re zero webnovel arc9 chapter45 แปลไทย

บทที่ 9 ตอนที่ 45 "ปะทะกับเหล่าผู้อยู่เหนือสามัญสำนึก"

. “พระผู้เป็นเจ้า พระพุทธองค์ ท่านโอโด ลากูน่า ขอสาบานว่าจะไม่ชวนใครมาที่บ้านอีกไปชั่วชีวิตค่ะ”

. เดิมทีเฟลท์ตั้งใจจะสวมบทเป็น “ฟิลโอเร ลูกุนิก้า” ตามข้อเสนอไปก่อนในขณะที่สืบหาจุดอ่อนของพวกอัลเดบารันและหาวิธีรับมือการตลบหลังจากรอย

[หลักประกัน] ที่รอยขู่เอาไว้เป็นของจริงอย่างแน่นอน เพราะงั้นเฟลท์จึงอยากหลีกเลี่ยงความเสี่ยงซึ่งอาจกระทบถึงพรรคพวกเอาไว้ก่อน

รอม: ――เฟลท์!!

แต่แล้วเฟลท์ก็ต้องเปลี่ยนใจยามที่ได้สบตากับเด็กสาวที่เกาะอยู่บนไหล่ของปู่รอม เนื่องจากมีกระแสข้อมูลไหลเข้าสู่สมองของเธออย่างเฉียบพลัน

อัลเดบารัน ยาเอะ [มังกรเทพ] หายตัวไป ปู่รอมกำลังนำทัพบุกเล่นงานรอยกับไฮน์เคล ไรน์ฮาร์ดยังคงต่อสู้อยู่กับ [แม่มด] และอื่นๆ อีกมากมาย

เฟลท์: ――ปู่รอม! ให้พวกแกสตอนถอยไปก่อน! “เจ้านั่น” กำลังจะมา!!

หลังพิจารณาสถานการณ์ใหม่ว่ารอยที่ถูกต้อนจนมุมอาจจะงัด [หลักประกัน] ออกมาใช้อยู่ดี เฟลท์ก็ได้ตัดสินใจตะโกนออกมาเช่นนั้น

อีกอย่างรอยนั้นเชื่อถือมิได้ตั้งแต่แรกแล้ว เขาโกหกเรื่องการหาทางหลบหนี ที่จริงรอยตั้งใจจะกินชื่อทุกคนทั้งเฟลท์ อัลเดบารัน ยาเอะ วอลคานิก้า และไฮน์เคลต่างหาก

เฟลท์: ――มันกำลังจะออกมาจากเงาของชั้นแล้ว!!

คนทั่วไปในโลกนี้มีความเชื่อว่า [นักดาบเทวา] ไรน์ฮาร์ด วาน แอสเทรอาสามารถรับมืออุปสรรคได้ทุกรูปแบบ ขอเพียงแค่มีเขาอยู่ด้วยทุกอย่างก็จะเรียบร้อย

ทว่า บุคคลที่เฟลท์เชื่อมั่นในระดับนั้นคือปู่รอม เพราะงั้นเธอจึงสามารถฝากความคาดหวังให้เขาช่วยฝ่าฟัน [หลักประกัน] ของรอยได้อย่างไร้ความลังเล

เฟลท์: ――งูดำน่ะ!!

ด้วยเหตุนั้นเอง ต่อให้ [ความตาย] จะพวยพุ่งออกมาจากเงาของเธอ ดวงตาและหัวใจของเฟลท์ก็ยังคงปราศจากความกลัวอย่างสิ้นเชิง

. “พระผู้เป็นเจ้า พระพุทธองค์ ท่านโอโด ลากูน่า ขอสาบานว่าจะไม่เฝ้าดูวาระสุดท้ายของใครอีกไปชั่วชีวิตค่ะ”

. สัตว์มารแห่งโรคร้าย [งูดำ] คือหนึ่งในสามมหาสัตว์มารที่ก่อความเสียหายต่อมนุษยชาติไว้อย่างร้ายแรงจนสัตว์มารทั่วไปเทียบไม่ติด

[วาฬขาว] ได้กวาดล้างหน่วยปราบปรามหน่วยแล้วหน่วยเล่าที่นานาประเทศตั้งขึ้นมาเพื่อกำจัดมันโดยเฉพาะจนราบคาบ

[กระต่ายใหญ่] ที่มีความหิวโหยระดับภัยธรรมชาติได้เขมือบทั้งชีวิตยามปกติจำนวนนับไม่ถ้วนและโศกนาฏกรรมเข้าไปจนเกลี้ยง

