webnovel arc8 chapter47

บทที่ 8 ตอนที่ 47 "ทันซ่า"

ทันซ่า นั้น เกลียดชังจักรวรรดิวอลลาเคียเช่นเดียวกับนัตสึกิ ชวาร์ซ(สุบารุ)

ค่านิยมที่เชิดชูผู้แข็งแกร่งและกดขี่ผู้อ่อนแอว่าไม่เหมาะสมที่จะเป็นชาวจักรวรรดินั้น ทำให้ทันซ่าปรารถนาที่จะไม่เกิดมาเป็นชาววอลลาเคียเสียยังดีกว่า

แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครเลือกเกิดได้ ทันซ่าจึงต้องมาถูกจักรวรรดิแห่งนี้ช่วงชิงพ่อแม่และพี่สาวไป เพียงเพราะว่าครอบครัวของเธอเกิดเป็นชาววอลลาเคีย

[ยอร์น่า: คุณน่ะเกลียดประเทศแห่งนี้หรือเปล่าเจ้าคะ?]

สีหน้าที่ปกติเฉยเมยของทันซ่าแสดงอารมณ์ออกมาตอนที่มีคนถามคำถามดังกล่าวกับเธอ มันคือคำถามที่ชาวจักรวรรดิไม่ควรจะเอ่ยออกมา

หญิงสาวผู้งดงามอ่านใจของทันซ่าได้ทะลุปรุโปร่ง เธอยื่นมือที่อบอุ่นเหมือนมือของพี่สาวที่ตายจากไปมาสัมผัสแก้มของทันซ่า

[ยอร์น่า: ข้าน้อยเองก็เหมือนกันเจ้าค่ะ]

หญิงสาวกล่าวเช่นนั้นพลางเผยรอยยิ้มแสนอ่อนโยน หากว่าคนที่กล่าวประโยคนั้นคือเด็กน้อยอย่างทันซ่า มันคงจะจบแค่เพียงการตำหนิติเตียนหรือลงโทษ

ทว่า หญิงสาวคนนั้นคือบุคคลที่มีตำแหน่งสำคัญ เธอคือผู้ที่เป็นหนึ่งในเก้าสัญลักษณ์แห่งความแข็งแกร่งของจักรวรรดิแห่งนี้

[ยอร์น่า: ――ข้าน้อยเองก็เกลียดสถานภาพปัจจุบันของประเทศนี้เหมือนกันเจ้าค่ะ]

. ย้อนความไปก่อนหน้านี้ ทันซ่าได้ร้องขอให้สุบารุส่งเธอไปหาท่านยอร์น่า ซึ่งสุบารุก็ไม่ขัดแย้งอะไรและสนับสนุนการตัดสินใจที่ทันซ่ามองว่าเห็นแก่ตัวนั้น

ทันซ่า: ――ท่านยอร์น่า …อึก

กลับมาปัจจุบัน ทันซ่าเอาตัวเข้าไปขวางวิถีดาบให้หญิงสาวคนสำคัญก่อนที่เธอจะถูกฟันหัวขาด แรงปะทะจากดาบสั่นสะเทือนไปทั่วร่างของทันซ่าจนแขนขาชาไปหมด

นานๆ ทีเธอถึงจะรู้สึกขอบคุณที่ตัวเองเป็นคนหน้าเฉยเมยไร้อารมณ์ เพราะมันช่วยให้ทันซ่ากัดฟันฝืนทนไม่ให้ความเจ็บปวดแสดงออกมาทางสีหน้าได้ง่ายขึ้น

อีกอย่าง ถ้าหากไม่มีโล่น้ำแข็งจากเอมิเลียที่ทันซ่าซ่อนเอาไว้ใต้เสื้อผ้า เธอคงจะถูกฟันขาดครึ่งไปแล้ว

เอมิเลีย: หน้าเหมือนกันไปหมดเลย เอาเป็นว่าถอยไปให้หมดทุกคนซะ!

