อัลเดบารันใช้ไปทั้งหมด 16 ลูปในการโน้มน้าวไฮน์เคล แอสเทรอามาเป็นพวก เพื่อใช้เขาเป็นจุดอ่อนในการเล่นงานไรน์ฮาร์ด วาน แอสเทรอา
เดิมทีอัลเดบารันก็ไม่มั่นใจว่าต้องงัดไฮน์เคลมาใช้เป็นไพ่ตายไหม แต่เพื่อความไม่ประมาท เขาจึงเตรียมการไว้ทุกช่องทางเท่าที่จะคิดออก
หลังพริสซิลล่าจากไป ไฮน์เคลก็จมดิ่งอยู่ในความสิ้นหวังด้วยเหตุผลคนละอย่างกับอัล แต่มันคือเหตุผลที่ชัดเจนและเข้าใจได้ง่ายในฐานะคนร่วมฝ่าย
เพราะงั้น อัลจึงสามารถหาวิธีการโน้มน้าวไฮน์เคลมาเข้าร่วมแผนการได้ไม่ยากเย็นนัก
ไฮน์เคล: แกสัญญาไว้ว่าจะมอบ [โลหิตมังกร] ให้ชั้น! อีกอย่าง [มังกร] มันก็มาอยู่ตรงหน้านี่แล้วไง! ทั้งที่เป็นแบบนั้น ก็ยังจะบอกให้ชั้นรอต่อไปอีกงั้นเหรอ!?
ไฮน์เคลที่แหกปากด้วยดวงตาแดงก่ำจ่อดาบไปยังหัวใจของมังกรเทพอัลที่นอนรอชิวๆ อยู่ข้างถนนเหมือนสุนัขแสนเชื่อง
[โลหิตมังกร] คือหนึ่งในสามสมบัติที่ [มังกรเทพ] มอบให้แก่ราชอาณาจักรหลังจากที่ [สามยอดวีรชน] สามารถเอาชนะ [แม่มดแห่งริษยา] ได้ในอดีต
อิทธิฤทธิ์ของ [โลหิตมังกร] คือการฟื้นฟูผืนดินให้อุดมสมบูรณ์และช่วยรักษาโรคภัยได้ทุกอย่าง
แต่มันเป็นของหายากที่ได้มาจากเลือดหยาดหยดสุดท้ายตอนที่หัวใจของมังกรที่ทรงพลังหยุดเต้นเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปัจจุบันที่แทบไม่เหลือมังกรอยู่บนผืนโลกแล้ว
ดังนั้น สำหรับไฮน์เคล แอสเทรอาผู้เฝ้าตามหา [โลหิตมังกร] มาเป็นทศวรรษ การที่ [มังกร] ตัวเป็นๆ มาปรากฏอยู่ตรงหน้าจึงเป็นดั่งปาฏิหาริย์ที่ทำให้ดวงจิตของเขาลุกไหม้
ไฮน์เคล: ในที่สุด …ในที่สุดลูอันน่าก็!
อัล: …นั่นคือชื่อของภรรยานายงั้นเรอะ
ไฮน์เคล: ใช่แล้ว ภรรยา…ของชั้น …ลูอันน่าน่ะหลับใหลมาเนิ่นนานเหลือเกิน แต่ถ้าเป็น [โลหิตมังกร] ล่ะก็ น่าจะช่วยปลุกเธอได้ เพราะงั้นแหละ ชั้นถึงได้ร่วมมือกับแก!
. อัลยอมรับว่าการร่วมมือของไฮน์เคลกลายเป็นหลักประกันที่ช่วยให้เขาถ่วงเวลาไรน์ฮาร์ดได้สำเร็จ
ระหว่างนั้นก็แอบตั้งค่าเมทริกซ์ใหม่และเลือกคำพูดที่จะโน้มน้าวให้ไฮน์เคลให้ใจสงบลง
ยาเอะ: คือว่า~ ขออภัยที่ขัดการสนทนาค่ะ พอดีว่าอยากจะถามอะไรหน่อย
ไฮน์เคล: อะไรเล่า ยัยเมด! ตอนนี้ชั้นกำลังคุยเรื่องสำคัญกับหมอนี่อยู่…
ยาเอะ: คนที่ทำให้เกิดแสงวิบวับกับเสียงโครมครามอยู่เหนือเนินทรายตรงโน้นน่ะ อาจจะเป็นลูกชายของท่านไฮน์เคลใช่ไหมคะ?
