webnovel arc8 chapter29

บทที่ 8 ตอนที่ 29 "มิอยากที่จะรัก"

หมู่บ้านแห่งหนึ่งถูกกลุ่มโจรบุกปล้น พวกมันเข่นฆ่าผู้ชาย แย่งชิงอาหาร และพยายามจะจับผู้หญิงกับเด็กไปขาย เคราะห์ดีที่กองทหารจากนครหลวงสามารถปกป้องหมู่บ้านไว้ได้ทัน

หลังจากที่กองทหารบดขยี้กลุ่มโจร พวกเขาก็ตั้งค่ายปักหลักที่หมู่บ้านชั่วคราวเพื่อช่วยฟื้นฟูความเสียหายและเสริมสร้างกำแพงให้ดียิ่งขึ้น

คืนหนึ่งชายที่เป็นผู้นำของกองทหารมายืนจ้องมองท้องฟ้าอันมืดมิดอยู่บนเนินคนเดียว จนกระทั่งหญิงสาวชาวบ้านคนหนึ่งบังเอิญเดินมาพบเขา

ตามวิถีจักรวรรดิ การจ้องมองเส้นขอบฟ้าที่ไม่มีอะไรอยู่ดูเป็นการกระทำที่ไร้ความหมาย แต่หญิงสาวกลับไม่รู้สึกว่าชายหนุ่มบ้าบอเลยสักนิด

ไอริส: แทนที่จะมัวจ้องแต่ความมืดมิด สู้นับดวงดาราบนท้องฟ้าน่าจะช่วยให้สงบใจได้มากกว่าไหมคะ?

นั่นคือการพบกันครั้งแรกของหญิงสาวและราชาที่จะกลายเป็นตำนานเล่าสืบขานต่อไปอีกเนิ่นนาน

. ยอร์น่า มิชิกุเระลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องนอนหรูหราที่ไม่คุ้นเคย ทั้งที่ตามความทรงจำล่าสุดเธอควรจะกำลังต่อสู้ร่วมกับลูกสาวอยู่ในนครหลวงจักรวรรดิ

มีใครบางคนเปลี่ยนชุดกิโมโนที่ยอร์น่าสวมเป็นประจำเป็นชุดเดรสสีน้ำเงินแทนตอนที่เธอหมดสติ

แถมเครื่องประดับผมและต่างหูก็ถูกถอดออกจนเส้นผมของเธอคลายจากทรงที่ปกติมัดไว้

??: ――ตื่นแล้วงั้นรึ ดวงดาราของข้า

ยอร์น่า: ――อ๊ะ

น้ำเสียงที่คุ้นเคยทำให้สมองของยอร์น่าชะงักไปชั่วขณะ เธอจดจ่อสติที่มีทั้งหมดไปหาชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้อง

เขาเป็นชายร่างเล็ก มองผิวเผินคล้ายเด็ก แต่มีใบหน้าหล่อเหลาสมชายชาตรี ผมสีเขียวเข้มไว้ยาวประบ่า ขอบตาดำเข้มเหมือนคนนอนน้อยไม่ค่อยเป็นมิตร

กระนั้นยอร์น่าก็รู้ซึ้งดีว่าเขาคนนี้มิเคยคิดจะผลักไสผู้คนเลยสักนิด กระทั่งในวาระสุดท้ายเขาก็ยังปรารถนาจะอยู่เคียงข้างเธอ

ยอร์น่า: …ฝ่าบาท งั้นหรือเจ้าคะ?

??: พูดจาแปลกไปนะ แต่ไม่ว่าหรอก เพราะมันเกี่ยวพันกับดวงวิญญาณของเจ้า

น้ำเสียงของเขาเปี่ยมล้นไปด้วยความโทมนัสเนื่องจากอารมณ์รักอันท่วมท้นที่มีต่อยอร์น่า

??: ได้พบกันอีกครั้งหลังห่างเหินไปตั้งเกือบ 300 ปี มิยอมให้ใครมาขวางทางระหว่างเราผู้นี้กับเจ้าได้หรอก ――ขอยลโฉมใบหน้านั้นหน่อย ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์จะเปลี่ยนไป ก็ยังอยากเห็นเจ้ากระพริบตาใกล้ๆ อยู่ดี

ใจจริงแล้วยอร์น่าอยากที่จะสลัดทิ้งความคิดทั้งมวลแล้วโผเข้าสู่อ้อมกอดของชายตรงหน้า แต่ประสบการณ์ช่วงหลายสิบปีหลังนี้ทำให้เธอสงบอารมณ์ตัวเองเอาไว้ได้

