ยามที่ศึกระหว่างทัพกบฏและกองทหารจักรวรรดิเข้าสู่ช่วงสุดท้าย จักรพรรดิวินเซนต์ วอลลาเคีย(ตัวปลอม)ได้ถูกกระสุนแสงเจาะทะลุร่าง
เหล่าเก้าแม่ทัพเทวะก็พากันทิ้งหน้าที่ปกป้องปราการ กำลังเสริมจากทิศตะวันตกทลายกำแพง ความโกลาหลได้แพร่ขยายไปทุกซอกมุมของจักรวรรดิ
วินเซนต์: จงตามข้ามา! สถานการณ์มันไม่ใช่แค่การปะทะกันระหว่างกองทหารกับทัพกบฏอีกต่อไปแล้ว! การแซกแทรงของฝ่ายมือที่ 3 ได้ทำให้เงื่อนไขแห่งชัยชนะมันเปลี่ยนไป!
วินเซนต์ วอลลาเคียใช้กองเศษหินเป็นเวทีเพื่อประกาศสถานการณ์ออกไปให้ชัดแจ้ง แก่เหล่าบริวารที่ประกอบด้วย แม่ทัพกอซ ราลโฟน แม่ทัพโอลบาร์ต ดันคลูเคน เสนาบดีเบลสเต็ตซ์ ฟอนดาลฟอน และนักอ่านดาราอูบิรูค
แม้บางคนในกลุ่มนี้จะยืนหยัดอยู่ฝั่งตรงข้ามกับวินเซนต์ในศึกก่อนหน้านี้ แต่ไม่มีใครคิดจะขัดคำสั่งเขาหรือใช้โอกาสนี้สังหารวินเซนต์เลย
วินเซนต์: ตอนนี้โมโกร ฮากาเนะกำลังถ่วงเวลาให้อยู่ แต่ผู้ที่ปะทะกับเขาอยู่บนฟากฟ้าคือบัลรอย เทเมกริฟ ที่ควรจะตายไปแล้ว เขาฟื้นคืนชีพมาพร้อมกับมกรคู่หูด้วยเหตุผลบางประการ
เบลสเต็ตซ์: กระผมเองก็มีเรื่องที่ต้องรายงานฝ่าบาทเกี่ยวกับประเด็นนั้นเช่นกัน ――เมื่อครู่ได้เจอกับฝ่าบาทลาเมีย ก็อดวินที่ห้องบัลลังก์ ซึ่งท่านผู้นั้นไม่ได้เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเลย
กอซ: นี่เจ้า! ฉันต่างหากที่ควรเป็นคนรายงานเรื่องนั้น! ฝ่าบาท! ไม่ใช่แค่ฝ่าบาทลาเมียนะขอรับ เชื้อพระวงศ์คนอื่นที่ตายไปใน “พิธีกรรมคัดเลือกจักรพรรดิ” ก็ฟื้นมาด้วยเช่นกัน!
กอซยังคงไม่พอใจที่เบลสเต็ตซ์ย้ายข้างแบบง่ายๆ แต่ชายชราผู้นั้นคำนึงถึงความรุ่งเรืองของจักรวรรดิวอลลาเคียเป็นอันดับแรก
ยามที่จักรวรรดิเผชิญกับวิกฤติ เบลสเต็ตซ์ย่อมให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีอยู่แล้ว
.
วินเซนต์: อูบิรูค แกรู้ล่วงหน้าว่า “มหาภัยพิบัติ” จะเกิดขึ้น เช่นนั้นแล้ว เรื่องการคืนชีพของบัลรอย เทเมกริฟ ลาเมีย ก็อดวิน และเชื้อพระวงศ์วอลลาเคียคนอื่นล่ะ?