ไฮน์เคล: ――หา?
ก่อนหน้านี้ไฮน์เคลมัวแต่จดจ่ออยู่กับ [มังกรเทพ] ที่เขาใฝ่หามาโดยตลอด ก็เลยไม่ทันสังเกตเห็นศึกฟ้าดินถล่มทลายกลางเนินทรายจนกระทั่งเมดสาวผมสีชมพูมัดทรงหางม้าทักขึ้นมา
ไฮน์เคล: …เฮ้ย นั่นมันอะไรวะ? ที่เกิดขึ้นอยู่ตรงนั้นมัน――
อัล: เดาถูกแล้วล่ะ [นักดาบเทวา] กับ [แม่มดแห่งริษยา] ยังไงล่ะ
ไฮน์เคล: ――อึก! ทำไมล่ะ …ทำไมมันถึงลงเอยแบบนั้นได้ล่ะว้อย!?
ดวงตาสีฟ้าของไฮน์เคลเบิกกว้างในขณะที่จดจ้องไปยังจุดที่ลูกชายของเขากับ [แม่มด] กำลังปะทะกันอยู่
ไฮน์เคล: ที่ได้ยินมามันไม่ใช่แบบนี้นี่! ไหนบอกว่าจะใช้ชั้นหยุดหมอนั่น เงื่อนไขคือตามนั้นแท้ๆ …หยุดมัน รีบหยุดมันเดี๋ยวนี้เลย! [แม่มดแห่งริษยา] งั้นเหรอ? …แบบนั้นมันบ้าบอสิ้นดี!
อัล: โทษทีนะ เกรงว่าจะทำตามคำขอนั้นไม่ได้หรอก ค่าตอบแทนของเตี่ยน่ะคือ [โลหิตมังกร] ถ้าหยุดพวกนั้นตั้งแต่ตอนนี้มันก็จะผิดกับเงื่อนไขแรกสุด ทำตามทั้งสองอย่างไม่ได้หรอกนะ
ถึงแม้ดวงตาจะเดือดดาล แต่ความใจเสาะก็ทำให้เขาเถียงต่อไม่ถูก ปลายดาบของไฮน์เคลชี้ขึ้นลงสลับกันไม่หยุดหย่อน
อัลแอบเห็นใจเขาอยู่เช่นกัน เนื่องจากว่าตัวอัลเองก็เป็นตุ๊กตาโคลนที่ถูกโชคชะตากลั่นแกล้งและมีครอบครัวที่เหนือกว่าจนหยั่งไม่ถึงไม่ต่างจากไฮน์เคล
. ยาเอะสอดเข้ามาบอกให้ไฮน์เคลเลิกบ่นเพราะเธอไม่อยากจะไปข้องเกี่ยวกับศึกเดือดกลางเนินทรายที่มิใช่เรื่องของตัวเธอเลยสักนิด
ไฮน์เคลจ้องเขม็งใส่ยาเอะ แต่เมดสาวกลับยิ้มสวนแถมยังจ้องตาเขากลับด้วยสายตาที่ไร้ความเป็นมิตรตรงข้ามกับรอยยิ้ม
ยาเอะกล่าวสั่งสอนว่าไฮน์เคลไม่ใช่เด็กแล้ว ในเมื่อมีเป้าหมายอยู่สองอย่างแต่เลือกได้แค่อย่างเดียว เขาก็ควรจะตัดใจเลือกสักอย่าง แทนที่จะมัวแต่ใจโลเล
ไฮน์เคลเริ่มพูดจาไม่รู้เรื่อง ยาเอะจึงหรี่ตาลงด้วยความชิงชังและหันมามองทางอัลเหมือนอยากขออนุญาต
ในฐานะชิโนบิ ยาเอะเป็นหญิงสาวที่ไม่รู้จักวิธีการแก้ปัญหาแบบอื่นนอกจากการสังหาร อัลจึงได้แต่ส่ายหน้าแล้วชิงลงมือก่อน
อัล: …ฝากหน่อยนะ ตัวชั้น
มังกรเทพอัล: จัดไป
ว่าแล้วมังกรเทพอัลจึงตะปบเท้าหน้าใส่ไฮน์เคลจากเหนือศีรษะจนอีกฝ่ายถูกอัดบี้จมดิน กระทั่งยาเอะยังอึ้งกับการกระทำนั้น
อัล: โทษทีนะเตี่ย แต่ว่ายังให้ [โลหิตมังกร] ไม่ได้หรอก ในตอนนี้น่ะยังปล่อยให้หัวใจของ [มังกรเทพ] หยุดเต้นไม่ได้หรอกนะ
ยาเอะ: รู้สึกว่าแอบโหดร้ายยังไงก็ไม่รู้สิ ท่านไฮน์เคลเขาตายแล้วหรือยังเนี่ย? การโจมตีเมื่อกี้น่ะ ต่อให้เป็นฉันที่โดนก็น่าจะปางตายได้เลยนะคะ?
