“พระผู้เป็นเจ้า พระพุทธองค์ ท่านโอโด ลากูน่า ขอสาบานว่าจะไม่เล่นกับเด็กๆ ไปชั่วชีวิตค่ะ”
. 【เพทร่า: ถ้าเกิดว่าบุคคลอื่น อย่างเช่นตัวฉัน สามารถใช้งานปัจจัยแม่มดที่ท่านพี่คลินด์ถือครองอยู่ได้ล่ะก็… แสดงว่าสามารถใช้งาน [เคลื่อนย้าย] แบบไม่อั้นโดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลยสินะ?】
แผนแท็กทีมระหว่าง [จอมขมังเวท] นัตสึกิ สุบารุ ผู้ถือครองอำนาจ [หวนกลับจากความตาย] และ [แม่มด] เพทร่า เลย์เตนั้นเคยถูกปัดตกไป
เนื่องจากว่าปัจจัยแม่มดบาป [โศกา] ถูกสร้างขึ้นมาให้เข้ากันได้กับเพียงบุคคลเดียว ทั้งคลินด์และเพทร่าจึงต้องเสียค่าใช้จ่ายทุกครั้งที่ใช้งานมัน
ด้วยเหตุนั้น อำนาจ [บีบอัด] ของคลินด์จึงถูกกำหนดให้ใช้งานเพื่อรวบรวมพันธมิตรและเคลื่อนย้ายกำลังรบตอนเปิดศึกกับกลุ่มอัลเท่านั้น
แต่แล้วหลังจากที่ทุกคนได้ทราบว่าอำนาจของอัลคือ [ย้อนเวลา] สปอตไลต์ก็ได้ฉายกลับมายังอำนาจบาป [โศกา] อีกครั้งในฐานะอาวุธแก้ทางหลัก
เพทร่าเสนอให้ใช้อำนาจ [บีบอัด] แยกสมาชิกกลุ่มอัลให้แตกกระเจิงและคอยสลับตัวกำลังรบที่เข้าออกสนามรบด้วยการเทเลพอร์ต
ประเด็นคือคลินด์เป็นคีย์เพอร์ซัน(ตัวหลัก)ในการรับมือกับศัตรูตัวปัญหาอย่าง [มังกรเทพ] ทำให้เขาไม่ว่างใช้งาน [บีบอัด] เคลื่อนย้ายพรรคพวก
. สถานการณ์ปัจจุบันมันใหญ่โตระดับโลกจนไม่ควรจะเก็บความลับอะไรแล้ว สุดท้ายคลินด์จึงยอมยืนยันว่าการถ่ายโอนอำนาจ [โศกา] นั้นเป็นไปได้
เดิมทีคลินด์ก็มิได้เข้ากับปัจจัยบาป [โศกา] อยู่แล้ว เขาเป็นเพียงบุคคลที่ถูกมอบหมายให้รับผิดชอบถือครองมันเอาไว้ ซึ่งถือว่าเลือกใช้คนได้ถูกงาน
เพทร่าเสนอให้เปลี่ยนตัวผู้ถือครองปัจจัยบาป [โศกา] ในศึกครั้งนี้ แต่เอมิเลียกังวลเรื่องความเสี่ยง มิหนำซ้ำเมลี่ยังออกปากคัดค้านโดยทันที
ความห่วงใยที่เมลี่แสดงออกมาทำให้เพทร่าตื้นตันใจ เนื่องจากความพยายามในการดับจิตสังหารของเมลี่ด้วยความผูกพันสำเร็จอย่างงดงาม
อิมาจินารี่สุบารุคัดค้านอีกเสียงว่าเพทร่าเสียค่าใช้จ่ายให้คลินด์ไปส่วนหนึ่งแล้ว เขาจึงไม่อยากให้เธอต้องเสียสละอะไรมากไปกว่านี้อีก
เพทร่าแอบโล่งใจที่เฟรเดริก้ากับเบียทริซมิได้อยู่ที่นี่ด้วย ถ้าหากต้องรับดับเบิลพันช์จากสองคนนั้น เพทร่าน่าจะโดนน็อคเอาท์และอาจจะยอมล้มเลิกก็ได้
ถ้าหากการ์ฟีลอยู่ เขาก็คงจะโกรธและตะคอกใส่เธอ ส่วนออตโต้น่าจะเข้าใจเพทร่าเป็นอย่างดี เนื่องจากตัวเขาเองก็กำลังเอาตัวไปเสี่ยงเพื่อฝ่ายอยู่
