ลาเมีย: ตั้งแต่ตอนนั้นก็ผ่านมาแล้วตั้ง 9 ปี แต่ว่านายไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิดนะค้า ยังเหมือนกับตอนที่ฉันตายเป๊ะเลย
เบลสเต็ตซ์: ――ฝ่าบาทพูดถูกแล้วขอรับ นับตั้งแต่ตอนนั้น เวลาของกระผมเองก็ได้หยุดลงไปเช่นกันขอรับ ฝ่าบาทลาเมีย
เบลสเต็ตซ์เริ่มย่างก้าวเข้าไปหาอดีตนายหญิงอย่างไม่หยุดหย่อน แต่มันเป็นการก้าวเดินที่เชื่องช้า สมกับที่เจ้าตัวเป็นชายแก่ผู้อ่อนแอ
ถึงอย่างไร เบลสเต็ตซ์ก็เป็นเพียงแกะในฝูงหมาป่าที่ทาสีดำให้ตัวเองดูน่าเกรงขาม เขากลายเป็นแพะเฒ่าจอมเจ้าเล่ห์ที่คอยอวดเขาให้ผู้อื่นเห็นว่ายังมีตัวตนอยู่
ในมือของลาเมียคือ “ดาบแสงตะวัน” สัญลักษณ์แห่งวอลลาเคีย หนึ่งในสิบดาบเลื่องชื่อของโลก ดาบเวทมนตร์สุดแสนทรงพลังที่เผาพลาญศัตรูได้ในการโจมตีเดียว
ในขณะที่เบลสเต็ตซ์มีไพ่ตายเป็นเพียงแค่แหวน “มีทิเออร์” ที่ใช้มานาธาตุอัคคี ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำตำแหน่งอัครเสนาบดีแห่งจักรวรรดิ
แถมมันยังไม่ใช่ของใหม่ เป็นเพียงแค่ลูกเล่นเดิมที่ลาเมียเคยเห็นมาแล้วที่ห้องบัลลังก์ของพระราชวังแก้วผลึก
เบลสเต็ตซ์: ――ฝ่าบาท
เขารู้ตัวดีว่าจะถูกเผาเป็นเถ้าถ่านในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า กระนั้น เบลสเต็ตซ์ก็จะใช้ชั่ววินาทีที่ยาวนานที่สุดตลอดชีวิต 70 ปีของเขาให้คุ้มค่าที่สุด
เบลสเต็ตซ์: พวกเราน่ะ …พ่ายแพ้ไปแล้วขอรับ!
เบลสเต็ตซ์ใช้แหวนยิงเวทอัคคีระเบิดพื้นใต้ขาตัวเองเพื่อใช้แรงระเบิดส่งร่างของเขาให้พุ่งไปหาลาเมียได้ไวขึ้น
ลาเมีย: ――นี่คุณ ทำหน้าตาสลดใจแบบนั้นเป็นเหมือนกันเหรอคะเนี่ย
ทั้งที่เป็นนายบ่าวที่อยู่ด้วยกันมานาน นี่กลับเป็นครั้งแรกที่ลาเมียพึ่งเคยได้เห็นใบหน้าที่เหี่ยวย่นและอ่านอารมณ์ยากของเบลสเต็ตซ์แสดงสีหน้าของชายชราที่กำลังสะอื้นไห้ออกมา
ร่างของเบลสเต็ตซ์พุ่งเข้าไปปะทะกับลาเมีย แรงระเบิดส่งผลให้ทั้งสองปลิวทะลุกำแพงที่โดนหน่วยตัดกิ่งเจาะทะลุไปก่อนหน้านี้ออกไปนอกคันรถ
นิ้วมือที่เหี่ยวแห้งของชายแก่จับชุดเดรสของหญิงสาวผู้เลอโฉมไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ร่างทั้งคู่จึงหลุดพ้น “พรคุ้มครองแห่งการเลี่ยงสายลม” ไปพร้อมกัน
. “พรคุ้มครอง” ยังมีปริศนาเกี่ยวกับหลักการทำงานของมันอยู่มากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือพรคุ้มครองมันส่งผลต่อ “ดวงวิญญาณ” ของผู้ถือครองและผู้ได้รับผลกระทบ
ด้วยเหตุนี้ ชั่ววินาทีที่หนึ่งในร่างแยกของลาเมียหลุดพ้นจากพรคุ้มครองแห่งการเลี่ยงสายลม ร่างแยกจำนวนนับไม่ถ้วนของลาเมีย ก็อดวินก็หยุดชะงักไปพร้อมกันๆ
ทั้งลาเมียที่ต่อสู้กับกอซอยู่ ทั้งลาเมียที่ต่อสู้กับการ์ฟีลอยู่ ทั้งลาเมียที่ต่อสู้กับรอสวาลอยู่ ทั้งลาเมียที่ต่อสู้กับเอมิเลียอยู่ รวมถึงลาเมียที่อยู่เบื้องหน้าวินเซนต์
วินเซนต์: ――อึก
ทันทีที่วินเซนต์เห็นลาเมียหงายหลังราวกับโดนกระแสลมรุนแรงพัด เขาก็ยืดขาออกไปเตะซ้ำ จนร่างของลาเมียกระเด็นทะลุประตูไปโผล่ยังอีกขบวนหนึ่ง
ประกายดาบสีรุ้งของยุลิอุสฟาดฟันหน่วยตัดกิ่งที่ยืนขวางอยู่บริเวณประตูเพื่อเปิดทางให้เด็กสามคนพุ่งทะยานออกไป
สุบารุที่อยู่ตรงกลางจับมือเด็กสาวสองคนไว้ฝั่งละข้าง ฝั่งหนึ่งคือเบียทริซที่ร่ายเวทมนตร์ช่วยเพิ่มความเร็วให้แก่เด็กทั้งสาม
สุบารุ: ――ลาเมีย ก็อดวิน!
สปิก้า: ――อิอาอาอิอาอู(ขอทานล่ะนะคะ)
หลังจากที่สุบารุตะโกนนามของเธอออกมา สปิก้าก็เอื้อมมือไปสัมผัสร่างของ “เจ้าหญิงพิษ” ที่กระเด็นเข้ามาในขบวนรถ แล้วขโมย “ชื่อ” ของเธอไป
. จบตอน