webnovel arc7 chapter78

บทที่ 7 ตอนที่ 78 "การพบเจออีกครั้งสุดตึงเครียด"

เอมิเลีย: อีกเดี๋ยวจะได้เจอสุบารุแล้วนะ เบียทริซ!

หลังได้ยินข่าวว่ามีขบวนรถลากเดินทางมาถึงกัวลาลจากเคออสเฟลม เอมิเลียก็อุ้มเบียทริซตรงดิ่งไปยังศาลากลางด้วยความตื่นเต้น

ตอนนี้เอมิเลียรู้สึกร้อนรนเสียยิ่งกว่าตอนที่พัคฉีกสัญญาทิ้งเสียอีก ด้วยความเร่งรีบ เธอจึงเสกเสาน้ำแข็งยกตัวขึ้นไปชั้นบนสุดทันที

เอมิเลีย: สุบารุ!

มิเซลด้า: วะ… เอมิลี่เรอะ?

พอเห็นมิเซลด้าตกใจ เอมิเลียก็รีบขอโทษแล้วเปลี่ยนเสาน้ำแข็งให้กลายเป็นละอองมานา

. หลังสนทนากับมิเซลด้าสั้นๆ เอมิเลียก็มองหาสุบารุจากกลุ่มนักเดินทาง

เอมิเลีย: สุบารุ! อยู่รึเปล่า!? พวกเรามารับแล้วนะ! ออตโต้คุงกับเพทร่าจั… คุณหนูเพทร่าก็กำลังมาเหมือนกัน!

เฟรเดริก้า: เอมิลี่…

ตอนนั้นเองเฟรเดริก้าก็แตะไหล่เธอเพื่อเรียกสติ เอมิเลียเห็นว่าเฟรเดริก้าอ้ำอึ้งแปลกๆ การ์ฟีลที่อยู่ในห้องนี้ก็ด้วยเช่นกัน

เฟรเดริก้า: น่าเสียดายเหลือเกิน ดูเหมือนว่าท่านสุบารุจะหายตัวไปอีกครั้งที่นครมารเคออสเฟลม …ไม่พบตัวท่านสุบารุในขบวนรถที่เดินทางกลับมาเลยค่ะ

. มีเดียม: อันจังกับเรมจังถูกพาตัวไปงั้นเหรอ หมายความว่าไงกันน่ะ!?

รุย: อา อู!

ถัดจากเอมิเลียที่ได้ทราบข่าวร้ายเรื่องสุบารุ มีเดียมที่กลับมาถึงกัวลาลก็ได้ทราบข่าวร้ายเรื่องพี่ชายของเธอด้วยเช่นกัน

ออตโต้ได้แต่ยืนมึน มองดูภาพเด็กสาวผมทองสองคนส่งเสียงโวยวาย แต่เขารู้สึกอย่างกับว่าเคยเห็นเด็กสาวคนที่พูดไม่รู้เรื่องมาก่อน

ซีคูร์ถือโอกาสตัดหน้าถามก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นกับมีเดียม วินเซนต์จึงอธิบายว่านี่ผลลัพธ์จากวิชาของแม่ทัพโอลบาร์ต ดันคลูเคน

วินเซนต์: พวกที่ไม่ได้ไปด้วยสับสนกันหมด ตกใจที่เจ้าตัวหดลงยังไงล่ะ

มีเดียม: ฉันเหรอ? …อ๊ะ! จริงด้วย! โทษทีๆ ทุกคน! อยู่ในร่างจิ๋วมานานจนชั้นลืมเลยว่าตัวหดลง! เหมือนกับสุบารุจินนั่นแหละ!

เอมิเลีย: ――สุบารุ

รุย: อูอาอู…

เอมิเลีย: เธอเองก็เป็นห่วงสุบารุเหมือนกันเหรอ?

รุย: อูวอาาอู

เอมิเลีย: อื้ม ไม่ใช่ความผิดของเธอหรอก รู้สึกผิดหวังก็จริงที่สุบารุไม่อยู่ แต่นี่ไม่ใช่เวลามัวจิตตก เพราะตอนนี้คนที่ลำบากกว่าใครก็คือสุบารุไงล่ะ

รุย: อูว…

เอมิเลีย: เป็นห่วงงั้นเหรอ? ขอบใจนะ เธอเองก็คงลำบากมาเยอะเหมือนกัน

ออตโต้มองดูเอมิเลียสื่อสารกับรุยที่พูดไม่รู้เรื่องได้อย่างน่าประหลาด แต่เขาก็โล่งใจที่เอมิเลียยังมุ่งมั่นได้อยู่แม้ยามเศร้าโศก

. วินเซนต์: ――ไม่นึกเลยว่าพรรคพวกของนัตสึกิ สุบารุจะถ่อกันมาถึงนี่

เอมิเลีย: คุณเองก็เป็นเพื่อนของสุบารุเหรอ?