ทว่า งูดำถือเป็นตัวตนที่แปลกประหลาดในหมู่สามมหาสัตว์มารไปอีกขั้น เพราะมันได้คร่าชีวิตไปมากจนวาฬขาวและกระต่ายใหญ่เทียบไม่ติด

งูดำคือต้นเหตุที่ทำให้ประเทศมหาอำนาจล่มสลายไปแห่งหนึ่ง จนจากห้าประเทศมหาอำนาจเหลือเพียงแค่สี่ประเทศมหาอำนาจในปัจจุบัน

. ไอพิษที่เข้มข้นจนมองเห็นด้วยตาเปล่าพวยพุ่งออกมาจากเงาของเฟลท์และพุ่งทะยานสู่ฟากฟ้า ทุกชีวิตสามารถรับรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าสิ่งนั้นคือ [ความตาย]

กระนั้นสายตาของเฟลท์ที่มองมายังปู่รอมกลับเปี่ยมล้นไปด้วยความเชื่อใจและไร้ซึ่งความหวาดกลัว เพราะงั้นเขาจึงต้องรับความคาดหวังนั้น

รอม: เพทร่าาา!

เพทร่า: ค่า!

รอม: นักรบไปอัสนีแปด ทหารไปบุปผาแปด

เพทร่ากระโจนตัวออกจากไหล่ของปู่รอมและเปิดใช้งาน [บีบย่อ] ตามคำสั่งโดยทันทีเพื่อพาตัวแกสตอนและคู่แฝดออกไปจากแนวหน้าก่อน

ในฐานะผู้ผ่านศึกมาโชกโชน ปู่รอมหรือ “วาลก้า ครอมเวล” อดมิได้ที่จะคำนึงถึงสถานการณ์สมมุติว่าประวัติศาสตร์จะเปลี่ยนไปขนาดไหนหากในอดีตเขามีพลังนี้อยู่ในมือ

ขนาดมิใช่ผู้ใช้งานเองเขาก็ยังจินตนาการถึงมุมมอง [ถ้าเกิดว่า] เช่นนั้น ไม่แปลกใจเลยที่ผู้ถือครองปัจจัยแม่มดจะหลงละเลิงในอำนาจและออกนอกลู่นอกทาง

ดังนั้นแล้ว เพื่อที่จะได้รีบปลดปล่อยเพทร่าจากภาระอันหนักหน่วง ปู่รอมจึงกระโจนเข้าไปหาไฮน์เคลเพื่อชิงตัวเฟลท์กลับคืนมาโดยเร็ว

. ทันใดนั้นเองรอยที่เลือดท่วมไปทั้งตัวก็โผล่มาจ้วงฝ่ามือใส่สีข้างฝั่งขวาของปู่รอม ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาโดนพวกรัมเล่นงานจนสะบักสะบอมไปแล้ว

เฟลท์: หน็อยแก ทำกับปู่รอมได้…

รอย: เตือนไปแล้วนี่นา? ว่าเจ้าพวกนี้น่ะ ไม่ค่อยยอมทำตามที่พวกเราสั่งสักเท่าไหร่นะเออ!

เสาโสมมสีดำพุ่งทะยานสู่ฟากฟ้าด้านหลังรอย มันคือ [งูดำ] ที่มีตำนานเล่าขานกันมาว่าเพียงสัมผัสโดนหรือเห็นตัวมันก็หมดสิทธิ์รอดแล้ว

ถึงจะเจ็บปวด แต่เขาก็ต้องรีบพาเฟลท์ออกมาจากระยะลิ้นอสูรของงูดำก่อน กระนั้นการมีรอยเกาะติดอยู่ด้วยก็ทำให้ปู่รอมหลบหนีโดย [บีบย่อ] ได้ยาก

ที่รอยกล้าเสี่ยงขนาดนี้คงเป็นเพราะเขามีวิธีการบางอย่างในการหลีกเลี่ยงหายนะจากงูดำ หรือไม่ก็ตั้งใจจะพลีชีพให้พวกรอมตายตกตามกันไป

รอม: ――ปกป้องบุตรสาวของฟอร์ด!

กระทั่งปู่รอมเองก็ไม่แน่ใจนักว่าเหตุใดเขาจึงตัดสินใจตะโกนออกไปเช่นนั้นหลังจากที่กระบวนการคิดถูกย่อให้สั้นลงในสถานการณ์คับขัน

ไฮน์เคล: ――ว้ากกกก!

