กว่าจะดักฟังบทสนทนาระหว่างพวกท็อดด์และกุสตาฟจนจบและกว่าจะขโมยอุปกรณ์ไสยเวทไปได้ สุบารุต้องวนลูปอยู่หลายรอบ
เขาต้องเตรียมการทั้งจุดซ่อนตัวที่ดีที่สุดในห้อง วิธีทำให้เฮียอินไม่แตกตื่น เส้นทางหลบหนี(ผ้าขาวที่ผูกไว้ตรงหน้าต่าง) และต้องรู้ลำดับเหตุการณ์ที่จะเกิด
นอกจากนี้สุบารุยังสั่งให้ไวซ์ไปถ่วงเวลา วานให้ทันซ่าหาสมุนไพรกลิ่นแรงมาโปรยไว้ตามทางเข้าห้องทำงานและบอกให้อิโดร่ารวมพลที่เนินสูง
ทั้งหมดเพื่อที่จะดึงดูดความสนใจของท็อดด์จอมขี้ระแวงไปจากแผนการดักฟังซึ่งๆ หน้า
. เฮียอิน: ชวาร์ซ! หลังจากนี้เอาไงต่อ!?
สุบารุ: กำลังคิดอยู่!
เฮียอินพาสุบารุไต่กำแพงลงมาถึงลานกว้าง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่สุบารุผ่านอุปสรรคมาได้ไกลขนาดนี้ เขาเลยยังไม่ชัวร์ว่าจะเอาไงต่อ
สุบารุ: เอาเป็นว่า พลางตัวซ่อนในพุ่มไม้ก่อนดีกว่า!
เฮียอิน: นะ…หนีไม่ดีกว่าเหรอ?
สุบารุ: วิ่งมั่วๆ ไปเดี๋ยวก็โดนเจอตัวอยู่ดี! เร็วเข้า!
ไม่ว่าจะเลือกอะไร โอกาสรอดก็ต่ำทั้งคู่ แต่อย่างน้อยสุบารุขอเลือกซ่อนตัวเพื่อหาข้อมูลการเคลื่อนไหวต่อไปของศัตรูก่อน
. อาราเคีย: ไม่อยู่
หลังจากที่สุบารุกับเฮียอินพลางตัว อาราเคียก็ลอยตัวลงมาถึงลานกว้าง แถมไม่รู้ว่าเธอสัมผัสหรือสังหรณ์ได้ด้วยอะไร อาราเคียถึงเดินมาทางที่ซ่อนของพวกสุบารุ
แต่ก่อนที่อาราเคียจะเดินมาถึงพุ่มไม้ ทาสดาบห้าคนก็โผล่มาเป็นไทยมุงรุมดูเหตุวุ่นวายที่เกิดขึ้น
ระหว่างที่กลุ่มทาสดาบเทความสนใจไปยังห้องทำงานที่ระเบิดเละกับสาวสวยแปลกหน้า สุบารุก็เตรียมที่จะหนี ทว่า กลับมีเสียงประกาศดังมาจากห้องทำงานก่อน
ท็อดด์: ――ฟังทางนี้!! อุปราชกุสตาฟ มอเรโลถูกฆ่าตาย! คนร้ายคือเด็กผมสีดำกับมนุษย์กิ้งก่าสีเทา! เจอตัวเมื่อไหร่ฆ่าได้เลย!!
ทาสดาบ: …
ท็อดด์: ขอย้ำ! อุปราชกุสตาฟ มอเรโลถูกฆ่าตาย! แม่ทัพชั้นเอกอาราเคียจะรับช่วงเป็นอุปราชต่อแทน! ถ้าไม่อยากตายเพราะกฎคำสาป ฆ่าคนร้ายสองคนทิ้งซะ!!
