re zero webnovel arc9 chapter49ex แปลไทย

บทนำไลท์โนเวล Re: zero เล่ม 42 "คำอวยพรของแม่มด""

. เอคิดน่า: ――ไม่ว่าใครหน้าไหนก็โค่นนายที่ถูกสร้างขึ้นโดยเราไม่ได้ทั้งนั้น

[แม่มด] ผู้มีรอยยิ้มสีเลือดกล่าวเช่นนั้นราวกับว่าเธอทั้งหวังพึ่ง เอ็นดู คร่ำครวญ ร้องขอ เปิดอก และยึดติดในตัวอัลเดบารัน

ลักษณะเด่นของ [แม่มด] ผู้อยู่ใกล้จนสัมผัสลมหายใจได้คือเฉดสีขาวผสมดำซึ่งแต่งแต้มให้เธอเป็นบุคคลที่งดงามที่สุดอันดับ 1 ไม่ก็ 2 ในใจเขา

สำหรับอัลเดบารันผู้อาศัยอยู่ในโลกใบแคบ ไม่มีสิ่งใดที่งดงามไปกว่าคู่สี “เงินและม่วงคราม” กับ “ดำและขาว” อีกแล้ว

. หลังจากที่เขาฝึกฝนการใช้เวทมนตร์บทหนึ่งมาเนิ่นนาน สุดท้ายน้ำพักน้ำแรงก็เห็นผลในรูปแบบของลูกแก้วสีดำที่หล่นกลิ้งอยู่บนโต๊ะน้ำชา

เขาเคยเห็นผลลัพธ์ที่สำเร็จมาหลายครั้ง เคยสัมผัสอิทฤทธิ์ของมนตร์ด้วยตนเองมาแล้วด้วย กระนั้นอัลเดบารันก็อดมิได้ที่จะอึ้งจนตาเบิกกว้าง

ในที่สุดเส้นทางที่เต็มไปด้วยการหวดบอลวืดไม่หยุดหย่อนก็สิ้นสุดลง เขาประสบความสำเร็จตามที่เธอคนนั้นได้บอกเอาไว้

แต่แล้วแทนที่จะรู้สึกยินดีปรีดา อัลเดบารันกลับรู้สึกว่างเปล่าและผิดหวังอย่างน่าเหลือเชื่อ เขาบ่นอิดออดพลางหยิบลูกแก้วสีดำที่ไร้อุณหภูมิขึ้นมา

สิ่งนี้คือขีดสุดแห่งเวทเงาที่เขาจำเป็นต้องฝึกใช้ให้สำเร็จ ไม่สิ ควรเรียกว่ามันคือชีดสุดแห่งเส้นทางนอกรีตของเวทเงาเสียมากกว่า

เพื่อแลกเปลี่ยนกับการจำกัดเป้าหมายให้เป็นได้เพียงผู้ถือครองปัจจัยแม่มด อานุภาพของมันจึงไร้เทียมทานสมกับที่เป็นมหามนตรา

มันคือไพ่ตายต่อต้าน [แม่มด] หนึ่งเดียวในโลกใบนี้ ศาสตร์ต้องห้ามที่มีนามว่า [โอล ชามัค]

. 【เอคิดน่า: โทษทีที่ต้องขัดระหว่างกำลังอินจัด แต่อยากให้หันมาสนใจเราได้แล้วนะ】

อัล: อุหวาาาา!?

อัลเดบารันตกใจจนเผลอทำลูกแก้วหลุดมือตกลงไปบนพื้นหญ้าเขียวขจี แถมลูกแก้วยังส่งเสียงทักท้วงว่า “เดี๋ยวก่อนสิ!” อีกด้วย

อัล: อา เวรละสิ ด๊นท์มาย (อย่าถือสาเลยนะ)

【เอคิดน่า: คำพูดคำจาฟังดูไม่เห็นจะสำนึกเลยนี่ เอ้า รีบเก็บขึ้นมาเร็ว】

ลูกแก้วสีดำกลิ้งไปไกลกว่าที่เขาคิดไว้ อัลเดบารันจึงแซวอาจารย์ของตนว่าอยากอยู่ในสภาพนี้ตลอดไปเลยไหม กลิ้งไปมาสะดวกดีด้วย

[แม่มด] ทักท้วงด้วยน้ำเสียงสั่นกลัวว่าถึงเธอจะคิดค้นมนตร์นี้ขึ้นมา แต่ในฐานะผู้ถือครองปัจจัยแม่มด เธอก็แพ้ทางมันสุดๆ จนมิอาจต่อต้านด้วยตนเองได้เลย

อัลเดบารันหยอกล้อเหมือนสะใจที่ชะตาของอาจารย์อยู่ในกำมือตน แต่ใจจริงเขารู้ดีว่านังแม่มดแค่แสร้งทำเป็นกลัวเฉยๆ เธอคนนี้ไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกใดๆ

. หญ้าที่ถูกเล็มจนสั้นทำให้มองเห็นลูกแก้วได้ไม่ยากนัก แต่พอเขาเก็บมันขึ้นมา ห้วงความคิดที่ว่า “ควรจะปล่อยให้ [แม่มด] ถูกผนึกไว้ดีไหม” ก็ผุดขึ้นในหัว

【เอคิดน่า: ――อัลเดบารัน?】

แต่แล้วเสียงเรียกสั้นๆ ก็ขจัดฝันกลางวันทิ้งไป อัลเดบารันหันมาตระหนักถึงความเป็นจริงตรงหน้าแทน ซึ่งก็คือปลายทางที่รอเขาอยู่

