เซซิลุสที่กิโมโนถูกเผาจนยับเยินและใบหน้าซีกซ้ายไหม้เกรียมยังคงแสดงท่าทีรื่นเริงไม่เปลี่ยนเหมือนคนเพี้ยน
มันทำให้สุบารุคิดว่าคนที่จิตใจปกติดีบนเกาะนี้ตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงพวกจิตผิดเพี้ยนอย่างเซซิลุส ท็อดด์ อาราเคียและสุบารุที่ยังมีชีวิตรอดอยู่
เซซิลุสดูออกว่าสุบารุยังทำใจกับการตายของเฮียอินไม่ได้ เลยปลอบใจว่าเฮียอินมีสีหน้าตอนตายที่ดีแล้ว เป็นการตายแบบพึงพอใจไม่มีอะไรติดค้าง
เซซิลุส: เอาล่ะ ถึงจะพึ่งได้เจอกันก็เถอะครับ แต่ที่จริงแล้วผมกำลังยุ่งอยู่นะ กำลังดวลเดือดอยู่กับผู้หญิงล่อนจ้อนที่อาละวาดไปทั่วเกาะอยู่น่ะครับ
เซซิลุสพร่ำเพ้อว่าเขาพึ่งเคยเจอคนที่แข็งแกร่งทัดเทียมกันเป็นครั้งแรก ทั้งที่ผู้ที่ก้าวเดินบนเส้นทางแห่งดาบสวรรค์ควรจะมีแค่เขาคนเดียวแท้
. เซซิลุสสาธยายว่าที่เขายิ้มรื่นเริงอยู่เสมอไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายแค่ไหน เป็นเพราะ “ผู้ชม” จากเบื้องบนจับตาดูเขาอยู่เสมอ ถึงต้องไม่แสดงด้านที่น่าอับอายออกมา
เซซิลุส: โอ๊ะโอ ดูเหมือนว่าเวลาพักจะหมดแล้วสินะครับ
อาราเคีย: เซซิลุส…
ตอนนั้นเองอาราเคียที่ทั้งร่างลุกเป็นไฟก็ลอยตัวมาลงจอด คทาสามง่ามของเธอหักไปกิ่งหนึ่ง แถมผ้าปิดตาก็หายไป
เปลวเพลิงของอาราเคียเริ่มทำการเผาไหม้ทุกสิ่ง ทั้งกำแพงและพื้นของโถงทางเดิน รวมถึงศพของเฮียอิน เซซิลุสจึงบอกสุบารุว่าอยากอยู่ต่อหรือหนีไปก็เรื่องของเขา
สุบารุไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงไม่ปล่อยให้ตัวเองไหม้ตายหรือกลืนยาพิษไปเสีย สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะวิ่งหนีแบบโซเซ ยื้อชีวิตของตัวเองในลูปนี้ต่อไป
. หลังสุบารุจากไป เซซิลุสก็รำพึงว่าทำไมเขาถึงได้โดนอาราเคียเกลียดขนาดนี้ เพราะในมุมมองของเขา ทั้งคู่ไม่รู้จักกันมาก่อน แต่ฝ่ายอาราเคียยิ่งโกรธที่เซซิลุสจำเธอไม่ได้
เซซิลุสนึกสงสัยว่าอาราเคียจะใช่คู่ปรับที่เป็นบันไดไปสู่วิถีแห่ง “ดาบสวรรค์” ที่เขาใฝ่ฝันหรือเปล่า?
อาราเคีย: เป็นแบบนี้ตลอด… ไม่เคย…มีใคร…บอกอะไรกันเลย!
ความเดือดดาลของเธอเร่งความร้อนให้สูงขึ้นไปอีกจนเปลวเพลิงสีแดงบนหลังอาราเคียแปรเปลี่ยนไปเป็นเปลวเพลิงสีฟ้า
อาราเคีย: ทั้งองค์หญิง ทั้งฝ่าบาท… ต่างก็ปิดบังฉันกันหมด… เป็นแบบนี้ตลอด
เซซิลุส: รู้สึกไม่ดีเพราะถูกทอดทิ้งเหรอ?