ชายผมแดงตอบรับต่อคำขอนั้นโดยการฟันดาบแนวทะแยงใส่รอยจนหลุดกระเด็นจากปู่รอม มันคือประกายสีเงินที่งดงามจนกระทั่งเฟลท์ยังอึ้ง

หลังจากนั้นไฮน์เคลก็ผลักทั้งเฟลท์และร่างใหญ่โตของปู่รอมด้วยพละกำลังมหาศาลจนทั้งสองกระเด็นถอยหลังกลับไป

ไฮน์เคล: ท่านฟิลโอเร ข้าน่ะ――

ณ ชั่ววินาทีนั้นสีหน้าของไฮน์เคลเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน แต่ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าเขากำลังสับสน เสียใจ หรือทั้งรักทั้งชังกันแน่

ไฮน์เคล แอสเทรอาไม่มีโอกาสได้เอ่ยเต็มประโยคเนื่องจากว่าเขาถูกงูดำโสมมกลืนกินเข้าทั้งร่างตั้งแต่หัวจรดเท้าจนหายวับไปต่อหน้าต่อตาเฟลท์

คราบโสมมที่ร่วงลงมาดุจน้ำตกย้อมผืนดินเป็นสีดำ ต้นไม้เหี่ยวแห้ง ดอกไม้เน่า น้ำกลายเป็นโคลนมีฟอง ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดรอดจากมันได้

. เฟลท์: ――ไอ้เจ้าบ้าเอ๊ย!

รอย: ว้า เสียดายของ!

เฟลท์กับรอยตอบสนองต่อการจากไปอย่างกะทันหันของไฮน์เคลคล้ายคลึงกัน แต่ปู่รอมยังเบาใจมิได้ เนื่องจากรอยพร้อมจะเปลี่ยนเป้าหมายต่อทันที

รอย: ฟิลโอเร ลูกุ――

รอม: พรานไปวายุสอง!

ในขณะที่รอยกระโจนตัวบุกเข้ามา ปู่รอมก็บิดตัวเพื่อใช้ร่างของเขากำบังเฟลท์เอาไว้แล้วออกคำสั่งให้คู่หูส่งตัวกำลังเสริมมาโต้กลับแทนที่จะหนี

เมลี่: ไม่ค่อยมั่นใจว่าฉันจะหยุดเด็กคนนี้ไหวหรือเปล่าน๊า!

กิลตีลอว์ที่ปรากฏตัวพร้อมเมลี่ตะปบกรงเล็บใส่รอยเพื่อขัดขวางเขา ส่วน [ผู้ใช้สัตว์มาร] ก็ชี้นิ้วไปยังกลุ่มก้อนความโสมมและตะโกนสุดเสียง

เมลี่: นั่งลงงง!!

คำสั่งของเมลี่ทำให้เงาโสมมที่เลื้อยไปมาหยุดชะงักลงชั่วขณะ พวกปู่รอมจึงใช้จังหวะนั้นถอยออกมาให้พ้นระยะแล้วหันกลับมามองงูดำแบบเต็มตัว

. เงาดำโสมมนั่นทำให้ทุกคนอ้ำอึ้งเพราะความน่าสะพรึงกลัวเกินกว่าจะเรียกว่าสัตว์มาร มันคือปรากฏการณ์แห่ง [ความตาย] เสียมากกว่า

ราวกับว่าบ่อเกิดแห่งโรคภัยก่อตัวรวมกันเป็นรูปร่างงู มีก้อนเนื้อปูดโปนขึ้นมาตามตัวแทนที่เกล็ด แถมยังหนองสีดำที่ทำให้ทุกสิ่งที่สัมผัสโดนเน่าสลายไหลออกมา

ส่วนศีรษะของมันแยกออกมาเป็นหลายแฉกคล้ายกลีบดอกไม้ ภายในนั้นมีหนวดหรือไม่ก็ลิ้นจำนวนมหาศาลดิ้นพล่านไปมาคล้ายปรสิต

วาฬขาวคือตัวตนที่กลืนกินประวัติศาสตร์จากผืนฟ้า กระต่ายใหญ่คือตัวตนกลืนกินชีวิตบนผืนดิน ส่วนงูดำนั้นคือหายนะที่ทำให้โลกเจ็บป่วยและเสื่อมสลาย สมฉายา [สัตว์มารที่เลวร้ายที่สุด]

รอย: ――เข้าใจแบบนั้นถูกเผงเลยจ้า!