มังกรเทพอัล: ไม่ตายหรอก ถึงจะ…ไม่ได้เบามือให้ก็เถอะ แต่คงไม่ตายหรอก เคยคิดมาตลอดเลยว่าเตี่ยเขาถึกทนซะเหลือเกิน ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง
ยาเอะ: …ถึงจะยังไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียดก็เถอะ แต่ที่ท่าน [มังกรเทพ] เขาพูดจาคล้ายท่านอัลแบบนี้นี่ใช้ลูกเล่นอะไรกันคะเนี่ย?
อัล: ไว้ค่อยเล่าทีหลัง เดี๋ยวจะเสียเวลาซะเปล่า
. พออัลกำลังจะเสียบดาบของไฮน์เคลกลับเข้าสู่ฝัก ไฮน์เคลที่ควรจะหมดสติไปแล้วก็คว้าข้อมือของอัลไว้ ดวงตาที่พร่ามัวของเขาพยายามจะจดจ้องมาทางอัล
อัล: สัญญาเรื่อง [โลหิตมังกร] น่ะไม่เบี้ยวหรอก ไรน์ฮาร์ดก็จะไม่ถูก [แม่มดแห่งริษยา] กลืนกินเหมือนกัน ――เรื่องนั้นน่ะ ก็นะ เชื่อใจกันได้เลย
ไฮน์เคล: …
หลังได้ฟังคำตอบที่กระทั่งตัวอัลเองก็ไม่ค่อยจะเชื่อมั่นนัก ไฮน์เคลก็ฟุบหน้าหมดสติไป อัลคล้ายข้อมือเขาออกแล้วหันไปเห็นว่ายาเอะกำลังง้างขาเตรียมหวดใส่ไฮน์เคล
อัล: ชั้นหมดแรงแล้ว แถมยังมีแขนเดียวด้วย ฝากแบกเตี่ยแกหน่อยได้ไหม?
ยาเอะ: เรื่องนั้น มีตัวเลือกให้ฉันไหมล่ะคะ? ถ้ามีล่ะก็ ขอผ่านค่ะ
อัล: ไม่มี คำสั่ง เธอจงเป็นคนแบกซะ
ยาเอะ: เชอะ~ ท่านอัลคนป่าเถื่อน~ รับทราบแล้วค่ะ~
หลังยาเอะแลบลิ้นแล้วยอมงัดร่างของไฮน์เคลที่จมดินอยู่ออกมา อัลก็หันไปถามมังกรเทพอัลว่าเมื่อครู่ได้พูดอะไรสักอย่างเกี่ยวกับไฮน์เคลหรือเปล่า
มังกรเทพ: หือ? อ้อ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก ก็แค่ว่าแข็งแรงถึกทนดีน่ะ
อัล: …ด้วยตำแหน่งและนิสัยของเตี่ยแกแล้ว คงจะมีชีวิตที่ทุกข์ทรมานน่าดู น่าสงสารชะมัด
อัลเสียใจที่เรื่องมันต้องลงเอยเช่นนี้ เพราะเขาอยากให้ไฮน์เคลได้ใช้ชีวิตอย่างแข็งแรง
แต่ถึงอัลจะปลอบใจว่าชีวิตของไฮน์เคลไม่ได้ย่ำแย่ที่สุดในโลก มันก็คงไม่ช่วยอะไรอยู่ดี
อัลรำพึงว่าความสัมพันธ์ที่เขาสามารถใช้เรื่องนั้นช่วยปลอบใจได้มันจบสิ้นไปแล้ว
. อัล: ยาเอะ ขอเงิน
ยาเอะ: เป็นประโยคที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมาเลยค่ะ เอ้านี่~
ถึงปากจะบ่น แต่ยาเอะก็ล้วงกระเป๋าหนังออกมาโยนให้เขา ฝั่งอัลรับกระเป๋าไว้ ล้วงเหรียญทองออกมาหนึ่งเหรียญ แล้วดีดมันให้แก่ลุงเจ้าของร้าน
อัล: รวมค่าชดเชยที่ไปรบกวนด้วย ไม่ต้องทอน
ยาเอะ: ทั้งที่เป็นเงินของฉันแท้ๆ ค่ะ
อัล: หนวกหูน่า ถึงจะพึ่งมาก็เถอะ ออกเดินทางเลยไหวไหม?