เซซิลุสอ่านใจคนถูกเป็นครั้งที่สองของวัน นั่นทำให้อาราเคียยิ่งไม่พอใจ แต่เซซิลุสก็รำพึงในใจว่าปล่อยไว้นานกว่านี้ผู้ชมจะเบื่อเอา
ว่าแล้วเซซิลุสจึงหยิบผ้าปิดตาที่เขาฉกมาจากอาราเคียระหว่างที่สู้กันก่อนหน้านี้มาสวมปิดใบหน้าฝั่งที่ไหม้เกรียมของตัวเอง
เซซิลุส: ให้ตายสิ ――เธอนี่ทอดไข่ดาวสุกฝั่งเดียวตลอดเลยนะ
อาราเคีย: ――อึก
เซซิลุส: เอ๊ะ? นี่เราเผลอพูดอะไรออกมาเนี่ย?
สมองของเซซิลุสดึงความทรงจำส่วนลึกมาพูดแบบอัตโนมัติทั้งที่เจ้าตัวไม่เข้าใจ แต่ประโยคนั้นยิ่งทำให้อาราเคียพิโรธเข้าไปใหญ่
อัคคีสีฟ้าปะทุขึ้นทั่วบริเวณชั้นใต้เกาะ จากนั้นเซซิลุสก็กลายเป็น “อัสนีสีฟ้า” ที่พุ่งเข้าปะทะกับเปลวเพลิงของอาราเคีย
. สุบารุวิ่งหนีความร้อนที่ไล่ตามหลังขึ้นไปที่ชั้นบนของเกาะ เขาหนีแบบไม่มีแผนในหัว หนีไปเรื่อยๆ แบบไร้เป้าหมาย
พวกไวส์อุตส่าห์เสียสละชีวิตที่เอากลับคืนมาไม่ได้เพื่อปกป้องสุบารุ แต่เขากลับทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง
สุบารุหยิ่งผยองเกินไปหลังผ่านสปาร์ก้าได้สองรอบ พอจุดเซฟเลื่อนแบบนี้ตัวเขาก็ทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าสุบารุเก่งจริงเขาควรจะเคลียร์อุปสรรคได้โดยที่ไม่ตายสักรอบ
เหมือนอย่างที่ “ท็อดด์ แฟงก์” สามารถทำได้
ท็อดด์ไม่ได้พลังที่สามารถย้อนไปแก้ไขเหตุการณ์และไม่ได้มีความสามารถในการต่อสู้โดดเด่นอะไร สุบารุจึงได้แต่สงสัยว่าเหตุใดกันเขาถึงทำแบบท็อดด์ไม่ได้?
สุบารุ: บ้าเอ๊ย…
ร่างกายก็อ่อนแอ จิตใจก็เปราะบาง อำนาจก็ไร้ประโยชน์ ตัวเขาในตอนนี้เป็นแค่เด็กเปรตที่สายตาไม่เป็นมิตร
. สุบารุหนีมาจนเจอกับทันซ่าในสภาพสะบักสะบอม ตัวเปียกโชกจนต้องถอดกิโมโนออกเหลือแต่จูบัง(ชั้นใน)สีขาว เขากวางบนหัวเธอก็หักไปหนึ่งข้าง
ทันซ่า: ท่านชวาร์ซ… โล่งอกไปทีที่ยังปลอดภัย…
ทันซ่าถูกท็อดด์เขวี้ยงตกทะเลสาบที่เต็มไปด้วยสัตว์อสูรวารี เธอจึงรอดมาได้ด้วยสภาพร่อแร่ ขาเดินกะเผลก เลือดซึมออกมาจากจูบังสีขาว
กระนั้นทันซ่าก็ยังมีใจมาเป็นห่วงสุบารุอีก นั่นทำให้สุบารุเข่าทรุดลงเพราะสมเพชตัวเอง