เมลี่: ――น้องสิงโตเงา!

กิลตีลอว์ถูกฝ่ามือกระทุ้งจากเบื้องล่างจนเลือดพุ่งกระฉูด แถมเจ้าสัตว์มารยังกระเด็นไปตกใส่พื้นที่ปนเปื้อนคราบโสมม มันส่งเสียงร้องโหยหวนเพราะถูกลิ้นอสูรโลมเลียและตายจากไป

รอยสร้างขาปล้องเทียมแบบสัตว์เปลือกแข็งขึ้นมาด้วยวิชาควบคุมเลือดของตนเอง ทำให้เขาสามารถยืนอยู่บนพื้นปนเปื้อนคราบโสมมได้

รอย: อา อย่าร้องไห้เลยนะ เมลี่ เด็กคนนั้นจะถือกำเนิดใหม่ล่ะ แบบนี้ไง

รอยทำการดีดนิ้วและเปลี่ยนซากศพของกิลตีลอว์ที่ถูกย้อมเป็นก้อนสีดำให้กลายเป็นผีเสื้อสีรุ้งนับไม่ถ้วน พวกมันบินรายรอบตัวรอยที่แสยะยิ้มออกมา

. เฟลท์มองว่าตนเองคิดถูกที่หักหลังรอยก่อน เพราะเขาเล่นซ่อนงูดำไว้ในเงาของเธอแบบผูกเงื่อนไขทั้งๆ ที่ไม่สามารถควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์

ไฮน์เคลที่ถูกกระแสน้ำโคลนสีดำกลืนเข้าไปคงไม่รอด แต่ไม่ว่าปู่รอมจะมีมุมมองต่อเขาเยี่ยงไร ไฮน์เคลก็เป็นพ่อของไรน์ฮาร์ดและไม่สมควรตายแบบนั้นอยู่ดี

ราจินส์: ――อุล โกอา!!

ตอนนั้นเองบุคคลใหม่ที่เข้าสู่สนามรบได้ยิงมนตร์ลูกไฟข้ามหัวปู่รอมเข้าไปอัดกระแทกงูดำ กลุ่มก้อนความโสมมถูกแผดเผาจนดิ้นพล่านไปมา

ราจินส์: เฮ้ย เฟลท์! กลับมาอย่างปลอดภัยแล้วทั้งทีก็สั่งการหน่อยเซ่! นั่นหน้าที่ของเอ็งนะเฟ้ย!

ราจินส์ที่พึ่งมาถึงฝืนใช้มนตร์ระดับสูงจนเหนื่อยหอบ แต่การพูดปลุกใจของเขาช่วยเรียกสติเฟลท์กลับคืนมา เฟลท์จึงตั้งมั่นว่าอยากเอาชนะศึกนี้

ปู่รอมตระหนักถึงความเสี่ยงเป็นอย่างดี เขาทราบอยู่แก่ใจว่าถ้าหากรอยสัมผัสโดนตัวเฟลท์หลังประกาศชื่อ “ฟิลโอเร ลูกุนิก้า” ผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นไร

กระนั้นปู่รอมก็เลือกที่จะหลับตาลงและวางกลยุทธ์ตามบทบาทของตนทั้งที่บาดแผลตรงสีข้างยังเจ็บอยู่ เฟลท์ที่เห็นดังนั้นจึงตบแก้มตัวเองเพื่อปลุกใจ

เฟลท์: เอ้า นี่แหละคำสั่งที่อยากได้กัน ――มาลุยกันเลย พวกเฮงซวยทั้งหลาย!!

ทุกคน: ――โอ้ววว!!

แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นภัยอันตรายต่อโลกอย่างบิชอปมหาบาปและงูดำ เหล่าพวกพ้องก็ยังพร้อมใจกันตอบรับคำสั่งหาญกล้าจากเฟลท์

ปู่รอมเองก็ตบแก้มตัวเองเพื่อเรียกสติตามหลานสาว จากนั้นทุกคนก็พากันจดจ่อสายตามุ่งร้ายไปยังรอยที่โอบกอดตนเองอยู่

รอย: อา ทนแทบไม่ไหวเลยน้า ――รักทุกคนที่สุดเลยคร้าบ!