เพทร่า: ――มาจัดแบ่งบทบาทกันให้เรียบร้อยดีกว่าค่ะ เพื่อที่ทุกคนจะได้ทำหน้าที่ของตนเองได้อย่างเต็มร้อย
. “พระผู้เป็นเจ้า พระพุทธองค์ ท่านโอโด ลากูน่า ขอสาบานว่าจะไม่กลับไปเยือนสถานที่ที่มีความทรงจำผูกพันอีกชั่วชีวิตค่ะ”
. ที่ผ่านมาเพทร่าเคยคิดว่าตัวเธอจิตใจแข็งแกร่งพอสมควร กระทั่งการอ่าน [คัมภีร์ผู้วายชนม์] หรือการถูกคนที่เธอหลงรักเอาแต่เมินเฉยก็ยังมิอาจทำให้เพทร่าใจสลายหรือยอมแพ้ได้
ทว่า การถือครองปัจจัยแม่มดกลับสร้างภาระทางจิตหนักหน่วงจนเธอหัวหมุน เพราะงั้นเพทร่าจึงพยายามตั้งสมาธิและวาน [สุบารุ] ช่วยให้กำลังใจอีกแรง
เนื่องจากปัจจัยแม่มดส่งผลกระทบทางจิตใจเท่านั้น ยารักษาที่ดีที่สุดก็คือพลังใจจากความรัก ที่เพทร่ามิใช่แค่เด็กสาวบ้านนอกธรรมดาอีกต่อไปก็เพราะยาตัวนี้
รอม: ――อัคคีแปด ขุนนาง! บุปผาสาม นักรบ!
พอได้ยินเสียงแหบแห้งออกคำสั่ง เพทร่าก็แบ่งพื้นที่สนามรบออกเป็นตาราง 8x8 แบบหมากชาทรันจ์ในหัวเพื่อระบุพื้นที่ส่งตัวพันธมิตร
เพทร่าเบิกตากว้างและกัดฟันเพื่อเปิดใช้งาน [บีบอัด] และส่งผู้ติดตามของเฟลท์ “แกสตัน” และ [ราชาสุกร] ดอลเทโร่เข้าไปขัดขวางไฮน์เคลกับรอย
รอยอาศัยการเคลื่อนไหวแบบกายกรรมลดทอนความเสียหายจากกำปั้น จากนั้นก็กวาดสายตามองหาเพทร่าผู้นั่งอยู่บนไหล่ของปู่รอมเพื่อสังเกตการณ์รอบสนามรบจากระยะไกล
รอย: ――เพทร่าจัง กลายเป็นบิชอปมหาบาปไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?
ไม่ใช่ว่าเจ้าบิชอปมหาบาปสามารถสัมผัสตำแหน่งของปัจจัยแม่มดได้ รอยก็แค่อนุมานโดยอิงจากการที่เพทร่าอยู่ในตำแหน่งเหมาะสมที่สุดในการใช้งาน [บีบอัด]
เพทร่า: เรียกกันแบบนั้นมันฟังดูแย่ชะมัดเลย ถ้าคิดจะเรียกด้วยชื่อแย่ๆ ทั้งทีล่ะก็ ขอให้เรียกแบบนี้ดีกว่า
เพทร่าวางมือบนหน้าอกเพื่อยืนยันสัมผัสของกล่องสี่เหลี่ยมสีดำที่เธอได้รับมาจากคลินด์และซ่อนมันไว้ใต้อกเสื้อ จากนั้นก็ประกาศสมญานามที่ผู้คนทั่วโลกชิงชัง
เพทร่า: ――[แม่มดแห่งโศกา] เพทร่า เลย์เต
สาเหตุที่เพทร่าสามารถประกาศฉายาต้องสาปได้อย่างภาคภูมิเป็นเพราะว่าเจ้านายของเธอคือ [แม่มดเยือกแข็ง] และชายที่เธอหลงรักก็เป็นอัศวินผู้มีใจให้แม่มดคนนั้น
. “พระผู้เป็นเจ้า พระพุทธองค์ ท่านโอโด ลากูน่า ขอสาบานว่าจะไม่เด็ดดอกไม้สวยงามไปชั่วชีวิตค่ะ”
“พระผู้เป็นเจ้า พระพุทธองค์ ท่านโอโด ลากูน่า ขอสาบานว่าจะไม่ทานอาหารจานโปรดไปชั่วชีวิตค่ะ”