นัตสึกิ สุบารุจะตกอยู่ในความสิ้นหวังที่สุดก็ในยามที่ตัวเขาไม่อาจตอบรับต่อ “ความคาดหวัง” ที่ผู้คนรอบกายมอบให้แก่ตนเอง
. สุบารุที่กำลังสิ้นหวังไม่ยอมหาที่ซ่อนตามที่ทันซ่าแนะนำ ทันซ่าจึงตะคอกใส่ว่าสุบารุจะทำให้การเสียสละของทั้งสามคนสูญเปล่า แต่นั่นยิ่งทำให้สุบารุดาวน์กว่าเดิม
ทันซ่า: ท่านชวาร์ซ! จะมาล้มอยู่ที่นี่ไม่ได้นะ――
สุบารุ: …ทุกอย่าง เป็นเรื่องโกหก ทันซ่า
ทันซ่า: …
สุบารุ: บุตรนอกสมรสของจักรพรรดิอะไรกัน โกหกทั้งเพ ชั้นน่ะเป็นลูกชายของคุณพ่อที่สุดยอดมากๆ ก็จริงอยู่… แต่ไม่ใช่…ลูกชายของจักรพรรดิ…หรอกนะ
สุบารุสารภาพบาป ในตอนนี้เขายอมรับได้ด้วยซ้ำถ้าหากทันซ่าจะโมโหจนฆ่าเขาทิ้ง
กระนั้นทันซ่ากลับไม่ว่าอะไรแถมจะให้เขาขี่หลังหนี แต่ฝ่ายสุบารุยังรับไม่ได้เพราะคำโกหกของเขาทำให้สามคนนั้นต้องตาย
ทันซ่า: ――ท่านชวาร์ซ คิดแบบนั้นจริงๆ เหรอคะ? คิดว่าท่านไวส์ ท่านอิโดร่า ท่านเฮียอินยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องท่านชวาร์ซเพราะเชื่อคำลวงเหรอคะ? คิดว่าคนขี้ขลาด คนขวางโลกและคนปลิ้นปล้อน แบบสามคนนั้นจะเสี่ยงชีวิตเพราะความจงรักภักดีหรือความรักประเทศชาติเหรอคะ?
เฮียอินจอมตาขาวที่หนีก่อนใคร ไวส์จอมเจ้าเล่ห์ที่พร้อมตลบหลังเพื่อเอาตัวรอด อิโดร่าจอมปลิ้นปล้อนที่หลอกทุกคนว่าตัวเองเก่งเหนือใคร
ทั้งสามช่วยสุบารุไว้เพราะคิดว่าเขาเป็นองค์ชายแห่งจักรวรรดิงั้นเหรอ? ถ้าไม่ใช่ จะมีเหตุผลอื่นใดอีก?
สุบารุ: ทำไมกัน…
ทันซ่า: เพราะว่าท่านชวาร์ซเป็นคนที่ยืนอยู่เคียงข้างพวกเขาทั้งสามอย่างแท้จริงไงล่ะคะ
สุบารุ: …
ทันซ่า: พูดคุย ตอบกลับและพยายามทำความเข้าใจอย่างจริงจัง… เพราะอย่างงี้ ท่านชวาร์ซถึงได้สนิทกับทุกคนไงคะ
ทันซ่าเข้าใจความรู้สึกของทั้งสามคนเป็นอย่างดี เพราะเธอเองก็รู้สึกเคารพท่านยอร์น่าแบบเดียวกับที่ไวส์ เฮียอินและอิโดร่าเคารพสุบารุ
. บางทีทันซ่าอาจจะพูดถูก สุบารุได้ช่วย “หัวใจ” ของพวกเขาทั้งสามไว้จริงๆ แต่แค่หัวใจมันยังไม่พอ เขาอยากช่วยชีวิตของเหล่าพวกพ้องที่ทำตัวดีต่อเขาขนาดนี้