. “พระผู้เป็นเจ้า พระพุทธองค์ ท่านโอโด ลากูน่า ขอสาบานว่าจะไม่กุมมือของใครอีกไปชั่วชีวิตค่ะ”

. “อยากจะกลืนกินด้วยความเปี่ยมสุข” “อยากจะกลืนกินด้วยความซาบซึ้ง” “อยากจะกลืนกินด้วยความรักใคร่”

ไร้ซึ่งความโกรธ ความเศร้า ความกลัว ความเป็นศัตรู ความกังวล ความขยะแขยง ความเกลียดชัง ความเสียใจ การดูหมิ่น การสาปแช่ง หรือความมุ่งร้าย

[กินไม่เลือก] รอย อัลฟาร์ด ปรารถนาจากก้นบึ้งของหัวใจว่าอยากที่จะกินทุกคนในสนามรบแห่งนี้ กระนั้นอุปสรรคก็ยังมีอยู่มากมาย

รอยกระชากเสื้อผ้าที่ฉีกขาดออก เผยให้เห็นบาดแผลทั่วร่างที่ได้มาตอน [อุปราคา] ล้มเหลวซึ่งต้องใช้เวทมนตร์ของ [อสูรน้ำตาโลหิต] ห้ามเลือดไว้ก่อน

สัตว์ป่าและสัตว์มารที่ตายเพราะคราบโสมมของงูดำถูกเปลี่ยนเป็นผีเสื้อสีรุ้งด้วยวิชาของ [ขุนนางรุ้งมายา] แต่อักขระคำสาปบีบให้รอยไม่สามารถหนีได้

กระนั้นในฐานะ [กินไม่เลือก] รอยย่อมมิอาจปล่อยผ่านอาหารจานเด็ดทั้งหลายเหล่านี้ไปได้อยู่แล้ว ตัวเขานั้นต่างจาก [กินอาหารโอชะ] ไร

ไรนั้นเป็นพวกเลือกกินตามซิทูเอชั่น(สถานการณ์) บางครั้งเขาก็จงใจเผ่นหนีหรือเลื่อนจังหวะการกินไปก่อนเพื่อเป็นการเติมสไปซ์(เครื่องปรุงรส)ให้แก่เหยื่อ

ส่วนรอย อัลฟาร์ดนั้นปรารถนาที่จะกลืนกินทุกคนบนโลกใบนี้ เขาจึงไม่เคยคิดที่จะเผ่นหนีจากการต่อสู้เลย เพราะกลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้พบเหยื่ออีกรอบ

หากเป็นเช่นนั้น คราบน้ำลายแห่งความเสียดายคงไหลท่วมจนต่อให้มีผ้ากันเปื้อนสักกี่ผืนก็ไม่พอเช็ด

. ปัญหาคือแนวหน้าทุกคนในศึกนี้น่าจะเปลี่ยนนามแท้ไว้ล่วงหน้าแล้ว แถมความเป็นไปได้ยังมีแทบไม่สิ้นสุด กระทั่งรัมยังมิใช่ทั้ง [รัม] และ [รัม เมเธอร์ส] เลย

“[แม่มดแห่งโศกา] เพทร่า เลย์เต” ที่ประกาศออกมาโจ่งแจ้งจนน่าสงสัยก็อาจจะเป็นกับดัก แถมรอยยังไม่แน่ใจอีกว่า “ฟิลโอเร ลูกุนิก้า” จะใช่ตัวตนที่แท้จริงของเฟลท์ไหม

ขืนกินชื่อเฟลท์พลาดขึ้นมาอีกรอบ คราวนี้รอยได้ตายคาที่ระหว่างที่อ้วกแตกแน่ พอได้พิจารณาความเสี่ยงแล้ว รอยจึงตัดสินใจแบบไม่สมเป็น [ตะกละ]

รอย: ――เรื่องกินเอาไว้ทีหลัง

ลำดับความสำคัญแรกคือการเปลี่ยนเหยื่อให้กลายเป็นอาหารแห้งเพื่อถนอมไว้กินทีหลัง เคราะห์ดีที่เจ้างูดำมันถนัดเรื่องแบบนั้นอยู่พอดี

ใจจริงรอยอยากที่จะปล่อยงูดำออกมาอาละวาดในสถานที่ที่มีผู้คนอยู่มากกว่านี้ แต่เฟลท์ดันหักหลังเสียก่อนจนไทม์มิ่งปั่นป่วนไปหมด

