หมู่บ้านแห่งหนึ่งถูกกลุ่มโจรบุกปล้น พวกมันเข่นฆ่าผู้ชาย แย่งชิงอาหาร และพยายามจะจับผู้หญิงกับเด็กไปขาย เคราะห์ดีที่กองทหารจากนครหลวงสามารถปกป้องหมู่บ้านไว้ได้ทัน
หลังจากที่กองทหารบดขยี้กลุ่มโจร พวกเขาก็ตั้งค่ายปักหลักที่หมู่บ้านชั่วคราวเพื่อช่วยฟื้นฟูความเสียหายและเสริมสร้างกำแพงให้ดียิ่งขึ้น
คืนหนึ่งชายที่เป็นผู้นำของกองทหารมายืนจ้องมองท้องฟ้าอันมืดมิดอยู่บนเนินคนเดียว จนกระทั่งหญิงสาวชาวบ้านคนหนึ่งบังเอิญเดินมาพบเขา
ตามวิถีจักรวรรดิ การจ้องมองเส้นขอบฟ้าที่ไม่มีอะไรอยู่ดูเป็นการกระทำที่ไร้ความหมาย แต่หญิงสาวกลับไม่รู้สึกว่าชายหนุ่มบ้าบอเลยสักนิด
ไอริส: แทนที่จะมัวจ้องแต่ความมืดมิด สู้นับดวงดาราบนท้องฟ้าน่าจะช่วยให้สงบใจได้มากกว่าไหมคะ?
นั่นคือการพบกันครั้งแรกของหญิงสาวและราชาที่จะกลายเป็นตำนานเล่าสืบขานต่อไปอีกเนิ่นนาน
. ยอร์น่า มิชิกุเระลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องนอนหรูหราที่ไม่คุ้นเคย ทั้งที่ตามความทรงจำล่าสุดเธอควรจะกำลังต่อสู้ร่วมกับลูกสาวอยู่ในนครหลวงจักรวรรดิ
มีใครบางคนเปลี่ยนชุดกิโมโนที่ยอร์น่าสวมเป็นประจำเป็นชุดเดรสสีน้ำเงินแทนตอนที่เธอหมดสติ
แถมเครื่องประดับผมและต่างหูก็ถูกถอดออกจนเส้นผมของเธอคลายจากทรงที่ปกติมัดไว้
??: ――ตื่นแล้วงั้นรึ ดวงดาราของข้า
ยอร์น่า: ――อ๊ะ
น้ำเสียงที่คุ้นเคยทำให้สมองของยอร์น่าชะงักไปชั่วขณะ เธอจดจ่อสติที่มีทั้งหมดไปหาชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้อง
เขาเป็นชายร่างเล็ก มองผิวเผินคล้ายเด็ก แต่มีใบหน้าหล่อเหลาสมชายชาตรี ผมสีเขียวเข้มไว้ยาวประบ่า ขอบตาดำเข้มเหมือนคนนอนน้อยไม่ค่อยเป็นมิตร
กระนั้นยอร์น่าก็รู้ซึ้งดีว่าเขาคนนี้มิเคยคิดจะผลักไสผู้คนเลยสักนิด กระทั่งในวาระสุดท้ายเขาก็ยังปรารถนาจะอยู่เคียงข้างเธอ
ยอร์น่า: …ฝ่าบาท งั้นหรือเจ้าคะ?