อูบิรูค: เกรงว่าคงต้องตอบทั้ง “ใช่” และ “ไม่ใช่” ครับ ฝ่าบาท ผมได้ยินเสียงกระซิบบอกแค่ว่าการตายของวินเซนต์ วอลลาเคียจะกลายเป็นชนวนให้เกิด “มหาภัยพิบัติ” ก็เลยแอบเตรียมการป้องกันความพินาศของจักรวรรดิเอาไว้…
วินเซนต์: แสดงว่าไม่รู้รายละเอียดสินะ?
อูบิรูค: คร้าบผม
ถึงแม้ว่าวินเซนต์จะคาดเดาคำตอบนั้นไว้ แต่ดูจากการที่อูบิรูคกับพรรคพวกนักอ่านดาราช่วยเขาไว้ก่อนหน้านี้ อย่างน้อยก็ทำให้ชัดเจนว่าอูบิรูคอยู่ฝั่งตรงข้ามกับมหาภัยพิบัติ
วินเซนต์เริ่มวาดแผนที่นครหลวงจักรวรรดิในหัวและประเมินสถานการณ์ ความเจ็บปวดบริเวณกระดูกไหปลาร้าที่โดนจิชาใช้พัดเหล็กกระแทกช่วยให้สมองของวินเซนต์ตื่นตัวเต็มที่
ทว่า ตอนนั้นเอง…
เซซิลุส: เอ่อนี่? โทษทีที่ขัดตอนกำลังหารือกันอยู่นะ แต่ผมน่ะขอตัวไปทำหน้าที่ของผมด้วยการทำให้โลกหลงใหลก่อนจะได้ไหมครับ?
กอซ: หวา!? แม่ทัพเอกเซซิลุส!? พูดอะไรออกมาน่ะ!?
เซซิลุส: เปล่านะ ได้ยินเกี่ยวกับแม่ทัพเอกอะไรนี่มาหลายครั้งละ แต่จำไม่ได้เลยว่าเป็นใครเพราะไม่ได้สนใจเท่าไหร่ ถ้าเป็นอย่างงั้น ก็รู้สึกสงสารคุณแม่ทัพเอกที่ถูกเอามาเทียบกับผมจังเลยครับ!
ตอนที่วินเซนต์กำลังครุ่นคิดอยู่ การต่อสู้ระหว่างโมโกร ฮากาเนะกับมังกรเมฆาเมโซเรย์อาและบัลรอยก็ยังคงดำเนินต่อไป
อ่างเก็บน้ำที่แตกออกก็คงทำให้นครหลวงถูกน้ำท่วมในอีกไม่ช้า จึงไม่น่าแปลกใจที่เซซิลุสจะร้อนรนไม่อยากรออยู่เฉยๆ
เซซิลุส: คำปราศรัยเมื่อครู่นี้สุดยอดมากเลยครับ! ไม่สงสัยเลยว่าคุณจะต้องเป็นจักรพรรดิแห่งวอลลาเคียตัวจริงแน่นอน น่าเสียดายที่ผมน่ะไม่ได้ขึ้นตรงต่อจักรพรรดิหรือใครทั้งนั้น ถ้าอยากจะเปลี่ยนวิถีทางของผมก็ต้องเตรียมเส้นทางที่โรยดอกไม้เอาไว้ให้ด้วย!
วินเซนต์: ――ดังที่นัตสึกิ สุบารุทำไว้ งั้นหรือ?
