ย้อนเวลากลับไปเล็กน้อย ทันทีที่ศึกระหว่าง [อสูรดาบ] กับ [มังกรเทพ] เริ่มต้นขึ้น ไฮน์เคลที่เกาะไว้ไม่อยู่ก็ร่วงหล่นจากหลังมังกรแทบจะทันที
ราวกับว่าตำนานบทใหม่ที่กำลังถูกถักทอขึ้นไม่มีที่สำหรับคนอย่างไฮน์เคล เขาถึงได้ถูกไล่ลงจากเวทีทันทีที่ [มังกรเทพ] ไม่ว่างมาให้ความสนใจ
ในไม่ช้าสนามรบก็ได้ขยายขอบเขตจากคฤหาสน์บาริเอลไปครอบคลุมทั่วทั้งย่านขุนนาง มันคือศึกที่เหนือจินตนาการของมนุษย์ ราวกับหลุดมาจากความฝัน
แต่ต่อให้ไฮน์เคลจะอยากเบือนหน้านี้สักแค่ไหน เขาก็มิอาจปิดหูปิดตาไม่รับรู้หรือวิ่งหนีไปจากศึกในตำนานศึกนี้ได้
เพราะมันไม่มีทางเสียหรอกที่ไฮน์เคล แอสเทรอาจะอยากละสายตายามที่วิลเฮล์ม วาน แอสเทรอากำลังกวัดแกว่งดาบอยู่
ย่างก้าว กระโดด ประกายดาบ ปัดป้อง รักษาสมดุลท่วงท่า เปลี่ยนถ่ายน้ำหนัก หลอกล่อด้วยสายตา ใช้สิ่งกีดกวาง ประยุกต์วิชา
[อสูรดาบ] งัดทุกอย่างที่เขามีออกมาช่วยเสริมแกร่งวิชาดาบแบบเต็มพิกัด จนทำให้เขาสามารถต่อกรกับ [มังกรเทพ] ขนาดมหึมาและรอดตายมาได้หลายครั้งหลายครา
ไฮน์เคลไม่กังขาเลยสักนิดว่าวิลเฮล์มคือนักดาบผู้แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาคนที่เขารู้จัก
. ประกายดาบของ [อสูรดาบ] ทำให้ไฮน์เคลหลงใหลจนเผลอกลั้นหายใจ เขาจดจ้องมันแบบไม่กระพริบตา กระทั่งเสียงเต้นของหัวใจยังกลายเป็นสิ่งรบกวน
ว่ากันตามตรง [อสูรดาบ] มิได้กำลังระบำดาบอย่างประณีตและสง่างาม วิชาดาบของเขาในตอนนี้เปี่ยมล้นไปด้วยความดิบเถื่อนคล้ายสัตว์ป่าที่จ้องสังหารเหยื่อ
ไฮน์เคลหวนนึกถึงสนามรบต่างๆ ที่วิลเฮล์มเคยเข้าร่วมที่ผ่านมาในอดีต
ณ นครประตูน้ำพริสเทล่า เขาดวลดาบกับเทเรเซีย วาน แอสเทรอาผู้ถูกคืนชีพกลับมาในสภาพเยาว์วัย
ณ ทุ่งราบรีฟาอุส เขาใช้ดาบกำราบ [วาฬขาว] ศัตรูคู่อาฆาตของภรรยา
ณ นครพาณิชยกรรมพิคทาต เขาฟาดฟันกับ [มังกรอสูร] วาลเกลนและตัดศีรษะของมันทิ้งได้หนึ่งหัว
ณ นครพาณิชยกรรมพิคทาตอีกศึกหนึ่ง เขาได้จารึกนามในหน้าประวัติศาสตร์จากการเอาชนะ [แปดกร] คูร์กัน วีรชนสุดแกร่งแห่งจักรวรรดิวอลลาเคีย
ณ พระราชวังหลวงลูกุนิก้า เขาสามารถช่วงชิงดาบไปจาก [นักดาบเทวา] เทเรเซีย วาน แอสเทรอาได้สำเร็จ