??: พูดจาแปลกไปนะ แต่ไม่ว่าหรอก เพราะมันเกี่ยวพันกับดวงวิญญาณของเจ้า
น้ำเสียงของเขาเปี่ยมล้นไปด้วยความโทมนัสเนื่องจากอารมณ์รักอันท่วมท้นที่มีต่อยอร์น่า
??: ได้พบกันอีกครั้งหลังห่างเหินไปตั้งเกือบ 300 ปี มิยอมให้ใครมาขวางทางระหว่างเราผู้นี้กับเจ้าได้หรอก ――ขอยลโฉมใบหน้านั้นหน่อย ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์จะเปลี่ยนไป ก็ยังอยากเห็นเจ้ากระพริบตาใกล้ๆ อยู่ดี
ใจจริงแล้วยอร์น่าอยากที่จะสลัดทิ้งความคิดทั้งมวลแล้วโผเข้าสู่อ้อมกอดของชายตรงหน้า แต่ประสบการณ์ช่วงหลายสิบปีหลังนี้ทำให้เธอสงบอารมณ์ตัวเองเอาไว้ได้
ยอร์น่า: ――ฝ่าบาทยูการ์ด วอลลาเคีย
. ไม่มีทางที่ยอร์น่าจะจำผิดคน เนื่องจากชายตรงหน้าคืออดีตคนรักของเธอ จักรพรรดิยูการ์ด วอลลาเคีย “ราชาแห่งหนาม”
เรื่องราวของ “ไอริสและราชาแห่งหนาม” กลายเป็นนิทานจากตำนานจริงที่อันโด่งดังไปทั่วโลก แต่น้อยคนจะรู้ว่าแท้จริงแล้วไอริสคือตัวตนเดียวกับยอร์น่า มิชิกุเระ
เนื่องจากดวงวิญญาณของไอริสถูกสาปให้ตายเกิดวนเวียนอยู่ในแผ่นดินจักรวรรดิเรื่อยไป โดยฝีมือของ “ยูการ์ด วอลลาเคีย” ผู้นี้นั่นเอง
การได้กลับมาพบยูการ์ดอีกครั้งควรจะเป็นความปรารถนาสูงสุดของยอร์น่า แต่สภาพของยูการ์ดในปัจจุบันมันมิใช่ดังที่ยอร์น่านึกฝันไว้
ผิวของอดีตจักรพรรดิซีดเผือกเหมือนซากศพ แถมเขายังมีดวงตาสีทองน่าขนลุก ซึ่งยอร์น่าสังหรณ์ได้ทันทีว่ามิใช่เรื่องดีแน่ๆ
. ยอร์น่าคาดเดาว่าปัจจุบันเธอคงอยู่ในพระราชวังแก้วผลึก และคงเกิดเหตุเลวร้ายบางอย่างขึ้นช่วงที่เธอหมดสติไป
ยอร์น่า: ฝ่าบาท ท่านทำเช่นนี้ไปเพื่ออะไร…
ยูการ์ด: ――ดวงดาราของข้า
ยอร์น่า: อะ…อั่ก…
พอยูการ์ดชูนิ้วขึ้นมา หัวใจของยอร์น่าก็รู้สึกเจ็บแปลบอย่างกะทันหัน นอกจากนี้ยังมีหนามแหลมสีเทาปรากฏขึ้นบนชุดเดรสบริเวณหน้าอกของเธอ
หนามแหลมทิ่มแทงผิวหนังเข้าไปสู่ภายใน สร้างความเจ็บปวดรวดร้าวไปทั่วร่าง ยอร์น่าพยายามคว้าหนามเอาไว้ แต่มันกลับทะลุผ่านมือเธอไป
หนามแหลมที่แตะต้องไม่ได้นั้นคือพลังแห่งความกลัวที่จักรพรรดิยูการ์ดผู้ยิ่งใหญ่ใช้ปกครองผู้คนและขยายอาณาเขตดินแดนของจักรวรรดิให้กว้างใหญ่เฉกเช่นทุกวันนี้
. ในที่สุดยอร์น่าก็จำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนที่เธอจะหมดสติ หลังจากที่เธอกับพริสซิลล่าปราบอาราเคียลงได้ ผีดิบยูการ์ดก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าพวกเธอ
ยอร์น่าที่มัวแต่ยืนอึ้งถูกยูการ์ดใช้หนามแหลมผูกรัดไว้ พริสซิลล่าจึงต้องประจันหน้ากับยูการ์ดและทัพซอมบี้ที่ตามมากับเขาด้วยตัวคนเดียว
สำหรับยูการ์ด การใช้หนามทิ่มแทงผู้คนให้กรีดร้องคือวิธีการสื่อสารอย่างเดียวที่เจ้าตัวรู้จัก
ยอร์น่ายังคงคุ้นเคยกับความเจ็บปวดนั้นเป็นอย่างดี เธอจึงสามารถทนความเจ็บและยิงคำถามสวนไปได้
ยอร์น่า: อีกสองคนที่อยู่กับข้าน้อยยังปลอดภัยดีหรือเปล่าเจ้าคะ?
