิ

ข้อมูล “อย่างเดียว” สุดแสนสำคัญที่สุบารุได้มาจากลูปนี้คือท็อดด์สีหน้าเปลี่ยนและเลือกสังหารสุบารุทันทีที่เขาได้ยินคำว่า “กฎคำสาป”

สิ่งที่สังหารหมู่ทุกคนบนเกาะกินุนไฮฟ์ก็คือ “กฎคำสาป” ที่ไม่น่าจะมีอยู่จริงนั่นเอง

จบตอน