เสียงประกาศของท็อดด์สื่อสารออกไปชัดเจนให้คนทั้งเกาะได้ยิน มันกลายเป็นการเริ่มอีเวนต์ “สปาร์ก้า” ที่มีทั่วทั้งเกาะเป็นสนามประลอง
. หลังประกาศจบ ท็อดด์ก็เรียกอาราเคียแล้วชี้นิ้วไปยังกลุ่มทาสดาบ 5 คนที่โผล่มาในลานกว้าง จากนั้นเขาก็ทำสัญลักษณ์นิ้วเชือดคอเป็นสัญญาณว่า “ฆ่าเลย”
ทาสดาบ: คุณหนูรู้อะไรมาหรือเปล่า? ไหงกุสตาฟถึงตายได้…
อาราเคีย: โทษทีนะ เขาบอกมา
ทาสดาบ: หา…? บอกอะไร?
เพียงแค่อาราเคียตวัดไม้คทาแนวราบ ศีรษะของทาสดาบทั้งห้าคนก็ระเบิดออกด้วยลักษณะแตกต่างกัน
บางคนมีน้ำสมองทะลักออกมาจากลูกตาและจมูก ส่วนบางคนก็หัวบวมผิดรูปร่างจนตาย
นั่นคือผลลัพธ์จากการใช้เวทมนตร์วารีระเบิดน้ำปริมาตรหนึ่งแก้วออกจากศีรษะเป้าหมายอย่างที่ท็อดด์แนะนำอาราเคียไว้ก่อนหน้านี้
แถมไม่พอยังมีกลุ่มทาสดาบโผล่มาเป็นไทยมุงเพิ่ม ทำให้อาราเคียต้องปิดปากพยานเพิ่ม กลายเป็นการเริ่มต้น “การสังหารหมู่” ด้วยวิธีการที่แตกต่างจากลูปก่อนๆ
อาราเคีย: เขาบอกมา ――ว่าไม่ต้องคุยกับคนตาย
. แผนที่พึ่งปรับสดๆ ร้อนๆ ของท็อดด์ เปลี่ยนเกาะทาสดาบให้กลายเป็นสนามรบ โดยที่มีอาราเคียเป็นเครื่องจักรสังหารตามเก็บทุกคนที่ขวางหน้า
ถือเป็นโชคดีในโชคร้ายแล้วที่ท็อดด์กำชับอาราเคียไว้ไม่ให้ใช้เวทใหญ่แบบเสกพายุหมุนทำลายทั้งเกาะ คงเพราะจะได้นับจำนวนศพได้ง่ายหน่อย
ผู้คุม: อยู่ไหนวะ! โผล่หัวมาสิโว้ย ชวาร์ซ! ไอ้เด็กเปรตน่าขนลุก!
พวกผู้คุมที่เชื่อคำลวงที่ท็อดด์ปล่อยทาสดาบเดรัจฉานหรือก็คือสัตว์อสูรที่ถูกหักเขา ออกมาไล่ล่าสุบารุกับเฮียอิน หนึ่งในนั้นมีสัตว์อสูรรูปร่างสุนัขสองหัว(ออร์ทรอส)อยู่ด้วย
ทาสดาบ 1: เฮ้ย ชวาร์ซล่ะ!? เจอตัวไหม!?
ทาสดาบ 2: ไม่เจอเลยโว้ย! พวกทหารนี่สิต้องระวัง! ถ้าโดนเจอตัวเข้าล่ะก็ตายแน่!
ทาสดาบ 3: ถ้างั้นก็มอบตัวชวาร์ซให้พวกนั้น…
ทาสดาบ 4: ตะ…แต่ถ้าเกิดว่าข่าวลือเกี่ยวกับชวาร์ซเป็นจริงขึ้นมาล่ะ…?
พวกทาสดาบเองก็กำลังความเห็นแตกขั้ว ตกลงกันไม่ได้ บางส่วนกลัวตายจนยอมทำร้ายพวกเดียวกันมั่วซั่วเพื่อหาตัวสุบารุเลย
แม้จะถูกทั้งผู้คุม ทาสดาบและอาราเคียตามล่าตัว แต่สิ่งที่สุบารุกังวลที่สุดก็คือเขาไม่รู้ความเคลื่อนไหวของท็อดด์
. สุบารุ: ปู่นูล!
