สุบารุ “ตายแล้วกลับมา” หลังถูกท็อดด์ใช้มีดแทงปิดท้าย แต่รีแอคชั่นของท็อดด์จากลูปก่อนช่วยบอกใบ้ว่าสิ่งที่ฆ่าทุกคนบนเกาะคือ “กฎคำสาป”
คำถามต่อมาคือทำไมกุสตาฟถึงใช้มันไม่ได้ตอนที่สุบารุท้าทายก่อนหน้านี้? อะไรคือเงื่อนไขที่ทำให้กุสตาฟสามารถใช้กฎคำสาปได้?
สุบารุ: …คุณกุสตาฟเป็นศัตรูงั้นเหรอ?
ถ้าหากกฎคำสาปถูกใช้จริงๆ นั่นแปลว่าสุบารุต้องนับกุสตาฟเป็นศัตรูคนที่สาม รวมกับท็อดด์และอาราเคีย
ไวส์: ชวาร์ซ…
สุบารุ: อึก
ไวส์: แรงสั่นสะเทือนนี่มัน…
ในระหว่างที่ไวส์กำลังห่วงอาการสุบารุ สะพานชักก็ถูกยกตัวขึ้นเพื่อต้อนรับผู้ส่งสารเหมือนกับในลูปที่ผ่านมา
――ทว่า ปัญหาก็คือสะพานชักมันถูกยกไวขึ้นกว่าที่สุบารุจำได้ ราวกับว่าจุดเซฟมันเลื่อนไปหลายสิบวินาที
. ความผิดปกติของ “ตายแล้วกลับมา” ทำให้สุบารุเริ่มกังวล
ตอนนี้มันเลื่อนแค่หลักวินาทีก็จริง แต่ถ้าหากยิ่งตายจุดเซฟยิ่งเลื่อน สุบารุอาจจะติดอยู่ในลูปที่แก้ไขอะไรไม่ได้เลยเอาได้ เพราะงั้นเขาถึงต้องรีบเดินหน้าหาทางผ่านลูป
× × ×
เฮียอิน: ฮะ…เฮ้ย ชวาร์ซ …แน่ใจนะว่าจะอยู่นี่ด้วยกัน?
สุบารุ: แน่ใจสิ ขอร้องล่ะ นายช่วยอย่าปอดแหกในงานสำคัญละกัน เฮียอิน
เฮียอิน: ปอดแหกก็บ้าแล้วโว้ย! ปอดแหกก็บ้า…
หลังขอให้ไวส์ช่วยถ่วงเวลาเหมือนลูปก่อน สุบารุกับเฮียอินก็แอบลักลอบเข้ามาในห้องทำงานของกุสตาฟเพื่อหาข้อมูล
โดยสุบารุอ้างว่าผู้ส่งสารมาเพื่อคุยเกี่ยวกับ “มหรสพ” เฮียอินที่รักตัวกลัวตายจึงให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะมหรสพคืออีเว้นต์เสี่ยงตายของทาสดาบถัดจากสปาร์ก้า
. กุสตาฟ: ――เข้ามาสิ มีเรื่องอะไรก็ว่ามาเลย
ในไม่ช้าประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดออกโดยมีกุสตาฟเดินนำเข้ามา สุบารุและเฮียอินจึงหุบปากเงียบโดยทันที เพราะเขารู้ดีว่าแขกที่มาเยี่ยมคือใคร
กุสตาฟ: แม่ทัพชั้นเอกอาราเคีย แล้วก็…
อาราเคีย: ท็อดด์
ท็อดด์: พลทหารชั้นเอก “ท็อดด์ แฟงก์” ครับ ผู้ติดตามชั่วคราวจนกว่างานนี้จะเสร็จ ――ห้องเรียบง่ายดีนะ เป็นถึงห้องของอุปราชแท้ๆ
ท็อดด์เริ่มเดินชมห้องทำงานที่จัดเรียงอย่างเรียบง่ายของกุสตาฟ ส่วนสุบารุก็ภาวนาสุดชีวิตไม่ให้เขาเดินมาเช็คตู้หนังสือมุมห้อง
นั่นก็เพราะว่าสุบารุกับเฮียอินซ่อนตัวเพื่อดักฟังบทสนทนาอยู่บริเวณนั้นโดยอาศัยการ “พลางตา” ด้วยพลังเปลี่ยนสีผิวของเฮียอินนั่นเอง
× × ×
กุสตาฟ: ก็เป็นห้องทำงานนี่นะ กระผมมีทุกอย่างที่ต้องการอยู่แล้ว นี่นายมาเพื่อประเมินกันหรือเปล่า?