ฮาล์ฟเอลฟ์เอมิเลียกระโจนตัวโผล่มาร่ายเวทมนตร์ใส่ฝูงผีดิบโลอัน บรรยากาศสั่นไหวคล้ายเสียงแก้วแตกร้าว ก่อเกิดเป็นคุกน้ำแข็งที่ขังพวกโลอันเอาไว้

ไม่ว่าจะพยายามกระโดด ก้มหลบ หรือชักดาบมาฟัน โลอันเกือบ 20 คนล้วนแต่ถูกจับแช่ให้กลายเป็นบุปผาน้ำแข็งในสภาพเช่นนั้น มีเพียงไม่กี่คนที่หลบรอดไปได้

. ทันซ่า: ――ในที่สุด ในที่สุดก็ได้พบกันอีกครั้งเสียทีค่ะ

ในขณะที่โล่น้ำแข็งในเสื้อสลายกลายเป็นละอองมานา ทันซ่ารีบใช้โอกาสที่เอมิเลียสร้างให้เข้าไปสวมกอด “ยอร์น่า” หญิงสาวคนสำคัญ ก่อนจะหันกลับมาจ้องศัตรู

ทันซ่า: ไอ้คนชั่วที่หันคมดาบใส่ท่านยอร์น่าน่ะ ตัวฉันผู้ไม่คู่ควรคนนี้จะเป็นคู่ต่อสู้ให้เองค่ะ

ระหว่างที่ทันซ่ากับโลอันยืนจ้องหน้าดูเชิงกัน เอมิเลียก็เป็นฝ่ายเปิดฉากจู่โจมด้วยการควงค้อนน้ำแข็งฟาดใส่ เพื่อไม่ให้โลอันไปขวางทันซ่ากับยอร์น่า

ฝั่งโลอันใช้ดาบปัดป้องค้อนน้ำแข็ง เอมิเลียจึงเปลี่ยนอาวุธเป็นดาบน้ำแข็งคู่แล้วเข้าไปดวลดาบกับฝูงผีดิบโลอันต่อ

ทันซ่า: ท่านเอมิเลีย!

เอมิเลีย: ไม่เป็นไร คุยกับยอร์น่าก่อนเถอะ ――พอดีสุบารุเขาไหว้วานมาน่ะ

เอมิเลียเผยรอยยิ้มให้ทันซ่า ก่อนจะเปลี่ยนอารมณ์แล้วหันกลับไปจดจ้องพวกโลอันที่พากันเก็บดาบเข้าฝักเตรียมตั้งท่าเข้าปะทะ

เอมิเลีย: ――ไอซิเคิลไลน์

บรรยากาศรอบตัวเอมิเลียขาวมัวขึ้นกว่าเดิม พวกโลอันฉีกยิ้มอย่างยินดีที่จะได้ประดาบกับเอมิเลียผู้ใช้ดาบคู่ที่ล้อมห้อมไปด้วยหิมะและน้ำแข็ง

ผีดิบโลอัน: โอ้ววววว

เอมิเลีย: ลุยล่ะนะ!

แต่แล้ววายุเสาน้ำแข็งและอาวุธน้ำแข็งกระหน่ำยิงเข้าใส่พวกโลอันที่หลงนึกว่าอีกฝ่ายตั้งใจจะดวลดาบกับตนเพียงอย่างเดียว

. ทันซ่า: ใบหน้าแบบนั้นของท่านยอร์น่า พึ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรกเลยค่ะ

ยอร์น่า: ――ทันซ่างั้นเหรอเจ้าคะ?