เซซิลุส: ――? น่าเสียดายที่ไม่รู้ว่าพูดถึงใครอยู่ ชื่อฟังดูคล้ายกับคนที่ผมรู้จักอยู่หรอก แต่เรื่องนี้ผมคุยไว้กับแม่สาวงามเมื่อก่อนหน้านี้ล่ะน้า
ถึงแม้วินเซนต์จะไม่ทราบว่า “สาวงาม” ที่เซซิลุสพูดถึงคือใคร แต่เขาก็มั่นใจว่านัตสึกิ สุบารุต้องเป็นคนที่พาตัวเซซิลุสมายังนครหลวงพร้อมกับกำลังเสริมจากทิศตะวันตกแน่นอน
ถึงอย่างไรวินเซนต์ชินชากับการที่เซซิลุสชอบขัดคำสั่งเขาอยู่แล้ว คราวนี้เขาจึงบอกให้เซซิลุส “วิ่งเล่นตามใจชอบได้เลย”
แต่วินเซนต์เรียกชื่อเซซิลุสอีกครั้งก่อนที่เขาจะวิ่งจากไป แววตาของเจ้าหนุ่มน้อยสายฟ้าที่หันกลับมามองมันเหมือนกับคราวที่ทั้งสองได้พบกันครั้งแรกไม่มีผิด
วินเซนต์: เซซิลุส ――ดังที่เราเคยตกลงกันไว้ จะเตรียมเวทีใหญ่เอาไว้ให้แกเอง
เซซิลุส: ――อะฮ้า
พอได้ฟังคำประกาศสั้นๆ ของวินเซนต์ เซซิลุสก็วิ่งจากไปด้วยความเร็วดั่งลมกรด ทิ้งไว้เพียงเสียงหัวเราะสั้นๆ
ในตอนนี้ทั้งการปล่อยให้เซซิลุสทำตามใจชอบ ทั้งเรื่องทรยศของอูบิรูคและเบลสเต็ตซ์กลายเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยไปแล้ว เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือ…
วินเซนต์: ――ละทิ้งนครหลวงจักรวรรดิ ถอยทัพและรวบรวมกำลังพลเอาไว้ให้ได้มากที่สุด
.
อีกฝั่งหนึ่ง มีคนกลุ่มเล็กๆ ที่กำลังนั่งม้าลมกรดวิ่งฝ่าความวุ่นวายเข้าไปยังนครหลวงจักรวรรดิเพื่อมุ่งหน้าไปสู่พระราชวังแก้วผลึก
หัวหน้ากลุ่มคือ “นัตสึกิ สุบารุ” ตามด้วยพลทหารม้า “อิโดร่า มิซันก้า” และพาวเวอร์ฟูลเกิร์ล “ทันซ่า” ที่เป็นกำลังรบหลักในการบุกทลวงของหน่วยรบเพลอาเดส
แถมยังมีเบียทริซมาช่วยเสริมทัพด้วยเวทมนตร์และมีรุยคอยสนับสนุนด้วยพลังเคลื่อนย้ายข้ามมิติอีกต่างหาก
อิโดร่า: ชวาร์ซ! ไปที่ไหนก็เจอแต่ไอ้พวกนี้! นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย!?
ความสั่นกลัวของอิโดร่าเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะหลังจากปะทะกับทหารจักรวรรดิด้านหน้า ศัตรูที่พวกเขาได้เผชิญหลังจากนั้นมากลับกลายเป็นกลุ่มคนประหลาด
พวกมันมีใบหน้าซีดเผือก ดวงตาเป็นสีทอง มีรอยแตกอยู่ตามตัว แถมยังโจมตีทั้งพวกสุบารุและทหารจักรวรรดิแบบไม่แบ่งแยก
สุบารุ: ――ทันซ่า ฝากด้วยนะ!
ทันซ่า: รับทราบแล้วค่ะ
เพื่อยุติการสังหารเหล่าทหารอย่างเลือดเย็น สุบารุออกคำสั่งให้ทันซ่าลงมือ เด็กสาวจึงดีดตัวจากพื้นเพื่อเร่งความเร็วทันที
ทันซ่าพุ่งตัวไปหากลุ่มศัตรูแล้วใช้ส้นเท้าเตะกวาดจนเหล่าศัตรูจนกระเด็นไปอัดกำแพงรอบข้าง แล้วเธอก็บอกให้เหล่าทหารจักรวรรดิรีบหนีไป
ร่างของศัตรูไม่ได้กลายเป็นเศษเนื้อ แต่แตกเป็นชิ้นคล้ายเครื่องลายครามแทน เลือดสักหยดก็ไม่มีให้เห็น
สุบารุ: มันยังไงกันเนี่ย? อย่างกับตุ๊กตาหรือว่าโรบอท…
เบียทริซ: ――หรือว่าจะเป็น [สัตยาธิษฐานแห่งราชาอมตะ] งั้นเหรอยะ?