สูญเสียเลือดจนปางตาย รับดาเมจไปมหาศาล หิวเสียยิ่งกว่าหิว หิวโหยแบบสุดขีด กระนั้น [กินไม่เลือก] ก็ยังพร้อมใส่เต็มสูบในศึกนี้

. รอยเปิดฉากด้วยการประกบมือเข้าหากันเพื่อใช้วิชาของ [นักบีบอัด] ส่งผลให้เกิดแรงดึงดูดจากขอบทัศนวิสัยของเขารวมเข้าสู่จุดศูนย์กลาง

ต้นไม้ใหญ่พากันหักโค่นลงมา ส่วนผืนดินที่ควรจะแข็งหนาก็ถูกงัดขึ้นมากลายเป็นกำแพงดินที่ปิดกั้นเส้นทางหนีของเหยื่อ

เฟลท์: แกสตอน! ดอลเทโร่!

สองชายร่างใหญ่เข้าไปสะกัดกั้นการสร้างกำแพงดินโดยทันที พละกำลังของพวกเขาต้านแรงบีบอัดไว้ได้ แถมยังสะท้อนกลับจนฝ่ามือของรอยถูกง้างออก

เฟลท์: ราจินส์! พี่สาวเมด!

ลูกไฟของไอ้หนุ่มตาดุผสานเข้ากับสายลมของรัมกลายเป็นพายุเพลิง รอยจึงสังเวยผีเสื้อสีรุ้งสามตัวเพื่อเสกหอกน้ำขึ้นมาด้วยวิชาของ [เซียนเล่ห์กลมนตรา]

ผีเสื้อสีรุ้งคือมานาแทงค์ภายนอกร่างกายที่เจ้าของวิชาสามารถนำมาใช้ได้ เพราะงั้นยิ่งงูดำสังหารสิ่งมีชีวิตเพิ่มก็ยิ่งเป็นการรเสริมมานาให้รอยแบบออโต้

ส่วนมานาที่เหลืออยู่ภายในร่างตัวเองนั้น รอยเก็บไว้เพื่อเปิดใช้งาน [ครรลองสายธาร] เพื่อเสริมแกร่งร่างกายที่ปางตายโดยเฉพาะ

เฟลท์: แฟรม! กราซิส!

การปะทะระหว่างพายุเพลิงกับหอกน้ำแข็งก่อเกิดเป็นระเบิดไอน้ำสีขาวโพลนที่บดบังทัศนวิสัย คู่แฝดอาศัยจังหวะนั้นบุกโจมตี แต่รอยตั้งรับด้วยหนังหนาของ [เดรัจฉานกินคน]

จากนั้นเขาก็ประสานวิชาของ [ราชามวย] ที่มือขวาและวิชาของ [ผู้เขมือบหิมะ] ที่มือซ้ายเพื่อจับสองแฝดทุ่มเข้าไปใส่พื้นที่ปนเปื้อนคราบโสมม

แต่ก่อนที่ลิ้นอสูรจะสัมผัสโดน หอกเล่มแรกของราชันอาชาหิวโหยก็งัดร่างคู่แฝดออกมา ส่วนรอยนั้นใช้เพลงของ [กวีช้ำรัก] ทำลายหอกเล่มที่สองไปพร้อมกับแขนของสัตว์มาร

. งูดำ: ฟ้อววววว!!

ที่ด้านหลังรอย งูดำได้ยืดตัวขึ้นไปบนฟ้าจากนั้นก็ทิ้งดิ่งลงมาราวกับต้นไม้ล้ม นี่คือวิธีล่าแบบสิ้นคิดด้วยการปล่อยให้ร่างของมันหล่นทับเหยื่อแบบดื้อๆ

ไม่ว่ายังไงทุกสิ่งที่สัมผัสโดนร่างกายของมันและคราบโสมมที่กระจายออกมาก็มีอันเป็นไปอยู่แล้ว เจ้างูดำเลยมิเคยขัดเกลาวิธีการล่าให้สร้างสรรค์ขึ้นเลย

ทุกคน: ――มีชีวิต!

ทุกคน: ――อย่างเข้มแข็ง!!