“พระผู้เป็นเจ้า พระพุทธองค์ ท่านโอโด ลากูน่า ขอสาบานว่าจะไม่กลับไปบ้านเกิดอีกชั่วชีวิตค่ะ”
. การลงทุนใช้งานปัจจัยแม่มดและเปลี่ยนตนเองเป็น [แม่มดแห่งโศกา] ของเพทร่า เลย์เตทำให้รอย อัลฟาร์ดทั้งประหลาดใจและตื้นตันใจ
อสุรกายผู้ทึกทักตนเป็นแม่ของรอยเคยกล่าวไว้ว่าปัจจัยแม่มดบาป [โศกา] คือสิ่งบกพร่องที่ไม่เข้ากับผู้ใดเลยและตัวเธอก็อยากได้มันไว้ครอบครองเอง
แม่คงจะยินดีหากเขาแจ้งให้หล่อนทราบว่าค้นพบที่อยู่ของ [โศกา] แล้ว แต่มื้ออาหารที่พิเศษขนาดนี้รอยไม่คิดจะแบ่งให้แม่ชิมแม้แต่คำเดียวหรอก
รอย: ก็แค่ความเอาแต่ใจแสนน่าเอ็นดูของเด็กผู้หิวโหยเท่านั้นเอง คงจะยอมมองข้ามได้อยู่แหละเนอะ
แม่ของรอยปรารถนาการถูกยอมรับและการถูกเคารพบูชาเหนือสิ่งอื่นใด หล่อนคงจะโวยวายแหงๆ หลังได้รู้ว่ารอยให้ความสำคัญกับตัวเองก่อน
เมื่อก่อนรอยเคยรำคาญความเห็นแก่ตัวของแม่ก็จริง แต่ภายหลังเขาเริ่มรู้สึกเคารพต่อความหลงตัวเองระดับป่วยจิตที่ไม่เหมือนใครของหล่อนแล้ว
. รอม: ปฐพีหก ราชินี! ตะวันหก พราน! เงาห้า ขุนนาง!
หลังยักษ์ชรามอบคำสั่ง ดวงตาของเพทร่าก็มีประกายวูบขึ้นมาชั่วขณะ ไม่เชิงว่ามีแสงสว่างจริงๆ มันเป็นผลจากการเกร็งดวงตายามเพ่งสมาธิเพื่อใช้อำนาจที่ยังไม่คุ้นเคยเท่านั้นเอง
ทว่า สัญญาณเล็กๆ นั้นช่วยให้รอยกะไทม์มิ่งตอนที่รัม มนุษย์สุกร และเมลี่บนหลังราชันอาชาหิวโหยจะถูกเคลื่อนย้ายตำแหน่งมาประชิดตัวเขาได้ถูกต้อง
รอย: คร้าบๆ ขออภัยที่ต้องรบกวนกันสักหน่อย
พอรอยปรบมือเข้าหากัน เนินดินก็ผุดขึ้นมากีดขวางรัมกับมนุษย์สุกร แต่ราชันอาชาหิวโหยยังคงแทงหอกกระดูกเข้ามาพร้อมกับกรงเล็บของกิลตีลอว์
กระนั้นรอยกลับสามารถโน้มตัวหลบหลีกการโจมตีของสัตว์มารทั้งสองตัวได้อย่างพริ้วไหวทั้งๆ ที่มิได้หันหลังกลับไปมองเลยแม้แต่น้อย
นั่นคือการผสานวิชาของนักฆ่าผู้เชี่ยวชาญการฝังเหยื่อทั้งเป็น [นักบดขยี้] ฟิกโดลผู้มีพลังวิเศษในการบีบอัดทุกสิ่งที่มองเห็นเข้าสู่จุดศูนย์กลางของทัศนวิสัย
และวิชาของ[สตรีศักดิ์สิทธิ์พันหน้า] เยลนาผู้มีสายตากว้างไกลและหัวใจกว้างขวาง 360 องศา เธอมิเคยมองข้ามน้ำตาของผู้อ่อนแอที่เศร้าโศกไม่ว่าจะอยู่ทิศทางใด
ฝั่ง [ราชินีแห่งสัตว์มาร] เมลี่เองก็ไม่น้อยหน้า เธอควบคุมฝูงอุลการ์ม ราชันอาชาหิวโหยและ [ราชาทมิฬแห่งป่าลึก] กิลตีลอว์สลับกันจู่โจมอย่างต่อเนื่อง
. ตาม [ความทรงจำ] ที่รอยมีอยู่ เมลี่ยังควบคุมสัตว์มารไม่คล่องขนาดนี้ ศักยภาพที่แท้จริงของเธอคงจะตื่นขึ้นมาช่วงอยู่ที่หอสังเกตการณ์เพลอาเดส
