เวลาของโลกกลับมาเดินต่อ สุบารุกุมหน้าอกที่เจ็บปวดแน่น ทั้งท็อดด์และทันซ่าไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็มีความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนตามมาต่อทันที
ท็อดด์: อะไรกัน!?
เสียงคำรามของสัตว์อสูรบนเกาะที่ยังรอดชีวิตอยู่ดังขึ้นพร้อมกัน ราวกับว่ามันพวกมันคลุ้มคลั่งเสียสติ
สัญชาตญาณยามวิกฤติของท็อดด์บอกได้ทันทีว่าต้นเหตุมาจากสุบารุ เขายังคงไม่เข้าใจว่า “ตายแล้วกลับมา” หมายถึงอะไร แต่เขาเลือกที่จะกำจัดภัยคุกคามก่อนทันที
ทันซ่าเขวี้ยงหินในมือใส่ท็อดด์ด้วยความเร็วสูงโดยเล็งใส่กลางลำตัวไม่ให้พลาดเป้าเคลื่อนที่
ท็อดด์: บ้าเอ๊ย!
ท็อดด์กัดฟันแน่นแล้วยกแขนซ้ายขึ้นมาเสียสละเพื่อป้องกันหิน เขาตวัดขวานใส่ทันซ่าต่อทันที แต่สุบารุก็ผลักทันซ่าออกไปด้านหลังแล้วเข้ามาขวางวิถีขวานแทน
ทันซ่า: ท่านชวาร์ซ!?
ท็อดด์: อึก!?
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงปะทะดังขึ้นพร้อมกับร่างของท็อดด์กระเด็นไปไกล ท็อดด์กลิ้งตัวแล้วลุกขึ้นมาต่อทันที แต่เข่าของเขายังลุกไม่ไหวและมีเลือดไหลออกมาจากมุมปาก
ท็อดด์: อ่อก… เมื่อกี้นี้มัน…
สุบารุ: ――อินวิซิเบิล โพรวิเดนซ์
กำปั้นล่องหนของสุบารุต่อยเสยคางท็อดด์เข้าเต็มๆ จนกรามหัก เขาตาเหลือกสติเลือนลางไปเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่สิ้นท่าแค่นั้น
สุบารุ: รอบหน้าจะสอยหัวให้ขาดเลย
สุบารุเอ่ยท้าทายพร้อมชูนิ้วกลางใส่ ฝ่ายท็อดด์จึงถ่มเลือดออกมาเหมือนจะเตรียมเอาคืน
. ทว่า ท็อดด์กลับเดินหายเข้าไปในกลุ่มควันดำอย่างไม่ลังเล พอรู้ว่าสถานการณ์เสียเปรียบเขาก็เลือกถอยทันทีโดยไม่มีกลัวเสียหน้า
หลังท็อดด์หายไป สุบารุก็ล้มฟุบลง แค่ตอนที่เขากระโดดลงรูมาพร้อมเฮียอินกับอิโดร่าก็กระดูกหักไปทั่วจนบาดเจ็บปางตายอยู่แล้ว
แต่นี่ยังมาใช้อำนาจบาป “เกียจคร้าน” เพิ่มอีก สมองของสุบารุสั่นสะท้านจนเลือดกำเดาไหลไม่หยุด
มิหนำซ้ำตอนที่ท็อดด์ตวัดขวานครั้งสุดท้าย เขาจามโดนหัวไหล่ของสุบารุจนเละยับเยินด้วย
ทันซ่า: ท่านชวาร์ซ! ท่านชวาร์ซ!
