
บทที่ 7 ตอนที่ 84 "ห้องน้ำชา"
วินเซนต์ วอลลาเคีย ปกครองจักรวรรดิวอลลาเคียมาได้ประมาณเก้าปีอย่างสงบสุข
ทว่า ตั้งแต่ที่มีการพยายามลอบปลงพระชนม์เมื่อ 1 ปีก่อน ด้วยฝีมือเก้าแม่ทัพเทวะเอง ผู้คนก็เริ่มรู้ตัวว่าความสงบสุขนี้มันไม่ยั่งยืน
ในวันนี้ เหล่าทหารระดับผู้บัญชาการทั้งหลายได้มารวมตัวกันในห้องบัลลังก์ ณ พระราชวังแก้วที่นครหลวงลูปุกาน่า
เบลสเต็ตซ์: ความไม่สบายใจและความคาดหวังของประชาชนในช่วงนี้เริ่มที่จะสั่นคลอนพะยะค่ะ
อัครมหาเสนาบดีเบลสเต็ตซ์ ฟอนดาลฟอน รายงานสถานการณ์ความไม่สงบจากการก่อกบฏต่อจักรพรรดิวินเซนต์(ตัวปลอม)
เหล่าทหารยศแม่ทัพต่างตั้งตารอคำตอบจากองค์จักรพรรดิด้วยความตึงเครียด
ทั้งที่ประเทศนี้ผู้แข็งแกร่งคือผู้ปกครอง แต่เหล่าแม่ทัพผู้กล้าแกร่งทั้งหลายกลับเกรงกลัวต่อรัศมีของจักรพรรดิที่แทบไม่เคยจับดาบให้เห็น
วินเซนต์(ปลอม): ประชาชนไม่สบายใจงั้นหรือ?
คำตอบสั้นๆ ขององค์จักรพรรดิบีบรัดหัวใจของเหล่าทหารยิ่งกว่าเดิม
วินเซนต์(ปลอม): จักรพรรดิของประเทศนี้ต้องพึ่งพาประชาชนเพื่อช่วยชี้ทางตั้งแต่เมื่อไรกัน?
เบลสเต็ตซ์: …เข้าใจดีพะยะค่ะ ฝ่าบาท แต่มันก็จริงอยู่ว่าประชาชนเริ่มเคลือบแคลงใจต่อการปกครองของฝ่าบาท หากปล่อยปละละเลย เลือดเป็นพิษที่ปนเปื้อนโรคร้ายนี้จะไหลเวียนไปทั่วจักรวรรดิ
วินเซนต์(ปลอม): เพื่อการนั้นแล้ว เจ้าอยากแนะนำให้เจาะเลือดที่เป็นพิษเหล่านั้นออกงั้นหรือ?
เบลสเต็ตซ์: ด้วยความเคารพ ต่อให้เป็นฝ่าบาทก็สิ้นพระชนม์ได้ถ้าหากสูญเสียศีรษะไป แทนที่จะตัดศีรษะ สู้ตัดแขนขาทิ้งมันไม่ดีกว่าหรือขอรับ?
. คำโต้เถียงอย่างตรงไปตรงมาซึ่งปิดท้ายด้วยการโค้งคำนับของเบลสเต็ตซ์นั้นถือเป็นการพูดแทนใจเหล่าทหารในห้องบัลลังก์
พวกเขาเองก็ไม่พอใจวิธีการตอบสนองต่อการกบฏขององค์จักรพรรดิ ซึ่งส่งแม่ทัพแค่คนเดียวไปไล่บุกทลายทัพกบฏ
แต่แน่นอนว่าไม่มีทหารคนไหนกล้าพูดออกมาตามจริง พวกเขาสั่นกลัวแทนเบลสเต็ตซ์ที่เป็นปากเสียงแทนพวกตนด้วยซ้ำ
เบลสเต็ตซ์: ฝ่าบาท การกบฏในครั้งนี้น่ะมัน…
วินเซนต์(ปลอม): ฟังคำแนะนำของเจ้ามามากพอแล้ว ทว่า ――ตัวข้าน่ะก็มีความคิดของตัวเองอยู่
คำตอบเพียงสั้นๆ ขององค์จักรพรรดิคลายความกงวัลใจของเหล่าแม่ทัพก่อนหน้านี้ให้สลายหายไปหมด
วินเซนต์(ปลอม): หรือว่าพวกเจ้ากังขาต่อคำพูดของตัวข้ากันล่ะ?