ถ้าทำไม่ได้ เขาก็ไม่เหมาะสมกับที่เป็นลูกชายของนัตสึกิ เคนอิจิ ――ไม่สิ
สุบารุ: ชั้นน่ะ ไม่เอาด้วยหรอก เรื่องแบบนั้น…
รู้ตัวอีกทีเปลวเพลิงก็แพร่ขยายไปทั่วเกาะทาสดาบกินุนไฮฟ์ ควันดำลอยโขมงไปทั่ว
สุบารุ: ――ชั้นน่ะ ไม่อยากจะแพ้ ให้กับนาย
ท็อดด์: แพ้ชนะอะไรกัน ไม่เห็นจะสำคัญตรงไหน
ตอนนั้นเองที่ชายถือขวานเดินฝ่าควันดำเข้ามาแล้วตอบกลับสุบารุ
. ท็อดด์ แฟงก์ที่ถือขวานเปื้อนเลือดเดินเข้ามาอยู่ในสภาพที่ต่างจากครั้งล่าสุดเล็กน้อย ผ้าโพกหัวของเขาหายไปเลยต้องปล่อยผมลง พอเดาได้ว่าเป็นฝีมืออิโดร่า
สุบารุ: ท็อดด์…
ท็อดด์: นายนี่มีโชคของปีศาจหรือไงกันนะ ทางเดินลุกเป็นไฟเลยตามมาถึงช้า ถึงได้บอกให้อาราเคียใช้วารีไง …ดูเหมือนว่าอาราเคียจะงานล้นมืออยู่ ดันไร้ประโยชน์ในเวลาสำคัญซะได้
พอเห็นว่าท็อดด์พยายามจะเดินไปหาสุบารุ ทันซ่าก็หยิบก้อนหินขึ้นมาขู่ไม่ให้เขาเข้าใกล้มากไปกว่านั้น ซึ่งท็อดด์ประเมินสถานการณ์แล้วเลือกที่จะไม่เสี่ยง
ทันซ่า: คุณน่ะ… คุณต้องการอะไรกันแน่คะ?
ท็อดด์: ก็แค่อยากกลับบ้านเท่านั้นเองนี่?
คำตอบแบบรวบรัดของท็อดด์ทำเอาทันซ่าไปต่อไม่เป็น เขาตอบอย่างจริงจัง ไม่มีทีท่าว่าพูดเล่นหรือแกล้งอำเลยด้วย
. สุบารุเตือนทันซ่าไม่ให้เสวนากับท็อดด์มากกว่านั้น เพราะเขาจะเป็นคนคุยต่อเอง
ถึงแม้อีกฝ่ายจะเป็นแค่เด็กที่บาดเจ็บ ถึงแม้ว่าสุบารุจะกล่าวยั่วยุ ท็อดด์ก็ยังไม่บุ่มบ่ามรีบโจมตีเข้ามา เขาเป็นศัตรูที่ขี้ระแวงและรอบคอบขั้นสุดจริงๆ
ท็อดด์แลดูจะไม่ได้สนความเป็นตายร้ายดีของอาราเคีย ไม่ใช่เพราะเขาเชื่อมันในความแกร่งของเธอ แต่เพราะว่าท็อดด์ก็ไม่เคยเชื่อใจใครทั้งนั้น
สุบารุถึงได้ไม่อยากแพ้ให้กับท็อดด์ เพราะความพ่ายแพ้ของเขาคือความพ่ายแพ้ของพวกพ้องทุกคนที่เสียสละชีวิตช่วยเขาไว้
สุบารุคุกเข่าลงแล้วเอามือกุมหน้าอก ท็อดด์เลิกคิ้วเหมือนระแวงแต่ก็ยังแค่ดูท่าที ตราบใดที่สุบารุไม่ขยับ ท็อดด์ก็มองว่าไม่เป็นไร
สุบารุ: ท็อดด์
หารู้ไม่ว่าสุบารุไม่ได้ต้องการจะขยับ เขาแค่ต้องเอ่ยคำคำเดียวขึ้นมาเพียงเท่านั้น
สุบารุ: ――ชั้น “ตายแล้วกลับมา” ได้
ท็อดด์: ว่าไงนะ?