ทันซ่าอาศัยโอกาสที่เอมิเลียสร้างให้เปิดใจคุยกับยอร์น่าที่เธอไม่ได้เจอมานานกว่า 2 เดือน ในเมื่อขาดการติดต่อไปนานขนาดนั้น ยอร์น่าจะคิดว่าเธอตายไปแล้วก็ย่อมไม่แปลก

ฝั่งยอร์น่าเองก็มีการเปลี่ยนทั้งเครื่องแต่งกายและการไว้ผม แถมเธอยังไม่ได้สวมใส่เหล่าเครื่องประดับซึ่งเป็นของขวัญสำคัญจากชาวเคออสเฟลม

ยอร์น่าเป็นที่รักใคร่ของชาวเมืองเคออสเฟลมทุกคน เหล่าอมนุษย์ผู้ถูกขับไล่ไสส่งต่างพากันมอบชิ้นส่วนจากร่างกายของตนเป็นของกำนัลแก่เจ้าเมืองผู้มอบถิ่นที่อยู่อาศัยให้

ไม่ว่าจะเป็นปิ่นปักผม ต่างหู เครื่องประดับสายรัดโอบิ เข็มถักกิโมโน รวมถึง “หวี” ที่ทำมาจากเขาของพี่สาวของทันซ่า

ยอร์น่า: ทันซ่า…

ทันซ่าอยากรีบกลับไปช่วยเอมิเลียต่อสู้กับโลอัน แต่เธออยากตรวจสอบสภาพจิตใจของยอร์น่าให้แน่ชัดก่อน

ฝั่งยอร์น่าพยายามเอื้อมมือมา แต่กลับหยุดมือไว้กลางคัน ไม่ยอมสัมผัสแก้มของทันซ่า แถมยังผลักเธอให้เลิกกอดแล้วเริ่มก้าวถอยหลังทิ้งระยะห่าง

ทันซ่า: ท่านยอร์น่า?

ยอร์น่า: ทำไมถึงได้กลับมายังที่นี่อีกเจ้าคะ?

ทันซ่า: …

ยอร์น่า: ตอนนี้ นครหลวงจักรวรรดิแห่งนี้กลายเป็นนครแห่งผีดิบไปแล้ว… ไม่ใช่เพียงแค่ทหารจักรวรรดิ กระทั่ง “เก้าแม่ทัพเทวะ” กับจักรพรรดิก็ยังทิ้งเมืองไป แล้ว เด็กสาวอย่างเธอจะยังมีธุระอันใดกับที่นี่อีกเจ้าคะ

. นี่เป็นครั้งแรกที่ยอร์น่าผู้แสนรักใคร่และเอาใจใส่ปฏิเสธทันซ่า เธอไล่ทันซ่าให้รีบหนีออกจากเมือง โดยขู่ว่าจะใช้กำลังไล่หากจำเป็น

ทันซ่ามึนงงจนสมองค้างไปชั่วขณะ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมยอร์น่าถึงเลือกอยู่ฝั่งเดียวกับพวกผีดิบทั้งที่เธอควรจะยังมีชีวิตอยู่ ไม่ต่างจากทันซ่า

ตอนนั้นเองที่ยอร์น่าคว้ากิโมโนของทันซ่าแล้วยกตัวเธอให้ลอยขึ้นแบบไม่เบามือเหมือนทุกที

ยอร์น่า: ข้าน้อยกับคุณน่ะไม่ได้อยู่ฝั่งเดียวกันเจ้าค่ะ ข้าน้อยน่ะ… มีคนที่อยากจะคอยอยู่เคียงข้างอยู่เจ้าค่ะ ในที่สุดก็ได้พบกับบุคคลท่านนั้นอีก เพราะงั้นแหละ…

ทันซ่า: ท่าน…ยอร์น่า… อึก

ยอร์น่า: ทั้งตัวคุณกับเหล่าเด็กๆ ทั้งหลาย ไม่ได้จำเป็นต่อข้าน้อยอีกแล้วเจ้าค่ะ

ยอร์น่า มิชิกุเระ ป่าวประกาศเหตุผลที่เธอยังอยู่ในนครซากศพต่อและไม่ได้ถูกจับเป็นนักโทษอย่างชัดเจน