สุบารุรู้สึกผิดต่อทันซ่าที่คอยอยู่ช่วยจนถึงที่สุดในลูปนี้ เธอเป็นคนที่ช่วยเตือนสติให้เขาเห็นสิ่งสำคัญด้วย ว่าแล้วสุบารุจึงหยิบลูกแก้วสีดำของกุสตาฟออกมาให้เธอ
สุบารุ: เซสซี่… อยู่ตรงนั้น… กับอาราเคีย…
ทันซ่า: ขะ…เข้าใจแล้วค่ะ! เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้วเพราะงั้น…
สุบารุ: ――รอบ…ต่อไป…
ทันซ่า: ค่ะ ใช่แล้วค่ะ ท่านชวาร์ซ รอบหน้าจะไม่แพ้ค่ะ
ทันซ่าเอ่ยทั้งน้ำตาโดยที่ไม่ได้เข้าใจความหมายของสุบารุ แต่เท่านี้ความรู้สึกที่อยากจะสื่อถึงกันมันก็เพียงพอแล้ว
สุบารุ: ชั้นน่ะ จะช่วยทุกคน――
“ให้ได้เลย”
ชีวิตของนัตสึกิ สุบารุดับสิ้นลงด้วยความมุ่งมั่นเช่นนั้นทิ้งท้าย
. สุบารุถูกดึงเข้ามาในสวนแห่งเงาและได้พบกับแม่มดในชุดเดรสเงาดำอีกครั้ง
[ซาเทลล่า: ――รักนะ]
สุบารุ: ――ก็ไม่เชิงว่าทั้งหมด แต่พอเข้าใจนะ
[ซาเทลล่า: ――รักนะ]
สุบารุ: ชั้นเองก็เข้าใจดีแล้วเหมือนกัน ――เข้าใจสิ
นัตสึกิ สุบารุรู้แล้วว่าสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คืออะไร
สุบารุ: ขอบใจนะ ――ไว้เจอกันใหม่
เพื่อที่สิ่งสำคัญของเขาจะไม่ถูกย่ำยีอีกต่อไป เพื่อที่จะไม่พ่ายแพ้อีกต่อไป นัตสึกิ สุบารุจะจุติใหม่
. ตัดไปที่มุมมองของท็อดด์ซึ่งกำลังนั่งอยู่บนรถลากที่ตู้โดยสารว่างเปล่าเพื่อเดินทางไปยังสถานที่ที่เขาไม่ได้อยากไป
อาราเคีย: ――เบื่อเหรอ?
ผู้โดยสารที่นั่งอยู่บนหลังคาทักลงมา เธอคนนี้เข้าใจผิดว่าท็อดด์อยากล้างแค้นให้เพื่อน เขาเลยโดนลากมาด้วย
ท็อดด์เลยกะจะหาหัวใครสักคนมาเป็นหลักฐานอ้างว่าเขาแก้แค้นให้จามาลสำเร็จแล้ว เธอจะได้เลิกยุ่งเสียที
อาราเคีย: เห็นเกาะแล้ว พร้อมไหม?
ท็อดด์: ตราบใดที่ไม่ได้ทำจดหมายของอัครมหาเสนาบดีหาย ที่ต้องทำก็มีแค่ขอให้ท่านอุปราชที่เลื่องลือทำตามคำสั่ง น่าจะเป็นงานง่ายๆ ที่ไม่ต้องมีปัญหากับใครมากล่ะนะ
ทว่า ท็อดด์กลับอดกระวนกระวายไม่ได้ ถ้าหากนี่เป็นแค่งานส่งจดหมาย เบลสเต็ตซ์คงไม่ส่งแม่ทัพอาราเคียมา
เขาไม่แน่ใจว่าอุปราช “กุสตาฟ มอเรโล” จะยอมใช้กฎคำสาปล้างบางพวกทาสดาบตามที่จดหมายของอัครมหาเสนาบดีสั่งมาไหม
. แม่ทัพเทวะผู้มีฉายาว่า “เจ้าแห่งอุปกรณ์ไสยเวท” ได้สร้างอุปกรณ์ไสยเวทชิ้นนี้ให้กุสตาฟใช้งาน ทุกคนที่ถูกกุสตาฟสลักคำสาปลงไปจะตายทันทีที่ฝ่าฝืนกฎ
หนึ่งในเงื่อนไขการทำงานของกฎคำสาปคือการที่ผู้ถูกลงคำสาปออกห่างจากอุปกรณ์ไสยเวทไกลเกินไป อย่างเช่นพวกที่คิดหลบหนีออกจากเกาะ
ดังนั้นวิธีการใช้กฎคำสาปแบบง่ายที่สุดก็คือการเขวี้ยงอุปกรณ์ไสยเวทลงทะเลสาบให้มันออกห่างจากพวกทาสดาบที่ถูกลงคำสาปจนตายกันหมด
ท็อดด์: คาชัว…
ท็อดด์อยากรีบทำงานให้เสร็จ จะได้รีบกลับบ้านไปหาคู่หมั้นที่รอเขาอยู่
ท็อดด์: ――ไม่ว่าจะต้องแลกมาด้วยอะไร
อาราเคีย: ――ท็อดด์ มีบางอย่างแปลกๆ
อาราเคียทักขึ้นมาระหว่างที่รถลากข้ามสะพานชักที่เชื่อมต่อกับเกาะมาได้ครึ่งทาง ท็อดด์สังหรณ์ใจไม่ดีเนื่องจากสัญชาตญาณของแม่ทัพเทวะน่าจะแม่นยำ
ท็อดด์: ――หยุดก่อน!