อัล: หลังอาจารย์ออกมาจากที่นั่นแล้ว…

【เอคิดน่า: ――? ทำไมเหรอ?】

อัล: การเตรียมพร้อมใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้วใช่ไหมล่ะ? ทั้งอำนาจของชั้นเอย เวทมนตร์ที่จำเป็นเอย แล้วก็…

【เอคิดน่า: แล้วก็การเติบโตของนาย นั่นสิเนอะ ――เวลานั้น ใกล้มาถึงแล้ว】

ท้ายที่สุดแล้วเธอก็คือ [แม่มด] ความสัมพันธ์ระหว่างหล่อนกับอัลเดบารันมิได้มีอะไรเกินเลยไปกว่าผู้มีจุดมุ่งหมายร่วมกันเลย

หัวใจของทั้งคู่ไม่มีวันเข้าใจกันและกัน ต่างฝ่ายต่างไม่มีทางเห็นคุณค่าในตัวกันและกัน เธอมิอาจเข้าใจความกังวลของอัลเดบารันต่อเส้นทางข้างหน้า

【เอคิดน่า: ดูเหมือนว่านายจะเข้าใจอะไรผิดอยู่นิดหน่อยนะ】

อัล: เอ๋?

. ทันใดนั้นเองลูกแก้วสีดำในมือเขาก็เริ่มแตกร้าว นอกเสียจากว่าผู้ร่ายมนตร์ประสงค์เอง สิ่งที่ทำลายมันได้ควรจะมีแค่อำนาจกับ [ดาบมังกร] แท้ๆ

[แม่มด] ผู้หลุดจากพันธนาการกดร่างของอัลเดบารันผู้นอนแผ่ราบอยู่บนพื้นหญ้าและจดจ้องเขาด้วยดวงตาสีดำในระยะใกล้

หล่อนกล่าวปลอบใจอัลเดบารันว่าได้มอบความรู้ที่จำเป็นให้หมดแล้ว แถมเขายังก้าวข้ามทุกบททดสอบได้โดยที่มิต้องขอความช่วยเหลือจาก [แม่มด] คนอื่น

[แม่มด] ผู้ยามปกติมีแต่สีขาวและดำเผยรอยยิ้มสีเลือดรูปทรงจันทร์เสี้ยวออกมาให้เห็น รอยยิ้มอ่อนโยนที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนั้นตราตรึงใจเขาเสียเหลือเกิน

เอคิดน่า: ――ไม่ว่าใครหน้าไหนก็โค่นนายที่ถูกสร้างขึ้นโดยเราไม่ได้ทั้งนั้น

คำอวยพรของแม่มดผ่านทะลุแก้วหูเข้าไปในสมองและสลักลงในดวงจิตของอัลเดบารันผู้ไล่ตามดวงดาวเพื่อเน้นย้ำกับเขาว่า “ห้ามลืม ห้ามลืม ห้ามลืม”

[แม่มด] มิเคยโกหกมาก่อน ดังนั้น คำพูดของหล่อนคือสัจจะอันเที่ยงแท้อย่างแน่นอน

อัล: …ไม่ว่าใครหน้าไหน ก็โค่นชั้นไม่ได้

เอคิดน่า: อา แน่นอนอยู่แล้ว อยากให้ช่วยพิสูจน์เรื่องนั้นให้หน่อย จริงอยู่ว่าคงไม่มีใครร่วมฉลองชัยไปกับนาย …มีเพียงเราผู้เดียวที่ขอสาบานว่าจะอวยพรให้ยามที่นายบรรลุเป้าหมาย

คำสาบานของ [แม่มด] นั้นยากที่จะต้านทาน เนื่องจากในโลกใบนี้มีเพียงสองบุคคลเท่านั้นที่อัลเดบารันอยากให้ยอมรับตัวตนของเขา

แถมหนึ่งในนั้นยังเกินจริงไปหน่อยที่คาดหวัง อัลเดบารันจึงได้เพียงแต่ภาวนาให้อีกคนที่เหลืออยู่ยอมรับในตัวเขา

อัล: ต้องชนะแน่ อาจารย์ ――เพื่อที่ชั้นจะได้กลายเป็นตัวชั้นเอง

เอคิดน่า: …

คำตอบนั้นทำให้อารมณ์บางอย่างปรากฏขึ้นบนดวงตาของ [แม่มด] มันคงบังเอิญไปขุดแผลใจบางอย่างขึ้นมา แผลที่อัลเดบารันมิอาจล่วงรู้ได้

――กระนั้น เพียงแค่เชื่อมั่นในคำพูด คำสอน และคำอวยพรของ [แม่มด] ก็เพียงพอแล้ว

. ที่เบื้องหน้าของอัลเดบารันผู้หัวใจเปี่ยมล้นด้วยประกายเพลิงแห่งความมุ่งมั่นคือ [แม่มด] สีดำและขาวผู้งดงาม

แล้วพอหลับตาลง เขาก็นึกภาพถึง [แม่มด] ผู้เลอโฉมอีกคนที่มีสีเงินและม่วงครามเป็นสีเด่นชัด

ระหว่างที่ไล่ตามดวงดาวเปล่งประกายที่แสนน่าชิงชัง อัลเดบารันก็รอคอยช่วงเวลานี้มาโดยตลอด ช่วงเวลาที่จะได้รับผลตอบแทน

ตอนนั้นเองที่ [แม่มด] ผู้หวังพึ่งในตัวเขาก็จุมพิตลงบนหน้าผากของอัลเดบารันราวกับว่าเป็นการอวยพรให้แก่ความกล้าหาญ

อัล: ――ไม่ว่ายังไง ชั้นก็จะฆ่าเธอให้จงได้เลย

. จบตอน