ทันซ่ารู้ดีว่ายอร์น่าเฝ้าใฝ่หาบางสิ่งมาโดยตลอด บางสิ่งที่อยู่ห่างไกลออกไป บางสิ่งส่องระยิบระยับให้เห็นแต่มิอาจจะเอื้อมถึงได้ราวกับ “ดวงดาว”

ชาวเคออสเฟลมและตัวทันซ่าเองต่างก็ภาวนาให้ยอร์น่าหาสิ่งนั้นพบเข้าสักวัน และในเมื่อยอร์น่าได้พบกับสิ่งนั้นแล้ว เธอจึงกระชากเสื้อของทันซ่าอยู่เช่นนี้

ทันซ่า: ――จะปฏิเสธฉันทั้งที ทำหน้าตาให้มีความสุขกว่านี้หน่อยสิคะ ท่านยอร์น่า

ทว่า ทันซ่าสามารถดูออกอย่างง่ายดายว่าคำพูดของยอร์น่าเป็นเพียงคำโกหกที่แสนห่วยแตก

. “อา นี่เรากลายเป็นเด็กไม่ดีไปแล้วสินะ”

ทันซ่ามีพี่สาวที่เสียชีวิตไปแล้วนามว่า “โซอี้” เป็นแบบอย่างในชีวิตมาโดยตลอด เนื่องจากโซอี้เป็นหญิงสาวผู้มีจิตใจกล้าแกร่งและอ่อนโยน

ความเชื่อแบบผิดๆ ที่ว่าเขาของเผ่ามนุษย์กวางสามารถนำมาต้มทำเป็นยาครอบจักรวาลที่รักษาได้ทุกโรค ทำให้บ้านเกิดของทันซ่าถูกโจรชั่วบุกทำลายเพื่อตัดเขาชาวบ้านไปขายในราคาสูง

พ่อแม่ของทันซ่าเสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ส่วนทันซ่าในวัยเยาวน์รอดชีวิตมาได้เนื่องจากได้พี่สาวช่วยปกป้องเธอเอาไว้

ถึงสองพี่น้องจะรอดมาได้ เขาที่มีค่าก็ทำให้พวกเธอถูกกลุ่มโจรเพ่งเล็งอยู่เสมอ และต่อให้ไม่มีพวกโจร คนอ่อนแออย่างพวกเธอก็มีชีวิตรอดในจักรวรรดิได้ยากลำบากอยู่ดี

พอทันซ่าโตขึ้น เธอก็เริ่มเข้าใจว่าพี่สาวต้องผ่านความทุกข์ยากมามากเพียงใดเพื่อให้ข้าวตกถึงท้องทั้งสองคน

ทันซ่าถึงขั้นเคยคิดอยากจบชีวิตตัวเอง เนื่องจากเธอทำได้เพียงแต่พึ่งพาและเอาเปรียบพี่สาวผู้จิตใจดี

. [โซอี้: ทันซ่า การสาปแช่งคนอื่นมันไม่ดีนะ ผู้ที่หลวมตัวสาปไปแช่งคนอื่นง่ายๆ ย่อมถูกสาปแช่งได้ง่ายด้วยเหมือนกัน]

ในโลกอันเน่าเฟะที่ทุกคนเอาแต่ทำตัวใจร้ายและเย็นชาใส่สองพี่น้อง ทันซ่าจึงอดไม่ได้ที่จะก่นด่าสาปแช่งออกมา

แต่โซอี้ที่ผอมกะหร่องและสวมเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งมักจะตำหนิทันซ่าเช่นนั้นอยู่เสมอ เวลาที่เธอสามารถหาซุปมาแบ่งให้น้องสาวได้กินด้วยกัน

เรียกได้ว่าโซอี้ถูกสภาพแวดล้อมบีบบังคับให้ดูแลทันซ่าประหนึ่งว่าเป็นผู้ปกครอง ทั้งที่ตัวเธอควรจะพึ่งอยู่ในวัยเด็กที่อยากอ้อนพ่อแม่