ยูการ์ด: ขอเพียงได้เจ้าคืนมา คนอื่นก็ไม่อยู่ในสายตาของเราผู้นี้ มีเพียงดวงดาราของข้าที่อยู่สายตา เพียงเจ้าเท่านั้น
ยอร์น่า: งั้นเอง…หรือเจ้าคะ…
พอสังเกตเห็นว่ายอร์น่าเสียงอ่อยลงหลังได้ฟังคำตอบ ยูการ์ดจึงกล่าวเสริมต่ออีกเล็กน้อย
ยูการ์ด: …แต่ได้ยินว่า “แม่มด” พาตัวคนเป็นเข้าวังมาด้วย อาจจะมีคนที่เจ้าพูดถึงปนอยู่ก็ได้
ยูการ์ดในความทรงจำของยอร์น่ามีดวงตาสีครามมิใช่สีทองอย่างในปัจจุบัน กระนั้นสายตาที่เขาจดจ้องเธอและความเอาใจใส่ในแบบแปลกๆ แลดูจะไม่เปลี่ยนไป
. ยอร์น่าอยากที่จะยืนยันความปลอดภัยของพริสซิลล่าและอาราเคียเป็นลำดับแรก เธอจึงขอร้องให้ยูการ์ดช่วยตรวจสอบว่าคนที่ “แม่มด” พาเข้าปราสาทมาใช่สองคนนั้นหรือเปล่า
ยูการ์ด: ――เจ้าล้มเลิกที่จะใฝ่หาความตายได้หรือเปล่าล่ะ ดวงดาราของข้า
คำถามของยูการ์ดทิ่มแทงใจของยอร์น่าให้เจ็บปวดรวดร้าว เขามองออกอย่างทะลุปรุโปร่งถึงความปรารถนาที่แท้จริงของไอริสที่เวียนว่ายตายเกิดมาหลายครั้งหลายครา
วินเซนต์ วอลลาเคียเองก็มองเรื่องนั้นออกเช่นกัน ยอร์น่าถึงได้เลือกสู้อยู่เคียงข้างเขาในสงครามกลางเมือง เพราะงั้น เธอจึงตัดสินใจได้อย่างแน่วแน่
ยอร์น่า: หากช่วยรักษาชีวิตของเด็กพวกนั้นเอาไว้ได้ ความตายของข้าน้อยก็เป็นเพียงเรื่องไม่สำคัญเจ้าค่ะ
ยูการ์ด: ย่อมได้ จะรับฟังความปรารถนาของเจ้าเอาไว้ ดวงดาราของข้า
ยูการ์ดเอื้อมมือมาสัมผัสใบหน้าของยอร์น่า ความเยือกเย็นของนิ้วมือเขาทำให้หนามแหลมทิ่มแทงลึกกว่าเดิม
ก่อนที่ยูการ์ดจะเดินออกประตูห้องไป ยอร์น่าก็ทักขึ้นอีกครั้งเพื่อถามว่าชุดกิโมโนและเครื่องประดับของเธออยู่ที่ไหน
ยูการ์ดบอกว่าชุดและเครื่องประดับเหล่านั้นไม่ตรงรสนิยมของเขาเท่าไร แต่เนื่องจากมันคือสิ่งที่คนรักสวมใส่ เขาจึงเก็บเอาไว้ให้ที่ชั้นวางของข้างเตียง
. หลังชี้จุดเก็บของเสร็จ ยูการ์ดก็เดินจากไปทันที เขายังคงเป็นคนที่ใช้ชีวิตเร่งรีบราวกับว่าเวลาใกล้จะหมดเหมือนตอนที่ยังมีชีวิตอยู่
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ไอริสที่อยู่เคียงข้างยูการ์ดก็จะเป็นผู้คอยย้ำเตือนเขาอยู่เสมอว่าไม่ต้องเร่งรีบไปราวกับเด็กสาวผู้บอบบาง
พอเปิดลิ้นชักของชั้นวางของดู ยอร์น่าก็พบชุดกิโมโนสายคาดที่พับเก็บไว้อย่างดี พร้อมเครื่องประดับอื่นๆ แต่ทันทีที่รู้สึกโล่งใจ น้ำตากลับไหลอาบแก้มเธอ
ในยามนี้ ยอร์น่า มิชิกุเระ “สีมั่งคั่ง” นายหญิงแห่งนครมารรู้สึกเหมือนตนย้อนกลับไปเป็นแค่ “ไอริส” หญิงสาวชาวบ้านธรรมดาอีกครั้ง
เธอกลับไปเป็น “ไอริส” ที่เลือกเก็บรักษาที่สิ่งรักและหวงแหนได้เพียงอย่างเดียว และต้องทอดทิ้งสิ่งที่สั่งสมมากว่า 300 ปีที่ผ่านมาไปจนหมด
ยอร์น่า: ทำไมกันเจ้าคะ ฝ่าบาท… ทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วย?
ยอร์น่าอยากที่จะรักพริสซิลล่า ชาวเมืองเคออสเฟลม และสิ่งต่างๆ อีกมากมายในจักรวรรดิ กระนั้นหนามแหลมที่ทิ่มแทงหัวใจก็ทำให้เธอเริ่มลืมเลือนสิ่งเหล่านั้นไป
ความเจ็บปวดอันหวานชื่นที่แสนชวนให้คิดถึงเหล่านี้ ยอร์น่ารู้สึกเกรงกลัวเหลือเกินว่าเธอจะต้านทานมันไม่ไหว
. จบตอน