ทันซ่า: ท่านชวาร์ซ…
สุบารุที่ไม่รู้จะเชื่อใจใครดีเลือกไปหาปู่นูลที่ห้องรักษา แต่พอไปถึงเขาก็พบว่าประตูห้องพังเละ แถมยังมีศพสัตว์อสูรหนูมีปีกที่ถูกทันซ่าสังหารนอนอยู่กลางห้อง
ทว่า ก่อนที่มันจะถูกฆ่า เจ้าสัตว์อสูรถล่มห้องรักษาเละเทะและเขมือบหัวปู่นูลไปเรียบร้อยแล้ว สุบารุเข่าทรุดทันทีที่ได้เห็นศพของชายชรา
ไวส์และอิโดร่าเองก็อยู่ที่ห้องรักษา กลายเป็นว่าทีมสปาร์ก้าของสุบารุรอดชีวิตมาได้พร้อมหน้าอย่างปาฏิหาริย์
ทันซ่า: ท่านชวาร์ซ เรื่องที่ลือกันนี่จริงหรือเปล่าคะ? อุปราชกุสตาฟถูกสังหารโดย…
สุบารุ: ชั้นกับเฮียอินสินะ? ไม่จริงอยู่แล้ว คุณกุสตาฟถูกผู้ส่งสารจากนครหลวงฆ่า… อาราเคียน่ะ ไม่สิ ท็อดด์เป็นคนใช้อาราเคียฆ่า
ทันซ่า: ท็อดด์…? ใครกันคะนั่น?
สุบารุ: เป็นคนที่น่ากลัวยิ่งกว่าบิชอปมหาบาปอีกน่ะสิ
ทันซ่า: อย่าเทียบแบบนั้นสิคะ บิชอปมหาบาปอะไรนั่น ถึงจะไม่จริงแต่แค่พูดถึงพวกนั้นก็ใจไม่ดีแล้ว
สุบารุ: อา โทษที พอดีว่ารู้จักเป็นการส่วนตัวน่ะ เจอเจ้าพวกนั้นอย่างบ่อย
ทันซ่า: ได้เจอกับบิชอปมหาบาปอยู่บ่อยๆ เหรอคะ? เป็นอย่างที่คิดจริงๆ สินะ…
สุบารุสงสัยว่าทันซ่าหมายถึงอะไร แต่เธอก็เลือกที่จะเงียบไว้ก่อน
. กลุ่มสุบารุปรึกษากันถึงตัวเลือกหนีออกจากเกาะ แต่พวกเขาก็ไม่มีกุญแจเปิดหอควบคุมสะพานชักและมีโอกาสกลายเป็นเป้านิ่งให้อาราเคียสอยระหว่างหนี
แถมสุบารุก็มิอาจทำใจปล่อยให้กุสตาฟกับปู่นูลตายแบบถาวรได้อีกด้วย นี่ไม่ใช่เส้นทางที่ลูกชายของนัตสึกิ เคนอิจิควรจะเลือก
ระหว่างที่ทั้งกลุ่มกำลังคิดหาวิธีลดจำนวนศัตรู เฮียอินก็ขอร้องให้สุบารุยอมเปิดเผยความลับ
สุบารุ: ที่ให้เลิกเก็บเป็นความลับ… มันเรื่องอะไรเหรอ?
เฮียอิน: ละ…เลิกทำเป็นไขสือได้แล้วน่า! ในสถานการณ์แบบนี้มันต้องเผยไพ่ในมือได้แล้ว!
ไวส์: เฮ้ย หยุดเลย ไอ้กิ้งก่าเวร!