สุบารุ: ――! รู้อะไรงั้นเหรอ เบียทริซ!
เบียทริซ: เวทมนตร์ที่นำดวงวิญญาณกลับคืนสู่ร่างหลังจากที่ตายไป… ถือเป็นศาสตร์ต้องห้ามกระมัง เดิมทีท่านแม่คือผู้ที่ศึกษามัน แต่ว่ามันควรจะไม่สมบูรณ์นี่
สุบารุ: ศาสตร์ต้องห้ามที่คืนชีพผู้วายชนม์ แสดงว่าเป็นเวทมนตร์สายเนโครแมนเซอร์สินะ ในหัวยังมึนๆ อยู่บางส่วนก็จริง แต่ท่านแม่ของเธอเนี่ยไม่ได้เรื่องจริงๆ เล๊ย!
เบียทริซ: นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สุบารุพูดจาแย่ๆ กับท่านแม่ก็จริงนะยะ แต่ว่า ขืนพูดบ่อยเกินไป ก็ระวังว่าเบ็ตตี้จะโกรธด้วยละกันย่ะ
.
สุบารุสงสัยว่ามีใครสักคนในเก้าแม่ทัพเทวะเป็นเนโครแมนเซอร์ แต่เบียทริซมองว่าหากเป็นงั้นจริง วินเซนต์ควรจะบอกกันแต่เนิ่นๆ
พอได้ยินเบียทริซพูดถึงวินเซนต์ด้วยสีหน้าบูดบึ้ง สุบารุก็อดคิดไม่ได้ว่าวินเซนต์ก่อเรื่องอะไร เธอถึงได้ทำหน้าแบบนั้น
แต่ถ้าหากวินเซนต์อยู่ที่ใดสักแห่งในแนวหน้าด้วย การอาละวาดของพวกสุบารุคงต้องมีการปรับเปลี่ยนสักหน่อย
สุบารุ: ถ้างั้น การรับมือกับซอมบี้ ควรปล่อยให้ทางนั้นจัดการแทนที่จะเป็นชั้นดีไหม? หรือว่าตัวชั้นกับเบียทริซผู้แสนน่ารักและรอบรู้ควรเป็นคนจัดการพวกซอมบี้ดี… โอ๊ย โอ๊ย โอ๊ย อะไรเล่า!?
เบียทริซ: ไม่รู้ย่ะ แค่รู้สึกว่าสีหน้าของสุบารุมันดูน่าหงุดหงิดนิดหน่อยย่ะ
สุบารุ: ไหงงั้นฟะ!? ผิดเหรอที่เกิดมามีใบหน้าที่ก้ำกึ่งระหว่างทรงสเน่ห์กับอวดดีน่ะ!?
เบียทริซ: รู้สึกหงุดหงิดเพราะว่าหลังได้ยินชื่ออาเบล นายดูโล่งใจขึ้นชอบกลกระมัง
อยู่ดีๆ สุบารุก็โดนเบียทริซหยิกต้นขา แต่เขาก็พยายามแก้ต่างว่าการได้เจอกับเบียทริซอีกครั้งทำให้เขาดีใจกว่าตอนรู้ว่าวินเซนต์มาตามนัดเสียอีก
สุบารุแตะไหล่อิโดร่าให้หยุดม้าชั่วคราวเพื่อตัดสินใจก้าวต่อไป
ทันซ่า: ท่านชวาร์ซ ถ้าเกิดว่าหยอกล้อกันเสร็จแล้ว จะเอายังไงต่อคะ?
สุบารุ: เจ็บจี๊ดเลยว้อย! ไม่ได้จะหยอกย้อกันสักหน่อยเฟ้ย… ว่าแต่ เบียทริซ! หลังกำจัดผู้ร่ายมนตร์เจ้าเวทมนตร์ซอมบี้นี่จะหยุดลงไหม?