ณ [สงครามอมนุษย์] เขาสังหารข้าศึกไปมากมายจนเลือดท่วมทั้งร่างและได้รับฉายา [อสูรดาบ] มา
. วิลเฮล์มคือปรมาจารย์ดาบที่นำพาชัยชนะมาสู่สนามรบศึกแล้วศึกเล่า เพราะงั้นไฮน์เคลถึงมั่นใจว่า [มังกรเทพ] จะเป็นฝ่ายที่พ่ายแพ้ในศึกนี้
นั่นเพราะว่าถ้าหาก [อสูรดาบ] ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะชนะศึกไหน ต่อให้คู่ต่อสู้จะเป็นใครก็ย่อมมิวายต้องปราชัย
ไฮน์เคล: ไม่ดีแน่
ไฮน์เคลที่คุกเข่าอยู่เรียกสติตัวเองและตัดสินใจลุกขึ้นยืน เขาอาศัยความมั่นใจในชัยชนะของวิลเฮล์มตามจินตนาการของตนเป็นแรงผลักดัน
ที่จริงไฮน์เคลจินตนาการถึงขีดจำกัดพลังของทั้ง [อสูรดาบ] และ [มังกรเทพ] ไม่ได้ด้วยซ้ำ เพราะทั้งสองตัวตนห่างชั้นกับตัวเขาราวกับอยู่คนละโลก
เขารู้ดีว่าคมดาบของวิลเฮล์มมิอาจเจาะทะลุเกล็ดของ [มังกรเทพ] ได้ไม่ว่าจะฟันโดนสักกี่ครั้ง ในขณะที่ฝั่ง [อสูรดาบ] สามารถถูกปลิดชีพในการโจมตีเดียวได้
แต่ทั้งที่เขาตระหนักถึงความได้เปรียบของฝั่ง [มังกรเทพ] เป็นอย่างดี ความเชื่อมั่นที่ไฮน์เคลมีต่อชัยชนะของ [อสูรดาบ] กลับยังมิสั่นคลอน
เรื่องนี้ไม่ได้อิงตามตรรกะใดๆ เนื่องจากความแข็งแกร่งของ [อสูรดาบ] ผู้เคยเอาชนะ [นักดาบเทวา] มาได้นั้นคือสิ่งที่อยู่เหนือเหตุผลและตรรกะทั้งมวล
ไฮน์เคล: ――ไม่ดีแน่
ด้วยเหตุนั้นเอง ผลลัพธ์สุดเลวร้ายตามจินตนาการของไฮน์เคลจึงกลายเป็นแรงผลักดันให้เขาเริ่มย่างก้าว
. ขืนปล่อยให้ [อสูรดาบ] เอาชนะ [มังกรเทพ] ได้ คู่ต่อสู้คนต่อไปที่เขาจะท้าทายจะต้องเป็น [นักดาบเทวา] รุ่นปัจจุบันอย่างแน่นอน
และเช่นเดียวกับที่วิลเฮล์มเคยโค่น [นักดาบเทวา] รุ่นก่อนมาได้ ไฮน์เคลเชื่อมั่นว่าพ่อของเขาจะสามารถเอาชนะไรน์ฮาร์ดได้ด้วยเช่นกัน
เรื่องนั้นไม่ดีอย่างแน่นอน มีเพียงเรื่องนั้นที่ยอมให้เกิดขึ้นจริงไม่ได้โดยเด็ดขาด
จริงอยู่ว่าศึกระหว่างวิลเฮล์มกับไรน์ฮาร์ดอาจเกิดขึ้นได้ยากตราบใดที่ยังคงมี [แม่มดแห่งริษยา] ที่อัลเดบารันปล่อยออกมาอาละวาดเป็นอุปสรรคขัดขวางอยู่
แต่ต่อให้จะคำนึงถึงเรื่องนั้นก็ไม่ดีแน่ ไม่ดีแน่ ไม่ดีอยู่แล้ว ไม่ดีสิ ยังไงก็ไม่ดีแน่ ไม่ต้องอธิบายก็รู้ว่าทำไมถึงไม่ดี ไม่ดีหรอกน่า ไม่ดีก็ไม่ดีสิ ไม่ดี เพราะว่าไม่ดีไง ที่มันไม่ดีเพราะมันไม่ดีไง