อิโดร่า: ชวาร์ซ ถึงหมอนั่นจะขอไม่ค่อยดี แต่ฉันก็เข้าใจความรู้สึกของเฮียอินนะ ถึงเวลาเปิดเผยความจริงแล้ว
สุบารุ: ก็บอกแล้วไง พูดถึงเรื่องอะไรกันไม่เข้าใจ…
อิโดร่า: ――ก็เรื่องพ่อของนายไง
สุบารุ: …คุณพ่อของชั้น? …แต่เขาเป็นแค่มนุษย์เงินเดือนธรรมดาเองนะ
เฮียอิน: อย่ามาหลอกกัน! รู้หรอกน่า! นายน่ะเป็นบุตรนอกสมรสของจักรพรรดิใช่มั้ย!?
. สมองของสุบารุประมวณผลแทบไม่ทัน แต่ดูเหมือนสหายทั้งกลุ่มของเขาจะเชื่อข่าวลือบ้าบอที่ว่าสุบารุคือลูกชายของจักรพรรดิวินเซนต์ วอลลาเคีย
ซึ่งก็ไม่แปลกนัก เพราะในมุมมองของพวกเขา สุบารุมีความสามารถการตัดสินใจ ความสามารถสั่งการและความสามารถในการเอาตัวรอดแบบเหนือวัย
สุบารุ: ทันซ่า เธอช่วยบอกทีว่าเข้าใจผิดกัน…
ทันซ่า: ――ท่านชวาร์ซ ฉันเห็นมากับตาเองเลยค่ะ ว่าท่านชวาร์ซน่ะอยู่กับองค์จักรพรรดิ
สุบารุเถียงไม่ออกเพราะทันซ่าเห็นเขาที่ตัวหดอยู่กับวินเซนต์ที่ห้องพักในเคออสเฟลมจริงๆ แถมโอลบาร์ตไม่น่าจะเผยเรื่องวิชาหดร่างให้ทันซ่ารู้ด้วย
สุบารุ: ทันซ่า นี่คิดว่าชั้นเป็นลูกใคร…?
ทันซ่า: ก็ลูกของผู้หญิงผมดำกับองค์จักรพรรดิไงคะ
ประโยคนั้นของทันซ่าทำให้สุบารุยอมแพ้ที่จะเถียงโดยสมบูรณ์ ทุกคนสูดกาวมโนกันไปเรื่อยจนเขาแก้ไขข่าวลือไม่ได้แล้ว
รู้ตัวอีกทีสุบารุ(เวอร์ชั่นนัตสึมิ)ก็กลายเป็น “แม่” ของตัวเองและกลายเมียน้อยลับของวินเซนต์ไปเสียอย่างงั้น
. ข่าวลือดังกล่าวมีเนื้อความอยู่ว่าบุตรชายนอกสมรสของวินเซนต์เป็นผู้นำกองกบฏที่กำลังต่อต้านการครองบัลลังก์ของพ่อตัวเองอยู่
สุบารุ: ไอ้เวรนั่น!