สุบารุเอามือกุมหน้าอกรอ แต่กลับไม่มีเงาดำโผล่มาหยุดเวลาของโลกและไม่มีมือโผล่มาบีบหัวใจเขา ทั้งท็อดด์และทันซ่าต่างพากันแสดงสีหน้าสับสนทั้งคู่
นั่นทำให้สุบารุเข้าใจเสียทีว่าทำไม “ตายแล้วกลับมา” ถึงทำงานผิดปกติ เป็นเพราะว่า “แม่มด” หาตัวสุบารุไม่เจอนั่นเอง
. ทั้งที่ยอดปราสาทรูริแดง ช่วงสปาร์ก้า การสังหารหมู่ของท็อดด์ ความผิดปกติของลูปเหล่านั้นไม่ได้เป็นเพราะนัตสึกิ สุบารุลืมวิธีการใช้อำนาจของเขา
ไม่รู้ว่าสาเหตุเป็นเพราะเขาถูกวาร์ปมาที่จักรวรรดิหรือเป็นเพราะวิชาหดร่าง แต่เขาควรจะรู้ตัวเร็วกว่านี้
ตอนที่เข้าร่วมสปาร์ก้า สัตว์อสูรก็ไม่ได้วิ่งเข้ามาโจมตีเขาทันทีอย่างน่าประหลาด นั่นเป็นเพราะว่าสุบารุในตอนนี้ไม่มี “กลิ่นสาบแม่มด” นั่นเอง
สุบารุ: ชั้นน่ะ “ตายแล้วกลับมา” ได้!
ท็อดด์: …นี่นาย
สุบารุ: ชั้นน่ะ “ตายแล้วกลับมา” ได้! “ตายแล้วกลับมา” น่ะ! เข้าใจไหม “ตายแล้วกลับมา” น่ะ!
สุบารุตะโกนบอกข้อมูลที่เขาไม่ควรให้ท็อดด์ล่วงรู้ แถมไม่คิดจะเตือนทันซ่าให้เธอปิดหูกันตาย
สาเหตุก็เนื่องจากว่าเขาพอเดาได้อยู่แล้วว่ามันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นและเพราะว่าสุบารุไม่ได้ต้องการตะโกนบอกสองคนนี้
สุบารุ: ชั้นน่ะ “ตายแล้วกลับมา” ได้!
สุบารุร้องตะโกนขึ้นฟ้า เขาไม่ได้ตะโกนหา “ผู้ชม” ที่เซซิลุสพูดถึงก่อนหน้านี้ ผู้ชมของเซซิลุสอาจจะเป็นแค่เรื่องมโนในหัว แต่สุบารุมีสิ่งที่เฝ้าสังเกตดูเขาอยู่ตลอดจริงๆ
แต่สิ่งนั้นกลับหายไปจนทำให้เกิดลูปที่ไร้ซึ่ง “ความรัก” เหล่านั้น
“ชั้นอยู่นี่ มาหาชั้นที”
“อาจจะฟังดูบ้าบอ แต่ชั้นอยากที่จะช่วยทุกคนให้ได้”
“อำนาจของชั้น…อำนาจของนัตสึกิ สุบารุคนเดียวมันไม่พอ เพราะงั้น――”
สุบารุ: ――ตามหาชั้นให้เจอ ซาเทลล่า
[ซาเทลล่า: รักนะ]
ณ วินาทีที่เขาเอ่ยชื่อเธอ สีสันของโลกก็พลันหายไป เวลาถูกหยุดลง ร่างกายไม่ตอบสนอง แล้วแม่มดในชุดเดรสสีดำที่ถักทอจากเงาก็มาปรากฎตัวต่อหน้า
[ซาเทลล่า: รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ]
มือเงาของแม่มดลูบไล้ไปตามร่างกายของสุบารุโดยเริ่มจากที่แก้มแล้วค่อยๆ ไล่ต่ำลงไป ล้วงเข้าไปบีบกระทั่งหัวใจเขา
ทว่า สุบารุกลับไม่รู้สึกเกรงกลัวอย่างน่าประหลาด เหมือนว่าเขาเฝ้ารอให้สิ่งนี้เกิดขึ้น
[ซาเทลล่า: รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ รักนะ]