เหล่าทหาร: ――ไม่เลยขอรับ!
เหล่าทหารตอบกันพร้อมเพรียง บ้างกระทืบเท้าและชักดาบออกมา บ้างก็วางกำปั้นไว้ตรงหน้าอกและโค้งคำนับ
. วินเซนต์(ปลอม): วิธีการโต้ตอบการกบฏครั้งนี้เอง ตัวข้าก็ได้คิดไว้แล้ว ถ้าไม่บอกรายละเอียดทุกกระเบียดนิ้ว พวกเจ้าจะทำตามที่สั่งให้พอใจไม่ได้เลยหรืออย่างไรกัน?
เหล่าทหาร: ――ไม่เลยขอรับ!
ทั้งแววตาและโทนเสียงของวินเซนต์มีความสามารถในการปลุกเร้าผู้ฟังให้ฮึกเหิมหรือสั่นกลัวได้
ไม่มีใครรู้ว่า “ความคิด” ของจักรพรรดิคืออะไร แต่ทุกคนก็พร้อมใจกันเชื่อมั่น เพราะพวกเขาต่างรู้ดีถึงพระปรีชาสามารถของจักรพรรดิวินเซนต์ วอลลาเคีย
เบลสเต็ตซ์: ไม่มีเรื่องอัดอั้นในอกที่อยากจะเปิดเผยกับกระผมหรือเหล่าแม่ทัพเลยหรือพะยะค่ะ?
วินเซนต์(ปลอม): เพื่ออะไรกันล่ะ? เปิดเผยไป ยุทธการณ์ของตัวข้าก็มีแต่จะรั่วไหล แลกกับการที่เจ้าและพวกแม่ทัพที่เกรงกลัวต่ออนาคตจะได้สบายใจเนี่ยนะ?
เหล่าทหารที่เข้าข้างเบลสเต็ตซ์ก่อนหน้านี้พร้อมใจกันเปลี่ยนข้างมาเชื่อมั่นในแผนการลับของจักรพรรดิและชัยชนะของฝ่ายตนไปเสียแล้ว
บางส่วนไม่พอใจที่เบลสเต็ตซ์ยังคงกังขาวินเซนต์ไม่เลิกด้วยซ้ำ
วินเซนต์(ปลอม): ตัวข้าไม่คิดที่จะเปิดเผยจุดประสงค์ให้ฟังหรอกนะ ทว่า พวกเจ้าทั้งหลายจงจำคำหนึ่งไว้ให้ขึ้นใจ
เบลสเต็ตซ์: …ฝ่าบาท
วินเซนต์: “ประชาชนชาวจักรวรรดิต้องแข็งแกร่ง” ――จะเตรียมสนามรบที่เหมาะสมแก่วิถีแห่งหมาป่าดาบไว้ให้พวกเจ้าเอง
ถ้าหากเปลวเพลิงแห่งการกบฏมาจากความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจต่อวินเซนต์ คำพูดขององค์จักรพรรดิก็ปลุกเร้าเหล่าทหารด้วยเปลวเพลิงแห่งความเชื่อมั่นเช่นกัน
เบลสเต็ตซ์เลิกกังขาต่อตัวจักรพรรดิและเปลี่ยนมาถามทิ้งท้าย ด้วยประเด็นร้อนที่เหล่าทหารในห้องก็สงสัยไม่แพ้กัน
เบลสเต็ตซ์: ――“องค์ชาย” ผมดำ ผู้ที่เหล่ากบฏในหลายพื้นที่สรรเสริญเป็นผู้นำอุดมการณ์ ผู้ที่มีผมสีดำ ตาสีดำ และมีพื้นเพเป็น… บุตรนอกสมรสของฝ่าบาท
วินเซนต์(ปลอม): เบลสเต็ตซ์ ――อย่าได้หลงเชื่อข่าวลือไร้สาระ ตัวข้าน่ะไม่มีบุตร แต่ถึงอย่างไร ก็จงสืบหาต้นตอของข่าวลือเหล่านี้และลากตัว “ทายาท” คนที่ว่ามาอยู่ต่อหน้าตัวข้าเสีย อยากเก็บมันไว้เป็นตัวตลกเพื่อความรื่นรมย์ส่วนตัวเสียหน่อย
องค์จักรพรรดิกล่าวทิ้งท้ายเช่นนั้นด้วยรอยยิ้มสุดโฉดเพื่อบ่งบอกว่าเขาพูดจริงทำจริงแน่นอน
. หลายชั่วโมงต่อมา เบลสเต็ตซ์ก็แอบนัดจักรพรรดิตัวปลอมมาสนทนาแบบลับๆ ที่ “ห้องน้ำชา” ในคฤหาสน์ส่วนตัวของเขา และหัวข้อสนทนาก็คือเรื่องเดิมก่อนหน้านี้
เบลสเต็ตซ์: ――มั่นใจได้ใช่ไหมว่า “องค์ชาย” น่ะไม่ใช่บุตรของฝ่าบาท?