สุบารุประติดประต่อได้ทันทีว่าอาเบล(วินเซนต์ตัวจริง)ตั้งใจปล่อยข่าวลือนี้ออกไปเอง เพื่อที่จะได้ตามหาตัวสุบารุที่ถูกวาร์ปหายจากเคออสเฟลมได้ง่ายขึ้น
แต่ในเมื่อข่าวลือนี้ทำให้ทุกคนมีความคาดหวังในตัวเขาสูงลิบลิ่ว สุบารุก็จะขอใช้ประโยชน์จากมัน
. ตัดไปที่มุมมองของท็อดด์ แฟงก์
ถึงแม้ว่าอาราเคียจะเป็นหมากที่สั่งงานง่ายและทรงพลังขนาดที่สามารถเผาทั้งเกาะทิ้งได้ แต่ขืนปล่อยให้เธอทำแบบนั้นมันก็จะสร้างปัญหาให้แก่ท็อดด์ด้วย
ท็อดด์: ที่จริงแล้วชั้นไม่ได้อยากจะมาที่นี่เลยแท้ๆ
คำลวงที่ว่าอยากจะแก้แค้นให้การตายของจามาลดันทำให้ท็อดด์ถูกเลื่อนยศขึ้นมาเป็นลูกน้องของแม่ทัพชั้นเอกอาราเคียและถูกส่งมาทำภารกิจนี้
อัครมหาเสนาบดี เบลสเต็ตซ์ ฟอนดาลฟอน สั่งให้อาราเคียกับท็อดด์มากำจัด “ความไม่สงบภายใน” ของเกาะกินุนไฮฟ์ ซึ่งอุปราชกุสตาฟมีอุปกรณ์ที่ทำเรื่องนั้นได้อยู่
ท็อดด์เป็นพวกขี้ระแวง เขาจึงเตรียมการไว้เสมอ เผื่อแผนไว้รับมือกระทั่งสถานการณ์ไม่คาดฝันจากภารกิจที่ควรจะเรียบง่าย
แต่แล้วเขาก็ยังเจอเรื่องผิดคาดเพราะมีเด็กล่องหนโผล่มาจากจุดบอดสายตาและขโมยอุปกรณ์ไสยเวทไปได้อีก
. ท็อดด์เดินสำรวจพื้นที่ร่วมกับผู้คุมอีกสองคน เขารู้ดีว่าผู้คุมของที่นี่คือทหารจักรวรรดิที่มีประวัติเสีย เคยทำผิดกฎหรือไม่ยอมทำตามคำสั่ง
พวกที่ว่าจึงถูกส่งมาประจำการที่กินุนไฮฟ์และมี “กฎคำสาป” ผูกชีวิตไว้เพื่อเป็นการสั่งสอนให้ยอมทำตามกฎระเบียบ
ท็อดด์ได้ยินข่าวลือทั้งเรื่องความวุ่นวายที่เมืองกัวราลและเมืองเคออสเฟลม แต่เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น สิ่งสำคัญที่ท็อดด์ต้องการมีแค่การใช้ชีวิตอย่างสงบกับหญิงสาวที่รัก
แต่ถ้าหากการกบฏลุกลาม เพราะการนำของ “อัจฉริยะการสงคราม” ท็อดด์คงจะต้องพาคาชัวคู่หมั้นของเขาหนีออกไปให้พ้นทาง
. สุบารุ: ――ท็อดด์ แฟงก์!!
ท็อดด์: คิดอะไรอยู่กันนะ? นายเนี่ย
ตอนนั้นเองเด็กชายผมดำก็ปรากฏตัวที่สุดโถงทางเดินในสภาพตัวเปรอะเปื้อนโคลนและเลือด แต่ยังครบ 32 ดี นั่นแปลว่าเขาหลบเลี่ยงอาราเคียกับผู้คุมมาได้ตลอด
ท็อดด์: นายน่ะเหมือนมีอะไรบางอย่างที่เกินกว่าคำว่า “โชคดี” อยู่ แต่ไหงถึงโผล่หน้ามาล่ะเนี่ย ไม่เข้าใจเลย
สุบารุ: …
ท็อดด์: จะว่าไร้เทียมทานเพราะมีเพื่อนที่พึ่งพาได้ก็ไม่ใช่
ข้างตัวสุบารุ มีผู้ติดตามอยู่สี่คน เป็นมนุษย์สองคน(ไวส์ & อิโดร่า) มนุษย์กิ้งก่าหนึ่งคน(เฮียอิน) และสาวมนุษย์กวางในชุดกิโมโนอีกคน(ทันซ่า)