วินเซนต์: ข้าไม่มีเพื่อน เจ้านั่นเองก็ไม่นับข้าเป็นเพื่อนเหมือนกัน ความสัมพันธ์เราก็แค่คนที่มีเป้าหมายร่วมกัน

เอมิเลีย: ถ้างั้นก็คนที่เป็นพวกพ้องสินะ ได้ยินว่าชื่ออาเบล หรือว่าจะเป็นคนที่คุณซีคูร์พูดถึง?

ทีแรกวินเซนต์ทำทีเหมือนจะตำหนิซีคูร์ที่ปล่อยให้เมืองตกอยู่ในสภาพเละเทะ

แต่เขาก็เปลี่ยนใจไปชมเชยแทนเพราะศัตรูเป็นถึงระดับเก้าแม่ทัพเทวะ ไม่ทิ้งเมืองไปก็ถือว่าทำผลงานได้ดีแล้ว

. ในห้องประชุมตอนนี้มีสามคนที่โดดเด่นสะดุดตาเป็นพิเศษ เอมิเลียผู้งดงามอยู่เสมอ วินเซนต์ที่สวมหน้ากากอสูรและแม่ทัพยอร์น่า มิชิกุเระ เป้าหมายดั้งเดิมของพวกสุบารุ

การที่ยอร์น่าอยู่ที่นี่ด้วยแปลว่าวินเซนต์เกณฑ์เธอเป็นพวกได้สำเร็จ ซึ่งยอร์น่าก็ยอมรับว่าเธอมีจุดประสงค์ของตัวเอง แต่มันเป็นเป้าหมายร่วมกับวินเซนต์ได้พอดี

ยอร์น่าพึ่งสูญเสียเมืองของเธอไป หลังเกิดหายนะครั้งใหญ่ที่ทำให้สุบารุหายตัวไปด้วย กระนั้น เอมิเลียก็ยังเชื่อมั่นว่าสุบารุยังมีชีวิตอยู่

วินเซนต์เคลือบแคลงใจว่าเอมิเลียเอาอะไรมามั่นใจและพยายามถามล้วงเพิ่ม ออตโต้รับรู้ถึงจุดประสงค์ของวินเซนต์เลยพยายามเตือนเอมิเลีย

โชคดีที่เอมิเลียเลือกตอบเป็นเชิงความรู้สึกจริงใจว่า “สุบารุไม่เป็นไรแน่ เพราะเขาต้องพยายามอย่างหนักระหว่างที่รอพวกเรามารับแน่นอน” ซึ่งไม่ได้เปิดเผยข้อมูลอะไรให้วินเซนต์เลย

. เอมิเลียกับวินเซนต์เป็นเหมือนน้ำกับน้ำมัน คนนึงมีความเชื่อมั่นศรัทธาในตัวผู้อื่น อีกคนเป็นพวกใช้ตรรกะและเหตุผลอย่างเดียว

วินเซนต์: ――ไม่ว่านัตสึกิ สุบารุจะเป็นหรือตาย ตอนนี้ก็ไม่มีใครบอกได้ทั้งนั้น จริงอยู่ว่าเจ้านั่นโกงความตายมาได้แบบฉิวเฉียดอยู่หลายครา แต่ก็ไม่มีอะไรยืนยันว่าครั้งนี้จะเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน

เอมิเลีย: นี่คุณ จะบอกว่าสุบารุ――

เบียทริซ: …ถ้าอยากได้หลักฐานว่าสุบารุยังมีชีวิตอยู่ เบ็ตตี้ก็มีให้ย่ะ

เอมิเลีย: เบียทริซ!

ตอนนั้นเองเบียทริซในอ้อมแขนเอมิเลียก็ตื่นมาร่วมบทสนทนา เฟรเดริก้ารีบตะโกนว่า “ท่าน” ตามหลังเอมิเลียเพื่อกลบเกลื่อนความสัมพันธ์

วินเซนต์: เหตุใดถึงได้มั่นใจนักว่านัตสึกิ สุบารุเป็นหรือตาย?