รอยสนใจใคร่รู้ว่าเมลี่เติบโตมาอย่างไรและต้องลำบากแค่ไหนจากการมีพรคุ้มครองที่สามารถควบคุมสัตว์มารได้ แต่เมลี่แลบลิ้นสวนเพราะเธอไม่คิดจะเล่า
ตอนนั้นเองกำแพงดินด้านหลังรอยก็ถูกมนุษย์สุกรต่อยจนแหลก ส่วนรัมก็หายตัวไปปรากฏอยู่เหนือศีรษะเขา รอยจึงเปิดใช้งานวิชาที่ถูกลืมเลือนของ [เซียนเล่ห์มนตรา] ยาลโดเรย์
มิติใต้หว่างขาและข้างลำตัวทั้งสองฝั่งของเขาเริ่มบิดเบือน ก่อเกิดเป็นหอกเพลิง หอกน้ำแข็ง และหอกดินที่เล็งยิงไปยังสามทิศพร้อมๆ กัน
เป้าหมายที่เล็งยิงคือเมลี่ มนุษย์สุกร และรัม ――ทว่า พวกเขาทั้งสามกลับหายตัวไป ก่อนที่รัมจะปรากฏตัวอีกครั้งในระยะประชิดที่สามารถโอบกอดถึง
รัม: จะคลาดสายตาจากรัมอีกสักกี่ครั้ง ทิ้งไปซะดีกว่าไหม? ไอ้ดวงตาคู่นั้นน่ะ
. “พระผู้เป็นเจ้า พระพุทธองค์ ท่านโอโด ลากูน่า ขอสาบานว่าจะไม่ร้องไห้ต่อหน้าผู้อื่นไปชั่วชีวิตค่ะ”
“พระผู้เป็นเจ้า พระพุทธองค์ ท่านโอโด ลากูน่า ขอสาบานว่าจะไม่เช็ดน้ำตาให้ผู้อื่นไปชั่วชีวิตค่ะ”
. [นักบดขยี้] x [สตรีศักดิ์สิทธิ์พันหน้า] x [เซียนเล่ห์มนตรา]
ถึงแม้ว่าการประสานวิชาชุดใหม่จะล้มเหลว หัวใจของรอยก็ยังคงสั่นสะท้านไปด้วยความตื่นเต้น เขาหัวเราะร่าพลางเปลี่ยนเป้ายิงของหอกเวทมนตร์
รอยเล็งยิงหอกทั้งสามธาตุเข้าหากัน แรงปะทะก่อให้เกิดเป็นระเบิดไอน้ำที่ควรจะบีบบังคับให้พวกรัมต้องถอยไปตั้งหลักก่อน
รอย: ――เหอ
รัม: คิดว่าจะใช้ [เคลื่อนย้าย] เพื่อหลีกเลี่ยงการเจ็บตัวงั้นรึ?
แทนที่อีกฝ่ายจะใช้พลัง [เคลื่อนย้าย] จากอำนาจบาป [โศกา] รัมกลับปัดเป่าไอน้ำที่ร้อนระอุจนกระจุยและผ่านทะลุเข้ามาต่อ
ปกติในสถานการณ์เช่นนี้ รอยควรที่จะใช้พลัง [เคลื่อนย้าย] จากพลังของ [ผู้ข้ามมิติ] เพื่อถอยกลับไปตั้งหลักก่อน แต่เขากลับเปลี่ยนใจ
ความรู้สึกชื่นชมที่มีต่อคู่ต่อสู้ทำให้ [กินไม่เลือก] รอย อัลฟาร์ดตื่นรู้และเริ่มทำการประมวล [ความทรงจำ] เพื่อหาหนทางตอบโต้การต้อนรับจากอีกฝ่าย
ตัวเลือกมากมายลอยเข้ามาในหัวพร้อมกับเสียงปีติยินดี สมบัติมากมายในคลัง [ความทรงจำ] กู่ร้องให้รอยหยิบพวกมันออกมาใช้งาน
. ประเด็นสำคัญที่สุดที่ต้องคำนึงถึงเป็นอย่างแรกก็คือสาเหตุที่ [อุปราคา] ล้มเหลว ซึ่งทำให้รอยมิอาจกิน [ความทรงจำ] ของรัมได้
เธอผู้นี้คือ “รัม” ไม่ผิดแน่ ทุกคนใน [ความทรงจำ] ที่รอยมีอยู่เรียกเธอเช่นนั้น กระทั่งเจ้าตัวก็ยังเรียกแทนตัวเองว่ารัมเลย