ทุกคนประสานเสียงกันและตอบโต้อย่างเป็นระบบ สายกล้ามเนื้อถางผืนดินขึ้นมา สายเวทมนตร์เสริมแกร่งดินให้กลายเป็นโล่ จากนั้นสายทักษะก็ดีดโล่ขึ้นไปสกัดงูดำ

โล่ดินช่วยซื้อเวลาได้เพียงน้อยนิดก่อนมันจะละลาย แต่พวกเขาอาศัยช่วงเวลานั้นหลบหนีออกมาได้ทันท่วงที ประสานงานกันได้เข้าขาเหลือเกิน

ช่างเด็ดเดี่ยว กล้าหาญ และบ้าบิ่น ต้องรับมือทั้งงูดำและรอยที่เปลี่ยนอดีตสหายเป็นพลังพร้อมกันแท้ๆ แต่พวกเขากลับไม่ตื่นตระหนกหรือสั่นกลัว

การประสานงานที่ไร้ความลังเลของพวกเขาเข้าขากันดียิ่งกว่าครอบครัวหรือคู่รักเสียอีก แสดงว่าพวกเขาแต่ละคนน่าจะเป็นอาหารจานสมบูรณ์แบบ

นี่แหละคือมื้ออาหารวาไรตี้ที่รอยเสาะหา ไม่มีทั้งจานเรียกน้ำย่อย จานเคียง หรือจานหลัก แต่ละจานล้วนแต่เป็น “โอนลี่วัน” ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์

เฟลท์: เลิกน้ำลายไหลย้อยได้แล้วเฟ้ย ไอ้สมองเพี้ยนนี่!

รอย: รักพวกเธอมากเกินจนห้ามใจไม่ไหวแล้ว!

เฟลท์ที่วิ่งฝ่าควันออกมาชูนิ้วกลางสวนไป แต่ความรักใคร่ที่รอยมีต่อเธอดันพุ่งทะยานขึ้นแทน เนื่องจากเฟลท์คือผู้นำของกลุ่มและยังเป็นผู้ที่ทรยศเขาจนเกิดสถานการณ์นี้ขึ้นมา

. เดิมทีงูดำก็มิใช่นักล่าที่รวดเร็วอยู่แล้ว มันชอบขยายแอเรียที่ปนเปื้อนคราบโสมมไปเรื่อยๆ จนกว่าความเสียหายจะกระจายไปทั่วถึง

อีกอย่างงูดำในสภาพ “หัวเดียว” นั้นยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อย กระนั้นรอยก็ยังรู้สึกว่าเจ้างูดำเคลื่อนไหวเชื่องช้าผิดปกติอยู่ดี

เมลี่: นั่งลงซะ… อึก

สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าเมลี่บนหลังราชันอาชาหิวโหยคอยใช้ [พรคุ้มครองควบคุมมาร] สกัดการเคลื่อนไหวของงูดำไว้อย่างต่อเนื่อง

ผลจากการใช้งานพรคุ้มครองเกินพิกัดเพื่อสั่งการ 1 ใน 3 มหาสัตว์มารทำให้เมลี่ตาแดงก่ำ ทั้งดวงจิตและโลหิตคงร้อนผ่าวราวกับถูกแผดเผา

รอยเปลี่ยนแผนมาบีบอัดผืนดินให้นูนขึ้นมาสัมผัสโดนผีเสื้อสีรุ้ง เกิดเป็นการระเบิดอย่างต่อเนื่องที่กระจายคราบสีดำไปทั่วราวกับกระสุนลูกปราย

รอย: ฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!

. ในเมื่อเจ้างูดำเคลื่อนไหวเชื่องช้า รอยจึงอาสาส่งคราบโสมมที่สัมผัสโดนทีเดียวจอดสนิทไปหาศัตรูเองเสียเลย ถ้าหากเมลี่ถูกเก็บก่อน ที่เหลือก็ไม่ยากแล้ว

แน่นอนว่ารอยที่ยืนอยู่จุดศูนย์กลางของการระเบิดย่อมเสี่ยงภัยไปด้วย เพราะงั้นเขาจึงโคทติ้ง(เคลือบ)ตนเองด้วยเกราะโลหิตแบบคลุมทั่วร่าง

รอย: หา?

