ระหว่างที่เซซิลุสคนปัจจุบันกำลังงอแง “เซซิลุส” คนเก่ากับจิชาก็สนทนากันต่อ โดย “เซซิลุส” สังเกตจากสีหน้าได้ว่า “เพื่อน” ของเขามีเรื่องกังวลใจอยู่
เซซิลุสแอบแปลกใจที่ตัวเขามีบุคคลที่นับเป็น “เพื่อน” อยู่ด้วย เพราะถึงแม้ว่าเขาจะนับสุบารุ ทันซ่า กุสตาฟ และสมาชิกหน่วยรบเพลอาเดสเป็นพวกพ้อง แต่ก็ไม่มีใครที่สนิทพอจะนับเป็น “เพื่อน” ได้เลย
จิชายิงคำถามว่าถ้าหากตัวเขากับฝ่าบาท(วินเซนต์)มีเรื่องที่เห็นต่างกัน เซซิลุสจะเลือกเข้าข้างใคร ซึ่ง “เซซิลุส” คนเก่าตอบว่าเขาจะเลือกข้างฝ่าบาทอย่างไม่ลังเล
จิชาสารภาพว่าศึกครั้งใหญ่กำลังจะมาถึง แต่ตัวเขากับวินเซนต์ดันมีความเห็นเรื่องเงื่อนไขแห่งชัยชนะต่างกัน
“เซซิลุส” คนเก่าเข้าใจทันทีว่าตนเองเป็น “อุปสรรค” ที่ขัดขวางแผนการของจิชา เนื่องจากว่าเขาให้คำมั่นสัญญาไปแล้วว่าจะอุทิศดาบของตนเพื่อวินเซนต์
ขอเพียงแค่วินเซนต์มีเซซิลุสอยู่ข้างกาย ต่อให้จิชามี “เก้าแม่ทัพเทวะ” อีก 8 คนที่เหลืออยู่ เขาก็ไม่มีทางชนะฝั่งวินเซนต์ได้อยู่ดี
ไม่ต้องพูดถึงประเด็นที่แม่ทัพเอกบางคนอย่างกอซและโมโกรไม่มีวันหักหลังวินเซนต์อย่างแน่นอน กระนั้น “เซซิลุส” ก็รู้จักจิชาดีพอว่าเขาไม่ใช่คนประเภทยอมแพ้ง่ายๆ
. จิชาประกาศว่าจะถอน “เซซิลุส” ออกจากกระดานหมากที่ตัวเขากับวินเซนต์จะประลองกัน และเขาได้เตรียมบทบาทที่เหมาะสมไว้ให้แก่ “เซซิลุส” แล้ว
เซซิลุสจับตารอดูท่าทีว่าจิชาจะอาศัยช่องโหว่ตอนไหนในการย้อนวัยตัวเขาคนเก่า ส่วน “เซซิลุส” คนเก่าก็ฉีกยิ้มพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ เพื่อท้าทายจิชา
เซซิลุส(ผู้ใหญ่): เอ้า คิดจะโน้มน้าวผมด้วยเหตุผล มุมมอง หรือวาจาแบบไหนงั้นเหรอครับ? ต่อให้เป็น “จิชา โกลด์” ผู้ทรงปัญญารองจากแค่ฝ่าบาทก็ไม่ง่ายใช่ไหมล่ะ?
จิชาหลับตาลงเพื่อใช้ความคิดชั่วขณะ ก่อนที่จะลืมตาขึ้นมาแล้วเอ่ยต่อ
จิชา: เซซิลุส ――ได้โปรด ฝากดูแลฝ่าบาทต่อทีนะครับ
สรุปแล้ว “เซซิลุส” ไม่ได้ถูกเล่นงานทีเผลอหรือถูกโน้มน้าวให้ยอมจำนน แต่ว่าเขาถูกฝากฝังภาระหน้าที่เอาไว้ นั่นคือสาเหตุที่ “เซซิลุส เซ็กมุนต์” กลายมาเป็นเซซิลุส เซ็กมุนต์
เซซิลุส(ผู้ใหญ่): …แบบนี้มันขี้โกงชะมัด
[เซซิลุส(เด็ก): ――เพอร์เฟค!!]