สองพี่น้องต้องคอยลี้ภัยไปเรื่อยๆ เนื่องจากความเชื่อเรื่องเขาเผ่ามนุษย์กวางที่ยังคงไม่หายไป จนในที่สุดทั้งสองก็ได้ยินเกี่ยวกับ “นครมาร” เคออสเฟลม

มีข่าวลือว่าที่แห่งนั้นคือสรวงสวรรค์ของเหล่าผู้ถูกขับไล่ไสส่งและนายหญิงเจ้าเมืองคือผู้ใจบุญที่ต่อต้านการกดขี่ผู้อ่อนแอ

ทีแรกทันซ่าไม่เชื่อว่านั่นเป็นความจริง ถ้าหากมีบุคคลเช่นนั้นอยู่จริงล่ะก็ แล้วทำไมพ่อแม่ของเธอถึงยังถูกฆ่าอยู่อีกล่ะ?

แล้วทำไมโซอี้ถึงต้องมาลำบากดูแลทันซ่าจนเธอเนื้อตัวรุงรังและร่างกายผอมแห้งด้วยล่ะ?

. [ยอร์น่า: ――ที่ผ่านมาพยายามได้ดีมากเจ้าค่ะ โซอี้ ทันซ่า]

พอทั้งสองไปถึงสรวงสวรรค์ที่ไม่ควรจะมีอยู่จริง สาวงามในชุดกิโมโนก็โอบกอดสองพี่น้องในเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง นั่นคือครั้งแรกที่ทันซ่าได้เห็นพี่สาวร้องไห้

โซอี้ไม่เคยร้องไห้ออกมาให้ทันซ่าเห็น ทั้งวันที่พ่อแม่ตาย ทั้งวันที่เธอยอมถูกเอาไปจัดแสดงเพื่อแลกกับซุปหนึ่งถ้วย ทั้งวันที่เธอถูกทันซ่าด่าทออย่างไร้หัวใจ

พอได้เห็นพี่สาวคนนั้นร้องไห้ออกมา ทันซ่าก็บ่อน้ำตาแตกเช่นกัน เธอรู้ซึ้งจากก้นบึ้งของหัวใจทันทีว่าจะต้องปกป้องรักษาสรวงสวรรค์แห่งนี้และ “ยอร์น่า มิชิกุเระ” เอาไว้ให้จงได้

นับแต่นั้นเป็นต้นมา สองพี่น้องก็มีอาหารกินและมีที่อยู่อาศัย โซอี้ได้สวมกิโมโนแสนงดงาม ซึ่งทำให้ทันซ่ารู้สึกภาคภูมิใจ

ยอร์น่าเป็นที่รักของผู้คนมากมาย กระนั้นโซอี้ก็ยังถูกยอมรับจากยอร์น่าว่าเป็นบริวารที่ขยันขันแข็งและกระตือรือร้นที่สุด

ทันซ่าเฝ้าฝันว่าสักวันเธอจะสามารถถวายตัวรับใช้ยอร์น่าได้ดีเยี่ยมอย่างพี่สาว เพื่อที่ผู้อ่อนแอที่ต้องทุกข์ทรมานจะได้รู้จักสรวงสวรรค์นามว่าเคออสเฟลม

. สองปีถัดจากนั้น โซอี้ก็เสียชีวิตลง

ในตอนนั้นโซอี้ได้เป็นตัวแทนของยอร์น่าในการเดินทางไปรับกลุ่มอมนุษย์ลี้ภัยที่ป้อมของทหารจักรวรรดิเพื่อที่จะเดินทางมายังเคออสเฟลม

ทหารจักรวรรดิจู่โจมกลุ่มอมนุษย์โดยยัดเยียดข้ออ้างว่าพวกนั้นเป็นศัตรู ทั้งที่พวกมันไม่ได้สนใจเรื่องเขาของมนุษย์กวาง แต่โซอี้กลับถูกทรมานจนตาย แถมศพของเธอยังถูกนำมาตั้งแสดง