สารถี: เอ๋?
ท็อดด์: เดี๋ยวนี้เลย! หยุดรถ! วกกลับ!
พอเห็นว่าสารถีช้า ท็อดด์ก็รีบปีนขึ้นไปยังที่นั่งคนขับแล้วแย่งบังเหียนมาบังคับให้รถม้าลมกรดหยุดและทำการเลี้ยวกลับ
ท็อดด์: อาราเคีย จับตาดูเกาะไว้นะ! ถ้าเห็นการเคลื่อนไหว ยิงใส่ไม่ยั้งได้เลย!
อาราเคีย: ――เข้าใจล่ะ
ทีแรกสารถีอยากจะไปต่อ แต่พอโดนอาราเคียจ้องขู่เขาก็ยอมกลับตามแต่โดยดี ท็อดด์คิดในใจว่าถ้าหมอนี่ไม่ยอมกลับคงจับโยนลงทะเลสาบไปแล้ว
อาราเคีย: ท็อดด์
ท็อดด์: ดูเหมือนว่าความกังวลของอัครมหาเสนาบดีเบลสเต็ตซ์จะเป็นจริงนะ ――ไม่นึกเลยว่าเตรียมพร้อมรับมือกันขนาดนี้ อีกฝ่ายมีผู้นำที่อันตรายมากๆ อยู่
อาราเคีย: ชนะไม่ได้เหรอ? กระทั่งฉันเนี่ยนะ?
ท็อดด์: ใช่แล้วล่ะ นี่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่สามารถเอาชนะได้ อย่างน้อยก็ไม่ใช่วันนี้
. พอเห็นว่าอีกฝ่ายวกรถกลับ สุบารุก็ทั้งประหลาดใจและประทับใจในความเร็วการตัดสินใจของคู่ปรับ
สุบารุ ทันซ่า ผู้คุมและทาสดาบกลุ่มใหญ่ยืนรอรับคณะผู้ส่งสารกันพร้อมหน้าจนท็อดด์ระแวงถอยกลับไปเอง เขาลูบหัวทันซ่าไม่หยุดเพราะยินดีแผนการสำเร็จไปด้วยดี
เฮียอิน: ――จะลูบไปถึงเมื่อไหร่! ใช่เวลามาจู๋จี๋กันไหมไอ้เจ้าเด็กพวกนี้!?
ผู้กล่าวขัดขึ้นมาคือมนุษย์กิ้งก่า “เฮียอิน” และที่ข้างตัวเขาก็มี “ไวส์” และ “อิโดร่า” อยู่ด้วย
สุบารุอดไม่ได้ที่จะยิ้มอิ่มเอมใจยามได้เห็นพวกเขาทั้งสามคนอยู่ด้วยกันอีกครั้ง
ไวส์: ไล่ผู้ส่งสารของจักรวรรดิกลับไปแบบนี้… พวกเราคงถอยหลังกลับไม่ได้แล้ว ใช่ไหมนะ?
ถึงแม้ว่าทั้งสามคนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่สุบารุนั้นจดจำได้ดี แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
. กุสตาฟ: ――ดูเหมือนว่าคำตัดสินจะออกมาแล้ว
สุบารุ: ทีนี้เชื่อชั้นรึยังล่ะ?
กุสตาฟ: ไร้ข้อกังขา ถึงเวลาที่กระผมจะทำตามพระบัญชาขององค์จักรพรรดิแล้ว ――ทาสดาบทั้งมวลแห่งเกาะทาสดาบกินุนไฮฟ์จะเข้าร่วมศึกนี้ใต้อาณัติของท่าน องค์ชายชวาร์ซ
อุปราช “กุสตาฟ มอเรโล” และเหล่าผู้คุมแสดงความเคารพต่อสุบารุซึ่งยังไม่ชินชากับคำเรียกใหม่
ผู้คุมกับทาสดาบยังแอบไม่ลงรอยกันอยู่เล็กน้อย เนื่องจากฝ่ายทาสดาบไม่อยากทำตามที่ผู้คุมสั่ง สุบารุจึงต้องออกตัวห้ามมวย
เฮียอิน: พวกเราจะขอติดตามชวาร์ซโดยที่ไม่ต้องขู่กันอยู่แล้ว จริงไหมโว้ย พวกเอ็ง! ไม่ได้ป๊อดกันใช่เปล่า!?