. แสงอาทิตย์อัสดงจากความทรงจำในวันนั้นหวนคืนกลับมาเป็นเลือดที่สาดกระเซ็นจากการโดนแรงระเบิดอัดใส่ศีรษะและร่างกายกว่าครึ่งหนึ่ง
ช่วงเวลาที่เซซิลุสได้ย้อนดูความทรงจำพึ่งผ่านไปไม่ถึง 1 วินาทีด้วยซ้ำ แต่อาราเคียกลับอาศัยช่วงเวลาแค่นั้นซ่อมแซมสายเพชรจำนวน 5-6 สายกลับคืนมาใหม่ได้
ในขณะที่ดาบมังกรฟ้าแหลกสลายไปคามือเซซิลุส ฝั่งอาราเคียเองก็ได้รับความเสียหายหนักจนปีกศิลามนตรามีรอยแตกร้าวเช่นกัน
สภาพที่น่าสงสารในปัจจุบันของอาราเคียทำให้เขาแซวเธอเล่นอย่างทุกทีไม่ออก กระนั้นเซซิลุสก็มิอาจทำตามคำร้องขอทั้งน้ำตาของอาราเคียได้อยู่ดี
ถ้าหากเธออยากให้เขาสังหารจริงๆ อาราเคียก็ควรจะร้องขอด้วยรอยยิ้มที่จริงใจแบบเดียวกับจิชาในความทรงจำของเขา เพื่อพิสูจน์ว่าตนได้เตรียมใจมาดีแล้ว
. สุดท้ายการได้เห็นความทรงจำก็ไม่ได้มอบวิธีคืนร่างกลับเป็นผู้ใหญ่ให้แก่เซซิลุส แถมความทรงจำส่วนใหญ่ก็ยังคงถูกปิดผนึกไว้
กระนั้นเพียงแค่ได้เห็นใบหน้าและได้ฟังคำขอของจิชา “เซซิลุส เซ็กมุนต์” ก็ได้รับเหตุผลมามากพอที่จะดิ้นรนให้ไม่ตายอยู่ในที่แห่งนี้แล้ว
แต่ที่จริงเซซิลุสยังมีเหตุผลอีก 1 อย่างที่ทำให้เขามั่นใจว่าตนเองจะไม่พ่ายแพ้อาราเคีย ซึ่งก็คือการที่บอส(สุบารุ)ไม่ได้รีบแจ้นมาช่วยเขาที่นี่
ตอนที่เดินทางออกจากเกาะทาสดาบ “เซซิลุส เซ็กมุนต์” กับ “นัตสึกิ ชวาร์ซ(สุบารุ)” ได้ทำสัญญาใต้แสงจันทร์กันเอาไว้
สัญญาที่ว่าคือการห้ามมิให้สุบารุใช้พลัง “เห็นนิมิต” แห่งปาฏิหาริย์ช่วยชีวิตของเซซิลุสอย่างเด็ดขาด
แต่เซซิลุสรู้ดีว่าสุบารุเป็นคนจำพวกชอบแหกสัญญา ถ้าหากเขารู้ผ่านพลัง “เห็นนิมิต” ว่าเซซิลุสจะตาย สุบารุจะต้องวิ่งแจ้นมาช่วยเขาอย่างแน่นอน
. การที่สุบารุไม่ได้อยู่ที่นี่ มอบความมั่นใจให้เซซิลุสว่าเขาจะชนะ ทั้งที่สายเพชรเรืองแสง 6 เส้นพุ่งเข้ามาหาตัวเขาที่ไร้อาวุธเนื่องจากดาบมังกรฟ้าสลายไปแล้ว
เซซิลุสที่ลอยเคว้งอยู่กลางอากาศไร้หนทางหลบหนี เขาจึงทำการงัดไพ่ตายที่ได้มาจาก “ฝันกลางวัน” ก่อนหน้านี้ออกมาใช้
เซซิลุส: ――มาซายูเมะ
“ดาบมายา” มาซายูเมะ มีพลังในการตัดสิ่งที่อยู่เหนือสามัญสำนึกของโลกใบนี้ เฉกเช่นเดียวกับ “ดาบอสูร” มุราซาเมะ
ถ้าหาก “ดาบแสงตะวัน” มีท้องนภาเป็นฝักดาบแล้วล่ะก็ “ดาบมายา” เองก็มีความฝันเป็นฝักดาบ เนื่องจากเจ้าของดันลืมเรื่องนั้นไป จึงไม่มีใครรู้ที่เก็บซ่อนของมัน
ว่าแล้วเซซิลุสจึงทำการเอื้อมมือไปชัก “มาซายูเมะ” ออกมาจากเอวของ “เซซิลุส” คนเก่าที่ตนพึ่งได้เห็นในโลกแห่งความฝันเมื่อครู่
มาซายูเมะยอมรับเซซิลุสตัวจิ๋วในฐานะเจ้าของโดยทันที ต่างจากเจ้าดาบมุราซาเมะจอมเรื่องมาก
เซซิลุสใช้ “ดาบมายา” ในมือฟันผ่าสายเพชรเรืองแสง 6 เส้นที่พุ่งเข้ามา จากนั้นก็เล็งดาบไปยังกลุ่มก้อนพลังมหาศาลภายในหน้าอกของอาราเคียต่อทันที
เซซิลุส: ความฝันน่ะคือสิ่งที่ได้เห็นยามตื่นแล้วรู้สึกหลงใหลนะครับ อาเนีย
ในขณะดวงตาข้างซ้ายยังคงไร้ประกายและอ่านอารมณ์ได้ยาก ดวงตาข้างขวาของอาราเคียกลับมีเปลวเพลิงสีฟ้าลุกโชนอยู่และแสดงอารมณ์ออกมาอย่างชัดเจน
เซซิลุส: ――คนที่เธอเป็นห่วงเป็นใยน่ะ เขาก็เป็นห่วงเธอเหมือนกันนะครับ
อสนีบาตผู้อ่อนโยนตวัดดาบเพื่อปลดปล่อยอาราเคียจากฝันร้าย นั่นคือคำตอบที่ “เซซิลุส เซ็กมุนต์” มอบให้แก่คำร้องขอของนางเอก
. จบตอน