เบียทริซ: เรื่องพื้นๆ เลยย่ะ ก็เบ็ตตี้กับสุบารุน่ะ เชื่อมต่อกันด้วยดวงวิญญาณไงยะ

ยอร์น่าและวินเซนต์เข้าใจทันทีว่าเบียทริซคือวิญญาณคู่หูที่ทำสัญญากับสุบารุ ออตโต้จึงกังวลเล็กน้อยว่าการเปิดเผยข้อมูลนี้อาจส่งผลแย่ต่อตัวตนปลอม

แต่ในขณะเดียวกันมันก็ช่วยอธิบายสถานการณ์ให้ฝั่งวินเซนต์เข้าใจ

. เพทร่ายังมีเรื่องคาใจ เธอจึงย้อนถามมีเดียมเรื่องที่ “ตัวหดลง” เพราะเธอสงสัยว่าสุบารุโดนทำให้ตัวหดด้วยหรือเปล่า

มีเดียม: สุบารุจินก็เป็นเหมือนชั้นเลย! แต่รู้สึกว่าจะตัวเล็กกว่าหน่อยนึง? ไงก็เหอะ ตัวหดจริงจ้า! แต่ได้ยินว่าร่วมมือกับยอร์น่าจังจนเอาชนะปู่คนนั้นได้ด้วย สุบารุจินสุดยอดไปเลยเนอะ!

เอมิเลีย: ใช่เลย สุบารุนี่สุดยอดไปเลยเนอะ!

เพทร่า: อื้ม มีเดียมจังพูดถูกเผง

เบียทริซ: แน่นอนอยู่แล้วย่ะ ก็เป็นพาร์ทเนอร์ของเบ็ตตี้นี่ยะ

เหล่าสาวๆ พากันชื่นชมสุบารุตามมีเดียม แต่ฝั่งออตโต้อดปวดหัวไม่ได้ว่าสุบารุเอาตัวเองไปพัวพันกับเรื่องวุ่นวายแบบใหม่อีกแล้ว

ส่วนเฟรเดริก้าก็กังวัลว่าถ้าเกิดคลินด์ได้เจอกับสุบารุในร่างโชตะ เจ้าภัยสังคมนั่นจะออกอาการอย่างไร

สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดคงเป็นกรณีที่สุบารุกลับราชอาณาจักรลุกุนิก้าในฐานะอัศวินของเอมิเลียทั้งที่ยังตัวจิ๋วเป็นเด็กน้อยอยู่

. การ์ฟีล: ――ท่านเบียทริซ? ไหงทำหน้าแบบนั้น มีอะไรรึเปล่า?

ระหว่างที่ออตโต้กำลังครุ่นคิด เสียงเรียกของการ์ฟีลก็ดึงความสนใจเขาไปยังเบียทริซที่ดวงตาเบิกกว้างและจ้องไปยังเด็กสาวผมสีทอง

เบียทริซ: …ทำไมแก ถึงมาอยู่นี่ได้ยะ?

รุย: อู?

เบียทริซ: ตอบมาสิยะ! ไม่สิ ห้ามแกทำอะไรทั้งนั้นย่ะ!

ออตโต้: ทะ…ท่านเบียทริซ เป็นอะไรไป? อยู่ดีๆ ก็ตะโกนใส่เด็กคนนั้น…

เบียทริซ: ก็ต้องตะโกนสิยะ! ออตโต้! นี่นายยังไม่รู้ตัวอีกเหรอยะ!?

ทีแรกออตโต้ก็นึกว่าเด็กสาวผมทองคือใครสักคนที่เขาเห็นผ่านๆ ตอนเมาค้าง เลยจำไม่ค่อยได้

แต่พอถูกเบียทริซด่า ออตโต้ก็เริ่มนึกออกว่าเขาเคยเห็นเด็กคนนี้มาก่อน ตอนที่สติเลือนลางเพราะเนื้อส่วนขาถูกจ้วงออกไปจนเสียเลือดมาก

ออตโต้: หรือว่า…เธอคือ…

เอมิเลีย: เบียทริซ ออตโต้คุง มีอะไรเหรอ? เธอสองคนมองเด็กคนนี้แล้ว…

เบียทริซ: ――[ตะกละ] ไงยะ

เสียงของเบียทริซไม่ได้แค่ทำให้เอมิเลียตกตะลึง แต่รวมไปถึงทุกคนที่อยู่ในห้องนั้นด้วย