ทาสดาบ 1: อย่ามาตลก ไอ้จิ้งเหลนเวรนี่!
ทาสดาบ 2: ใครป๊อดวะ ไม่มีโว้ย!
ทาสดาบ 3: โอ้ว! ไปกันเลย องค์ชายของพวกเรา!
ทาสดาบ 4: มากระทืบพ่อเฮงซวยของท่าน แล้วสร้างจักรวรรดิใหม่ของพวกเรากันดีกว่า!!
สุบารุ: ขอบใจนะ
ทั้งพวกโอลสัน ปู่นูล ทาสดาบทุกคนออกมารวมพลส่งเสียงเฮกันพร้อมหน้า
. สุบารุออกปากชวนเซซิลุสไปร่วมศึก แต่ฝ่ายเซซิลุสกำลังสับสน เขาทึ่งในความสำเร็จของสุบารุก็จริง แต่รอยยิ้มร่าเริงที่เห็นประจำกลับหายไปจากใบหน้าของเซซิลุส
ในตอนนี้เซซิลุสไม่แน่ใจว่าสุบารุทำให้ตัวเขาหลงใหลได้สำเร็จหรือเปล่า คงลังเลเพราะเป็นความรู้สึกที่แปลกใหม่
ฝ่ายสุบารุก็รู้ตัวดีว่าเขายังทำให้เซซิลุสหลงใหลเหมือนอย่างสหายทาสดาบคนอื่นไม่สำเร็จ แต่ที่แน่ๆ…
สุบารุ: อยากเห็นใบหน้าแบบนั้นของเซสซี่อีกล่ะ …ลามปามไปรึเปล่า ยังอยากมาด้วยกันไหม?
เซซิลุส: ฮะ ฮ่าฮ่าฮ่า! วะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!! เอาจริงดิ! จะให้ตัวผมคนนี้! จะให้ “อัสนีสีฟ้า” เซซิลุส เซ็กมุนต์ผู้นี้! จะให้ดารานำแสดงเด่นของโลกไปอยู่ภายใต้นายเหรอ! ขอให้ไปด้วยกันเนี่ยนะ! อุกอาจเหลือเกินนะ บัสซู!
สุบารุ: สรุป…ตกลงไหม?
เซซิลุส: ไปด้วยแน่นอนอยู่แล้วสิ! ถูกบังคับแท้ๆ แต่ดันไม่รู้สึกรำคาญเลย อา สุดยอดจริงๆ!
ในเมื่อเกณฑ์เซซิลุสเข้าร่วมได้สำเร็จ สุบารุก็อยากคิดวิธีเรียกชื่อใหม่ให้เซซิลุสเรียกเขาแทน “บัสซู” โดยขอเปลี่ยนเป็น…
สุบารุ: ――บอส
เซซิลุส: …
สุบารุ: จากนี้ไปเรียกชั้นว่า “บอส”
เซซิลุส: บอส บอสบอสบอส… ฟังดูดีไปเลย! ไม่รู้หรอกแปลว่าอะไร แต่ไม่เกลียดหรอกนะ ชอบด้วยซ้ำ
ในเมื่อเซซิลุสเป็นพวกเบียวว่าตัวเองเป็นพระเอกละคร ชื่อเล่นนี้แหละเหมาะสมดี
สุบารุ: แปลว่า “หัวหน้าใหญ่” น่ะ เหมาะดีใช่ไหม?
เซซิลุส: เหมาะเหม็งเลยครับ บอส! ถ้างั้นมาเริ่มกันเลยดีไหมครับ!
สุบารุ: ――ลุยกันเลยทุกคน! ไปตะบันหน้าพ่อเฮงซวยของชั้นที่นครหลวงจักรวรรดิกันดีกว่า!!
ทุกคน: โอ้วววว!!
ท่ามกลางเสียงเชียร์ของกองทัพใหม่ใต้อาณัติ สุบารุหันกลับไปหาทันซ่า คนเดียวในที่นี้ที่รู้ว่าเขาไม่ใช่ลูกชายจักรพรรดิ
สุบารุ: ไม่ต้องห่วงนะ ทันซ่า ――ครั้งนี้พวกเราจะชนะ
นับตั้งแต่ที่ถูกอัญเชิญมาต่างโลก คราวนี้นัตสึกิ สุบารุจะขอเป็นฝ่ายย่ำยีจักรวรรดิวอลลาเคียบ้างในฐานะตัวตนสุดแกร่ง
จบตอน