webnovel arc7 chapter91

บทที่ 7 ตอนที่ 91 "ทะยานฝ่าสนามรบ"

บรรยากาศของสนามรบทำให้ “เฟรเดริก้า บาวแมน” ผู้เคยชินกับความสงบมีจิตใจหวั่นไหว เธอจึงหวนคิดถึงบรรดาสมาชิกร่วมฝ่ายระหว่างที่ออกวิ่ง

เอมิเลียเป็นหัวหน้าฝ่าย ซึ่งเป็นผู้ตัดสินใจท้ายสุดและยังเป็นผู้ใช้ศาสตร์วิญญาณที่ต่อสู้ได้เก่งกาจ

การ์ฟีลเป็นกำลังรบสุดแกร่ง ส่วนออตโต้เป็นมันสมองที่เชื่อใจได้แม้ในศึกสงครามที่ต่างประเทศ

กระทั่งเพทร่าก็ยังเติบโตขึ้นมากจนสามารถใช้เวทแสงตะวันช่วยเสริมแกร่งทั้งกำลังกายและกำลังใจให้แก่ออตโต้

เพทร่าเติบโตเป็นเด็กที่ฉลาด ช่างสังเกต ความจำดี จนเฟรเดริก้าแอบเหงาเล็กน้อยว่าตัวเธออาจจะถูกน้องสาวคนนี้ทิ้งห่างออกไป

เฟรเดริก้าไม่ได้ต่อสู้เก่งเหมือนเอมิเลียและการ์ฟีล ไม่ได้หัวดีเหมือนออตโต้และเพทร่า กระนั้น ในเมื่อสมาชิกฝ่ายคนอื่นกำลังพยายามอย่างเต็มที่อยู่ เธอก็จะมัวแต่กังวลอยู่ไม่ได้

. ในขณะนี้ วินเซนต์กำลังใช้ข้อมูลที่ได้จากออตโต้ในการบัญชาการสนามรบและปรับเปลี่ยนรูปแบบการจู่โจมของทัพกบฏ

พวกทัพกบฏกลุ่มแรกที่ด่วนโจมตีและไม่ยอมให้ความร่วมมือถูก “อสุรกาย” ของฝั่งจักรวรรดิตบสั่งสอนให้รู้ซึ้งกันหมดแล้ว

ดังนั้น เฟรเดริก้าจึงได้รับมอบหมายหน้าที่บางอย่างมา

เฟรเดริก้า: ――เจอตัวแล้วค่ะ! ท่านทาริตต้า!

ทาริตต้า: อึก!? อะไรคะ!?

เฟรเดริก้าวิ่งฝ่าสนามรบมาพบบุคคลที่เธอกำลังตามหาตัวอยู่ แต่อีกฝ่ายชักธนูออกมาเตรียมยามทันทียามที่เห็นเธอในร่างเสือ

มิเซลด้า: ช้าก่อน ทาริตต้า นั่นพวกเดียวกัน

เฟรเดริก้า: ขออภัยที่ใช้รูปลักษณ์นี้ ดิฉันคือเฟรเดริก้าเองค่ะ

มิเซลด้า: เช่นนั้นเองรึ เจ้านี่เอง ――เป็นเดรัจฉานที่งดงามเหลือเกิน หากนี่ไม่ใช่เจ้า คงอยากถลกขนไปประดับที่หมู่บ้านแล้ว

เฟรเดริก้า: ขะ…ขอรับไว้เป็นคำชมแล้วกันนะคะ? อะแฮ่ม มีเรื่องที่ต้องบอกอยู่ค่ะ ――นี่คือข้อความจากท่านอาเบลที่ฐานบัญชาการค่ะ

หน้าที่ของเฟรเดริก้าคือการเป็น “ผู้ส่งสาร” ที่วิ่งไปทั่วสนามรบในร่างสัตว์เพื่อกระจายข้อมูลจากวินเซนต์ให้ทั่วถึง

. เผ่าชูดราคคือผู้เชี่ยวชาญด้าน “การล่า” พวกเธอจึงแสดงศักยภาพได้ไม่เต็มที่ในสนามรบที่เปิดโล่ง สิ่งควรทำจึงเป็นการหาทางส่งพวกเธอฝ่ากำแพงเมืองเข้าไปให้จงได้