แต่แล้วรอยก็ต้องปลดเฟสการ์ด(กระบังหน้า)ออกเพื่อดูภาพน่าเหลือเชื่อเบื้องหน้า ท่ามกลางสนามรบที่ถูกย้อมเป็นสีดำ มีอยู่จุดเดียวที่เล็ดรอดความเสียหายมาได้

กลุ่มมื้ออาหารบนเพลต(จาน)ของรอยยังอยู่รอดกันครบหน้าดุจปาฏิหาริย์ พวกเขายืนหันหลังพิงกันราวกับว่าพร้อมรับมือทุกอย่าง

รอย: ไม่เอาน่า

ผงเกล็ดสีรุ้งที่ไม่ควรป้องกันได้ถูกกระสุนลูกปรายดินยิงกวาดเรียบ

รอย: ไม่จริงหรอกเนอะ

วิชาที่สามารถบีบอัดทุกสิ่งจากขอบทัศนวิสัยเข้าสู่จุดศูนย์กลางถูกขัดขวางตั้งแต่ก่อนจะทันเปิดใช้งาน

รอย: ไม่จริงน่า

เสียงกรีดร้องที่สทะลวงได้ถึงแก้วหูถูกกลบด้วยเสียงระเบิดที่สร้างขึ้นโดยเวทมนตร์วายุกับอัคคี

รอย: ไม่จริงใช่ไหม ยังไงก็ไม่จริง เพราะมันไม่มีทางจริงหรอก

. ไม่ว่าจะงัดวิชาถูกลืมเลือนที่ประหลาดแค่ไหนออกมาจาก [กระเพาะแห่งดวงจิต] กลุ่มอัลเดบัสเตอร์สที่มีเฟลท์เป็นศูนย์กลางก็ประสานงานกันรับมือได้อย่างสมบูรณ์แบบ

“แปลกแท้”

จริงอยู่ว่าพวกหล่อนกล้าหาญ เชื่อใจกัน มีจุดประสงค์เป็นเอกภาพ มากฝีมือ เก่งกาจ และแข็งแกร่ง แต่สามัญสำนึกของรอยก็ยังกังขาความประหลาดนี้อยู่ดี

“ไม่ว่ายังไงก็แปลกอยู่ดี”

พวกเฟลท์เลือกใช้ไพ่ในมือได้เหมาะสมทุกตา แถมยังกะไทม์มิ่งได้แม่นยำ มนุษย์ทั่วไปไม่มีทางที่จะตัดสินใจได้สมบูรณ์แบบทุกการกระทำถึงขนาดนั้น

ที่จริงรอยก็เคยสัมผัสประสบการณ์คล้ายกันมาแล้วตอนที่เผชิญหน้ากับอัลเดบารันที่หอคอยเรือนจำ ในตอนนั้นรอยถูกกระทืบยับแบบที่เขาต่อต้านมิได้เลย

ความรู้สึกที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็ถูกดักทางได้หมดมันคล้ายกัน แต่ต่างกันตรงที่อัลเดบารันผิดปกติอยู่คนเดียว ในขณะที่พวกเฟลท์ผิดปกติทั้งกลุ่ม

รอย: ――อา มองพลาดไปเองสินะ

ความเป็นจริงมันเรียบง่ายกว่าที่คิด เขาเข้าใจผิดไปเองว่าเฟลท์คือแกนกลางของกลุ่ม เพราะงั้นรอยจึงจ้องมองไปยังผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังตัวจริง

??: อ๊ะ

. “พระผู้เป็นเจ้า พระพุทธองค์ ท่านโอโด ลากูน่า ขอสาบานว่าจะไม่ปรารถนาที่จะคืนดีกับผู้อื่นไปชั่วชีวิตค่ะ”

“พระผู้เป็นเจ้า พระพุทธองค์ ท่านโอโด ลากูน่า ขอสาบานว่าจะไม่โกรธแทนใครสักคนอีกไปชั่วชีวิตค่ะ”

“พระผู้เป็นเจ้า พระพุทธองค์ ท่านโอโด ลากูน่า ขอสาบานว่าจะไม่เปิดเผยความลับให้ใครก็ตามทราบไปชั่วชีวิตค่ะ”

“พระผู้เป็นเจ้า พระพุทธองค์ ท่านโอโด ลากูน่า ขอสาบานว่าจะไม่เผยความอ่อนแอให้ใครก็ตามเห็นอีกไปชั่วชีวิตค่ะ”

“พระผู้เป็นเจ้า พระพุทธองค์ ท่านโอโด ลากูน่า ขอสาบานว่าจะไม่ชมแสงอรุณร่วมกับใครอีกไปชั่วชีวิตค่ะ”

. เพทร่า: ――ในที่สุดก็รู้ตัวแล้วงั้นเหรอ?

[แม่มดแห่งโศกา] ผู้ใช้อำนาจ [บีบย่อ] กระบวนการคิดและการหารือระหว่างเหล่าสหายกล่าวออกมาเช่นนั้นพลางขยิบตา

. จบตอน