วินเซนต์(ปลอม): แน่นอนสิ ――คำตอบไม่เปลี่ยนหรอก ตัวข้าไม่มีทายาท ทุกอย่างเป็นแค่ข่าวลือไร้สาระ
เบลสเต็ตซ์: บอกไปแล้วนี่ว่าทุกสิ่งที่พูดที่นี่จะไม่รั่วไหลออกไป กระทั่งแม่ทัพชั้นเอกโอลบาร์ตยังไร้หูตาที่นี่ รู้ดีอยู่แล้วนี่?
เบลสเต็ตซ์ทุ่มทุนทรัพย์ระดับซื้อทั้งเมืองได้เพื่อสร้าง “ห้องน้ำชา” ขึ้นมา มีการใช้เวทมนตร์หายากและมีทิเออร์ในการสร้างเขตแดนที่ทำให้มันกลายเป็นห้องสนทนาลับ
กระนั้น จักรพรรดิตัวปลอมกลับไม่ยอมถอดผิวหนังปลอมออกและไม่ยอมเปลี่ยนวิธีการพูดจาอีก เหมือนกับว่าเขาอินในบทบาทสมมติเอาเสียมาก
. วินเซนต์(ปลอม): หากตัวข้ามีบุตรชายอยู่จริงๆ เจ้าคิดจะทำเยี่ยงไรกันล่ะ?
เบลสเต็ตซ์: หากฝ่าบาทมีบุตร นั่นแปลว่าพระองค์ตั้งใจที่จะเติมเต็มภาระหน้าที่ของจักรพรรดิ เราจะรีบจับตัวเด็กไว้โดยเร็วที่สุดและอนุญาตให้ฝ่าบาทตัวจริงกลับคืนสู่บัลลังก์ได้
วินเซนต์(ปลอม): หึ เช่นนั้นแล้ว จะทำอย่างไรกับตัวข้าต่อกันล่ะ?
เบลสเต็ตซ์: ทั้งคุณและกระผมต่างก็ทราบดีว่าการกบฏจะจบลงอย่างไรนี่?
เบลสเต็ตซ์ยังคงเคลือบแคลงใจว่าวินเซนต์อาจจะมีลูกนอกสมรสลับๆ โดยไม่ได้บอกให้คนสนิททั้งสองอย่างเซซิลุสและจิชาทราบ
แต่จักรพรรดิตัวปลอม(จิชา)ก็ยืนกรานว่าเขารู้จักวินเซนต์เป็นอย่างดีและมันเป็นไปไม่ได้เลยที่วินเซนต์จะมีลูกชาย
จักรพรรดิวินเซนต์เป็นคนขี้ระแวงขั้นสุด เขาไม่เคยพาสตรีมาเป็นนางสนมร่วมหลับนอนด้วยเลยสักครั้งเดียว แค่หลับตาพร้อมกันสองข้างก็ยังไม่เคยทำเลยด้วยซ้ำ
. หลังมั่นใจได้ว่าวินเซนต์ไม่มีทายาทลับอยู่จริงๆ เบลสเต็ตซ์ก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนามาถามความเห็นจิชาเรื่องการตอบโต้กองกบฏ
ที่ผ่านมาเบลสเต็ตซ์ได้ส่งแม่ทัพอาราเคียและมาเดลินไปบดขยี้ทัพกบฏทั่วประเทศ แต่นั่นก็ยังไม่มากพอ
เบลสเต็ตซ์: ตามปกตินี่คือสถานการณ์ที่ต้องพึ่งพาความสามารถสั่งการของแม่ทัพชั้นเอกจิชาหรือแม่ทัพชั้นเอกกอซ แต่ในเมื่อใช้งานสองคนนั้นได้ยาก สิ่งที่ควรทำต่อก็… ควรโยกตัวแม่ทัพชั้นเอกกรูวี่กลับมาดีไหม?