[โซอี้: ทันซ่า การสาปแช่งคนอื่นมันไม่ดีนะ ผู้ที่หลวมตัวสาปไปแช่งคนอื่นง่ายๆ ย่อมถูกสาปแช่งได้ง่ายด้วยเหมือนกัน]

ทันซ่านึกย้อนถึงคำพูดของพี่สาวในหัวยามที่หัวใจของเธอแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ ทันซ่าได้แต่นึกสงสัยว่าเหตุการณ์ที่เลวร้ายขนาดนี้มันมากพอที่เธอจะสาปแช่งผู้อื่นได้หรือยัง

ทันซ่าพยายามฝึกสวมกิโมโนเพื่อหวังทำหน้าที่รับใช้ยอร์น่าเลียนแบบพี่สาวด้วยความรู้อันน้อยนิดและหัวใจอันเปราะบาง

[ยอร์น่า: คุณน่ะเกลียดประเทศแห่งนี้หรือเปล่าเจ้าคะ?]

แต่ในขณะที่ทันซ่าจมอยู่ในความสิ้นหวังและความทุกข์ทรมานราวกับว่าเขากวางของเธอหัก ยอร์น่าที่เข้าใจเธออย่างทะลุปรุโปร่งก็เอื้อมมือมาสัมผัสแก้ม

[ยอร์น่า: ข้าน้อยเองก็เหมือนกันเจ้าค่ะ]

ยอร์น่าน้อมรับเอาคำสาปแช่งและความเกลียดชังของทันซ่ามาไว้กับตัว เพื่อที่จะล้างแค้นแทนทันซ่าผู้ไร้ซึ่งพลัง โดยไม่สนว่าต้องตั้งตนเป็นปฏิปักษ์ต่อจักรวรรดิ

[ยอร์น่า: ――ข้าน้อยเองก็เกลียดสถานภาพปัจจุบันของประเทศนี้เหมือนกันเจ้าค่ะ]

“สีมั่งคั่ง” ยอร์น่า มิชิกุเระ นั้น ก่อการกบฏต่อจักรวรรดิวอลลาเคียเพื่อผู้อื่นอยู่เสมอ ทันซ่าทราบเรื่องนั้นดี เธอเลยพยายามเก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้

ทันซ่าอยากจะเป็นเด็กดีที่ไม่ทำให้ยอร์น่าตกอยู่ในอันตราย ไม่ทำให้ยอร์น่าเศร้าโศก ไม่อยากสร้างปัญหาให้ยอร์น่า และอยากเป็นบริวารที่ดีเหมือนอย่างโซอี้

แต่แล้วสุดท้ายทันซ่าก็กลายเป็นเด็กไม่ดีไปเสียได้

. หลังจากที่ยอร์น่าชำระแค้นให้โซอี้สำเร็จ ทันซ่าก็ขอถวายตัวรับใช้ยอร์น่าแทนพี่สาวนับแต่นั้นมา

ทันซ่ารู้ดีว่ายอร์น่าเป็นที่รักใคร่ของผู้คนมากมาย เธอกับพี่สาวเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งของผู้คนที่ยอร์น่าเคยช่วยไว้เท่านั้น

ถ้าหากยอร์น่าอยากจะละทิ้งทุกสิ่งเพื่อเดินหน้าไขว่คว้าดวงดาวที่เธอใฝ่หามาตลอด ทันซ่าก็ไม่ว่าอะไร

ถ้าหากยอร์น่ามองว่าพวกทันซ่าเป็นเพียงตัวถ่วงที่จำเป็นต้องสละทิ้ง ทันซ่าก็ไม่ว่าอะไร

ตราบใดที่ยอร์น่ามีความสุขกับสิ่งที่เธอทำ ทันซ่าก็ไม่อยากจะรั้งเธอเอาไว้ เพราะแบบนั้นมันก็ไม่ต่างอะไรจากคำสาป