ท็อดด์: เปล่าเลย แค่ติดตามกับแม่ทัพชั้นเอกอาราเคียครับ ท่านแม่ทัพเธอค่อนข้างเลือกคน ไม่มีลูกน้องคนอื่นนอกจากผมอยู่เลย
อาราเคีย: หัวกะทิที่มีอยู่น้อยคน
ท็อดด์: หัวกะทิอะไร ยกยอกันเกินไปแล้วครับ
. ถ้าหากว่าเฮียอินอยู่นิ่งๆ ไม่ไหวติง พลัง “พลางตา” ของเขาก็สามารถเปลี่ยนสีผิวหนังของตัวเองรวมถึงสุบารุที่อุ้มอยู่ให้กลมกลืนกับพื้นหลังจนเสมือนอยู่ในสภาพล่องหน
ผลลัพธ์ของพลังนี้จึงขึ้นอยู่กับระดับ “ความกล้า” ของผู้ใช้ ขอแค่เฮียอินไม่ปอดแหกหรือกลัวจนรีบขยับเหมือนคราวสปาร์ก้า มันก็เป็นพลังที่ช่วยในการซ่อนตัวได้อย่างดี
[สุบารุ: ถ้าพวกนั้นมองไม่เห็น พวกเราก็ไม่เป็นไรหรอก ผู้ส่งสารที่จะมาคือ “เก้าแม่ทัพเทวะ” กับนายทหารผู้ช่วย ขอแค่พลังพลางตาของนายไม่หวั่นไหวก็หายห่วง อีกอย่าง]
[เฮียอิน: อีกอย่าง…?]
[สุบารุ: ――มีชั้นอยู่ด้วยทั้งคน]
บทสนทนาปลุกใจก่อนเริ่มแผนของสุบารุช่วยมอบความมั่นใจให้เฮียอินใช้พลังพลางตาได้อย่างสมบูรณ์แบบเป็น “ครั้งแรก”
. ในขณะที่ท็อดด์นั่งลงบนโซฟาตามที่กุสตาฟเชิญ อาราเคียกลับขอยืนต่อ เพราะเธอรู้สึกกระวนกระวายเนื่องจากว่ามี “รังมังกร” อยู่ใกล้ๆ บริเวณนี้
ท็อดด์เริ่มเปิดประเด็นด้วยการมอบจดหมายจาก “อัครมหาเสนาบดี” ให้แก่อุปราชกุสตาฟ
สุบารุจำได้ว่าอัครมหาเสนาบดีคือตัวการที่โค่นบัลลังก์ของวินเซนต์ ไหนจะมีท็อดด์เป็นผู้ส่งสารอีก เขารู้สึกได้เลยว่าเนื้อความของจดหมายต้องไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน
ท็อดด์: ท่านเคานต์ระดับสูงกุสตาฟ มอเรโล คุณได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอุปราชดูแลเกาะนี้โดยองค์จักรพรรดิวินเซนต์ วอลลาเคียใช่ไหม?
กุสตาฟ: เข้าใจไม่ผิดหรอก
ท็อดด์: เป็นคำสั่งขององค์จักรพรรดิแท้ๆ แต่ให้ผู้มีสายเลือดเดียวกันกับคูร์กัน “แปดกร” วีรชนแห่งวอลลาเคียมาทำงานที่มีแต่คนเกลียดอย่างพัศดีของเกาะทาสดาบกินุนไฮฟ์มันจะดีเหรอ?