ดาบอันบริสุทธิ์ของ [อสูรดาบ] มิอาจช่วยเหลือลูอันน่า แอสเทรอาได้ เพราะงั้นแล้ว――
ทั้งที่หัวแตกเลือดไหลเพราะเศษหินหล่นใส่ ทั้งที่ถูกคลื่นกระแทกอัดปลิวหลายครั้ง ทั้งที่ถูกเสาล้มทับ ทั้งที่โดนเผาไปครึ่งท่อนเพราะลูกหลงจากลมหายใจมังกรที่ถูกผ่า
ไฮน์เคลฝืนสังขารลากร่างเปรอะเปื้อนฝุ่นและเลือดที่ถูกเผาเกรียม ก้าวเดิน ก้าวเดิน ก้าวเดินไปถึงข้างหลังวิลเฮล์ม จากนั้นก็ใช้ดาบ [แอสเทรอา] แทงทะลุแผ่นหลังของบิดา
. วิลเฮล์ม: ――ไฮน์เคล
น้ำเสียงกระอักเลือดที่เรียกชื่อเขาทำให้สองมือที่ถือดาบอยู่สั่นเทา ไฮน์เคลจึงทุ่มเทแรงใจทั้งหมดที่มีอยู่เพื่อกุมด้ามดาบเอาไว้ให้แน่น
ไฮน์เคล: …วิธีการของคุณน่ะ เอาลูอันน่ากลับมาไม่ได้หรอก
ไฮน์เคลกุมดาบให้แน่นขึ้นอีกเพื่อให้วิลเฮล์มรู้ตัวว่าแผลลึกแค่ไหนและบีบบังคับมิให้อีกฝ่ายหันมามองทางนี้ ต้องห้ามอย่าให้เขาหันมาเด็ดขาด
อย่าปล่อยให้ [อสูรดาบ] หันกลับมาและพูดว่าเขาจะทำเรื่องนั้นให้สำเร็จ มิเช่นนั้นดาบของเขาจะเบิกทางสู่อนาคตที่ท้องฟ้าสดใส ――แต่เป็นอนาคตที่ลูอันน่ามิได้อยู่ในนั้นด้วย
ดาบของ [อสูรดาบ] มิอาจปลุกลูอันน่าให้ฟื้นได้ แล้วถ้าปราศจากเธอไป พวกไฮน์เคลก็ไม่มีวันได้รับการช่วยเหลือให้รอดพ้นทุกข์อย่างแท้จริง
ไฮน์เคล: ไม่ใช่คุณ… ไม่ใช่คุณพ่อ แต่ต้องเป็นผม ――มันคือเรื่องที่ผมต้องเป็นคนทำ
น้ำเสียงที่ไฮน์เคลเค้นออกมาได้ช่างอ่อนแอ แถมยังสะอึกสะอื้น เขาสมเพชตัวเองเหลือเกิน
กัดฟันไว้สิ ไอ้คนไร้น้ำยา พูดให้ชัดๆ สิ ไอ้คนขี้ขลาด มัวแต่ก้มหน้าอยู่ได้ ไอ้คนใจเสาะ พึ่งแทงพ่อไปแท้ๆ ยังจะปากสั่น น้ำตานอง แถมหวิดจะอ้วกแตกอยู่อีก ไอ้คนเลี้ยงเสียข้าวสุก
ปากบอกว่าเตรียมใจไว้แล้วแท้ๆ เมื่อไหร่ถึงจะหลอกตัวเองให้เลิกใจโลเลได้เสียที ไอ้เด็กโข่งฉี่ราด
. วิลเฮล์ม: ――ไอ้เจ้าลูกงี่เง่าเอ๊ย
คำตำหนิของบิดาเรียกสติของเขากลับมาจากห้วงความคิดดูหมิ่นตนเองที่ไม่สิ้นสุด ดวงตาของไฮน์เคลเบิกกว้างเมื่อเงยหน้ามาเห็นวิลเฮล์มจ้องตาเขาอยู่
ที่วิลเฮล์มหันกลับมาจ้องตาลูกชายได้เป็นเพราะว่าเขาฝืนบิดร่างตนเองเพื่อดึงดาบที่เสียบทะลุลำตัวอยู่ออก ส่งผลให้แผลฉีกกว้างและเลือดไหลทะลัก