เพราะงั้น ทันซ่าถึงอยากให้ยอร์น่าสลัดมือของเธอทิ้งด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมล้นด้วยความหวังและความสุข ถ้าหากเธอทำไม่ได้ก็แปลว่า…

ทันซ่า: ――ท่านยอร์น่าน่ะ ยังรักพวกเราอยู่สินะคะ

. ทันซ่าไม่ได้เป็นข้ารับใช้ที่ดีเหมือนอย่างโซอี้ เห็นได้ชัดจากเหตุการณ์ที่เธอแอบสร้างความวุ่นวายในเคออสเฟลมลับหลังยอร์น่า

ทั้งหมดเพื่อขัดขวางไม่ให้จักรพรรดิตัวจริงหรือตัวปลอมดึงยอร์น่าไปเข้าร่วมสงคราม แต่ผลลัพธ์ของมันกลับทำให้ทั้งสองต้องแยกจากกัน

แล้วพอตอนที่กลับมาเจอกัน ทันซ่าก็ไม่ยอมทำตามคำสั่งไล่กลับของยอร์น่าอีก เธอกลายเป็นเด็กไม่ดีอย่างที่คิดจริงๆ

กลายเป็นเด็กไม่ดีที่เหยียบย่ำวาจาและความปรารถนาของบุคคลที่เธออยากให้มีความสุขที่สุด

ยอร์น่า: ――อ๊ะ

ดวงตาของยอร์น่าเบิกกว้างเนื่องจากทันซ่าบีบข้อมือของเธออย่างแรงจนรู้สึกเจ็บ

นั่นแปลว่าพละกำลังที่ทันซ่าได้จาก “วิชาคงคง(วิวาห์ดวงวิญญาณ)” ยังคงส่งผลอยู่ ซึ่งไม่ควรจะเกิดขึ้นได้ ถ้าหากคำพูดของยอร์น่าที่ว่าพวกทันซ่าไม่สำคัญอีกแล้วมาจากใจจริง

วิชาคงคงคือการแบ่งปันพลังให้กับสิ่งที่ตนรัก ซึ่งส่งผลต่อ “การรักตัวเอง” ด้วยเช่นกัน

ดังนั้น ตราบใดที่ผู้ถือครองพลังนี้เชื่อมั่นว่าตัวเองมีจุดยืนที่ถูกต้อง ผู้นั้นก็จะได้รับพลังมหาศาลติดตัวอยู่ตลอดเวลา

แต่ในปัจจุบันที่ยอร์น่าเริ่มกังขาในจุดยืนของตน พลังของเธอก็เริ่มอ่อนแอลงเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว จนพ่ายแพ้ต่อ “เซียนดาบซากศพ” ผู้ที่ละทิ้งชีวิตของตนไป

. ยอร์น่าที่ไม่ได้รักตัวเองสูญเสียพลังจากวิชาคงคงที่มีต่อตัวเธอไป แต่ในทางกลับกัน…

ทันซ่า: ――ท่านยอร์น่าน่ะ ไม่มีทางปลอมแปลงความรักแบบนี้ขึ้นมาได้หรอกค่ะ

ดวงตาข้างซ้ายของทันซ่ามีเปลวเพลิงสีฟ้าลุกโชนขึ้น เธอไม่กังขาในความรักของยอร์น่าอีกต่อไป

ตัวยอร์น่าเองก็ไม่สามารถหลอกตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว เปลวเพลิงบนดวงตาของทันซ่าคือหลักฐานอย่างดีของ “ความรัก” ที่เธอมีให้ต่อเด็กสาวบริวารคนนี้

ทันซ่าเอื้อมมือมาสัมผัสแก้มของยอร์น่าที่ดวงตาเริ่มสั่นไหวด้วยความตื้นตันคล้ายตอนที่โซอี้ร้องไห้ออกมาเป็นครั้งแรก

เอมิเลีย: ――อึก! ไม่ทันแล้ว! ทันซ่าจัง!