กุสตาฟ: ――นี่กังขาต่อการตัดสินใจขององค์จักรพรรดิงั้นหรือ?
ทันทีที่ท็อดด์พูดในเชิงให้ร้ายต่อจักรพรรดิวินเซนต์ วอลลาเคีย บรรยากาศในห้องก็ตึงเครียดขึ้นมาโดยทันที
× × ×
ความพิโรธของกุสตาฟทำให้อาราเคียขยับเข้ามาใกล้เพื่อเตรียมรับมือ เพราะเธอไม่อยากให้ท็อดด์ตายก่อนที่เขาจะได้ล้างแค้นให้เพื่อน (จามาล)
แต่ท็อดด์ก็ยอมรับว่าเขาเป็นฝ่ายผิดเอง กุสตาฟจึงแกะตราประทับออกเพื่อเปิดจดหมายอ่าน
กุสตาฟ: นี่มัน…
ท็อดด์: ทาสดาบบนเกาะนี้มีความเสี่ยงเป็นภัยจากปัญหาภายใน องค์จักรพรรดิประสงค์ให้กำจัดทิ้งเสียให้หมด
× × ×
ท็อดด์ประกาศออกมาอย่างชิวๆ ว่าอยากให้กุสตาฟสังหารทาสดาบนับร้อยชีวิตบนเกาะ ราวกับว่าแค่สั่งให้เอาขยะไปทิ้ง
ปัญหาภายในที่ว่าคือทาสดาบในยุคนี้มีคุณภาพอ่อนด้อยลงจนเป็นที่น่าผิดหวังตอนเอามาออกงาน “มหรสพ” งานที่ทาสดาบประลองกันแบบถึงตายให้พวกคนใหญ่คนโตดู
ท็อดด์: ได้ยินมาว่ามี “กฎคำสาป” ที่เหมาะใช้ในการกำจัดอยู่พอดี แม่ทัพชั้นเอก “กรูวี่ กัมเล็ต” แห่งเก้าแม่ทัพเทวะมอบอุปกรณ์ไสยเวทไว้ให้ไม่ใช่เหรอ? ใช้สิ่งนั้นเก็บกวาดทีเดียวไปเลย
× × ×
ตามที่กำหนดไว้ พวกท็อดด์จะให้กุสตาฟใช้อุปกรณ์คำสาปที่ได้มาจากกรูวี่สังหารหมู่พวกทาสดาบ จากนั้นก็ปิดเกาะกินุนไฮฟ์เป็นการชั่วคราวระหว่างรอทาสดาบชุดใหม่
ถ้าหากพวกสุบารุไม่ทำอะไรสักอย่าง ทุกคนก็จะถูก “กฎคำสาป” ล้างบางเหมือนเคย แต่สาเหตุที่สุบารุยังไม่เคลื่อนไหวก็เพราะ…
กุสตาฟ: ――ขอปฏิเสธ
ท็อดด์: …ว่าไงนะ?