ยาเอะ: การฝึกฝนของชิโนบิมันโหดหินมากเลยนะคะ มีน้ำให้แค่กระบอกไม้ไผ่เดียวแท้ๆ แต่ถูกสั่งให้วิ่งกลับหมู่บ้านจากนครจักรพรรดิที่ต้องใช้เวลาครึ่งเดือนโดยที่ห้ามพักห้ามหลับด้วยแหละค่ะ
อัล: ไม่เคยผิดหวังกับชิโนบิเอพิโซดสุดบ้าบอของเธอเลยน้า
ยาเอะคงตั้งใจจะสื่อว่าเธอเคยผ่านอะไรที่หนักกว่านี้มาแล้ว เดินทางแค่นี้สบายมาก แต่เรื่องเล่านั้นยิ่งเป็นการตอกย้ำความอันตรายของพวกชิโนบิ
แถมมันยังปลุกความทรงจำแย่ๆ ตอนที่อัลเดบารันถูกชิโนบิผู้อันตรายที่สุดในจักรวรรดิ(โอลบาร์ต)เล่นงานขึ้นมาด้วย
. เจ้าของร้าน: ระ…รอเดี๋ยวก่อน! …ไม่สิ โปรดรอก่อนเถอะครับ!
พอพวกอัลกำลังจะเดินจากไป เจ้าของร้านเหล้าก็เรียกพวกเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เขาคงต้องรวบรวมความกล้าน่าดูหลังได้เห็นมังกรสำแดงพลัง
เจ้าของร้าน: ที่ตรงนั้น… คือว่า รบกวนช่วยหยุดยั้งภัยพิบัติที่กำลังเกิดขึ้นที่หอสังเกตการณ์เพลอาเดสได้ไหมครับ คุณคือท่าน [มังกรเทพ] วอลคานิก้าใช่ไหมล่ะครับ!?
ไม่ใช่เพียงแค่เจ้าของร้าน ชาวเมืองมิรูล่าต่างเริ่มจดจ้องมายัง [มังกรเทพ] ด้วยสายตาที่ทั้งกระวนกระวายและคาดหวัง อัลจึงได้แต่เขี่ยตัวเชื่อมหมวกเกราะด้วยความเหนื่อยใจ
มังกรเทพอัล: โทษทีนะ ตอนนี้การหยุดยั้งเจ้าสิ่งนั้นน่ะ มันไม่ใช่หน้าที่ของชั้นหรอก
เจ้าของร้าน: ――อึก
มังกรเทพอัล: คุณ [นักดาบเทวา] เขาจะทำทุกอย่างเพื่อหยุดยั้งมันเอง แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่มีอะไรการันตีได้ว่าผลกระทบจะไม่มาไกลถึงที่นี่ อพยพออกจากเมืองไปสักพักจะดีกว่านะ
เจ้าของร้าน: สักพักที่ว่าน่ะ… มันต้องนานแค่ไหนกันล่ะ…
อัล: ――7 วัน
เจ้าของร้าน: …
อัล: ภายใน 7 วัน มันก็จะจบลง ――ภายใน 7 วัน ต้นเหตุที่ทำให้โลกต้องจบสิ้นจะถูกกำจัด
อัลเดบารันหันหลังให้แก่ชาวเมืองมิรูล่าแล้วเริ่มเดินจากมา ยาเอะแบกไฮน์เคลที่หมดสติขึ้นหลังแล้วเดินตามเขาไป เช่นเดียวกับมังกรเทพอัลที่เริ่มก้าวเดิน
อัลเดบารันและเหล่า [ผู้สมรู้ร่วมคิด] ที่ตั้งตัวเป็นศัตรูต่อโลกจำเป็นต้องเดินหน้าต่อไปโดยที่ห้ามหยุดฝีเท้า
อัล: ต้องเดินหน้าต่อไป ――เพื่อที่ชั้น จะได้กลายเป็นตัวชั้นเอง
. จบตอน