ตอนนั้นเองที่หนึ่งในผีดิบของโลอันวิ่งฝ่าแนวคุ้มกันของเอมิเลียบุกเข้ามาได้ เสียงรองเท้าโซริกระทบพื้นและเสียงชักดาบดังมาจนทันซ่าที่หันหลังอยู่ยังได้ยิน

ผีดิบโลอัน: หลีกไปซะ แม่หนู! นี่คือเวทีที่ทางนี้เฝ้าฝันมาอย่างเนิ่นนานขอรับ!

ระหว่างที่ศัตรูวิ่งปรี่มาหาด้วยความเร็วดุจสายลม ยอร์น่าก็เตรียมที่จะปัดทันซ่าออกแล้วเอาตัวเข้าป้องกันคมดาบแทน

แต่แล้วทันซ่ากลับกระทืบเท้าเพื่อยึดตัวไว้กับพื้นไม่ให้ยอร์น่าปัดเธอจนกระเด็น จากนั้นก็หันไปประจันหน้ากับโลอันแทน

. คมดาบของผีดิบโลอันแหวกผ่าห้วงอากาศเย็นยะเยือกมาจากมุมต่ำ หมายที่จะกุดศีรษะของทันซ่าและเฉือนหน้าอกของยอร์น่าในเพลงดาบเดียว

ผีดิบโลอัน: ――เฮือก

ทันซ่า: เวทีที่เฝ้าฝันเหรอคะ

ดวงตาของโลอันเบิกกว้างเมื่อได้เห็นทันซ่าหยุดเพลงดาบที่เขาทุ่มเททุกอย่างลงไปด้วยมือเปล่า

วิชาคงคงของยอร์น่าแบ่งปันพลังกับสิ่งที่เธอรัก มันจะทรงพลังที่สุดยามที่ผู้ถือครองเชื่อมั่นในจุดยืนของตนแบบไร้ข้อกังขาและได้รับความรักจากผู้อื่นอย่างมากล้น

[สุบารุ: ทันซ่าเองก็เป็นคนของชั้นเหมือนกัน เพราะงั้นก็นับเป็นคนของฝั่งนี้ใช่ไหมล่ะ?]

ถึงจะน่าหงุดหงิดและน่าเขินอาย แต่ทันซ่านั้นรู้ตัวดีว่าเธอได้รับความรักจากผู้อื่นมากเพียงใด

ทันซ่า: ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงค่ะ พอดีว่าฉันกำลังยุ่งอยู่จนไม่มีเวลาให้ฝันหวานเลยค่ะ

ทันซ่าดึงพละกำลังทั้งหมดออกมาเพื่อหักใบดาบทิ้งคามือ จากนั้นจะหวดกำปั้นยัดเข้าใส่เต็มหน้าผีดิบโลอันที่มัวแต่ตะลึงอยู่

ความรุนแรงของกำปั้นส่งผลให้จมูกของผีดิบโลอันจมลงไปในใบหน้าของเขาเลย

วันวานที่เฝ้าฝันถึงสรวงสวรรค์และภาวนาต่อบุคคลที่รักมันจบลงแล้ว สิ่งเหล่านั้นไม่มีวันเข้าถึงได้ หากไม่คว้ามันมาด้วยมือของเราเอง

ดังที่ทันซ่าสามารถมาถึงที่นี่ได้เนื่องจากเธอถูกโซอี้ช่วยชีวิตไว้ ได้รับการช่วยเหลือจากยอร์น่า ได้พบพานกับนัตสึกิ ชวาร์ซ(สุบารุ) และเหล่าสมาชิกหน่วยรบเพลอาเดส

ทันซ่า: ――ก็ในเมื่อความเป็นจริงแสนรัก ที่ทั้งโหดร้ายและเจ็บปวดกำลังรออยู่ล่ะนะคะ

เพราะว่าตอนนี้ เวลามันไม่คอยท่าให้มัวแต่ไขว่คว้าดวงดาวอีกแล้ว

. จบตอน