เบียทริซ: เด็กคนนั้นคือบิชอปมหาบาป [ตะกละ] …เด็กคนที่ชื่อว่า “รุย อาร์เน็บ” ไงล่ะยะ

. การทิ้งระเบิดลูกใหญ่ของเบียทริซทำให้บรรยากาศห้องประชุมตึงเครียดขึ้นทันตา บางคนก็สับสนเพราะมันฟังดูเหลือเชื่อ

แต่พรรคพวกของเบียทริซรู้ดีว่าเธอพูดจริง ดังเช่นการ์ฟีลที่จ้องเขม็งไปหารุยพลางแยกเขี้ยวและลั่นข้อต่อกำปั้นเตรียมพร้อม

การ์ฟีล: ดันเป็น [ตะกละ] ซะด้วยงั้นเรอะ? นังนี่มันลำดับต้นๆ ที่พวกเราอยากกระทืบพอดีเลยไม่ใช่เหรอฟะ? นี่สินะวิถีจักรวรรดิน่ะ!?

มีเดียม: ดะ…เดี๋ยวก่อน! ผิดแล้ว! รุยจังน่ะไม่ใช่เด็กเลวนะ!

มีเดียมพยายามยืนขวางการ์ฟีลเพื่อปกป้องรุย แต่ออตโต้เสริมอีกว่าที่ขาของเขายังมีแผลเป็นจากที่โดยรุยจ้วงเนื้อหลุดอยู่เลย

เด็กสาวคนนี้คือบิชอปมหาบาปที่มีเหยื่ออยู่มากมาย และในจำนวนนั้นก็มีพวกพ้องและคนใกล้ตัวของพวกออตโต้อยู่ด้วย

มีเดียมขอร้องทั้งน้ำตาว่ารุยคนนี้ไม่เคยทำเรื่องแย่เลย แถมยังสนิทกับฟล็อป สุบารุและเรมด้วย เพทร่าถึงกับเริ่มกังวัลว่าสุบารุถูกกินความทรงจำไปหรือเปล่า

แต่ออตโต้กับเอมิเลียก็ช่วยปลอบใจว่า วีรกรรมของสุบารุในเมืองนี้ที่พวกเธอได้ยินมาคือตัวบ่งบอกว่าเขาไม่ได้ถูกกินความทรงจำแน่อน

. ออตโต้เริ่มวิเคราะห์สถานการณ์ว่าที่สุบารุยังไม่รีบฆ่ารุย อาจจะเพราะเขาไม่อยากเสี่ยงให้สูญเสียวิธีการช่วยเหลือเหยื่อบาปตะกละไปตลอดกาล

กระนั้น การ์ฟีลก็ยังมองว่าไม่ควรปล่อยให้รุยเคลื่อนไหวอย่างอิสระ อย่างน้อยก็ควรขังเอาไว้ ซึ่งออตโต้ก็เห็นดีด้วยกับความคิดนั้น

การ์ฟีลพุ่งเข้าประชิดตัวรุยซึ่งมีเดียมยืนขวางอยู่ทันที นั่นทำให้เด็กสาวก้มหัวลงด้วยความสั่นกลัว

มีเดียมพยายามขอความช่วยเหลือจากวินเซนต์ แต่ฝ่ายวินเซนต์มองว่านี่ไม่ใช่ปัญหาของเขา แถมอีกอย่าง มันมีคนอื่นนอกจากเขาที่เสนอตัวเข้าข้างพวกมีเดียมแล้ว

การ์ฟีล: เฮ้ย ถึงจะเป็นผู้หญิง ชั้นคนนี้ก็ไม่คิดจะออมมือให้หรอกนะเฟ้ย

ยอร์น่า: แบบนั้นยิ่งดีเจ้าค่ะ ไม่อยากให้แก้ตัวทีหลังว่าออมมือให้เพราะข้าน้อยงดงามอยู่แล้วเจ้าค่ะ

ออตโต้: ขอย้ำอีกที เธอคนนี้เป็นบิชอปมหาบาปนะครับ อย่าบอกนะว่าวีรกรรมของลัทธิบูชาแม่มดไม่เป็นที่รู้จักในจักรวรรดิวอลลาเคียน่ะ?