ยอร์น่า: ――ฝ่าบาทยูการ์ด วอลลาเคีย

. ไม่มีทางที่ยอร์น่าจะจำผิดคน เนื่องจากชายตรงหน้าคืออดีตคนรักของเธอ จักรพรรดิยูการ์ด วอลลาเคีย “ราชาแห่งหนาม”

เรื่องราวของ “ไอริสและราชาแห่งหนาม” กลายเป็นนิทานจากตำนานจริงที่อันโด่งดังไปทั่วโลก แต่น้อยคนจะรู้ว่าแท้จริงแล้วไอริสคือตัวตนเดียวกับยอร์น่า มิชิกุเระ

เนื่องจากดวงวิญญาณของไอริสถูกสาปให้ตายเกิดวนเวียนอยู่ในแผ่นดินจักรวรรดิเรื่อยไป โดยฝีมือของ “ยูการ์ด วอลลาเคีย” ผู้นี้นั่นเอง

การได้กลับมาพบยูการ์ดอีกครั้งควรจะเป็นความปรารถนาสูงสุดของยอร์น่า แต่สภาพของยูการ์ดในปัจจุบันมันมิใช่ดังที่ยอร์น่านึกฝันไว้

ผิวของอดีตจักรพรรดิซีดเผือกเหมือนซากศพ แถมเขายังมีดวงตาสีทองน่าขนลุก ซึ่งยอร์น่าสังหรณ์ได้ทันทีว่ามิใช่เรื่องดีแน่ๆ

. ยอร์น่าคาดเดาว่าปัจจุบันเธอคงอยู่ในพระราชวังแก้วผลึก และคงเกิดเหตุเลวร้ายบางอย่างขึ้นช่วงที่เธอหมดสติไป

ยอร์น่า: ฝ่าบาท ท่านทำเช่นนี้ไปเพื่ออะไร…

ยูการ์ด: ――ดวงดาราของข้า

ยอร์น่า: อะ…อั่ก…

พอยูการ์ดชูนิ้วขึ้นมา หัวใจของยอร์น่าก็รู้สึกเจ็บแปลบอย่างกะทันหัน นอกจากนี้ยังมีหนามแหลมสีเทาปรากฏขึ้นบนชุดเดรสบริเวณหน้าอกของเธอ

หนามแหลมทิ่มแทงผิวหนังเข้าไปสู่ภายใน สร้างความเจ็บปวดรวดร้าวไปทั่วร่าง ยอร์น่าพยายามคว้าหนามเอาไว้ แต่มันกลับทะลุผ่านมือเธอไป

หนามแหลมที่แตะต้องไม่ได้นั้นคือพลังแห่งความกลัวที่จักรพรรดิยูการ์ดผู้ยิ่งใหญ่ใช้ปกครองผู้คนและขยายอาณาเขตดินแดนของจักรวรรดิให้กว้างใหญ่เฉกเช่นทุกวันนี้

. ในที่สุดยอร์น่าก็จำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนที่เธอจะหมดสติ หลังจากที่เธอกับพริสซิลล่าปราบอาราเคียลงได้ ผีดิบยูการ์ดก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าพวกเธอ

ยอร์น่าที่มัวแต่ยืนอึ้งถูกยูการ์ดใช้หนามแหลมผูกรัดไว้ พริสซิลล่าจึงต้องประจันหน้ากับยูการ์ดและทัพซอมบี้ที่ตามมากับเขาด้วยตัวคนเดียว

สำหรับยูการ์ด การใช้หนามทิ่มแทงผู้คนให้กรีดร้องคือวิธีการสื่อสารอย่างเดียวที่เจ้าตัวรู้จัก

ยอร์น่ายังคงคุ้นเคยกับความเจ็บปวดนั้นเป็นอย่างดี เธอจึงสามารถทนความเจ็บและยิงคำถามสวนไปได้

ยอร์น่า: อีกสองคนที่อยู่กับข้าน้อยยังปลอดภัยดีหรือเปล่าเจ้าคะ?

ยูการ์ด: ขอเพียงได้เจ้าคืนมา คนอื่นก็ไม่อยู่ในสายตาของเราผู้นี้ มีเพียงดวงดาราของข้าที่อยู่สายตา เพียงเจ้าเท่านั้น

ยอร์น่า: งั้นเอง…หรือเจ้าคะ…

พอสังเกตเห็นว่ายอร์น่าเสียงอ่อยลงหลังได้ฟังคำตอบ ยูการ์ดจึงกล่าวเสริมต่ออีกเล็กน้อย

ยูการ์ด: …แต่ได้ยินว่า “แม่มด” พาตัวคนเป็นเข้าวังมาด้วย อาจจะมีคนที่เจ้าพูดถึงปนอยู่ก็ได้