กระนั้นการเอ่ยชื่อ “รัม” กลับยังมิอาจเคลียร์เงื่อนไขในการใช้งาน [อุปราคา] ได้สำเร็จ ในเคสแบบนี้ รอยคาดเดาว่าสาเหตุน่าจะมาจาก…
รอย: ――การเปลี่ยนนามแท้
[อุปราคา] คือการฉกชื่อเป้าหมายออกมาจากทะเบียนดวงจิตที่โอโด ลากูน่าดูแลอยู่ ดังนั้น ชื่อที่ประกาศจะต้องตรงกับนามแท้ที่โอโด ลากูน่าบันทึกไว้
ปกตินามแท้จะถูกบันทึกช่วงที่มีการตั้งชื่อให้แก่ทารกแรกกำเนิด ราวกับว่าคำภาวนาของพ่อแม่ได้ถูกส่งไปถึงสุญญตาที่กว้างใหญ่ หรือก็คือโอโด ลากูน่า
โดยทั่วไปแล้ว นามแท้ที่ถูกบันทึกไว้จะไม่แปรเปลี่ยนต่อให้เจ้าตัวจะเปลี่ยนชื่อเองตามใจชอบ กระนั้นก็ยังมีข้อยกเว้นบางกรณีที่โอโด ลากูน่ายอมรับ
รอย: ――รัม เมเธอร์ส
รัม: ――เฮือก
สาเหตุของการเปลี่ยนนามแท้ที่สามัญที่สุดก็คือ [การแต่งงาน] แถมก่อนหน้านี้รัมก็พึ่งทักให้เมลี่เรียกเธอว่า “ท่านหญิง” ไปหยกๆ ด้วย
พออ่านจาก [ความทรงจำ] ที่มีอยู่ ก็เดาได้ไม่ยากเลยว่ารัมอยากแต่งงานกับใคร เพราะงั้นรอยจึงตัดสินใจพุ่งสวนเข้าไปสัมผัสดวงจิตของ “รัม”
ไม่สิ รอยสัมผัสดวงจิตของ “รัม เมเธอร์ส” ที่ผ่านทะลุไอน้ำเข้ามาเพื่อเล่นงานเขา จากนั้นก็เปิดใช้งาน [อุปราคา] เพื่อกลืนกิน [ความทรงจำ] ของหญิงสาวผู้เบิกตากว้าง
รอย: ทานล่ะนะคร้า ――อุแหวะ
. รอยรู้สึกอยากอาเจียนราวกับมีคนเอาขยะมายัดปากอย่างกะทันหัน การที่ร่างกายของเขาต่อต้านอย่างรุนแรงเช่นนี้คือหลักฐานว่า [อุปราคา] ล้มเหลว
“ทำไม ได้ไงกัน ทำความเข้าใจ แต่งงาน รัม นามแท้ หวงน้องสาว รสนิยมแย่ มาร์เกรฟ ภักดี ใจร้าย ยอดเยี่ยม พึ่งพาได้ รสนิยมแย่จริง นิสัยเสีย แต่งงาน เร่าร้อน”
รัม: ――แอบดู [ความทรงจำ] ของออตโต้งั้นเหรอ? โง่จริงนะ
รอย: ――หา?
รัม: ในสถานการณ์ที่ฉุกเฉินขนาดนี้ คิดว่ารัมยังจะฉวยโอกาสคว้าตำแหน่งคู่ครองของท่านรอสวาลอีกงั้นเหรอ? ――ถ้ารู้จักรัมจริงๆ ล่ะก็ ไม่ควรจะพลาดเข้าใจผิดแบบนั้นได้เลยนะ
รอยยิ้มเยาะเย้ยของรัมทำให้รอยตระหนักขึ้นได้ การให้เมลี่เรียกเธอว่า “ท่านหญิง” คือมิสลีดที่ชักจูงรอยผู้มี [ความทรงจำ] ของออตโต้ ซูเวนให้ตัดสินใจพลาด
แทนที่จะใช้แผนโลว์ริสค์(ความเสี่ยงต่ำ)ด้วยวิชาของ [ผู้ข้ามมิติ] รอยดันเลือกแผนไฮรีเทิร์น(ผลตอบแทนสูง)และเข้าไปเสี่ยงเพื่อสัมผัสดวงจิตของรัม
รัม: นี่ส่วนของออตโต้ไงล่ะ เผื่อไว้ก่อน
ทั้งกำปั้นเคลือบสายลมของรัม กำปั้นหินผาของมนุษย์สุกร หอกกระดูกเพลิง และขาหน้าแสนทรงพลังของสัตว์ร้ายได้กระซวกใส่ร่างของรอย อัลฟาร์ดพร้อมกัน
. จบตอน