วินเซนต์: เรารู้ซึ้งถึงวีรกรรมและความสยดสยองของตัวก่อความวุ่นวายพวกนี้ดี แน่นอนว่ารวมถึงความร้ายกาจของบิชอปมหาบาปด้วย

ลัทธิบูชาแม่มดไม่เคยเลือกสถานที่ พวกมันก่อความวุ่นวายไปทั่วโลก เมืองป้อมปราการ “กาคลา” แห่งวอลลาเคียที่ถูกบิชอปเรกุลุสโจมตี ทุกวันนี้ก็ยังไม่ฟื้นตัวดี

ออตโต้: คิดว่าจะทำให้เชื่องได้เหรอครับ? มองตื้นเขินไปหรือเปล่า?

วินเซนต์: หากมีประโยชน์ก็ต้องคิดหาวิธีใช้งาน พวกเจ้าคิดผิดแล้วถ้าหลงนึกว่าทุกอย่างจะอยู่ข้างเจ้าหมด

. มิเซลด้าออกความเห็นว่าชะตากรรมของรุยควรให้สุบารุกับเรมเป็นคนตัดสิน ถ้าหากพวกออตโต้คิดจะฆ่ารุยก่อนหน้านั้น เธอและเผ่าชูดราคจะขัดขวางเต็มที่

ทาริตต้าในฐานะหัวหน้าเผ่าคนใหม่เองก็เห็นด้วยกับพี่สาว เธอยังมีหนี้บุญคุณที่ค้างคากับรุยอยู่

เบียทริซ: ยังไงก็ปล่อยผ่านบิชอปมหาบาป [ตะกละ] ไม่ได้หรอกย่ะ พวกแกน่ะสงบสติอารมณ์ก่อนดีไหมยะ?

เอมิเลีย: ไม่ได้นะ ทุกคนใจเย็นๆ กันก่อน! อย่าพึ่งใช้ความรุนแรง――

ยามที่ประเด็นร้อนคุกรุ่นเตรียมจะปะทุกลายเป็นการตะลุมบอนของสองฝั่ง เอมิเลียชั่งใจเตรียมที่จะแช่แข็งเมืองกัวลาล ส่วนออตโต้ก็เล็งหาจังหวะที่จะชิงตัวรุย

ทว่า ในตอนนั้นเอง

พริสซิลล่า: ――อะไรกัน นี่พวกเจ้ายังตีกันไม่พออีกรึ? เลือดขึ้นหน้ากันหมดเลย

พริสซิลล่า บาริเอลปรากฏตัวที่บันไดหน้าทางเข้าห้องประชุม ตามมาด้วยเด็กรับใช้ชูลท์ และผู้ติดตามอัลเดราบัน

. หญิงสาวในชุดเดรสสีชาดดึงดูดทุกสายตาไปหาเธอ ออตโต้เดาทางไม่ออกเลยว่าเธอคนนี้จะอยู่ข้างไหน นั่นทำให้สถานการณ์ยิ่งซับซ้อนขึ้นไปอีก

มีเดียม: ――ยอร์น่าจัง?

ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงอะไรบางอย่างดังกระทบกับพื้น มันคือเสียงของไปป์คิเซะรุที่หลุดจากมือของยอร์น่านั่นเอง

รุยเก็บไปป์มายื่นคืนให้เธอ แต่สายตาของยอร์น่าเมินเฉยทั้งมีเดียมและรุย และจ้องไปหาใครบางคนแทน

ยอร์น่า: พะ…พริสก้า…?

ยอร์น่ามองไปทางพริสซิลล่า แต่เรียกเธอด้วยชื่อเก่าที่แทบไม่มีใครรู้จัก มีเพียงสามคนในที่นั้นที่แสดงปฏิกิริยาตอบรับ

ซีคูร์ทำหน้าฉงน วินเซนต์แสดงท่าทีครุ่นคิด ส่วนพริสซิลล่าก็จ้องมองยอร์น่าด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์

พริสซิลล่า: อะไรกัน ทำไมเจ้าถึงแสดงท่าทีต่อข้าพเจ้าเช่นนั้นล่ะ… ไม่สิ

ดวงตาสีโลหิตของพริสซิลล่าจดจ้องกับดวงตาสีครามของยอร์น่าด้วยความขุ่นเคืองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะเอ่ยต่อ

พริสซิลล่า: ――ก็นึกว่าใครเสียอีก “ท่านแม่” ไม่ใช่รึนั่น

ถึงแม้ว่าพริสซิลล่าจะไม่ได้ทำให้สถานการณ์เรื่องรุยเกิดการปะทุขึ้น แต่เธอกลับมาหย่อนระเบิดลูกใหม่เพิ่มเข้าไปอีก

. จบตอน