วินเซนต์(ปลอม): การเคลื่อนไหวฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือมันมีพิรุธ อาจจะเป็นฝั่งคารารากิหรือกลุ่มผู้มีจุดประสงค์แอบแฝงอื่น แต่เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากย้ายเจ้านั่นกลับมาจากชายแดนก่อน
เบลสเต็ตซ์และจักรพรรดิปลอมหารือกันถึงสถานะปัจจุบันของแม่ทัพเทวะแต่ละคน
แม่ทัพโอลบาร์ต ดันคลูเคน อยู่ที่นครหลวงและไม่ควรที่จะส่งไปที่อื่น เพราะอาจย้ายฝั่งได้หากได้ติดต่อกับทัพกบฏ
แม่ทัพโมโกร ฮากาเนะ มีภาระหน้าที่ที่มีเพียงเขาคนเดียวที่ทำได้อยู่
แม่ทัพเซซิลุส เซ็กมุนต์เป็นตัวหมากใช้งานยากที่แยกมิตรและศัตรูไม่ออก จักรพรรดิตัวปลอมเลยเลือกกำจัดเขาออกไปจากกระดานหมาก
แม่ทัพยอร์น่า มิชิกุเระเข้าร่วมกับฝั่งกบฏที่นำโดยองค์ชายตัวปลอม
สรุปว่าฝั่งพวกเขาแม่ทัพเทวะให้ใช้งานได้ถึง 5 คนเป็นอย่างต่ำ คือ อาราเคีย / โอลบาร์ต / มาเดลิน / จิชา / โมโกร
. เบลสเต็ตซ์: ――ศึกตัดสินที่นครหลวงงั้นหรือขอรับ? ตั้งแต่ที่จักรวรรดิเทวาวอลลาเคียก่อตั้งขึ้นมา ไม่เคยมีเหตุการณ์ที่กองกบฏรวมทัพกันบุกนครหลวงตั้งแต่อย่างใน “แท่นบั่นคอแห่งมากริซซ่า” เลย
วินเซนต์(ปลอม): เบลสเต็ตซ์
เบลสเต็ตซ์: ขอรับ?
วินเซนต์(ปลอม): เจ้าน่ะท่าทางชอบอกชอบใจใหญ่เลยนะ
เบลสเต็ตซ์จับแก้มตัวเองด้วยความงุนงงและพบว่าตัวเขาแสดงอารมณ์รื่นเริงออกมาเป็นครั้งแรก เขาเลยรีบขอโทษที่เสียมารยาท
วินเซนต์(ปลอม): ไม่จำเป็นต้องขอโทษ เหตุใดถึงได้หัวเราะงั้นหรือ?
เบลสเต็ตซ์: ก็แค่คิดขึ้นมาว่าเนื้อแท้ของจักรวรรดิวอลลาเคียเนี่ยคือสงครามและความวุ่นวายโดยแท้เลยน่ะครับ
วินเซนต์(ปลอม): เพราะงั้นถึงได้เป็นจักรวรรดิวอลลาเคียงั้นหรือ?
เบลสเต็ตซ์: แต่ละคนต่างก็วาดฝันอนาคตไว้ไม่เหมือนกันขอรับ ฝ่าบาท… ไม่สิ “คุณ” เองก็เช่นกัน
วินเซนต์(ปลอม): พูดมากไปแล้ว เบลสเต็ตซ์ คิดว่าตัวข้าเป็นใครกัน?
ถึงแม้จะเป็นใน “ห้องน้ำชา” ห้องลับที่ไม่มีความลับอันใดในนี้รั่วไหลออกไปข้างนอก
แต่ “จักรพรรดิตัวปลอม” ก็ยังคงสวมหน้ากากวินเซนต์ วอลลาเคียของเขาต่อไป ไม่แปรเปลี่ยน
. จบตอน