เบียทริซ: เวทมนตร์ที่แทรกแซงร่างกายของผู้อื่นมีเพียงแค่เวทมนตร์เงาและเวทมนตร์ตะวันกระมัง ทั้งสองธาตุน่ะ ถ้าเกิดว่าผู้ร่ายมนตร์ตายไป ปกติผลของเวทมนตร์ก็จะหยุดลง เพราะงั้น กรณีนี้ก็น่าจะเหมือนกันกระมัง
กระนั้นสุดท้ายแล้วเบียทริซก็ไม่เคยเห็นเวท “สัตยาธิษฐานแห่งราชาอมตะ” กับตา เธอจึงไม่สามารถยืนยันเรื่องวิธีหยุดยั้งและไม่สามารถระบุตำแหน่งของผู้ใช้ได้
.
สุบารุประเมินว่าซอมบี้แอทแทคครั้งนี้ไม่น่าใช่ฝีมือของวินเซนต์ และเจ้าตัวการซอมบี้ไมสเตอร์น่าจะเป็นอิเรกูลาร์(ตัวตนแปลกปลอม)ในศึกครั้งนี้
นั่นแปลว่าการโค่นจักรพรรดิตัวปลอมบนบัลลังก์ไม่ได้ช่วยทำให้ศึกครั้งนี้จบลงอีกต่อไปแล้ว แต่พวกอิโดร่าก็พร้อมร่วมมือไม่ว่าสุบารุจะตัดสินใจอย่างไร
สุบารุ: ยังขาดปัจจัยช่วยตัดสิน อย่างที่คิดที่นี่คง… โอ๊ยๆๆๆๆ โอ๊ยย!
เบียทริซ: สุบารุ!?
ทันซ่า: ท่านชวาร์ซ!?
คราวนี้สุบารุโดนอีกคนดึงผมจนร้องด้วยความเจ็บปวด แต่ตัวการไม่ใช้ทั้งเบียทริซ ทันซ่าหรืออิโดร่า
สุบารุ: อะไรฟะ รุย! อย่ามาดึงผมกันสิ! วิธีการป้องกันหัวล้านตอนแก่มันคือการดูแลผมให้ดีตอนยังหนุ่ม…
รุย: อูอาอู! อู! อาอู! อาาาอู!
รุยลูบหลังสุบารุและชี้นิ้วไปยังทิศเหนือ ซึ่งเป็นที่ตั้งของพระราชวังแก้วผลึก แต่ทิศที่ชี้ไปมันเบี่ยงไปจากพระราชวังเล็กน้อย
ชัดเจนว่าเด็กสาวต้องให้สุบารุมุ่งหน้าไปยังทิศดังกล่าว สุบารุถามยืนยันจากเบียทริซว่าพวกพ้องทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าไหม แต่เธอตอบแบบบ่ายเบี่ยงว่า “ไม่”
ดังนั้น หากลองวิเคราะห์สถานการณ์ดูแล้ว ถ้าหากจะมีใครอีกคนที่รุยห่วงใยขนาดนี้นอกจากสุบารุก็คงเป็น…
สุบารุ: ทันซ่า! อิโดร่า! เบียทริซกับรุยก็ด้วย เปลี่ยนแผนกัน! ――ก่อนอื่น ต้องไปตามที่รุยชี้! ไปรับตัวคนสำคัญตรงนั้นกัน!
เบียทริซ: ตามรุย… ถ้างั้น ที่อยู่ทางนั้นก็คือ…
สุบารุ: ――ไปรับตัวเรม แล้วพาคนหนีออกจากนครหลวงจักรวรรดิให้ได้มากที่สุด! เราต้องรีบแข่งกับเวลาแล้ว!
เป็นเหตุบังเอิญอย่างน่าเหลือเชื่อที่สุบารุตัดสินใจแบบเดียวกันกับวินเซนต์ที่ไม่ได้ที่นั่นด้วยเลย
.
จบตอน