ยูการ์ดในความทรงจำของยอร์น่ามีดวงตาสีครามมิใช่สีทองอย่างในปัจจุบัน กระนั้นสายตาที่เขาจดจ้องเธอและความเอาใจใส่ในแบบแปลกๆ แลดูจะไม่เปลี่ยนไป

. ยอร์น่าอยากที่จะยืนยันความปลอดภัยของพริสซิลล่าและอาราเคียเป็นลำดับแรก เธอจึงขอร้องให้ยูการ์ดช่วยตรวจสอบว่าคนที่ “แม่มด” พาเข้าปราสาทมาใช่สองคนนั้นหรือเปล่า

ยูการ์ด: ――เจ้าล้มเลิกที่จะใฝ่หาความตายได้หรือเปล่าล่ะ ดวงดาราของข้า

คำถามของยูการ์ดทิ่มแทงใจของยอร์น่าให้เจ็บปวดรวดร้าว เขามองออกอย่างทะลุปรุโปร่งถึงความปรารถนาที่แท้จริงของไอริสที่เวียนว่ายตายเกิดมาหลายครั้งหลายครา

วินเซนต์ วอลลาเคียเองก็มองเรื่องนั้นออกเช่นกัน ยอร์น่าถึงได้เลือกสู้อยู่เคียงข้างเขาในสงครามกลางเมือง เพราะงั้น เธอจึงตัดสินใจได้อย่างแน่วแน่

ยอร์น่า: หากช่วยรักษาชีวิตของเด็กพวกนั้นเอาไว้ได้ ความตายของข้าน้อยก็เป็นเพียงเรื่องไม่สำคัญเจ้าค่ะ

ยูการ์ด: ย่อมได้ จะรับฟังความปรารถนาของเจ้าเอาไว้ ดวงดาราของข้า

ยูการ์ดเอื้อมมือมาสัมผัสใบหน้าของยอร์น่า ความเยือกเย็นของนิ้วมือเขาทำให้หนามแหลมทิ่มแทงลึกกว่าเดิม

ก่อนที่ยูการ์ดจะเดินออกประตูห้องไป ยอร์น่าก็ทักขึ้นอีกครั้งเพื่อถามว่าชุดกิโมโนและเครื่องประดับของเธออยู่ที่ไหน

ยูการ์ดบอกว่าชุดและเครื่องประดับเหล่านั้นไม่ตรงรสนิยมของเขาเท่าไร แต่เนื่องจากมันคือสิ่งที่คนรักสวมใส่ เขาจึงเก็บเอาไว้ให้ที่ชั้นวางของข้างเตียง

. หลังชี้จุดเก็บของเสร็จ ยูการ์ดก็เดินจากไปทันที เขายังคงเป็นคนที่ใช้ชีวิตเร่งรีบราวกับว่าเวลาใกล้จะหมดเหมือนตอนที่ยังมีชีวิตอยู่

ถ้าเป็นเมื่อก่อน ไอริสที่อยู่เคียงข้างยูการ์ดก็จะเป็นผู้คอยย้ำเตือนเขาอยู่เสมอว่าไม่ต้องเร่งรีบไปราวกับเด็กสาวผู้บอบบาง

พอเปิดลิ้นชักของชั้นวางของดู ยอร์น่าก็พบชุดกิโมโนสายคาดที่พับเก็บไว้อย่างดี พร้อมเครื่องประดับอื่นๆ แต่ทันทีที่รู้สึกโล่งใจ น้ำตากลับไหลอาบแก้มเธอ

ในยามนี้ ยอร์น่า มิชิกุเระ “สีมั่งคั่ง” นายหญิงแห่งนครมารรู้สึกเหมือนตนย้อนกลับไปเป็นแค่ “ไอริส” หญิงสาวชาวบ้านธรรมดาอีกครั้ง

เธอกลับไปเป็น “ไอริส” ที่เลือกเก็บรักษาที่สิ่งรักและหวงแหนได้เพียงอย่างเดียว และต้องทอดทิ้งสิ่งที่สั่งสมมากว่า 300 ปีที่ผ่านมาไปจนหมด

ยอร์น่า: ทำไมกันเจ้าคะ ฝ่าบาท… ทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วย?

ยอร์น่าอยากที่จะรักพริสซิลล่า ชาวเมืองเคออสเฟลม และสิ่งต่างๆ อีกมากมายในจักรวรรดิ กระนั้นหนามแหลมที่ทิ่มแทงหัวใจก็ทำให้เธอเริ่มลืมเลือนสิ่งเหล่านั้นไป

ความเจ็บปวดอันหวานชื่นที่แสนชวนให้คิดถึงเหล่านี้ ยอร์น่ารู้สึกเกรงกลัวเหลือเกินว่าเธอจะต้านทานมันไม่ไหว

. จบตอน