เฟรเดริก้า: ――ศูนย์บัญชาการมีความเห็นว่ายอดปราการที่ 3 คือช่องโหว่ที่ควรเจาะทะลวงมากที่สุดค่ะ

สองพี่น้องมองดูไปทางปราการดังกล่าว แต่ทัพกบฏที่บุกไปทางนั้นก็ยังคงส่งเสียงกรีดร้องออกมาไม่หยุดจนฟังไม่ขึ้นว่านั่นคือ “ช่องโหว่”

ทาริตต้า: ดูเหมือนว่าจะมีตุ๊กตาหินขยับอยู่ด้วยค่ะ

มิเซลด้า: เผ่ามนุษย์โลหะรึ? “เก้าแม่ทัพเทวะ” ที่เข้าเค้ามีแค่คนเดียวล่ะนะ

เฟรเดริก้ารู้สึกอึ้งที่สองพี่น้องสามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นบนยอดปราการจากระยะนี้ได้ กระทั่งตัวเธอในร่างเสือก็ยังมองไม่เห็นอะไรเหนือฝุ่นควันบนนั้นเลย

อ้างอิงจากวินเซนต์ ผู้พิทักษ์ที่ประจำการอยู่บนปราการที่ 3 คือ “มนุษย์โลหะ” โมโกร ฮากาเนะ

. พอได้ยินว่าต้องต่อกรกับแม่ทัพเทวะ ทาริตต้าก็แสดงท่าทีกังวล กระนั้นมิเซลด้าก็ช่วยปลอบใจน้องว่าตนเองพร้อมบวกเต็มที่แม้ว่าขาซ้ายก็ถูกแทนที่ด้วยแท่งไม้ไปแล้วก็ตาม

หลังได้กำลังใจจากพี่ ทาริตต้าก็แผลงศรอย่างรวดเร็วและแม่นยำไปสอยคางมังกรบินเหนือน่านฟ้าให้ร่วงลงมาตายหนึ่งตัวทันที

ทาริตต้า: เมื่อถึงคราวที่เหมาะสม พวกเรามาข้ามกำแพงกันเถอะ หากผ่านกำแพงนี้ไปได้ ชัยชนะก็เป็นของพวกเราแล้วค่ะ

มิเซลด้า: เพราะงี้แหละน้องถึงได้เป็นหัวหน้าเผ่าชูดราค ――เฟรเดริก้า แล้วเธอล่ะจะเอาไงต่อ?

เฟรเดริก้า: จะเอาเรื่องที่เล่าให้ฟังเมื่อครู่ไปแจ้งคนอื่นต่อค่ะ ถ้ามารวมกันอยู่ในที่เดียวก็ดีสิ…

เฟรเดริก้าอวยพรสองพี่น้องชูดราคให้ปลอดภัยและบอกลาเพียงเท่านั้น ก่อนที่เริ่มออกวิ่งเพื่อส่งข้อความของวินเซนต์ต่อ เพื่อมิให้ความพยายามของพวกพ้องแต่ละคนสูญเปล่า

. ทาริตต้ามองดูเสือดาวสีทองวิ่งจากไปด้วยความเร็วสูง จากนั้นก็เตรียมการที่จะบุกปราการที่ 3 อย่างที่คุยกันเอาไว้

จามาล: ――ชิ ฝ่าเข้าไปไม่ได้เลยโว้ย! มีแต่พวกเกะกะเต็มไปหมด!