ท็อดด์สงสัยว่าเนื้อความในจดหมายมันต่างจากที่พวกตนรู้มาหรือเปล่า แต่กุสตาฟก็ยืนยันว่าเนื้อหาคำสั่งเหมือนกัน
แถมจดหมายก็ยังมีตราประทับของอัครมหาเสนาบดีชัดเจนด้วย กระนั้นกุสตาฟกลับยังเลือกปฏิเสธ
กุสตาฟ: ――กระผมได้รับคำสั่งจากองค์จักรพรรดิ ให้ฝึกฝนทาสดาบทั้งร่างกายและจิตใจเพื่อเตรียมความพร้อมไว้เผื่อในยามฉุกเฉิน
ท็อดด์: ตราประทับของอัครมหาเสนาบดีคือพระประสงค์ขององค์จักรพรรดิ จะบอกว่าคำสั่งที่ได้รับมาก่อนหน้ามันไม่ตรงกันเลยตัดสินใจไม่ได้เหรอ? แต่คำสั่งใหม่นี้เป็นของแท้แน่นอนนะ
กุสตาฟ: จะขอรับคำสั่งจากองค์จักรพรรดิเท่านั้น
ท็อดด์: บอกแล้วไงว่าให้ยกเลิกคำสั่งเก่าไป แล้วทำตามคำสั่งใหม่แทน
กุสตาฟ: ตอนที่ได้รับแต่งตั้งเป็นอุปราชประจำเกาะนี้ องค์จักรพรรดิบอกกระผมไว้ว่า “――อย่าได้ยกเลิกคำสั่งแรกเป็นอันขาด ถึงแม้ว่าจะได้รับคำสั่งใหม่จากเราผู้นี้ก็ตาม”
สุดท้ายการโน้มน้าวของท็อดด์ไม่มีผลต่อกุสตาฟผู้แสนดื้อด้าน เพราะเขาเลือกที่จะยึดมั่นในคำสั่งแรกที่เขาได้รับมาจากวินเซนต์ วอลลาเคีย
ท็อดด์: อาราเคีย ――เจรจาล้มเหลวแล้ว
กุสตาฟ: ――อึก!
เมื่อท็อดด์เอ่ยทักแม่ทัพชั้นเอกที่ยศสูงกว่าด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย กุสตาฟก็รีบใช้แขนสี่ข้างพลิกโต๊ะหนักเป็นร้อยกิโลใส่ผู้ส่งสารทั้งสองทันที
อาราเคีย: ――ปิ้ว
ทว่า อาราเคียก็เล็งคทาใส่ แล้วร่ายเวทมนตร์วารี ทำการยิงน้ำแรงดันสูงออกมาเป่าส่วนศีรษะของกุสตาฟจนขาดหายไปได้ในพริบตา
. ศพไร้หัวของกุสตาฟล้มทับโต๊ะที่เขาพลิกเองกับมือก่อนหน้านี้ เลือดไหลทะลักเปื้อนพื้นห้องทำงานเต็มไปหมด
ถึงแม้ว่าเผ่าหลายแขนจะมีจำนวนแขนต่างกันไปแล้วแต่คน แต่จุดอ่อนในร่างกายของพวกเขายังไงก็เป็นส่วนหัวไม่เปลี่ยน
ท็อดด์: เป็นอะไรไป? อย่าบอกนะว่าตกใจพลังของตัวเอง?
อาราเคีย: ไม่เชิง แต่ก็แปลกใจอยู่ …เป็นแค่น้ำเองแท้ๆ แต่มีพลังทำลายมากขนาดนี้
ท็อดด์: อ้อ งั้นนี่เอง ถ้าเจอคนเยอะ ไฟย่อมดีกว่าอยู่แล้ว แต่ถ้าสู้กับคนเดียวก็ต้องใช้น้ำนี่แหละ ทีหลังถ้าจะยิงหัวคนก็ใช้น้ำปริมาตรแค่ประมาณแก้วเดียวก็พอ
อาราเคีย: เข้าใจล่ะ …ท็อดด์?
ท็อดด์เดินไปดูศพกุสตาฟแล้วชักมีดออกมา จากนั้นก็จ้วงเข้าไปที่แผ่นหลังและเริ่มทำการผ่าศพอย่างเชี่ยวชาญราวกับว่าเขากำลังแล่เนื้อปลาอยู่
สุบารุที่ชมภาพนั้นอยู่เงียบๆ ในสภาพล่องหน ยิ่งรู้สึกสยองต่อพฤติกรรมของท็อดด์ยิ่งขึ้นไปอีก เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าศพตัวเองในลูปก่อนๆ ถูกท็อดด์ชำแหละแบบนี้ไหม
ท็อดด์: ――เจอละ
อาราเคีย: ――อะไรน่ะ?