จากการประเมินด้วยสายตาของท็อดด์ ทั้งสี่เป็นแค่มือสมัครเล่นด้านการต่อสู้ แต่เขาก็ระแวงไวส์กับทันซ่าไว้ก่อนเพราะทั้งคู่มีท่าทีเหมือนมีความมั่นใจสูง
ท็อดด์: ประเมินสายตาของนายนี่มันยากจริงๆ บอกยากว่ามั่นใจหรือไม่มั่นใจกันแน่
สุบารุ: ท็อดด์ ยอมแพ้ซะ บอกให้ผู้หญิงคนนั้น… บอกให้อาราเคียหยุดด้วย
. ผู้คุมสองคนข้างตัวท็อดด์มีสัตว์อสูรเป็นนกอินทรีสีดำและกบที่หน้าตาเหมือนก้อนศิลาติดตามมาด้วย นกอินทรีบินอยู่บนฟ้า ส่วนกบก็ไต่กำแพงอยู่
ท็อดด์คงอุ่นใจกว่านี้ถ้าหากอาราเคียอยู่ด้วยกัน แต่เธอดันหายหัวไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ท่ามกลางความวุ่นวายนี้ อาราเคียไม่น่าใช่พวกคลั่งไคล้การฆ่าจนเพลินเสียด้วย
สุบารุหยิบอุปกรณ์ไสยเวทลูกแก้วสีดำออกมาเพื่อขอเจรจาต่อรอง ผู้คุมสองคนแตกตื่นทันทีเนื่องจากสุบารุสามารถเปิดใช้งานกฎคำสาปเพื่อฆ่าพวกเขาได้
ท็อดด์ปลอบใจผู้คุมว่าสุบารุแค่บลัฟ ทันซ่าจึงเอ่ยแทรกต่อด้วยการกล่าวถึงข่าวลือกองกบฏที่กำลังสั่นคลอนทั้งจักรวรรดิ
ทันซ่า: ท่านผู้นี้คือศูนย์กลางของสถานการณ์ที่สั่นคลอนจักรวรรดิ เขาคือผู้มีสิทธิ์ครองบัลลังก์โดยชอบธรรมที่จะมาแก้ไขสิ่งเรื่องผิดพลาดของจักรวรรดิ
ผู้คุม: อย่าบอกนะว่า…
ทันซ่า: ――บุตรชายของฝ่าบาทวินเซนต์ วอลลาเคีย ท่าน “นัตสึกิ ชวาร์ซ” ค่ะ
ผู้คุม: อึก
ท็อดด์กังขาความน่าเชื่อถือของข้อมูลนั้น แต่เขาก็ไม่พลาดที่จะสังเกตเห็นปฎิกิริยาตอบรับของผู้คุมสองคน
อีกฝ่ายอ้างตัวว่าเป็นลูกชายของจักรพรรดิ แถมยังมีอุปกรณ์ไสยเวทที่กุมชะตาชีวิตของคนแทบทั้งเกาะได้อยู่ในมือ
นั่นทำให้ความน่าเชื่อถือของฝั่งสุบารุสูงกว่าท็อดด์ที่เป็นแค่ลูกน้องของอาราเคียและผู้ส่งสารจากนครหลวง
ทันซ่า: เอาล่ะ ท่านผู้คุมทั้งหลาย รีบเข้าสิ――
ทันซ่าพยายามจะกล่อมให้สองผู้คุมทำอะไรบางอย่าง แต่ท็อดด์ก็ไม่คิดจะปล่อยผ่าน เขาชักขวานศึกออกมาก่อนที่เด็กสาวที่เอ่ยคำร้องขอจบ แล้วตวัดเป็นแนวยาว
“โผละ”
ขวานศึกของท็อดด์จามคอของผู้คุมทางขวาจนขาดและตอกกะโหลกของผู้คุมฝั่งซ้ายไปชนกำแพงจนหัวแบะ ทั้งสองคนเสียชีวิตโดยทันที
ท็อดด์: ――ไปเลย!!
สุบารุ: ――!?
ท็อดด์เตะศีรษะของผู้คุมที่ตกอยู่ปลิวไปทางพวกสุบารุ แล้วในพริบตาต่อมา สัตว์อสูรอินทรีดำตัวใหญ่ก็โฉบเข้าไปในโถงทางเดินเพื่อเขมือบศีรษะของผู้คุม
สุบารุที่อยู่ในบริเวณนั้นโดนลูกหลงเข้าไปด้วยเต็มๆ
จบตอน