ตอนนั้นเองที่มังกรบินตัวหนึ่งร่วงลงมาฟ้าพร้อมชายสวมผ้าปิดตา เขาใช้ดาบคู่ฟันปีกมังกรบินแล้วปลิดชีพมันต่อด้วยการตัดคอทิ้ง

มิเซลด้า: จามาลเองรึ? ไม่ถูกโฉลกกับใบหน้าของเจ้าเสียเลย

จามาล: พูดบ้าอะไรของหล่อนวะ! แม่งเอ๊ย หมดความอดทนแล้ว! ถ้าบุกเข้าไปในนครหลวงไม่ได้ ก็ไม่รู้ว่าคาชัวปลอดภัยดีหรือเปล่า… ไอ้ท็อดด์ หวังว่าเอ็งจะปกป้องเธอให้ดีนะ

“จามาล โอเรลี่” คือทหารจักรวรรดิที่เป็นอดีตเชลยศึกของเมืองกัวลาล แต่หลังได้ทราบตัวตนที่แท้จริงของวินเซนต์ เขาก็ตัดสินใจเข้าร่วมฝ่ายกบฏด้วย

. ทาริตต้าเข้าใจความกังวลของจามาลที่เป็นห่วงความปลอดภัยของครอบครัวดี กระทั่งตอนนี้เขาก็ใจร้อนอยากรีบไปตัดหัวจักรพรรดิตัวปลอมอยู่เต็มทน

ทาริตต้า: ไหนๆ เจ้าก็ฮึกเหิมแบบนี้ มีข่าวดีมาบอก พวกเรากำลังจะมุ่งหน้าไปที่ยอดปราการที่ 3 กัน มีคนบอกว่าที่นั่นคือเป้าหมายหลัก

จามาล: เป้าหมายหลักเรอะ? ใครกันวะที่บอกมา?

ทาริตต้า: อาเบลไงคะ

จามาล: บอกเรื่องนั้นให้เร็วกว่านี้เซ่! เฮ้ย! พวกเอ็งทั้งหลายเตรียมตัว! เราจะบุกปราการที่ 3 กันโว้ย!

ถึงแม้ว่ามิเซลด้าจะถูกใจหน้าตาของเขา แต่ด้านความสามารถต่อสู้นั้น จามาลแข็งแกร่งทัดเทียมระดับ “แม่ทัพ” เชื่อมั่นในฝีมือได้

พอจามาลและทัพทหารย้ายฝั่งจากเมืองกัวลาลเริ่มออกเดิน ทาริตต้าก็หันไปเรียกพี่สาว ทว่า ตอนนั้นเองที่ “เกร็ดหิมะ” สีขาวร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้า

ทาริตต้าไม่เคยเห็นหิมะก่อนในชีวิต มันจึงเป็นภาพสุดแสนพิศวงที่ได้เห็นหิมะตกกลางสนามรบที่ลุกไหม้อย่างผิดฤดูกาล

ทาริตต้า: ปะ…เป็นไปได้ยังไง?

มิเซลด้า: …งั้นรึ น้องน่ะยังไม่เคยเห็นสินะ ทาริตต้า

ทาริตต้า: ท่านพี่?

ตรงข้ามกับผู้เป็นน้องสาว มิเซลด้านั้นรู้ดีว่าที่หิมะตกนี้เป็นฝีมือใคร

มิเซลด้า: เอมิลี่ไงล่ะ

เท่าที่ทาริตต้าจำได้ เอมิลี่คือชื่อของฮาล์ฟเอลฟ์ผมสีเงิน พรรคพวกของเฟรเดริก้า แต่ทาริตต้ายังคงสับสนว่าเหตุใดเธอคนนั้นถึงได้เรียกหิมะออกมา

พอเห็นว่าน้องสาวสั่นกลัวยามที่ได้เห็นปรากฏการณ์ที่อยู่นอกเหนือความเข้าใจ มิเซลด้าจึงชำเลืองไปทางที่เฟรเดริก้าวิ่งจากไปแล้วช่วยพูดปลุกใจน้องสาวอีกครั้ง

มิเซลด้า: โลกใบนี้มันกว้างใหญ่ กระทั่งหัวหน้าเผ่าชูดราคกับอดีตหัวหน้าเผ่ายังมีเรื่องให้ตกตะลึงได้ หิมะนี่ก็เช่นกันน้องเอ๋ย อีกอย่างหนึ่ง ――เดรัจฉานผู้งดงามอุตส่าห์อวยพรให้พวกเราทั้งที สำหรับนักล่า ไม่มีสิ่งใดมอบโชคลาภให้ได้มากเท่านี้แล้ว

. จบตอน