วิลเฮล์ม: ไฮน์เคล…
ทั้งบาดแผลเก่าจากตอนที่สู้กับยาเอะและ [มังกรเทพ] พอรวมเข้ากับแผลฉกรรจ์ที่โดนลูกชายแทง วิลเฮล์มที่เสียเลือดมากจึงเข่าทรุดลงทันที
ไฮน์เคล: พะ..พ่อ…คุณพ่…
ไฮน์เคลรีบเข้าไปพยุงร่างของพ่อเอาไว้ แต่วิลเฮล์มกลับคว้ามือที่ยื่นเข้ามาไว้แน่นและดึงตัวลูกชายให้เข้ามาใกล้ สายตามิได้ดูอ่อนแอเหมือนคนใกล้ตายแม้แต่น้อย
วิลเฮล์ม: ลืมตาตื่น…เสียทีเถอะ…
คำร้องขอนั้นจุดประกายจิตดำมืดที่เกือบจะดับมอดภายใจของไฮน์เคลกลับคืนมา นี่พ่อคิดจะสั่งสอนเขาให้เลิกเพ้อฝันงั้นหรือ จะบอกว่าการปลุกลูอันน่าให้ตื่นเป็นเรื่องฝันกลางวันหรือไงกัน
หรือวิลเฮล์มตั้งใจจะสื่อว่าต่อให้ลูอันน่าฟื้นขึ้นมา เธอก็คงไม่มีความสุข ――แต่ต่อให้ไม่บอก ไฮน์เคลก็ตระหนักอยู่แล้วว่าลูอันน่าไม่มีทางมีความสุข
ลูอันน่าไม่มีทางยอมรับการกระทำที่ผ่านมาของไฮน์เคล ความรักจะแปรเปลี่ยนเป็นความแค้น ไฮน์เคลจะถูกลูอันน่าเกลียดชังและทอดทิ้ง
แต่ต่อให้ไฮน์เคลจะกลายเป็นบุคคลที่ลูอันน่าชิงชังที่สุดในโลก เขาก็ยอมรับผลลัพธ์นั้นได้
ไม่ว่าจะถูกเธอโกรธหรือเกลียดแค่ไหน ตราบใดที่ลูอันน่าได้ลืมตาดูโลกอีกครั้ง เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
ไฮน์เคลไม่เคยคิดจะฝันเฟื่องถึงอนาคตที่ตนเองจะได้มีความสุขร่วมกับเธอ เขาจะใช้ชีวิตอยู่ในความเป็นจริงที่เป็นดั่งฝันร้ายนี้ต่อจนกระทั่งตายจากไป
วิลเฮล์ม: ――ผิดแล้ว
เสียงของวิลเฮล์มดังขึ้นมาขัดการเตรียมใจอันดำมืดและอาการปวดหัวของไฮน์เคล เขายังคงไม่หยุดจ้องตาลูกชายผู้ไม่เอาถ่าน
สีหน้าเจ็บปวดของบิดาในตอนนี้ทำให้ไฮน์เคลหวนนึกถึงความทรงจำเลวร้ายในอดีต ตอนที่วิลเฮล์มได้แจ้งข่าวร้ายว่าเทเรเซียไม่รอดชีวิตกลับมาจากศึกปะทะวาฬขาว
วิลเฮล์ม: ลืมตาตื่นเสียเถอะ ไฮน์เคล… ต่อให้แก…
ไฮน์เคลรู้จักสีหน้านี้ดี มันคือสีหน้าของ [อสูรดาบ] วิลเฮล์มยามที่เขาแสดงความอ่อนแอถึงขีดสุด
วิลเฮล์ม: ต่อให้แกจะถูกใครเกลียดชังก็ตาม ไรน์ฮาร์ดก็ไม่มีวันยอมสละตำแหน่ง [นักดาบเทวา] หรอกนะ… ฮึก
――เช่นเดียวตอนที่ได้รู้ว่ามารดาของเขาเสียชีวิต คำพูดจากปากของวิลเฮล์มสร้างความเจ็บปวดจนหัวใจของไฮน์เคลแตกสลาย
. จบตอน