ท็อดด์: อุปกรณ์ไสยเวทไงล่ะ อุปกรณ์ไสยเวท กะไว้แล้วว่าคนแบบหมอนี่ต้องฝังมันเอาไว้ในร่างกาย
ท็อดด์ล้วงเอาลูกแก้วสีดำขนาดประมาณลูกกอล์ฟออกมาจากศพของกุสตาฟ มันคืออุปกรณ์ไสยเวทที่เอาไว้เปิดใช้งานกฎคำสาป
ท็อดด์: พอมีเจ้านี่อยู่ในมือ ก็ไม่สำคัญแล้วว่าผู้ดูแลจะเป็นหรือตาย ――ดันทำเรื่องโง่ๆ ซะงั้น …คิดจริงเหรอ ว่าจะต่อกรกับสัตว์ประหลาดได้?
ท็อดด์เรียกอาราเคียที่สามารถปลิดชีพกุสตาฟได้ง่ายๆ ว่า “สัตว์ประหลาด” แต่สำหรับกุสตาฟที่ตายไปกับสุบารุแล้ว ท็อดด์นี่แหละคือปีศาจร้ายตัวจริง
. ท็อดด์: อาราเคีย ขอน้ำหน่อย หลังล้างเลือดเสร็จก็ถึงตาพวกบนเกาะ
ท็อดด์วางลูกแก้วลงบนโต๊ะทำงานแล้วเดินไปหาอาราเคียเพื่อขอล้างเลือด จังหวะนี้เองที่สุบารุตัดสินใจได้ว่าต้องลงมือ
อาราเคีย: อ๊ะ
พอท็อดด์หันกลับไปดูตามเสียงร้องของอาราเคีย เขาก็เห็นเด็กคนหนึ่งล้วงไปหยิบลูกแก้วดำที่ถูกวางทิ้งไว้
พลังพลางตาของเฮียอินได้ผลอย่างดี เขาหลอกได้กระทั่งสายตาของสัตว์ประหลาดอย่างอาราเคียและจอมขี้ระแวงแบบท็อดด์
สุบารุ: เฮียอิน! ระเบิดทั้งห้องไปเลย!!
สุบารุตะโกนเรียกเฮียอินที่นอนเนียนอยู่บนพื้น แต่เขาหันไปทางประตูทางเข้า แถมยังตะโกนออกคำสั่งปลอมๆ เพื่อดึงความสนใจของท็อดด์
ท็อดด์: แค่ตัวหลอกเรอะ!
ท็อดด์ดูออกช้าเกินไป เฮียอินที่พลางตัวอยู่พุ่งตัวเข้ามาโฉบสุบารุและพากันกระโดดออกนอกหน้าต่างหนีไป
อาราเคีย: ――ปะชิ้ว
เวทวารีของอาราเคียปล่อยน้ำแรงดันสูงจำนวนมากออกมาระเบิดทั้งห้องทำงานของกุสตาฟและส่วนบนของเกาะทาสดาบ
ทว่า พอตรวจสอบดูอีกที อาราเคียก็พบว่าพวกสุบารุปีนผ้าสีขาวที่ผูกไว้เป็นทางลงหลบหนีไปเรียบร้อยแล้ว
อาราเคีย: นี่มัน…
ท็อดด์: เตรียมการลอบจู่โจมมาอย่างดีเลยงั้นเรอะ? ――อะไรกันเนี่ย เจ้าเด็กเวรนั่น …อาราเคีย ไปตามเอาอุปกรณ์ไสยเวทกลับมา จะฆ่าเลยก็ได้
อาราเคีย: เข้าใจล่ะ แล้วท็อดด์ล่ะ?
ท็อดด์: ไม่ต้องรู้ก็ได้ว่าชั้นจะทำอะไร
อาราเคียไม่ถามอะไรเพิ่มเติม เธอกระโดดตัวพุ่งตามพวกสุบารุออกไปทางหน้าต่างโดยทันที ส่วนท็อดด์ที่เหลืออยู่คนเดียวก็ได้แต่ถอนหายใจ
ท็อดด์: …เป็นเด็กเวรที่มีกลิ่นน่ารังเกียจซะจริง
จบตอน